MSI GL63 ปี 2019 ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการแสดงผลให้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยการ์ดจอ GTX 16 series รุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้ GL series ตัวใหม่นี้ เป็น Gaming Notebook ในระดับเริ่มต้นที่มีความคุ้มค่ามาก เพราะด้วยประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นใหม่ๆที่ให้มา ทำให้สามารถรับมือกับเกมระดับ AAA ในปัจจุบันนี้ได้อย่างสบายๆ ส่วนชิปประมวลผลยังคงใช้ Core i5/i7 ตระกูล H ที่ให้ความแรงที่เหลือเฟือในการเล่นเกมหรือทำงานประมวลผลหนักๆ อยู่
สำหรับ MSI GL63 เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่เน้นให้เรื่องของความคุ้มค่าเป็นหลัก แม้ดีไซน์ยังไม่ใช่ขอบจอบางรวมไปถึงฟีเจอร์อื่นไ ก็อาจจะดูธรรมดาไปหน่อย แต่ในแง่ของสเปกนอกจากการ์ดจอและชิปประมวลผลที่ดีแล้วนั้น สเปกอื่นๆ อย่างเช่น หน้าจอก็เป็น 120Hz ที่แสดงผลได้ลื่นไหล อีกทั้งแรมก็ให้มาขนาด 8GB ส่วนที่เก็บข้อมูลก็เป็นมาตรฐาน SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่เราสามารถเลือกอัพเกรดใส่ฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ ได้ภายหลัง สนนราคา MSI GL63 ทั้ง 3 รุ่นนี้ที่ใช้การ์ดจอ GTX 16 series มีราคาอยู่ที่ 33,900 – 35,900 บาท
สเปค MSI GL63 MSI ศักยภาพสูงที่มาพร้อมกับ CPU เป็น Intel Core i5-8300H หรือ Intel Core i7-8750H ที่ทำงานแบบ 4C/8T หรือ 6C/12T ใช้การ์ดจอเป็นรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) หรือ GTX1660Ti (6GB GDDR6) พร้อมมาตรฐาน Ram ขนาด 8 GB DDR4 Bus 2666 อัพเกรดได้สูงสุด 32 GB (มี Ram 2 Slot) ที่เก็บข้อมูล SSD ความจุสูงที่ 512GB ที่สามารถเพิ่ม SSD m.2 แบบ PCIe ได้อีกแถว (Combo SATA or PCIe, PCIe only) และฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ SATA 3 ได้อีก 1 ช่อง
หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนล VA 120 Hz แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนล บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 พร้อม KILLER SHIELD ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wireless มาตรฐาน 802.11 แบบ ac มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ โดยสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 33,900 บาทเท่านั้น กับการปรับราคาลดครั้งล่าสุด ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะเลย
- Core i7-8750H / GTX 1650/ RAM 8GB / SSD 512GB / 15.6″ 120Hz ราคา 33,900 บาท
- Core i5-9300H / GTX 1660Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / 15.6″ 120Hz ราคา 33,900 บาท
- Core i7-8750H / GTX 1660Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / 15.6″ 120Hz ราคา 35,900 บาท
MSI GL63 ปี 2019 ถือเป็น Gaming Notebook อีกรุ่นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก ด้วยการออกแบบที่มอบความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่แพ้เจ้าอื่นๆ ด้วยการดีไซน์บอดี้ใหม่เหมือนรุ่นพี่ซีรีส์ GP / GE ที่ให้ตัวเครื่องเป็นฟีลคล้ายโลหะที่สีดำโฉบเฉี่ยว ไม่หวือหวาจนเกินไป ด้วยฝาหลังเป็นพลาสสติกสัมผัสเคลือบแบบเงาสีดำด้าน พร้อมโลโก้ Dragon Army MSI สีแดงคลาสสิคตามสไตล์ และมีสติ๊กเกอร์ไฟสีแดงขนาบข้าง แม้อาจจะมีข้อสังเกตุในเรื่องของเป็นรอยนิ้วมือง่ายไปหน่อย แต่ก็พอที่จะเช็ดออกได้ไม่ยาก รวมไปถึงขอบหน้าจอก็ยังแบบเป็นหนาอยู่ ไม่บางเฮียบเหมือน Gaming Notebook MSI หลายๆ รุ่น
