Gaming Notebook รุ่นใหม่ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2080/2070/2060 มาเพียบเลย ภายในงาน CES 2019 ที่ผ่านมา มาในตอนนี้แอดมินโป้ง NBS จะขอมาจัดอันดับกันว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง คือ จริงๆ ต้องบอกว่ามีดีมีเด่นกันไปแหละ ซึ่งในบทความนี้จะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวความชื่นชอบส่วนใจว่าตัวไหนน่าสนใจมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยไม่ได้ดูในเรื่องของราคาเป็นหลัก รวมไปถึงแบรนด์ด้วย (หรือเพื่อนๆ ชอบตัวไหนก็มาแชร์มาบอกกันได้) เอาว่า 10 รุ่นนี้มีอะไรเข้าตาบ้าง ไปชมกันเลยดีกว่า !!!
Dell Alienware Area-51m
สมกับเป็น Dell Alienware จริงๆ ล่าสุดจากทางาน CES 2019 ได้ส่ง Alienware Area-51m ซึ่งเป็น Gaming Notebook สเปกสุดแรงดีไซน์สุดล้ำ สมกับเป็น Area-51 Series ที่เคยมีมาแล้วฝั่ง Gaming Desktop โดยเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3″ ที่ถือว่าเป็นตัวท็อปที่สุดแล้วจากทาง Dell Alienware มาพร้อมดีไซน์ใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งเป็นการแทนที่ Alienware 17 R5 อย่างเป็นทางการ (รวมไปถึงดีไซน์แบบเดิมๆ ที่เป็นจอ 15.6″ อย่าง Alienware 15 R3 ด้วย)
ที่โดดเด่นของ Alienware Area-51m เลยก็คือติดตั้งฮาร์ดแวร์สุดแรงเอาไว้ โดยสเปกสูงสุดก็คือใช้ชิปประมวลผลเป็น Core i9-9900HK (หรือรุ่นใหม่กว่า) อีกทั้งมาพร้อมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2080 แบบพิเศษ ที่สามารถถอดอัพเกรดได้ โดยใช้มาตรฐานเป็น DGFF (Dell Graphics Form Factor) แตกต่างจากคู่แข่งที่เป็น MXM แน่นอนว่าทำให้อนาคตเราสามารถอัพเกรดการ์ดจอใหม่ได้ด้วยการถอดเปลี่ยน อารมณ์เดียวกับ Desktop PC เลยทีเดียว (สมมุติว่ามี RTX 3080 มาแล้วแบบนี้)
ส่วนสเปกอื่นๆ ของ Alienware Area-51m ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน หลักๆ แล้วเรื่องของแรมและฮาร์ดดิสก์ก็มีความคล้ายกัน รวมไปถึงการเชื่อมต่ออื่นๆ แต่ที่แตกต่างก็คือ Alienware Area-51m จำเป็นต้องใช้อแดปเตอร์ถึงสองตัวด้วยกัน (280 Watt x2) ในการจ่ายไฟใช้งาน ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร เพราะก่อนหน้านี้เราคงเคยเห็นใน Gaming Notebook ตัวท็อปของหลายๆ แบรนด์ไปแล้ว
ดีไซน์การออกแบบจะเห็นว่า Alienware Area-51m มีความเป็นยานอวกาศมากๆ สมกับชื่อผลิตภัณฑ์จากทางต่างดาวจริงๆ อย่างที่ๆม่เคยมีมาก่อน ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูไม่เหมือนใครเน้นเรียบง่ายแต่หรูหรามากๆ เลือกใช้สีขาวมาแซมที่ดูแล้วสะอาดตา ฝาหลังมีโลโก้ Area-51 อยู่ วัสดุหลักๆ ก็จะเป็นโลหะและพลาสติกเกรดสูง แน่นอนว่ามีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงจากการที่ขอบจอบาง เล็กกว่ารุ่นก่อนถึง 32% โดยมีน้ำหนักแค่ 3.87 กิโลกรัมเท่านั้น
ASUS ROG GZ700 Mothership
ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่คลั่งมากๆ จากงาน CES 2019 อย่าง ASUS ROG GZ700 โดยเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีดีไซน์คล้ายกับ Surface Pro มาพร้อมสเปก i9-8950HK + RTX 2080 และหน้าจอ 17.3″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS 144 Hz 3 ms 100% sRGB ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแต่ของโลกก็ได้กับการมาของ Gaming Notebook ที่มีแนวคิดแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นยานแม่เลยทีเดียว !!!
