เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจที่สุดอยู่รุ่นนึงนั่นก็คือ Acer Swift 3 ที่จัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า การพกพา งานประกอบ และสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม ซึ่งอย่างที่รู้กัน Acer ได้พัฒนาในส่วนของโน๊ตบุ๊คที่เน้นการพกพามาโดยตลอด ที่สำคัญยังเป็นแบรนด์แรกที่นำเสนอโน๊ตบุ๊ครูปแบบใหม่อย่าง Ultrabook มาสู่ท้องตลาดอีกด้วย กับ Acer Aspire S3 และในปี 2019 นี้ Acer ก็พร้อมแล้วที่จะนำเสนอโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นใหม่ที่คุ้มค่าที่น่าจับตามองที่สุด
ล่าสุดกับ Acer Swift 3 SF314 ได้ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ พร้อมสเปกใหม่ล่าสุด ที่จัดได้ว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาพรีเมียมเกินราคา จากการออกแบบที่โดดเด่นสวยงามกว่าเดิม อีกทั้งยังมาพร้อมวัสดุคุณภาพสูง สำหรับสเปกก็ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Intel Core i เจอเนอเรชั่นรุ่นที่ 8 (Whisky Lake) โดยสเปกเป็นชิปประมวลผล i5-8265U หรือ i7-8565U พ่วงด้วยการ์ดจอ MX250 รุ่นใหม่จาก NVIDIA ได้แรม 8GB และ SSD PCIe ความจุ 512GB ที่สำคัญหน้าจอเป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD พร้อม Windows 10 แท้ ในราคาเพียง 24,990 บาทเท่านั้น
Unbox Preview
VDO Review
NBS x mininuiizz
แอดมินโป้ง NBS ร่วมรีวิว Acer Swift 3 / Acer Swift 5 กับน้องนุ้ย Youtuber สาวสวยสาย Beauty & Life Style ที่เป็นเจ้าของร้านกาแฟสุดเก๋แถวสัตหีบ – ระยองอย่าง MISAHOUSE ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำรีวิวด้วย รวมไปถึงติดตามช่องทางต่างๆ ของ mininuiizz ได้ตามนี้เลย
Specification
ในเรื่องของสเปก Acer Swift 3 SF314 เครื่องที่แอดมินโป้งได้มารีวิวเป็นเครื่องที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8565U (Whisky Lake) ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 4.6 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel UHD Graphics 620 ที่ติดมาในซีพียูจาก Intel พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 ที่แรงระดับ GTX 950M ทำให้พอเล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ แต่ให้ความร้อนที่น้อย
แรมให้มาขนาด 8GB DDR4 เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook ปกติ ส่วน SSD PCIe มีมาให้ขนาด 512GB มาพร้อมความเร็วสูง มาตรฐาน M.2 NVMe นอกจากนี้ยังมีเรื่องจอที่ได้กล่าวไปแล้วว่าใช้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS แบบจอด้านลดแสงสะท้อน พร้อมได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก และ Card Reader มาให้ด้วย ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac แบบ Gigabit และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด
สนนราคารุ่นที่ได้รับมารีวิวอยู่ที่ 27,990 บาท ได้ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรมเป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งจะมีรุ่นราคาถูกกว่านี้ กับราคา 24,990 บาท มาพร้อมสเปกชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-8265U ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เหมือนกันหมด เว้นแต่ประกันจะเป็นแบบ 2 ปีปกติ และซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมง
- Core i7 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB ประกัน 2 ปี : ราคา 27,990 บาท
- Core i5 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB ประกัน 2 ปี : ราคา 24,990 บาท
Hardware / Design
Acer Swift 3 SF314เครื่องนี้ใช้วัสดุประกอบหลักเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพดี มีให้เลือก 2 สีสันคือ สีเงิน Silver และสีแดงRed อย่างที่ตัวที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวจะเป็น Silver โดยทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง เรียกได้ว่าได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโน๊ตบุ๊คบางเบาของทาง Acer ได้เป็นอย่างดีที่มาพร้อมราคาที่คุ้มค่า
ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยมาพร้อมกับบางเพียง 14.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.35 กิโลกรัมเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับรหน้าจอ 13.3″ อย่างรุ่นก่อนๆ ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแบบรู้สึกได้ จนรุ่นเก่าต้องอิจฉาเลยทีเดียว