ด้านในดีไซน์เหมือนรุ่นเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แกนมาพับเป็นแบบสองแกน และมาพร้อมกับคีย์บอร์ดขนาด Full Size สีแดงจาก SteelSeries พร้อมมีไฟ Backlit สีแดงตามแบบฉบับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คขนานแท้ ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นให้กวนใจแนวคลาสสิค แต่ดูจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายไปหน่อย และส่วนฐานล่างของเจ้าตัวนี้จะใช้วัสดุพลาสติก ABS อย่างดี งานประกอบแน่นหนาแข็งแรงตามสไตล์ MSI มียางรอง 4 จุด สำหรับยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นเพื่อให้การระบายความร้อนและการสัมผัสคีย์บอร์ดที่ดีกว่า
และในจุดนี้ตัวเครื่อง MSI GL63 ปี 2019 สามารถถอดฝาหลังเพื่ออัพเกรดเพิ่มหน่วยความจำแรมได้ความจุสูงสุดถึง 32 GB (ตัวเครื่องใส่ได้ 2 ช่อง ซึ่งตัวเครื่องใส่มาแล้ว 8 GB หนึ่งช่อง) และสามารถเพิ่ม SSD m.2 PCI-E Gen 3 ความเร็วสูง ซึ่งมีความเร็วที่เร็วกว่า SSD SATA 3 ที่นิยมใช้กันทั่วไปกว่า 5 เท่ากันเลยทีเดียว นอกจากนี้ช่องระบายความร้อนถูกอัพเกรดขึ้นมาเป็นแบบ 4 ช่องพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว ซึ่งใช้ระบบ Cooler Boost 5 รุ่นล่าสุด
ส่วนเรื่องของตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์พอร์ทต่างๆ หรือกระทั่งตำแหน่งของระบบระบายความร้อนก็ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและให้ประสิทธิภาพได้ดีมากๆ โดยเฉพาะระยะห่างของแต่ละพอร์ตที่ห่างกันพอสมควรไม่วางติดๆ กันเหมื่อนรุ่นอื่น ทำให้สามารถใช้งานได้หลายๆ ช่องพร้อมกันโดยที่ปลั๊กไม่ติดกันนั่นเอง
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ MSI ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในราคาคุ้มค่าดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบง่ายอาไว้ แม้ว่ารูปลักษณ์จะไม่ใช่แนว Gaming Notebook ปี 2019 ที่ได้ขอบหน้าจอบางและมิติตัวเครื่องที่เล็กลง ซึ่งก็แลกมาด้วยชุดระบายความร้อนจัดเต็มเหมือนเดิม อย่างที่หาได้ยากในแบรนด์อื่นๆ
ในส่วนของหน้าจอ MSI GL63 ปี 2019 เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 15.6 บนความละเอียดในระดับ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล VA รองรับที่ 120 Hz ที่แม้พาเนล VA จะให้สีสันที่สวยสมจริงทุกมุมมองไม่เท่ากับ IPS แต่เรื่องของขอบเบตสีถือว่าทำได้ดีและค่อนข้างตรง โดยเมื่อทีมงานได้ลองใช้งานจริงแล้วพบว่าให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่ดีน่าประทับใจ ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง หรือชมวีดีโอจาก Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงได้เป็นอย่างดี
ลำโพงยังจัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าของ MSI GL63 ปี 2019 ในส่วนด้านใต้เครื่อง แบบ Giant Speakers ขนาด 3W x 2 ที่ดังกว่าเดิม คุณภาพเสียงเบสให้แน่นลึกยิ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพราะชุดลำโพงข้างในขยับได้เมื่อต้องการเสียงทุ่ม และใช้ระบบเสียงของ Nahimic 3 ทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพที่ดีการใช้งานต่าง ๆ ยังสามารถทำออกมาได้ดี น่าประทับใจให้เสียงที่น่าประทับใจตามสไตล์ของ Gaming Notebook MSI
านระบบระบายความร้อนก็จะเป็นระบบ Cooler Boost 5 รุ่นล่าสุด ซึ่งเน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นจากเดิมพอสมควร โดยจะมีช่องระบายความร้อนรวมทั้งหมดถึง 4 ช่อง เป็นด้านหลัง 2 ด้านข้างอีกอย่างละ 1 ในส่วนของ Heat Pipe ก็ให้มามากถึง 7 เส้น วางตัวยาวตั้งแต่ส่วนของชิปประมวลเรื่อยมาจนถึงส่วนที่เป็นครีบระบายความร้อนทองแดงอย่างอลังกาลงานสร้างไม่มีกั๊กใส่เต็มทุกเม็ดจริงๆ พัดลมก็ให้มา 2 ตัวเพียงพอ และย้ายแบตเตอรี่ไปอยู่ด้านบนเพื่อให้บาลานต์ตัวเครื่องดียิ่งขึ้น