ASUS ROG GZ700 เป็น Gaming Notebook แบบ 2-in-1 Notebook ที่สามารถถอดหน้าจอแยกออกจากคีย์บอร์ดได้ โดยที่ตัวเครื่องที่เป็นหน้าจอติดตั้งขาตั้งมาแล้วในตัวเหมือนกับ Surface Pro ทำให้เราจับตั้งปรับมุมมองได้คล้ายกับ AIO ทีเดียว แน่นอนฮาร์ดแวร์ภายในต่างๆ ก็ได้ติดตั้งเอาไว้ในนั้นทั้งเมนบอร์ด แรมหรืออื่นๆ ที่น่าสนใจคงต้องเป็นชิปประมวลผล Intel Core i9-8950HK และการ์ดจอ NVDIA GeForce RTX 2080 ซึ่งจับคู่กันได้แบบแรงสุดๆ ในต้นปี 2019 นี้
ในส่วนของคีย์บอร์ดที่แยกออกมาได้นั้น รองรับการใช้งานทั้งแบบติดกับตัวผ่านทางแม่เหล็ก หรือว่าจะใช้งานแบบไร้สายก็สามารถทำได้ ที่บอกเลยว่าคลั่งดีจริงๆ สำหรับการมาของสุดยอด Gaming Notebook จากทาง ASUS ซึ่งไม่ใช่แค่ว่าจะอัพเกรดสเปกด้วยการ์ดจอ NVDIA GeForce RTX 2080 แต่ได้มีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สดกว่ารุ่นเดิมๆ ที่เป็น ASUS ROG G703 สมกับการเปิดตัวที่งาน CES 2019 เป็นที่แรกด้วย
การมาของ ASUS ROG GZ700 Gaming Notebook ถอดจอได้ไซส์ 17.3″ สเปก i9-8950HK + RTX 2080 เรียกได้ว่าอยากได้มาทดสอบใช้งานกันไวๆ เลย คาดว่าทาง ASUS ประเทศไทยน่าจะส่งให้ทดสอบเร็วๆ นี้แน่นอน ก่อนที่โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ที่ใช้การ์ดจอตระกูล RTX Series จะเป็นตัวในไทยอย่างเป็นทางการช่วงเดือนมกราคมนี้
Dell Alienware m15 / m17
Alienware m15 และ Alienware m17 ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook รุ่นใหม่จากทาง Dell โดยเปิดตัวในงาน CES 2019 มาพร้อมสเปกใหม่ล่าสุดอย่าง i9 + RTX 2080 Max-Q สุดแรง และหน้าจอเทคโนโลยี HDR แสดงสีได้สุดล้ำ ที่สำคัญคือมีดีไซน์ที่เล็กกระชับ ขอบจอบาง ตัวเครื่องเบากว่ารุ่นก่อนๆ เรียกได้ว่าสมการรอคอยกับการมาของอีกที่สุดของโน๊ตบุ๊คเล่นเกมทีเดียว (จริงๆ Alienware m15 เคยเปิดตัวไปปทีแล้ว แต่มาพร้อมการ์ดจอ GTX Series)
สำหรับ Alienware m15 นั้นหากเทียบกับ Alienware 15 R4 ที่มีขนาดหน้าจอที่ 15.6 นิ้วเท่ากันจะพบว่า m15 นั้นบางกว่า 15 R4 ถึง 17 % และมีขนาดเล็กกว่า 30 % ในขณะที่น้ำหนักนั้นก็ลดลงจากเดิมถึง 38 % เลยทีเดียวครับ โดยมีมิติตัวเครื่องที่ 62.86 x 275 x 20.99 มิลลิเมตร และหนักเพียง 2.16 กิโลกรัมเท่านั้น เรียกได้ว่า m15 นั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจอ 15.6″
ส่วน Alienware m17 ที่เป็น Gaming Notebook ตัวท็อปสายบางเบา หน้าจอ 17.3″ ซึ่งถ้าเทียบระหว่าง Alienware 17 R5 จะเห็น่วามีความเบากว่ารุ่นเดิมถึง 40% และบางลงกว่า 23% รวมไปถึงมิติโดยรวมของตัวเครื่องทั้งหมดเล็กลงไปที่ 34% เลยทีเดียว โดยมีขนาดที่ 23 x 410 x 292.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักที่ 2.63 กิโลกรัม ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจอใหญ่ที่เบาที่สุดของ Dell ตั้งแต่เคยมีมา
MSI GS75 Stealth
ที่สุดของโน๊ตบุ๊คจอ 17 นิ้ว ที่มีน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัมเท่านั้น แถมหนาเพียง 18.95 mm ถือเป็นโน๊ตบุ๊คจอใหญ่ที่พกพาสะดวกสุดๆ รุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้เลยทีเดียว บอดี้ภายนอกตัวเครื่องออกแบบคล้ายกับตัว GS65 รุ่นพี่ที่ออกมาก่อนหน้านี้ที่บอดี้เป็นโลหะทั้งหมดสีดำ เส้นขอบเป็นสีทองสวยงาม เพิ่มเติมคือแกนฝาพับสองข้างเป็นสีทองดูแข็งแรงดี (ปกติรุ่นอื่นจะเป็นสีดำ)
คีย์บอร์ดก็เป็นของ SteelSeries RGB แบบ Pre-Key ตั้งค่าสีไฟได้ตามต้องการหรือตามค่าโปรไฟล์เกมได้อัตโนมัติ แถมในรุ่นนี้ก็มี Numpad มาให้อีกด้วย ทัชแพทก็ขยายขนาดใหญ่กว่าเดิม 35% ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่าให้มาครบครันมากๆ ทั้ง Thunderbolt 3, USB 3.1 Type C, USB3.1 Gen2 Type-A 3 ช่อง, RJ45, Micro SD และ HDMI ตัวเต็ม ทางด้านการระบายความร้อนของ GS75 เลือกใช้ระบบ Cooler Boost Trinity+ รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีพัดลมระบายความร้อน 3 ตัว ตัวละ 47 ใบพัดขนาด 0.2 mm และมีฮีทไปป์ 7 เส้น หายห่วงเรื่องการระบายความร้อนทาง MSI เขาทำมาดีแน่นอน
ส่วนของสเปคแน่นอนว่าจัดเต็มขั้นสุด ปี 2019 แล้วก็ย่อมมาพร้อมกับการ์ดจอสูงสุดที่เป็น RTX 2080 Max-Q แรงๆ CPU ยังคงเป็น i7 รหัส H Gen 8 ปกติ หน้าจอ 17.3 นิ้ว Full HD IPS 144 Hz อัปเกรด Ram ได้สูงสุด 32 GB และสิ่งที่โดดเด่นรุ่นอื่นกว่าใครเพื่อนก็คือตัวเครื่อง GS75 นี้สามารถใส่ SSD m.2 ได้ถึง 3 อัน โดยเป็นแบบ Slot Combo ที่รองรับ SATA 3 และ NVMe 2 ช่อง และรองรับเฉพาะ NVMe อีก 1 ช่อง ซึ่งคาดว่าเข้าไทยเร็วๆ นี้แน่นอนครับ
Dell G5 15 5590 / Dell G7 15 7590
Dell G5 15 5590 / Dell G7 15 7590 ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ ทีเดียว กับการมาของ Gaming Notebook รุ่นใหม่ในงาน CES 2019 เพราะไม่ใช่แค่ใหม่ด้วยสเปกที่ใช้งานการ์ดจออย่าง NVIDIA GeForce RTX 2000 Series อย่างเดียว แต่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดจด รวมไปถึงมีสเปกของจอให้เลือกสูงสุดเป็นระดับ OLED 4K อีกด้วย เรียกได้ว่าจัดเต็มไม่แพ้กับฝั่งรุ่นพี่อย่าง Alienware เลยทีเดียวเชียว
มาในงาน CES 2019 ครั้งนี้ ก็จัดเต็มด้วยรุ่นใหม่อย่าง Dell G5 15 5590 / Dell G7 15 7590 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็คือการเลือกใช้การ์ดจอรุ่นใหม่ๆ อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2000 Series อาทิ Nvidia RTX 2060, RTX 2070 และ RTX 2080 แทนที่ GTX Series แบบก่อนๆ ซึ่งต้องบอกว่ามีการขยับไปใช้การ์ดจอรุ่นบนแทนที่การ์ดจอระดับ GTX 1050 แบบเดิมๆ แต่คาดว่าถ้าอนาคตมีการเปิดตัวการ์ดจออย่าง RTX 2050 ก็น่าจะมีตัวเลือกมาเพิ่ม
เรื่องของดีไซน์การมีการปรับใหม่ให้ดูสวยงามเฉียบเรียบยิ่งขึ้น มิติตัวเครื่องดูเล็กกระชับลงจากการที่ขอบหน้าจอบางลงตามเทรนด์ของ Gaming Notebook มาพร้อมสีขาวที่ดูสะอาดตา หรือสีเทาที่ดูเข้มหน่อยสไตล์แบบทูโทน ที่บอกได้เลยว่าดูหรูหรามากๆ ตามมาตรฐานของ Dell ที่หลายๆ คนชื่นชอบกันอยู่แล้ว วัสดุหลักๆ ก็เป็นพลาสติก ที่มีงานประกอบที่แน่นหนา รวมไปถึงระบบระบายความร้อนก็ได้มีการปรับปรุงใหม่ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย (แต่ดีขึ้นแค่ไหน รอทดสอบเลย) เป็นแบบโชว์โปร่งใสสีฟ้าดูดีทีเดียว ส่วนราคาคาดว่าเริ่มต้นประมาณ 30,000 บาท
ASUS ROG Zephyrus S GX701
ASUS ROG Zephyrus S GX701 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบบบางพิเศษที่จะยกระดับการเล่นเกมสุดโหดขึ้นไปอีกขั้นด้วยด้วยกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ล่าสุด NVIDIA GeForce RTX 2080 แบบ Max-Q และโปรเซสเซอร์ 8th Generation Intel Core i7, ASUS ROG Zephyrus S GX701 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 17 นิ้ว ที่มีรีเฟรชเรทสูง 144Hz และกรอบจอแบบบางเฉียบ รวมไปถึง NVIDIA G-SYNC และเทคโนโลยี Optimus ทำงานควบคู่กัน หน้าจอยังได้รับการรับรองโดย PANTONE Validated จึงให้เฉดสีที่สมจริงสำหรับการเล่นเกม หรือแม้แต่การสร้างคอนเทนต์ระดับสูง
แม้จะมีคุณสมบัติต่างๆเพิ่มขึ้นมากมายบนหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น แต่ ASUS ROG Zephyrus S GX701 ยังคงไว้ซึ่งความบางจนน่าประทับใจและขนาดตัวเครื่องที่พกพาได้ง่ายจนคุณต้องทึ่ง ให้ความลงตัว, ทรงพลัง, และความสามารถรอบด้านที่เหนือกว่า Zephyrus รุ่นใดๆก่อนหน้า โดยยังคงไว้ซึ่งความสามารถในการพกพาที่เป็นเอกลักษณ์ประจำซีรีย์ โดดเด่นด้วยเว็บแคมถอดเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน ส่วนตัวเครื่องมีน้ำหนัก 2.7 กิโลกรัม ถือว่าเบาสำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″
Acer Predator Triton 900