ฝาหลังเป็นวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์เช่นกัน ให้ผิวสัมผัสที่ดีมีความพรีเมียมกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป พร้อมโลโก้ Acer ตามมาตรฐานกลางฝาหลัง ให้สีสันเป็นทองมันวาว สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในก็จะเป็นอลูมิเนียมที่ดูหรูหรา ตัดกับคีย์บอร์ดสีดำยิ่งให้ความสวยงามและโดดเด่น โดยตัวบานพันเป็นแบบแถวยาวแถวเดียวโดยมีคำว่า Swift อยู่ เรียกได้ว่าดีไซน์ไปในทิศทางเดียวกันทั้งซีรีย์
รวมไปถึงบริเวณขอบตัวเครื่องด้านหลังนั้นก็จะเป็นช่องระบายความร้อนจำนวน 2 ช่องอีกด้วย เรียกได้ว่าส่งผลให้นำพาความร้อนได้ดีกว่าเดิม และทำให้ไม่รบกวนผู้ใช้งานแต่อย่างใด ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย ด้านข้างทั้งสองด้านฝั่งผู้ใช้จะเป็นในส่วนของลำโพง
ขอบตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นลักษณ์ตัดเพชรให้ความสวยงามด้วยสีเงิน โดยจากสติ๊กเกอร์ด้านในบริเวณที่วางมือฟีเจอร์ที่แปะไว้เอาไว้ บอกว่าขอบหน้าจอบางเฉียบกว่ารุ่นก่อนๆ และหน้าจอ IPS มุมมองกว้าง รวมถึงสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดที่ 12 ชั่วโมงด้วยกัน อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Gigabit Wi-Fi สุดท้ายกับการที่มีพอร์ต HDMI
สรุปสำหรับตัวเครื่องและดีไซน์การออกแบบของ Acer Swift 3 SF314 นั้น เป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมที่ดูลงตัว เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง โดนเริ่มต้นเพียงสองหมื่นบาทกลางๆ ไปจนถึงสองหมื่นบาทปลายๆ ที่ให้ภาพลักษณ์โดยรวมนั้นทำได้เป็นอย่างดีน่าประทับใจ
โดยเหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัวเหมือนอย่างที่ Ultrabook ราคาแพงสมัยก่อนทำได้เลยล่ะ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาใน Acer Swift 3 SF314 เป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างสั้น แต่ใช้งานจริงก็พอได้อยู่ไม่ได้ลำบากในการใช้งานนัก ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว ส่งผลให้พิมพ์ได้อย่างสะดวกไม่แพ้คีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ เลย พร้อมมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่างปรับระดับได้ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งแม้ว่าเราจะไปเผลอกดระหว่างการใช้งานก็ไม่ได้ทำให้เครื่องปิดแต่อย่างใด (ต้องกดค้างซัก 3 วินาทีถึงจะมีเมนูของ Acer ขึ้นมา)
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดี โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือแบบใหม่ที่เพียงแตะเท่านั้น คล้ายๆ ใช้งานพวกสมาร์ทโฟน ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าแบบนี้ โดยใช้งานผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10
Screen / Speaker
Acer Swift 3 SF314 ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ขอบจอบางเพียง 6.1 มิลลิเมตร เป็นพาเนลคุณภาพสูง IPS ที่รองรับความละเอียด Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ที่เหมาะกับการทำงานหรือความบันเทิงแบบสุดๆ ด้วยสีสันที่สมจริงเรียบเนียมและมุมมองที่กว้างกว่า อีกทั้งยังมี Acer Color Intelligence เทคโนโลยีนี้จะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี โดยไม่มีภาพขาดและความอิ่มตัวของสีเกิน แน่นอนว่าให้ประสบการณ์ใช้งานในการแสดงผลที่เยี่ยมยอด โดยมี BluelightShield ลดแสงสีฟ้า รองรับกับงานทั่วไปเป็นอย่างดีและพอเพียงกับการใช้งานทั่วไป อย่างเล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Swift 3 SF314 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 91% และ AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในช่วงราคานี้ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอมุมซ้ายบนที่ลดลงไปที่ระดับ 11% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่า มาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานกราฟิกก็พอได้เลย