*ใช้ภาพมาจาก MSI GL63 รุ่นที่เป็นฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ปกติ
ดยการ์ดจอ GeForce GTX 1650 และ GTX 1660 Ti 2 กราฟิกการ์ดตัวใหม่ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นพี่กับสถาปัตยกรรม Pascal ซึ่ง GTX 1650 จะถูกนำมาแทนที่ GTX 1050 Ti และ GTX 1660 Ti นั้นจะมาแทนที่ GTX 1060 ที่แม้ว่าจะไม่ได้มาพร้อมกับ Tensor cores หรือรองรับกับเทคโนโลยี ray-tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากรุ่นพี่
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX1660 Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้จะไม่รองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงามไม่แพ้กัน แถมไม่กินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย
เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล เทียบกับการ์ดจอ RTX 2060 ถือว่าไม่ต่างกันมากนัก
ซึ่งด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 120Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล อาจจะปรับกราฟิกต่ำลงมาเท่าที่เราพอใจ หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 120Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ ก็ได้
สรุปปิดท้าย นับได้ว่า MSI GL63 ที่ถูกปรับราคามาใหม่เริ่มต้นที่ 33,900 – 35,900 บาท จัดสเปคมาแรงกว่าใครเขา ด้วยชิปประมวผล i5-8300H / i7-8750H ที่จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) / GTX 1660Ti (6GB GDDR6) ตัวล่าสุดแรงเหลือๆ และตัวเครื่องสามารถขับได้ไม่มีคอขวด ผสานกับ Ram 8 GB DDR4 (Bus 2666) พร้อมรองรับ SSD m.2 แบบความเร็วสูง PCI-E Gen 3 ได้ 2 แถว (เป็น Combo SATA or PCIe x 1, PCIe only x 1), ลำโพงขนาดใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า ระบบเสียง Nahimic 3 ให้เสียงดังฟังชัดแบบสะใจ และคีย์บอร์ดเลือกใช้ของ SteelSeries ให้สัมผัสที่นุ่มมันมือ พร้อมไฟสีแดงปรับได้ 3 ระดับ จัดเต็มมากๆ
ส่วนการเชื่อมต่อพอร์ตต่างๆ ก็ให้มาครบครันทั้งการเชื่อมต่อ USB 3.1 Type C และ Mini Display Port การระบายความร้อนเป็นแบบ CoolerBoost 5 มีพัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 7 เส้น ช่องระบายความร้อน 4 ช่อง จัดหนักจัดเต็มไม่มีกั๊ก ทำให้ MSI GL63 8SE เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่สมบูรณ์แบบมากๆ อีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สายที่เลือกใช้ Intel Wireless-AC 9560 + Bluetooth 5.0 ที่ระบบ Killer Gaming LAN ที่ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมมออนไลน์อีกด้วย
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่ให้ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่าที่สุดล่ะก็ MSI GL63 ปี 2019 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว ที่ 33,900 บาท ซึ่งแม้ว่าจะเป็นรองในส่วนของ GP Series อยู่ที่บ้าง ในส่วนของหน้าจอที่ไม่ใช้พาเนล IPS รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบอาจจะดูดุดันน้อยกว่านิด แต่โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่ากว่าพอสมควร แม้จะเป็น Core i Gen 8 แต่ก็ยังแรงไม่แพ้ Core i Gen 9 ที่ร้อนกว่าอยู่ ใครตั้งใจจะซื้อ สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย