Kingston นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ไอทีประจำชาติไต้หวันที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าด้านที่เกี่ยวกับหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ ซึ่งในงาน Computex ที่เป็นงานโชว์นวัตกรรมด้านไอทีประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย ที่จะจัดขึ้นในประเทศไต้หวัน ก็เป็นงานที่ Kingston ได้ร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอครับ รวมถึงในงาน Computex 2019 ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับในปีนี้ Kingston เลือกธีมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ว่า “Kingston is Everywhere” แปลเป็นไทยก็คือ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน โดยแฝงอยู่ในหลาย ๆ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่ง Kingston เองก็มีผลิตภัณฑ์หน่วยความจำที่ครบครัน นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์ที่คุ้นเคย ไปจนถึงอุปกรณ์พกพาเลยทีเดียว
เรามาชมกันไปทีละกลุ่มเลยแล้วกันครับ
กลุ่มแรกเลยก็คือการ์ดหน่วยความจำแบบ SD card สำหรับเก็บข้อมูลจำพวกภาพถ่าย วิดีโอจากกล้องประเภทต่าง ๆ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ก็เช่น
- Kingston Canvas Select ที่เหมาะสำหรับการใช้งานกับกล้องทั่ว ๆ ไป ที่ไม่เน้นความเร็วในการบันทึกภาพมากนัก เน้นความคุ้มค่าต่อราคา เช่น การใช้งานร่วมกับกล้องคอมแพ็ค
- Kingston Canvas Go! เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับกล้อง DSLR รวมถึงโดรน ด้วยประสิทธิภาพในการบันทึกและอ่านไฟล์ที่เร็ว สามารถบันทึกไฟล์วิดีโอระดับ FHD ได้สบาย
- Kingston Canvas React เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับกล้อง DSLR มิเรอร์เลส ที่ต้องการความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลที่สูงขึ้นไปอีกขั้น เหมาะกับการใช้บันทึกวิดีโอระดับ 4K
- Kingston Canvas Focus เป็น CF card ประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานร่วมกับกล้องระดับโปร รองรับความเร็วในการอ่าน/เขียนสูงสุดถึง 150 MB/s และ 130 MB/s ตามลำดับ
การ์ดหน่วยความจำอีกกลุ่มของ Kingston ก็คือการ์ด microSD สำหรับการใช้งานร่วมกับกล้องแอคชั่นแคม กล้องติดหน้ารถ โดรน และใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน ซึ่งก็จะมีแบ่งเป็น 3 ซีรีส์หลัก ๆ เช่นกันครับ คือ Kingston Canvas Select, Canvas Go! และ Canvas React เรียกได้ว่ามีตัวเลือกที่ครบครันสำหรับโจทย์การใช้งานทุกประเภทเลย
ผลิตภัณฑ์กลุ่มต่อมาคงเป็นที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว นั่นคือกลุ่มของหน่วยความจำแบบ USB ในซีรีส์ DataTraveler ที่ Kingston เองก็ทำตลาดมาอย่างยาวนาน และมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทั้งรุ่นสำหรับการใช้งานทั่วไป รุ่นสำหรับเน้นการพกพาที่สะดวก รุ่นที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนผ่านพอร์ต USB-C และมีฟังก์ชัน OTG ในตัว ซึ่งตอนนี้ Kingston ก็มี USB drive ที่ความจุสูงสุดถึง 2TB วางจำหน่ายอยู่แล้ว
ทีนี้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานระดับองค์กรธุรกิจกันบ้างครับ ซึ่ง Kingston ก็มีผลิตภัณฑ์หน่วยความจำที่ครบวงจร ทั้งในส่วนของแรมที่มีประสิทธิภาพสูง SSD ที่มีทั้งแบบ SATA และ PCIe เป็นต้น
โดยในงาน Computex 2019 ครั้งนี้ Kingston ได้เปิดตัว SSD สำหรับงานธุรกิจขึ้นมาใหม่อีกสองรุ่น ได้แก่ Kingston DC500 ที่มีแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยได้แก่
- Kingston DC500R: สำหรับการใช้งานที่ต้องใช้การอ่านข้อมูลบ่อย ๆ
- Kingston DC500M: สำหรับการใช้งานทั่วไป ผสมผสานทั้งการอ่านและเขียนข้อมูลอยู่เป็นประจำ
ทั้งสองรุ่นย่อยนี้จะมีความจุให้เลือกสูงสุดถึง 3.84 TB เลยทีเดียว
ส่วนอีกรุ่นก็คือ Kingston KC2000 ที่เป็น SSD แบบ PCIe NVMe Gen 3×4 รองรับการทำงานที่ช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับข้อมูลอย่างครบถ้วน ความเร็วในการอ่านและเขียนสูงสุดที่ 3,200 MB/s และ 2,200 MB/s ตามลำดับ มีความจุให้เลือกสูงสุดถึง 2 TB