ในส่วนของลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอ มาพร้อมระบบเสียง Acer TrueHarmony โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Acer Swift 3 SF314 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับระดับนึง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางเพียง 14.9 มิลลิเมตรและน้ำหนักเบา แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A ที่ 2 ช่อง และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐานและ Card Reader ที่สำคัญยังให้พอร์ตอย่าง USB 3.1 Type-C อีกด้วย โดยรวมแล้วต้องบอกว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไปทีเดียว
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่พอๆ กัน ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.35 กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ไซส์เล็กเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่ถึง 1.5 กิโลกรัม ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองก็มีขนาดที่เล็กและเบามากๆ โดยรวมแล้วก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่ลำบากในการพกพาเลย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาอีกรุ่นหนึ่ง สาวๆ น่าจะชอบกัน หยิบใส่กระเป๋าไปใช้งานข้างนอกสบายๆ
Performance / Software
Acer Swift 3 SF314 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.6 GHz ที่ต้องบอกว่าแรงมากๆ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ
เทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กพวก Core i5 ตัวซีรีย์ H ไม่ได้ตรงๆ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 และ SSD ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ รองรับการสำรองไฟล์ต่างๆ ได้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX 250 (2GB GDDR5) ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ พัฒนาต่อยอดมาจาก MX150 ของปีที่แล้ว โดยยังคงใช้สถาปัตยกรรม Pascal ที่สนับสนุนการทำงาน DirectX 12 พร้อมรองรับ Vulkan 1.1, OpenGL 4.6 และ OpenCL 1.2 API ให้ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950 เลยทีเดียว และแรงกว่า UHD 620 ประมาณ 3.5 เท่า ซึ่งสามารถเล่นเกมหนักๆ พอได้บ้าง ที่เดี๋ยวไปดูการทดสอบกันอีกที ในเรื่องของการเล่นเกมจริงๆ อย่าง DOTA 2, Overwatch, PUBG
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD แบบ M.2 PCIe ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1646 MB/s – Write: 1395 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,653 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกเดียวกันที่ไม่มีนั่นเอง
การทดสอบเกมจะเป็นเกมที่ไม่หนักมาก แต่เป็นเกมที่คนส่วนมากนิยมเล่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็เล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ Native 1920 x 1080 พิกเซล สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างเลยสำหรับ DOTA 2 แบบ Best Setting โดยรวมแล้วถึงว่าลื่นไหลอยู่
ส่วน Overwatch จะเป็นปรับแบบ Low โดย Rendering 100% ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับที่น่าประทับใจ รวมถึงทดสอบเกม PUBG ที่ต้องบอกว่ากินสเปกพอตัว ซึ่งเป็นการปรับค่าเป็น Low พูดตรงๆ ก็คือพอจะเล่นได้ แม้ไม่ได้ลื่นไหลอย่าง 2 เกมแรก สำหรับเกมออนไลน์โหดแนวนี้ ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึงเกมออนไลน์อื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Swift 3 SF314 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 3000 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 5 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ส่วนช่องระบายความร้อนของ Acer Swift 3 จะอยู่ด้านบนของฐานเครื่องบริเวณขาพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุด 96 องศาเซลเซียส ที่เป็นในส่วนของ CPU และร้อนสุดของ GPU อยู่ที่ 75 องศาเซลเซียส เวลาเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ นับว่าความร้อนของ Acer Swift 3 SF314 เครื่องนี้ค่อนข้างสูง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้กระทบกับการใช้งาน หรือทำให้เครื่องค้างหรือหน่วงแต่อย่างใด
โดยการใช้งานปกติทั่วไปสามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Acer ที่ดี และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร ทำให้การใช้งานจริงๆ ยาวนานต่อเนื่องอย่าง เล่นเน็ต พิมพ์งาน ดูหนังฟัลเพลง แทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย
Conclusion / Award
ประสบการณ์ใช้งานที่ได้จาก Acer Swift 3 SF314 หลักๆ แล้วมีการต่อยอดจากรุ่นเดิมในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ดูสวยหรู ที่เชื่อว่าทุกคนต้องชื่นชอบ เหมาะที่จะนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยสีสันเป็นแบบเงิน Silver ที่ดูแพงเกินกว่าราคา อีกทั้งงานประกอบก็มีความแน่นหนาจากการใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่างอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยมีความบางเพียง 14.9 มิลลิเมตร และมีความเบาเพียง 1.35 กิโลกรัม แน่นอนว่าตอบโจทย์สำหรับการพกพาแบบสุดๆ
สเปก Acer Swift 3 SF314 ก็ถือว่าดีมากๆ ด้วยการติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U (Whisky Lake) แรมก็เป็นมาตรฐาน DDR4 ขนาด 8GB การเข้าถึงข้อมูลได้ไวด้วยฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความเร็วสูงที่ความจุ 512GB และระบบเสียงของ Acer TrueHarmony ที่ปรับแต่งมาดี รวมถึงยังได้ติดตั้งพอร์ตการใช้งานครบครัน ซึ่งก็ USB 3.1 Type-C อยู่ด้วย รวมไปถึงหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS ที่ทดสอบแล้วเป็นรุ่นคุณภาพสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในระดับเดียวกันจริงๆ
อย่างไรก็ตามในเรื่องข้อสังเกตของ Acer Swift 3 SF314 ก็คืออุณหภูมิเมื่อดูด้วยซอฟต์แวร์อาจจะสูงไปซักหน่อย แต่เมื่อใช้งานจริงๆ รับรองได้ว่าไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด รวมไปถึงประสบกาณ์ใช้งานก็ยังเยี่ยมยอดอยู่ คาดว่าความร้อนที่เกินขึ้นเป็นเพราะชิปประมวลผลรุ่นใหม่ที่แรงกว่าเดิม บนพื้นฐานการระบายความร้อนเดิมนั่นเอง ย้ำว่าไม่ต้องกังวลไปเพราะปกติเราไม่ใช้งานหนักๆ 100% ตลอดเวลาอยู่แล้ว รวมไปถึงการใช้งานจริงของแบตเตอรี่ก็น้อยกว่าที่เคลมเอาไว้ โดยอยู่ที่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าเหมาะกับ Acer Swift 3 SF314 คนทำงานพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว กับราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงจนเกินไป สามารถพกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ แต่ประสิทธิภาพก็คงจะสู้โน๊ตบุ๊คที่เน้นความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพอย่าง Acer Nitro 5 ไม่ได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน
จุดเด่น
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์และมีความหรูหราเกินราคา ขอบจอบาง
- วัสดุทำจากอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง พกพาสะดวก เหมาะไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว
- ประสิทธิภาพในการเล่นเกมและทำงานกราฟิกดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน
- ฮาร์ดดิสก์ SSD PCIe มีความรวดเร็วในการใช้งานมาก
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพ สีสันสวยงามเนียนตา
- ติดตั้งสแกนลายนิ้วมือมาให้พร้อมใช้งาน
- มี Windows 10 แท้พร้อมใช้งานทันที
- ประกัน 3 ปี ปีแรกเป็น On-site พร้อมส่งศูนย์ซ่อมไวใน 3 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- ไม่สามารถอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติมได้ ตามสไตล์ Ultrabook
- ความร้อนสูงไปหน่อย เพราะว่ามีการ์ดจอแยก แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน
- แบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยกว่าที่เคลมไว้
Award
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Swift 3 ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รุ่นใหม่ขอบจอบางเฉียบ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ Acer Swift 3 จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาประมาณสองหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 27,990 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง Core i7 + MX250 รวมถึงมีแรม 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD PCIe ความจุ 512GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือ พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นพกพาแบบสุดๆ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 3 ปี เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย
Best Mobility
สำหรับ Acer Swift 3 ที่มีความบางเพียง 14.9 มิลลิเมตร และมีความหนักเพียง 1.35 กิโลกรัม นั้น จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีน้ำหนักเบามากๆ แน่นอนว่าจะไม่เป็นภาระในการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และความบางของตัวเครื่องก็ยังมีความบางเฉียบ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกันในหลายๆ ตัว และสำหรับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่อาจจะน้อยไปหน่อย แต่อแดปเตอร์ไม่ใหญ่มาก ถือว่าพอติดตัวไปได้อยู่ จึงได้รางวัลในส่วนนี้ไปไม่ยากนัก
Unbox Preview
VDO Review
NBS x mininuiizz
แอดมินโป้ง NBS ร่วมรีวิว Acer Swift 3 / Acer Swift 5 กับน้องนุ้ย Youtuber สาวสวยสาย Beauty & Life Style ที่เป็นเจ้าของร้านกาแฟสุดเก๋แถวสัตหีบ – ระยองอย่าง MISAHOUSE ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำรีวิวด้วย รวมไปถึงติดตามช่องทางต่างๆ ของ mininuiizz ได้ตามนี้เลย
Specification
ในเรื่องของสเปก Acer Swift 3 SF314 เครื่องที่แอดมินโป้งได้มารีวิวเป็นเครื่องที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8565U (Whisky Lake) ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 4.6 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel UHD Graphics 620 ที่ติดมาในซีพียูจาก Intel พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 ที่แรงระดับ GTX 950M ทำให้พอเล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ แต่ให้ความร้อนที่น้อย
แรมให้มาขนาด 8GB DDR4 เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook ปกติ ส่วน SSD PCIe มีมาให้ขนาด 512GB มาพร้อมความเร็วสูง มาตรฐาน M.2 NVMe นอกจากนี้ยังมีเรื่องจอที่ได้กล่าวไปแล้วว่าใช้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS แบบจอด้านลดแสงสะท้อน พร้อมได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก และ Card Reader มาให้ด้วย ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac แบบ Gigabit และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด
สนนราคารุ่นที่ได้รับมารีวิวอยู่ที่ 27,990 บาท ได้ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรมเป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งจะมีรุ่นราคาถูกกว่านี้ กับราคา 24,990 บาท มาพร้อมสเปกชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-8265U ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เหมือนกันหมด เว้นแต่ประกันจะเป็นแบบ 2 ปีปกติ และซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมง
- Core i7 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB ประกัน 2 ปี : ราคา 27,990 บาท
- Core i5 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB ประกัน 2 ปี : ราคา 24,990 บาท
Hardware / Design
Acer Swift 3 SF314เครื่องนี้ใช้วัสดุประกอบหลักเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพดี มีให้เลือก 2 สีสันคือ สีเงิน Silver และสีแดงRed อย่างที่ตัวที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวจะเป็น Silver โดยทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง เรียกได้ว่าได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโน๊ตบุ๊คบางเบาของทาง Acer ได้เป็นอย่างดีที่มาพร้อมราคาที่คุ้มค่า
ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยมาพร้อมกับบางเพียง 14.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.35 กิโลกรัมเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับรหน้าจอ 13.3″ อย่างรุ่นก่อนๆ ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแบบรู้สึกได้ จนรุ่นเก่าต้องอิจฉาเลยทีเดียว
ฝาหลังเป็นวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์เช่นกัน ให้ผิวสัมผัสที่ดีมีความพรีเมียมกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป พร้อมโลโก้ Acer ตามมาตรฐานกลางฝาหลัง ให้สีสันเป็นทองมันวาว สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในก็จะเป็นอลูมิเนียมที่ดูหรูหรา ตัดกับคีย์บอร์ดสีดำยิ่งให้ความสวยงามและโดดเด่น โดยตัวบานพันเป็นแบบแถวยาวแถวเดียวโดยมีคำว่า Swift อยู่ เรียกได้ว่าดีไซน์ไปในทิศทางเดียวกันทั้งซีรีย์
