สำหรับเพื่อนสมาชิกที่ยังไม่รู้จักกับโปรแกรมชุด iLife นะครับ iLife เป็นชื่อของโปรแกรมชุด สำหรับใช้ทำงานทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน
ก่อน อื่นคงต้องแนะนำกันสักนิด สำหรับเพื่อนสมาชิกที่ยังไม่รู้จักกับโปรแกรมชุด iLife นะครับ iLife เป็นชื่อของโปรแกรมชุด สำหรับใช้ทำงานทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน จัดการรูปภาพ ภาพถ่าย , เพลง , เว็บ และวีดีโอ โดยโปรแกรมจะมีรูปแบบการใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ต้องใช้ทักษะในการใช้งานคอมพิวเตอร์ขั้นสูง แต่สามารถสร้างชิ้นงานที่ดูดีมีชาติตระกูลได้ง่ายๆ ไม่รู้จะเชื่อมั๊ยนะครับ แต่มันง่ายจริงๆ หลานผมเรียนชั้นประถมอยู่ยังใช้เป็นเลย
สำหรับโปรแกรมชุด iLife นั้นออกมานาน มีหลายรุ่นแล้ว รุ่นแรกสุดเปิดตัวเมื่อปี 2003 จากนั้นก็มี iLife ?04 , ?05 เรื่อยมาจนกระทั่ง ?09 โดยเลขหลัง iLife นั้นจะเปลี่ยนไปตามปีที่ออก บางปีไม่มีออกรุ่นใหม่ ก็จะข้ามไปเลย และ iLife ?09 ก็คือรุ่นล่าสุดของโปรแกรมชุดนี้ ซึ่งพึ่งเปิดตัวไปในงาน Macworld เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง
สำหรับโปรแกรมในชุด iLife?09 นั้นจะประกอบไปด้วย iPhoto , iMovie , GarageBand และ iWeb ส่วน iDVD นั้นไม่มีการอัพเดตอะไรใหม่ในรุ่นนี้ โดยมีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง เช่น iPhoto ได้รับการปรับปรุงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การจดจำใบหน้า (Faces) , iMovie มีระบบแก้ไขภาพสั่นไหว (Images stabilization) และ GarageBand มีบทเรียนดนตรีเพิ่มเข้ามา โดยผมจะแนะนำไล่ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ iPhoto , iMovie , GarageBand และ iWeb แล้วกันนะครับ
iPhoto
iPhoto มีฟีเจอร์ใหม่เด่นๆ อย่าง Faces และ Places และปรับปรุงเพิ่มในส่วนของการแก้ไข ตกแต่งภาพ
Faces
เป็นฟีเจอร์ที่หลังจากลองใช้งานแล้ว ประทับใจจ๊อดเป็นอย่างยิ่ง แนวคิดที่ให้เราจัดการกับภาพถ่ายจำนวนมาก โดยแบ่งตามคนที่อยู่ในภาพ เป็นสิ่งที่ผมพยายามทำมานานแล้ว โดยใช้การเพิ่ม tag เข้าไปใน Metadata ของภาพเอง แต่ทำไปทำมาได้ไม่นาน ก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจนเลิกทำไปในที่สุด ปีก่อนตอน iLife ?08 เพิ่มการจัดการรูปแบบ Event เข้ามาก็ช่วย การจัดการรูปภาพที่ถ่ายมาได้ง่ายขึ้นมากแล้ว พอมี Faces เพิ่มเข้ามานี่ยิ่งถูกใจใหญ่เลย มันเป็นอะไรที่ถูกต้องมาก การหาภาพบ่อยครั้งมากที่เราจะเริ่มโดยความคิดที่ว่าเราจะหารูปใคร
พอเริ่มใช้งาน iPhoto ครั้งแรก ในกรณีที่คุณใช้ iPhoto รุ่นก่อนอยู่แล้วมันจะไปดึงข้อมูลในฐานข้อมูลของ iPhoto ?08 เดิมมาอัพเดต ทำการสแกนหาหน้าบุคคล ขั้นตอนนี้กินเวลาอยู่สักหน่อย จากนั้นมันจะให้เราระบุว่าหน้าบุคคลดังกล่าวที่พบนั้นเป็นใคร หลังจากแจ้งข้อมูลกับมันไปในเบื้องต้นแล้ว มันก็จะทำการไปตรวจสอบหาหน้าที่เรียนรู้เพิ่มเติมจากเราเข้าไปใหม่ มีหน้าอื่นๆ มาให้เรายืนยันความถูกต้องอีกครั้ง
เท่าที่ลองใช้งานดู ถ้าเป็นภาพที่ถ่ายแบบเคลียร์ๆ ระบบจดจำหน้าทำงานถูกต้องแทบจะเรียกได้ว่า 100% เลยทีเดียว ส่วนภาพที่ถ่ายจากวิวทิวทัศน์ทั่วๆไป ความถูกต้องก็ค่อนข้างแม่นยำ แต่ถ้าใส่แว่น ใส่หมวก ทำหน้าประหลาดๆ ก็จะเปรียบเทียบได้ไม่ตรง อีกกรณีก็คือกรณีโครงหน้าคล้ายๆกัน มันจะคิดว่าเป็นคนเดียวกัน แต่ยังไงก็ตามขั้นตอนสุดท้ายก็จะมีให้เรายืนยันก่อนว่าใช่คนนั้นคนนี้หรือ เปล่า
แม้ว่าจะยังไม่ฉลาดทำงานได้ถูกต้อง 100% แต่ข้อดีอย่างนึงที่ชอบก็คือเรื่องของ User Interface ในการทำงาน ไม่ยากเลยที่จะเรียนรู้การใช้งาน และหลังจากใช้งานเป็น แล้วก็สะดวกในการใช้งานไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด ดีกว่าที่ต้องมานั่งกรอก tag ใส่ใน Metadata เองก่อนหน้านี้เยอะมากกกกก