Acer ได้เผยโฉมเจ้า Predator Triton 900 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวใหม่ล่าสุดไปแล้วในงาน IFA 2018 แต่ตอนนั้นพวกเขายังไม่ได้เผยข้อมูลอะไรมากนักจนกระทั่งงาน CES 2019 ตอนนี้ทาง Acer ก็พร้อมแล้วที่จะปล่อยรายละเอียดเพิ่มเติมออกมาพร้อมกับราคาและกำหนดการวางจำหน่าย Acer Predator Triton 900 จะเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 17.3 นิ้ว IPS Panel ความละเอียด 4K มีขุมพลังที่ทรงประสิทธิภาพด้วย CPU Intel Core i7-8750H เจนเนอเรชั่นที่ 8 การ์ดจอจากค่าย Nvidia Geforce RTX 2080 RAM DDR 4 32 GB และ NVMe RAID 0 SSD
ด้วยพลังจากการ์ดจอตัวนี้ผสานกับเทคโนโลยี G-Sync และความละเอียดหน้าจอระดับ 4K ก็จะทำให้ภาพที่ได้สวยงามสมจริงพร้อมกันนี้ยังมีตัวรับสัญญาณ Xbox wireless แบบ Built-in ข้างในด้วยทำให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อเล่นเกมด้วยจอยของ Xbox ตามด้วยฟีเจอร์ระบบเสียง Waves Maxx ใน Waves Nx Mode จะให้เสียงแบบ 3 มิติเพิ่มประสบการณ์เล่นเกมให้เร้าใจขึ้น
ระบบระบายความร้อนจะใช้ AeroBlade 3D เจนเนอเรชั่นที่ 4 พักลมระบายอากาศที่จะควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนจนเกินไปขณะใช้งานหรือเล่นเกมเป็นระยะเวลานานและทาง Acer ยังได้เพิ่มความล้ำด้วยการควบคุมโน๊ตบุ๊คด้วยแอปพลิเคชั่น Predator Sense เมื่อดาวน์โหลดลงมือถือผู้ใช้สามารถตั้งค่าความเร็วพัดลม , Overclocking , Macro หรือแสงสว่างได้
นอกจากนี้มันยังมีโหมดหน้าจอให้เลือกถึง 4 โหมดได้แก่ Display Mode สำหรับแบ่งจอ , Ezel Mode สำหรับเล่นเกมแบบ Touchscreen , Notebook Mode สำหรับใช้งานแบบปกติ และ Stand Mode สำหรับใช้งานเป็นแท็บเล็ต สนนราคาประมาณ 127,000 บาท
Acer Predator Triton 500
งาน CES 2019 ทาง Acer ได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมรุ่นใหม่ในชื่อ Predator Triton 500 ซึ่งเป็นไลน์อัพของตระกูล Predator Triton โดยโมเดลใหม่นี้จะมาพร้อมกับการ์ดจอ RTX 2080 Max-Q เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสมดุลและพกพาสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ด้วยดีไซน์สวยงามเน้นความบางเบากว่าที่เคยมีมา วัสดุเป็นอะลูมิเนียมสวยงามทนทานตลอดทั้งตัวเครื่อง
Acer Predator Triton 500 จะมากับหน้าจอ 15.6 นิ้วมีขอบจอที่เล็กซึ่งวัดได้ 6.3 mm เชสซีใช้เหล็กแต่จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนขุมพลังของมันจะใช้ชิปของ Intel Core i7 เจนเนอเรชั่นที่ 8 พร้อมกับการ์ดจอของ Nvidia Geforce RTX 2080 Max-Q 16 GB RAM ความจุ SSD 512 GB โดยสามารถรองรับเข้ากันกับ VR ได้ด้วย
รายละเอียดหน้าจอของ Predator Triton 500 จะเป็น FHD (1,920 x 1,080) เทคโนโลยี IPS รองรับแสงสว่างที่ 300 cd/m² 100% sRGB นอกจากนี้ยังมี G-Sync และค่า Refresh Rate ที่ 144 Hz โดย Acer Predator Triton 500 จะเปิดราคาอยู่ที่ประมาณ 62,000 บาท วางจำหน่ายประมาณปลายเดือนมีนาคม 2019 ส่วนในไทยก็คงไม่นานเกินรอเช่นเดิมกัน
