หูฟังในกลุ่มของ SteelSeries Arctis นับเป็นหนึ่งในกลุ่มหูฟังเกมมิ่งที่ทำออกมาได้อย่างลงตัวทั้งในแง่ของรูปร่างหน้าตา ฟังก์ชัน และประสิทธิภาพ ซึ่งในคราวนี้เราก็มีอีกหนึ่งรุ่นย่อยมารีวิวให้ชมกันครับ แถมคราวนี้มาเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันอีกด้วย นั่นก็คือ SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition ที่ออกแบบมาเอาใจคอเกม battle royale ชื่อดังกันแบบเต็มตัวไปเลย
SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition เป็นหูฟังเกมมิ่งที่อยู่ในระดับกลางซึ่งมีความลงตัวทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ และราคาค่าตัว ด้วยจุดเด่นในเรื่องของระบบเสียง และไฟ RGB ที่มีมาในตัว โดยข้อมูลสเปคที่น่าสนใจก็ประมาณนี้เลย
- เป็นหูฟังแบบครอบหู on-ear ที่ใช้ไดรเวอร์แบบ Neodymium ขนาด 40 มม.
- ความไวเสียงอยู่ในช่วง 20 – 22000 Hz กำลังขับ 32 โอห์ม
- ไมโครโฟนในตัวเป็นแบบ bi-directional ความไวเสียง 100 – 10000 Hz
- ไมโครโฟนมีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกได้
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ USB และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- สายยาว 3 เมตร สามารถถอดสายได้
- มีไฟ RGB รองรับการใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน PRISM Lighting ของ SteelSeries เองได้
- รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง DTS Headphone:X 7.1 ทิศทาง
- มีตัวปรับระดับเสียง ChatMix สำหรับปรับความดังระหว่างเสียงในเกม และเสียงแชท
- ราคา 4,690 บาท
อุปกรณ์ที่มีมาในชุดทั้งหมดก็ได้แก่
- หูฟัง SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition
- สาย USB ที่มาพร้อมตัวหมุน ChatMix สำหรับปรับระดับเสียงแชทกับเสียงในเกม
- สายเชื่อมต่อ (สาย main cable) จากช่องของ Arctis 5 ไปหาตัวหมุน ChatMix หรือสายแปลง 3.5 มม.
- สายแปลงไปเป็นแจ็ค 3.5 มม. สำหรับใช้งานกับมือถือ หรืออุปกรณ์อื่น
- เอกสาร คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
จุดที่โดดเด่นที่สุดของ SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition ก็คือตรงบริเวณที่ครอบหูทั้งสองฝั่งมีการสกรีนโลโก้แสดงสถานะ Chicken Dinner ซึ่งจะมอบให้กับผู้ชนะเกมในแต่ละแมตช์เท่านั้น อาจจะพอสื่อได้ว่า เมื่อคุณใช้หูฟังแล้ว อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กลายเป็นผู้ชนะได้ด้วยนั่นเอง
สำหรับไฟ RGB ของหูฟัง SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition จะมีอยู่แค่เฉพาะบริเวณขอบที่ครอบหูแต่ละฝั่งเท่านั้น ซึ่งส่วนตัวผมมองว่ากำลังดีเลยครับ ดูไม่มาก ไม่น้อยเกินไป โดยสีตั้งต้นก็จะมาเป็นสีส้มตามสไตล์ของ SteelSeries เลย นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งสีสัน รูปแบบของไฟได้จากโปรแกรม SteelSeries Engine 3 ได้อีกด้วย
สำหรับหูฟังฝั่งซ้ายจะมีไมโครโฟนและพอร์ตเชื่อมต่ออื่น ๆ อยู่ด้วยครับ โดยตัวก้านไมโครโฟนจะซ่อนอยู่ข้างใน ถ้าต้องการใช้ก็เพียงแค่ดึงก้านออกมา
ตัวก้านไมค์สามารถดัดตำแหน่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้ ตัดปัญหาทั้งในเรื่องของก้านไมค์หาย (สำหรับหูฟังที่ถอดไมค์ได้) และปัญหาตำแหน่งไมค์ไม่เข้าปากได้เป็นอย่างดี
และถ้าหากสังเกตตรงข้อต่อระหว่างส่วนที่ครอบหู กับก้านหนีบศีรษะ จะเห็นว่าส่วนข้อต่อนั้นไม่สามารถยืดเพื่อปรับระดับตามลักษณะศีรษะของผู้ใช้ได้ ที่ทำได้ก็เพียงแค่บิดมุมของที่ครอบหูให้สามารถเก็บหูฟังได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition เองก็ไม่ได้ลืมเรื่องของการปรับระดับนะครับ เพียงแค่มันไปอยู่ในส่วนอื่นของหูฟังแทน
กลับมาที่ตัวที่ครอบหูฝั่งซ้ายกันต่อ นอกเหนือจากก้านไมค์แล้ว ใกล้ ๆ กันยังมีพอร์ตเชื่อมต่อและตัวควบคุมต่าง ๆ อีก ไล่จากซ้ายสุดก็คือช่องเสียบแจ็คขนาด 3.5 มม. ที่ใช้ชื่อว่า Share Jack สำหรับแชร์เสียงที่ได้ยิน ออกไปยังหูฟังหรือลำโพงชิ้นอื่น ซึ่งจะมีประโยชน์ก็อย่างเช่น ขณะที่ผมกำลังเล่นเกมโดยใส่หูฟัง SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition ตัวนี้อยู่ แต่ก็อยากให้เพื่อนคนอื่นในห้องได้ยินเสียงในเกมไปพร้อมกันด้วย ผมก็แค่เอาสาย 3.5 มม. จากลำโพงมาเสียบเข้ากับหูฟัง เพื่อให้เพื่อนได้ยินเสียงเหมือนกับที่ผมได้ยินนั่นเอง
ถัดมาก็คือช่องสำหรับเสียบสายเพื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ มือถือ หรืออุปกรณ์อื่น ส่วนตัวหมุนข้าง ๆ กันนั้นก็คือตัวปรับระดับความดังเสียงโดยรวม ปิดท้ายทางขวาสุดคือปุ่มปิดเสียงไมค์ครับ ซึ่งจัดว่าทำมาได้ดีเลย ช่วยอำนวยความสะดวกในเวลาที่ผู้เล่นต้องการปิดเสียงไมค์ตัวเองแบบเร็ว ๆ ได้ดี
วัสดุของโดยรวมของ SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition ก็เป็นพลาสติกสีดำที่มีน้ำหนักเบา แต่สำหรับก้านหูฟังส่วนที่ติดกับศีรษะจะมีแถบยางยืดที่มีชื่อเกม PUBG อยู่ โดยแถบนี้จะเป็นตัวที่ทำให้หูฟังฟิตพอดีกับศีรษะผู้ใช้ ปล่อยให้ก้านพลาสติกด้านบนอยู่ลอย ๆ ซึ่งมันช่วยลดอาการบีบศีรษะจากการโดนก้านหนีบกดทับได้ดี เท่าที่ผมลองใช้งานมา รู้สึกว่าหูฟังตัวนี้ใส่สบายกว่าหูฟังที่เป็นก้านพลาสติกโดด ๆ พอสมควรเลย
ด้านของฟองน้ำหูฟังเองก็ทำมาได้นุ่มดีทีเดียว สำหรับผู้ที่มีรูปร่างของใบหูแบบปกติทั่วไป ฟองน้ำน่าจะสามารถครอบหูได้พอดีครับ ซึ่งถ้าฟองน้ำครอบหูได้ทั้งหมด ก็จะลดอาการฟองน้ำบีบใบหูได้ รวมถึงยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อีกต่างหาก
การเชื่อมต่อเพื่อใช้งาน SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition สามารถทำได้ 2 วิธี ตามภาพด้านบนที่มาจากคู่มือของตัวหูฟังเลยครับ นั่นคือ
- หูฟัง > สาย main cable > ตัวหมุน ChatMix > คอมพิวเตอร์ / อุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านทางช่อง USB
- หูฟัง > สาย main cable > สายแปลงเป็น 3.5 มม. > มือถือ, จอยเกมที่มีช่อง 3.5 มม. หรืออุปกรณ์อื่น ๆ
ซึ่งถ้าหากต้องการใช้งานหูฟัง SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition กับคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเกมแบบเต็มฟังก์ชัน ก็ต้องเลือกใช้การต่อแบบที่ 1 ครับ เนื่องจากการควบคุม การส่งข้อมูลพิเศษต่าง ๆ จะต้องทำผ่านพอร์ต USB เท่านั้น ส่วนถ้าหากต้องการเอาไปใช้ฟังเพลงกับมือถือ ก็ค่อยเลือกต่อแบบที่ 2 แทน ซึ่งจะได้แค่ฟังเพลงกับรับเสียงทางไมค์เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ ได้