ส่วนในภาพด้านบนนี้ก็จะเป็น SSD อีกรุ่นที่จะได้รับการเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ครับ นั่นคือ Kingston DC1000M ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานระดับ data center ด้วยการเชื่อมต่ออินเตอร์เฟส PCIe NVMe Gen 3×4 ความจุสูงสุดถึง 7.6 TB ต่อหนึ่งลูก และที่สำคัญยังมีฮาร์ดแวร์ที่ช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาด้านกระแสไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะเหมาะสำหรับการใช้งานระดับอุตสาหกรรมอย่างเต็มตัว
นอกจากนี้ยังมีแรมที่ผ่านการรองรับตามมาตรฐาน JEDEC ระดับอุตสาหกรรมให้เลือกใช้งานอีกด้วย
โซลูชันต่อมาที่มีผลิตภัณฑ์ของ Kingston เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานก็คือกลุ่มของโซลูชันในการสำรองข้อมูลสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เช่น การใช้งาน NAS ในบ้าน หรือในออฟฟิศขนาดกลางถึงขนาดเล็ก ซึ่งสามารถเลือกใช้หน่วยความจำ SSD ที่มีราคาย่อมเยากว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับงานธุรกิจได้ ด้วยเหตุผลในด้านของประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่ากว่า
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ SSD ของ Kingston ที่รองรับการใช้งานในกลุ่มนี้ก็เช่น Kingston A400 ที่เป็น SSD แบบ SATA รวมถึง Kingston A2000 ที่เป็นอินเตอร์เฟสแบบ M.2 PCIe NVMe Gen 3×4 ซึ่งสามารถนำไปใช้งานกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานทั่วไปได้แบบไม่กระทบกับกระเป๋าสตางค์มากนัก
มุมต่อมาก็คือ Chromebook ครับ ที่น่าสนใจก็คือ Kingston เองก็มีโซลูชัน SSD ที่ราคาย่อมเยาตอบโจทย์การอัพเกรดประสิทธิภาพให้กับคอมพิวเตอร์ที่ราคาไม่สูงมากด้วย ทำให้ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องราคาเท่าไหร่ แรงขนาดไหน ก็สามารถมองหา SSD ของ Kingston มาอัพเกรดได้แบบไม่ต้องลังเลเพราะกลัวว่าจะไม่คุ้มกับเงินที่ต้องเสียไป เพราะขนาด Chromebook ที่ราคาไม่สูง ก็ยังมีหน่วยความจำแบบ eMMC ประสิทธิภาพสูงที่ตอบโจทย์เลย
อีกโซลูชันจาก Kingston ที่น่าสนใจก็คือ USB-C hub ที่เป็นการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ที่ช่วยเพิ่มพอร์ตการเชื่อมต่อให้กับโน๊ตบุ๊คบางเบาในปัจจุบัน ที่มักจะมาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อที่จำกัด โดยตัว hub ก็มีทั้งพอร์ต USB-A พอร์ USB-C สำหรับชาร์จไฟ ช่องอ่านการ์ด SD กับ microSD และพอร์ต HDMI เป็นต้น
กลุ่มต่อมาก็เป็นพวกอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและกล้องวงจรปิด ตัวอย่างเช่น พวกหน้าจอสมาร์ทสกรีน ลำโพงอัจฉริยะ รวมถึงกล้องวงจรปิดที่มีฟังก์ชันมากมาย ซึ่งได้รับความนิยมสูงขึ้นมากในปัจจุบัน โดยทาง Kingston เองก็มีผลิตภัณฑ์กลุ่ม microSD ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานเป็นระยะเวลานาน นั่นคือ Kingston High Endurance ที่มีความจุสูงสุดถึง 128 GB และยังมีจุดเด่นในด้านของความทนทานต่อการอ่าน/เขียนข้อมูลเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น การบันทึกวิดีโอของกล้องวงจรปิด และกล้องติดรถยนต์ที่ต้องมีการบันทึกข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับการเก็บข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งาน
ผลิตภัณฑ์กลุ่มสุดท้ายที่ครั้งแรกผมก็ตกใจเหมือนกันครับว่า Kingston เข้าไปอยู่ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติได้อย่างไร ซึ่งทาง Kingston เองก็ให้ข้อมูลว่าผลิตภัณฑ์ประเภทหน่วยความจำ eMMC ของตนเองที่มีความจุถึง 4 GB จะช่วยให้ระบบสามารถเก็บข้อมูลเส้นทางสำหรับการทำความสะอาดได้มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของตัวเครื่อง ที่ก็จะส่งผลมาถึงความสะอาดของพื้นที่ที่ใช้งานด้วย
ทั้งหมดนี้ก็คือโซลูชันต่าง ๆ ที่มีผลิตภัณฑ์ของ Kingston เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานสมกับคอนเซ็ปท์ Kingston is Everywhere นับตั้งแต่ในสมาร์ทโฟน กล้องถ่ายรูป กล้องติดรถยนต์ คอมพิวเตอร์ ระบบสำรองข้อมูล ไปจนถึงระดับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ระดับงานอุตสาหกรรม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในทุกระดับได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านของประสิทธิภาพและงบประมาณเป็นอย่างดีทีเดียว
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จาก Kingston: https://www.kingston.com/th