รวมไปถึงบริเวณขอบตัวเครื่องด้านหลังนั้นก็จะเป็นช่องระบายความร้อนจำนวน 2 ช่องอีกด้วย เรียกได้ว่าส่งผลให้นำพาความร้อนได้ดีกว่าเดิม และทำให้ไม่รบกวนผู้ใช้งานแต่อย่างใด ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย ด้านข้างทั้งสองด้านฝั่งผู้ใช้จะเป็นในส่วนของลำโพง
ขอบตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นลักษณ์ตัดเพชรให้ความสวยงามด้วยสีเงิน โดยจากสติ๊กเกอร์ด้านในบริเวณที่วางมือฟีเจอร์ที่แปะไว้เอาไว้ บอกว่าขอบหน้าจอบางเฉียบกว่ารุ่นก่อนๆ และหน้าจอ IPS มุมมองกว้าง รวมถึงสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดที่ 12 ชั่วโมงด้วยกัน อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Gigabit Wi-Fi สุดท้ายกับการที่มีพอร์ต HDMI
สรุปสำหรับตัวเครื่องและดีไซน์การออกแบบของ Acer Swift 3 SF314 นั้น เป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมที่ดูลงตัว เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง โดนเริ่มต้นเพียงสองหมื่นบาทกลางๆ ไปจนถึงสองหมื่นบาทปลายๆ ที่ให้ภาพลักษณ์โดยรวมนั้นทำได้เป็นอย่างดีน่าประทับใจ
โดยเหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัวเหมือนอย่างที่ Ultrabook ราคาแพงสมัยก่อนทำได้เลยล่ะ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาใน Acer Swift 3 SF314 เป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างสั้น แต่ใช้งานจริงก็พอได้อยู่ไม่ได้ลำบากในการใช้งานนัก ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว ส่งผลให้พิมพ์ได้อย่างสะดวกไม่แพ้คีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ เลย พร้อมมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่างปรับระดับได้ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งแม้ว่าเราจะไปเผลอกดระหว่างการใช้งานก็ไม่ได้ทำให้เครื่องปิดแต่อย่างใด (ต้องกดค้างซัก 3 วินาทีถึงจะมีเมนูของ Acer ขึ้นมา)
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดี โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือแบบใหม่ที่เพียงแตะเท่านั้น คล้ายๆ ใช้งานพวกสมาร์ทโฟน ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าแบบนี้ โดยใช้งานผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10
Screen / Speaker
Acer Swift 3 SF314 ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ขอบจอบางเพียง 6.1 มิลลิเมตร เป็นพาเนลคุณภาพสูง IPS ที่รองรับความละเอียด Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ที่เหมาะกับการทำงานหรือความบันเทิงแบบสุดๆ ด้วยสีสันที่สมจริงเรียบเนียมและมุมมองที่กว้างกว่า อีกทั้งยังมี Acer Color Intelligence เทคโนโลยีนี้จะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี โดยไม่มีภาพขาดและความอิ่มตัวของสีเกิน แน่นอนว่าให้ประสบการณ์ใช้งานในการแสดงผลที่เยี่ยมยอด โดยมี BluelightShield ลดแสงสีฟ้า รองรับกับงานทั่วไปเป็นอย่างดีและพอเพียงกับการใช้งานทั่วไป อย่างเล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Swift 3 SF314 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 91% และ AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในช่วงราคานี้ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอมุมซ้ายบนที่ลดลงไปที่ระดับ 11% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่า มาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานกราฟิกก็พอได้เลย
ในส่วนของลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอ มาพร้อมระบบเสียง Acer TrueHarmony โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Acer Swift 3 SF314 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับระดับนึง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางเพียง 14.9 มิลลิเมตรและน้ำหนักเบา แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A ที่ 2 ช่อง และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐานและ Card Reader ที่สำคัญยังให้พอร์ตอย่าง USB 3.1 Type-C อีกด้วย โดยรวมแล้วต้องบอกว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไปทีเดียว
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่พอๆ กัน ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.35 กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ไซส์เล็กเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่ถึง 1.5 กิโลกรัม ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองก็มีขนาดที่เล็กและเบามากๆ โดยรวมแล้วก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่ลำบากในการพกพาเลย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาอีกรุ่นหนึ่ง สาวๆ น่าจะชอบกัน หยิบใส่กระเป๋าไปใช้งานข้างนอกสบายๆ
Performance / Software
Acer Swift 3 SF314 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.6 GHz ที่ต้องบอกว่าแรงมากๆ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ
เทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กพวก Core i5 ตัวซีรีย์ H ไม่ได้ตรงๆ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 และ SSD ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ รองรับการสำรองไฟล์ต่างๆ ได้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX 250 (2GB GDDR5) ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ พัฒนาต่อยอดมาจาก MX150 ของปีที่แล้ว โดยยังคงใช้สถาปัตยกรรม Pascal ที่สนับสนุนการทำงาน DirectX 12 พร้อมรองรับ Vulkan 1.1, OpenGL 4.6 และ OpenCL 1.2 API ให้ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950 เลยทีเดียว และแรงกว่า UHD 620 ประมาณ 3.5 เท่า ซึ่งสามารถเล่นเกมหนักๆ พอได้บ้าง ที่เดี๋ยวไปดูการทดสอบกันอีกที ในเรื่องของการเล่นเกมจริงๆ อย่าง DOTA 2, Overwatch, PUBG
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD แบบ M.2 PCIe ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1646 MB/s – Write: 1395 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,653 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกเดียวกันที่ไม่มีนั่นเอง
การทดสอบเกมจะเป็นเกมที่ไม่หนักมาก แต่เป็นเกมที่คนส่วนมากนิยมเล่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็เล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ Native 1920 x 1080 พิกเซล สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างเลยสำหรับ DOTA 2 แบบ Best Setting โดยรวมแล้วถึงว่าลื่นไหลอยู่
ส่วน Overwatch จะเป็นปรับแบบ Low โดย Rendering 100% ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับที่น่าประทับใจ รวมถึงทดสอบเกม PUBG ที่ต้องบอกว่ากินสเปกพอตัว ซึ่งเป็นการปรับค่าเป็น Low พูดตรงๆ ก็คือพอจะเล่นได้ แม้ไม่ได้ลื่นไหลอย่าง 2 เกมแรก สำหรับเกมออนไลน์โหดแนวนี้ ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึงเกมออนไลน์อื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Swift 3 SF314 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 3000 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 5 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ส่วนช่องระบายความร้อนของ Acer Swift 3 จะอยู่ด้านบนของฐานเครื่องบริเวณขาพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุด 96 องศาเซลเซียส ที่เป็นในส่วนของ CPU และร้อนสุดของ GPU อยู่ที่ 75 องศาเซลเซียส เวลาเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ นับว่าความร้อนของ Acer Swift 3 SF314 เครื่องนี้ค่อนข้างสูง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้กระทบกับการใช้งาน หรือทำให้เครื่องค้างหรือหน่วงแต่อย่างใด
โดยการใช้งานปกติทั่วไปสามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Acer ที่ดี และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร ทำให้การใช้งานจริงๆ ยาวนานต่อเนื่องอย่าง เล่นเน็ต พิมพ์งาน ดูหนังฟัลเพลง แทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย
Conclusion / Award
ประสบการณ์ใช้งานที่ได้จาก Acer Swift 3 SF314 หลักๆ แล้วมีการต่อยอดจากรุ่นเดิมในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ดูสวยหรู ที่เชื่อว่าทุกคนต้องชื่นชอบ เหมาะที่จะนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยสีสันเป็นแบบเงิน Silver ที่ดูแพงเกินกว่าราคา อีกทั้งงานประกอบก็มีความแน่นหนาจากการใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่างอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยมีความบางเพียง 14.9 มิลลิเมตร และมีความเบาเพียง 1.35 กิโลกรัม แน่นอนว่าตอบโจทย์สำหรับการพกพาแบบสุดๆ
