จะบอกว่าเป็นดวงซวยของทาง NVIDIA แต่ก็ไม่น่าจะว่าเช่นนั้นได้เต็มที่ 100% ครับ เพราะจริงๆ แล้วนั้นผู้ที่ซวยจริงๆ นั้นกลับกลายมาเป็นร้านค้าปลีกที่ในปี 2017 – 2018 ที่ผ่านมานั้นเลือกที่จะสต๊อกกราฟิกการ์ดของทาง NVIDIA ไว้เป็นจำนวนมากเนื่องจากคำโฆษณาที่ผิดพลาดของทาง NVIDIA ที่ได้บอกเอาไว้ว่ากราฟิกการ์ดของทาง NVIDIA นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำไปใช้ในการขุดเหมืองดิจิทัลทำให้ทาง NVIDIA รับประกันว่าผู้ค้าปลีกจะสามารถขายกราฟิกการ์ดจากทาง NVIDIA ได้มากมายอย่างแน่นอน ทว่าอย่างที่เราได้เห็นกันในช่วงที่ผ่านมาว่ามันไม่ได้เป็นเช่นที่ NVIDIA คาดไว้ครับ
และถึงแม้ว่าในช่วงที่ความต้องการกราฟิกการ์ดในตลาดนักขุดเหมืองจะลดลงแล้วนั้น ทว่าทาง NVIDIA ก็ยังคงแนะนำผู้ค้าปลีกแบบผิดๆ อีกด้วยการบอกผู้ค้าปลีกว่าในตลาดสำหรับการเล่นเกมนั้นผู้บริโภคก็ยังคงให้ความสนใจที่จะซื้อกราฟิกการ์ดของทาง NVIDIA มากกว่า ซึ่งนั่นเลยทำให้เกิดการสต๊อกกราฟิกการ์ดเอาไว้ในร้านค้าปลีกเป็นอย่างมาก ทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นมันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแถมด้วยในช่วงปลายปีทาง NVIDIA ได้ทำการเปิดตัวชิปกราฟิกซีรีย์ RTX 2000 ออกมาอีกแน่นอนครับว่าผู้ค้าปลีกนั้นย่อมโดนผลกระทบไปตรงๆ
ยังไม่หมดแค่เพียงเท่านั้นนะครับ ด้วยความที่การขุดเหมืองดิจิทัลนั้นได้เปลี่ยนรูปแบบโดยไม่ได้ต้องการกราฟิกการ์ดในการขุดเหมืองอีกต่อไปทำให้นักขุดเหมืองจึงได้ทำการออกมาจำหน่ายกราฟิกการ์ดมือ 2 ออกมาเป็นว่าเล่นแถมราคาที่วางจำหน่ายนั้นก็เรียกได้ว่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่งทำให้ยอดขายกราฟิกการ์ดก็ตกเอาๆ เรื่อยๆ จนกลายเป็นที่มาของการฟ้องร้อง NVIDIA ในหลายๆ พื้นที่ด้วยข้อหาที่คล้ายๆ กันว่าทาง NVIDIA ให้ข้อมูลในตลาดผิดพลาดทำให้ผู้ค้าปลีกทั้งหลายนั้นเกิดความเสียหายครับ
ในสหรัฐอเมริกานั้นผู้ฟ้องนาม Schall ได้มีการออกมาชักชวนผู้ค้าปลีกที่ใช้เงินลงทุนมากกว่า $100,000 หรือประมาณ 3,300,000 บาทขึ้นไปออกมารวมพลังกันเพื่อที่จะฟ้องร้อง NVIDIA ในข้อหาที่ทาง NVIDIA มองตลาดผิดจนทำให้เกิดความสูญเสียเป็นอย่างมากกับผู้ค้าปลีก แถมนอกไปจากนั้นแล้วคำแก้ตัวของทาง NVIDIA ที่ได้บอกเอาไว้ว่ายังมีผู้ใช้ในด้านการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกการ์ดของทาง NVIDIA มาทำการเล่นเกมก็ยังคงมีอีกมากแต่ทว่าทาง NVIDIA ก็เปิดตัว RTX 2000 ซีรีย์ออกมาทับถมกันอีก งานนี้ทาง NVIDIA จะออกมาแก้ไขอย่างไรคงต้องคอยดูกันต่อไปล่ะครับ
ที่มา : tweaktown