Lenovo Legion Y540 ,Y740
อีกหนึ่ง Gaming Notebook ที่น่าสนใจจากงาน CES 2019 สำหรับ Lenovo Legion Y540 โดยจะยกตัวเครื่องของ Legion Y530 มาทั้งหมดด้วยจุดเด่นจอขอบบาง กางได้ 180 องศา ช่องระบายความร้อน 4 ทิศทาง 2 พัดลม พอร์ตครบทั้งด้านล่างและด้านข้าง ซีพียู Core i5 ,i7 Gen 8 แต่จะมีการปรับสเปคในส่วนของจอ และการ์ดจอ RTX รองรับแรมบัสสูงสุด 3,200MHz (จากเดิมแค่ 2,666 MHz) จอ 15.6 นิ้ว Full HD เพิ่มรุ่น 144 Hz เข้ามา จากเดิมที่มีแค่จอแบบ 60 Hz ใช้การ์ดจอรุ่นใหม่ NVIDIA GeForce® RTX 2070 with Max-Q Design หรือ NVIDIA GeForce RTX 2060 จากเดิมมี GTX 1050 ,1050Ti และ GTX 1060
ส่วน Lenovo Legion Y740 ที่เป็น Gaming Notebook ตัวบนกว่ายังคงยกตัวเครื่องมาจาก Legion Y730 มาหมด โดยมีให้เลือก 2 ขนาดจอภาพทั้ง 15 และ 17 นิ้ว มาพร้อมจุดเด่นที่เน้นตัวเครื่องสไลต์อลูมิเนียม ไฟ RGB ที่โดดเด่นทั้งตัวคีย์บอร์ด ช่องระบายความร้อนทั้ง 4 ด้าน สามารถปรับได้ผ่านซอฟแวร์ Corsair iCUE ,ระบบเสียง Dolby Atmos ,ซีพียูรองรับสูงสุดถึง Core i7 ,Killer™ Wireless และที่สำคัญคือมีพอร์ต Thunderbrot 3 โดยมีการปรับสเปคหลายส่วนโดยนอกจากขนาดจอแล้วก็ยังมีในส่วนของการ์ดจอที่รองรับต่างกันเล็กน้อย รองรับแรมบัสสูงสุด 3,200MHz (จากเดิมแค่ 2,666 MHz) จอภาพเพิ่มออปชั่น Dolby Vision เข้ามา (เพิ่มจากเดิมที่เป็น 144Hz NVIDIA G-Sync)
การ์ดจอรุ่นท๊อป NVIDIA® GeForce® RTX™2080 with Max-Q Design รุ่นรองมีให้เลือกทั้ง NVIDIA® GeForce® RTX™2070 with Max-Q Design และ NVIDIA® GeForce® RTX™ 2060 ซึ่งแม้จะใช้ตัวเครื่องเดิม แต่ก็ปรับสเปคภายในให้ทันสมัยตามสมควรโดยเฉพาะการ์ดจอที่ปรับเป็น RTX 20xx Series แล้ว
โดยมีให้เลือกสุงสุดถึง RTX™2080 with Max-Q Design จากเดิมรุ่นเก่ามีให้เลือกเพียง GTX 1060 เท่านั้น แรมที่ปรับให้รองรับบัส 3,200 MHz ได้แต่แรมที่ติดตั้งมายังคงเป็น 2,666 MHz อยู่ เผื่ออัพเกรดในอนาคต จอภาพ Y540 เพิ่มออปชั่น 144 Hz เทียบชั้นแบรนด์อื่น ส่วน Y740 จะเพิ่มออปชั่น Dolby® Vision high-dynamic range ที่เทียบชั้นเทคโนโลยี HDR10 เพิ่มความสว่างและการแสดงสีสันที่คมชัดสดใสมากยิ่งขึ้น โดยราคาเริ่มต้นของทั้ง 3 รุ่นคือ
- Lenovo Legion Y540 ราคาเริ่มต้น $999 (ประมาณ 32,000 บาท)
- Lenovo Legion Y740 (15″) ราคาเริ่มต้น $1,299 (ประมาณ 42,000 บาท)
- Lenovo Legion Y740 (17″) ราคาเริ่มต้น $1,299 (ประมาณ 42,000 บาท)