โดยเจ้าตัวหมุน ChatMix นั้น หน้าที่หลักเลยก็คือใช้ปรับระดับเสียงระหว่างเสียงในเกม กับเสียงแชท/เสียงจากไมค์ได้ ว่าจะเน้นให้เสียงใดดังกว่ากัน หรือจะปรับให้ทั้งสองเสียงดังเท่า ๆ กันก็ได้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมิกซ์เสียงเพื่อการสตรีมเกมได้ง่ายขึ้น
ทีนี้มาดูส่วนของซอฟต์แวร์ SteelSeries Engine 3 กันบ้างครับ โดยเมื่อเสียบสายเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทางช่อง USB แล้ว Arctis 5 ก็จะปรากฏขึ้นมาในหน้ารวมรายการอุปกรณ์ทันที
เมื่อเข้ามาดูภายในก็จะพบตัวปรับแต่งทั้งหมด ไล่ตั้งแต่สีไฟ RGB ที่สามารถปรับสีแยกข้างซ้าย/ขวาได้เลย ส่วนพาเนลทางฝั่งขวาก็จะเป็นด้านของระบบเสียงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น equalizer ปรับ dynamic range ของเสียง ปรับระดับเสียง ระดับของการลบเสียงรบกวนของไมค์โครโฟน เป็นต้น นอกจากนี้หากใช้งานใน Windows ก็จะมีส่วนของระบบเสียงรอบทิศทาง DTS Headphone:X มาให้ปรับแต่งด้วย
สำหรับเสียงที่ได้จากหูฟัง SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition แบบที่ไม่ได้ปรับค่าใด ๆ เพิ่มเติมเลย ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันทำออกมาได้ดีสำหรับการฟังเสียงภายในเกมครับ ซาวด์สเตจอยู่ในระดับที่ดี การจำลองเสียงรอบทิศทางก็ช่วยให้สามารถจับทิศทางในเกมได้ง่ายขึ้น สมเป็นหูฟังเกมมิ่ง โทนเสียงโดยรวมจะเน้นที่โทนเสียงกลาง มีเบสมาพอประมาณ แต่แรงอิมแพคของเสียงอาจจะน้อยไปนิดนึง ดังนั้นหากใช้ฟังเพลง ก็อาจจะไม่เต็มอรรถรสเท่าหูฟังที่ออกแบบมาเน้นด้านการฟังเพลงโดยเฉพาะครับ
SteelSeries Arctis 5 PUBG Edition นับเป็นหูฟังเกมมิ่งอีกหนึ่งรุ่นที่ลงตัวสำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟังเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ด้วยฟังก์ชันในตัวที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อที่รองรับทั้ง USB และ 3.5 มม. ระบบเสียงรอบทิศทาง DTS Headphone:X เสริมด้วยตัวช่วยปรับระดับเสียง ChatMix ที่ช่วยให้การมิกซ์เสียงทำได้ง่ายขึ้น ประกอบกับดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยการสกรีนโลโก้จากเกม PUBG และไฟ RGB ในตัว ที่ช่วยให้หูฟังรุ่นนี้น่าจะโดนใจเกมเมอร์กันบ้างไม่น้อยอย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกม PUBG หรือไม่ก็ตาม
ข้อดี
- ดีไซน์โดดเด่น น่าจะถูกใจสาวกเกม PUBG พร้อมไฟ RGB ที่ปรับสีสันได้
- มาพร้อมตัวหมุนสำหรับฟังก์ชัน ChatMix ที่ช่วยให้การปรับระดับ และการมิกซ์เสียงทำได้ง่ายขึ้น
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ USB และช่อง 3.5 มม.
- รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง DTS Headphone:X 7.1 ทิศทาง
- มีช่อง Share Jack สำหรับส่งเสียงออกไปยังอุปกรณ์อื่นได้
ข้อสังเกต
- ฟังก์ชันโดยรวมเหมือนกับ SteelSeries Arctis 5 รุ่นปกติ