สเปก Acer Swift 3 SF314 ก็ถือว่าดีมากๆ ด้วยการติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U (Whisky Lake) แรมก็เป็นมาตรฐาน DDR4 ขนาด 8GB การเข้าถึงข้อมูลได้ไวด้วยฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความเร็วสูงที่ความจุ 512GB และระบบเสียงของ Acer TrueHarmony ที่ปรับแต่งมาดี รวมถึงยังได้ติดตั้งพอร์ตการใช้งานครบครัน ซึ่งก็ USB 3.1 Type-C อยู่ด้วย รวมไปถึงหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS ที่ทดสอบแล้วเป็นรุ่นคุณภาพสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในระดับเดียวกันจริงๆ
อย่างไรก็ตามในเรื่องข้อสังเกตของ Acer Swift 3 SF314 ก็คืออุณหภูมิเมื่อดูด้วยซอฟต์แวร์อาจจะสูงไปซักหน่อย แต่เมื่อใช้งานจริงๆ รับรองได้ว่าไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด รวมไปถึงประสบกาณ์ใช้งานก็ยังเยี่ยมยอดอยู่ คาดว่าความร้อนที่เกินขึ้นเป็นเพราะชิปประมวลผลรุ่นใหม่ที่แรงกว่าเดิม บนพื้นฐานการระบายความร้อนเดิมนั่นเอง ย้ำว่าไม่ต้องกังวลไปเพราะปกติเราไม่ใช้งานหนักๆ 100% ตลอดเวลาอยู่แล้ว รวมไปถึงการใช้งานจริงของแบตเตอรี่ก็น้อยกว่าที่เคลมเอาไว้ โดยอยู่ที่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าเหมาะกับ Acer Swift 3 SF314 คนทำงานพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว กับราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงจนเกินไป สามารถพกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ แต่ประสิทธิภาพก็คงจะสู้โน๊ตบุ๊คที่เน้นความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพอย่าง Acer Nitro 5 ไม่ได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน
จุดเด่น
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์และมีความหรูหราเกินราคา ขอบจอบาง
- วัสดุทำจากอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง พกพาสะดวก เหมาะไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว
- ประสิทธิภาพในการเล่นเกมและทำงานกราฟิกดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน
- ฮาร์ดดิสก์ SSD PCIe มีความรวดเร็วในการใช้งานมาก
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพ สีสันสวยงามเนียนตา
- ติดตั้งสแกนลายนิ้วมือมาให้พร้อมใช้งาน
- มี Windows 10 แท้พร้อมใช้งานทันที
- ประกัน 3 ปี ปีแรกเป็น On-site พร้อมส่งศูนย์ซ่อมไวใน 3 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- ไม่สามารถอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติมได้ ตามสไตล์ Ultrabook
- ความร้อนสูงไปหน่อย เพราะว่ามีการ์ดจอแยก แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน
- แบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยกว่าที่เคลมไว้
Award
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Swift 3 ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รุ่นใหม่ขอบจอบางเฉียบ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ Acer Swift 3 จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาประมาณสองหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 27,990 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง Core i7 + MX250 รวมถึงมีแรม 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD PCIe ความจุ 512GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือ พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นพกพาแบบสุดๆ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 3 ปี เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย
Best Mobility
สำหรับ Acer Swift 3 ที่มีความบางเพียง 14.9 มิลลิเมตร และมีความหนักเพียง 1.35 กิโลกรัม นั้น จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีน้ำหนักเบามากๆ แน่นอนว่าจะไม่เป็นภาระในการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และความบางของตัวเครื่องก็ยังมีความบางเฉียบ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกันในหลายๆ ตัว และสำหรับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่อาจจะน้อยไปหน่อย แต่อแดปเตอร์ไม่ใหญ่มาก ถือว่าพอติดตัวไปได้อยู่ จึงได้รางวัลในส่วนนี้ไปไม่ยากนัก