ราคายังเป็นราคาตั้งจากทางต่างประเทศ เข้ามาบ้านเราอาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ได้อีกเล็กน้อย โดยกำหนดการวางจำหน่าย Y740 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2019 นี้ไม่เกินไตรมาสแรก ส่วน Y540 ต้องรอไปช่วงเมษายน 2019 เลย ใครชื่นชอบ Lenovo Legion ก็เก็บเงินรอกันได้เลย
HP Omen 15
ปิดท้ายด้วย HP Omen 15 ปี 2019 ซึ่งเป็นหนึ่งใน Gaming Notebook ตัวใหม่ในงาน CES 2019 โดยจะมาพร้อมกับการ์ดแสดงผลแบบ Nvidia GeForce Max-Q และมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย สำหรับการอัพเดทที่เพิ่มเข้าใน HP Omen 15 2019 นั่นจะเปลี่ยน Wirless เป็นแบบ 802.11ax หรือ WiFi 6 แบบไร้สาย ที่มีการถ่ายโอนได้มากกว่า 11 Gbps ซึ่งถือว่าเป็นจุดโดดเด่นในเรื่องของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือเครือข่ายที่มีความเร็วสูงขึ้น แน่นอนว่ามีผลต่อการเล่นเกมและถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่
และการปรับปรุงใหม่ของ HP ที่เพิ่มให้สามารถปรับ Refresh Rate ของหน้าจอแสดงผลได้สูงสุดที่ 240 Hz โดยมีการแสดงผลที่ 4 ms ในความละเอียด 1080p โดยจะทำให้การเล่นเกมนั้นลื่นไหลและดูสมูทขึ้น สำหรับตัวบอดี้นั้นยังคงเป็นแบบเดิมเหมือนกับรุ่น 2018 ที่ถือว่ายังดูสดใหม่ด้วยดีไซน์ขอบจอบางตามสมัยนิยม รวมไปถึงความดุดันที่ดูแตกต่างจากคู่แข่ง ส่วนสเปกอื่นๆ ก็คงหนีไม่พ้น และสำหรับ Omen 17 หรือ Omen X ทาง HP ยังไม่มีข้อมูลประกาศในส่วนนี้ คงต้องรอดูกันอีกที
คาดว่า HP Omen 15 รุ่นใหม่ปี 2019 จะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ในต่างประเทศ โดยจะมีอยู่สองรุ่นซึ่งราคาทั้งสอง จะอยู่ที่ประมาณ 44,000 บาท สำหรับในประเทศไทยคาดว่าต้องรอดูซักพักว่าจะเข้าเมื่อไร เพราะที่ผ่านมาทาง HP มักจะนำเสนอ Gaming Notebook รุ่นใหม่ๆ ช้ากว่าแบรนด์อื่นๆ ใครที่เป็นแฟน HP คงต้องลุ้นกันดูว่าจะกำเงินได้นานแค่ไหน ก่อนที่จะไปซื้อรุ่นอื่นๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการจัดอันดับ 10 Gaming Notebook รุ่นใหม่ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2080/2070/2060 จากแอดมินโป้ง NBS ที่ย้ำอีกทีหนึ่งว่าเป็นความคิดเห็นความสนใจส่วนตัว ไว้ยังไงมีโอกาสจะหามารีวิวให้ชมกันทุกตัวอย่างแน่นอน เพราะเอาจริงๆ ก็น่าสนใจกันทุกรุ่น ตั้งแต่ราคาหลักหมื่นยันหลักหลายแสนบาท ก็มีข้อดีข้อเด่นแตกต่างกันออกไป (หรือเพื่อนๆ ชอบตัวไหนก็มาแชร์มาบอกกันได้) แม้จะใช้สเปกฮาร์ดแวร์คล้ายกัน แต่ประสบการณ์ใช้งานจริงๆ นั้น ต่างกันแน่นอนที่สุด จะเลือกซื้ออะไรยังไงคงต้องมาดูข้อมูลการใช้งานจริงๆ เทสจังๆ กันอีกที