Places
เป็นอีกฟีเจอร์เด่นอีกอันนึง ทำให้เราสามารถจัดการกับข้อมูลภาพถ่ายในฐานข้อมูล โดยใช้สถานที่ ๆ ภาพนั้นๆถ่ายมาแยกให้เราค้นหาภายหลังได้โดยง่าย เสียดายว่าผมไม่มีภาพที่ถ่ายด้วยกล้องที่มีระบบพิกัด GPS ภายในเครื่อง เลยไม่ได้ลองฟีเจอร์นี้แบบอัตโนมัติ (เขาว่า iPhone 3G รองรับ) แต่ก็ได้ลองใช้งานแบบ Manual แล้วก็พบว่าใช้งานได้ง่ายดี ข้อเสียอย่างเดียวก็คือว่าข้อมูลแผนที่ของ Google ยังไม่ค่อยรู้จักสถานที่ต่างๆในประเทศไทยถูกต้องนัก อย่างหมู่เกาะสุรินทร์นี่ค้นหาโดยตรงไม่ได้ ต้องเล็งแล้วปักหมุดเอาเอง ฐานข้อมูลแผนที่ไม่ได้อยู่ในเครื่องเราทั้งหมดนะครับ เป็นการไปเรียกใช้บริการของ Google ดังนั้นถ้าไม่ได้ต่อ Internet เข้าใจว่าคงใช้ไม่ได้
สำหรับการใช้งานส่วนนี้จะว่าง่ายก็ยังไม่ใช้นัก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ายากเย็นอะไรนัก เพียงแต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ถนัดการใช้แผนที่การจะไปปักหมุดสถานที่ค่อนข้างจะ ยากพอสมควร
ข้อดีจากที่ลองใช้อย่างนึงคือ ข้อมูลพิกัดที่เราใส่ไว้ รวมไปถึงข้อมูล Faces ที่เรากำหนดไว้ในข้อแรก สามารถนำไปใช้กับ Smart Album ได้ด้วย สำหรับ Smart Album นั้นก็คือการสร้าง Album แบบที่ใช้การกำหนดเงื่อนไขต่างๆเอา ยกตัวอย่างนะครับ เช่นเรากำหนดว่าเป็น Album ที่มีภาพที่ไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในปี 2550 (เราอาจจะไปมาหลายครั้ง) แล้วมีแต่ภาพเรากับแฟนเท่านั้น ถ้าเป็นการสร้าง Album แบบปกติที่ต้องเลือกภาพ แล้วก็ลากเอาภาพแต่ละอันมาลงไว้เอง ถ้าภาพมีเยอะๆเหนื่อยแน่นอน แต่ถ้าใช้การกำหนดเงื่อนไข Smart Album แล้วละก็ เพียงข้อมูลใส่ไว้ครบ จะมีเป็นพันภาพก็เสร็จได้ภายในไม่กี่คลิก
ฟีเจอร์ Places สามารถนำไปใช้กับการสร้างหนังสือภาพ ที่เราจะสั่งพิมพ์ออกมาได้ด้วย โดยสามารถแทรกภาพแผนที่เข้าไปใช้งานประกอบกับหนังสือภาพได้ ก็สะดวกและสวยงามดีเหมือนกัน ข้อเสียที่พบก็คือรูปแบบของแผ่นที่มันมีเพียงแค่แบบเดียว บางทีมันไม่ค่อยเข้ากับธีมหนังสือที่เลือกเท่าไหร่
Social Networking
สำหรับคุณสมบัติการเชื่อมโยงข้อมูล Faces และ Places กับเว็บ Social Network อย่าง FaceBook และ Flickr นั้นเท่าที่ลองใช้งาน สามารถทำได้ตามที่โปรแกรมโฆษณาไว้ แต่ข้อเสียอย่างเดียวก็คือไม่ค่อยมีเพื่อนที่เล่นทั้งสองเว็บนี้ :-( บ้านเราถ้าจะให้ดีคงต้องให้เชื่อมกับ Hi5 ได้เห็นจะเหมาะ ข้อเสียอีกอย่างก็คือเมื่อ Sync ข้อมูลแล้ว มันจะไม่มีการแยกว่าเป็นข้อมูลจากเครื่องเราหรือจากเน็ต ถ้ามีใครมาใส่ข้อมูลที่เราไม่ต้องการไว้ นั่นแหละจะเป็นปัญหา ตรงนี้ต้องใช้การกำหนดพวกความเป็นส่วนตัวในบริการของ FaceBook และ Flickr ไว้เอง
Retouching
เป็นส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามา ไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ แต่ก็ใช้งานได้พอสมควร การ Retouch ภาพสามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมาย เพียงแค่เลือกขนาดของแปรงให้พอดีกับจุดที่ต้องการจะ Retouch แล้วก็คลิก จากนั้นมันจะคำนวณให้เอง เท่าที่ลองลบสิว ลบตีนกาออกจากหน้า ก็พบใช้การได้ดีในระดับนึง การใช้งานสามารถใช้ได้ง่ายมาก อย่างในรูปนี้ผมลบรอยที่มุมปากด้านขวามือของน้องเขาออกไปสองจุด ไม่ได้เปิด Photoshop นะครับ ทำได้ใน iPhoto เลย โดยการคลิกแค่สองสามจิ๊กแค่นั้นเอง อันที่จริงมีรูปอื่นลองลบตีนกาชาวบ้านออกด้วย Work ดีแต่ไม่กล้าเอามาขึ้นเว็บ 555
iMovie
เมื่อปีก่อนโปรแกรม iMovie ?08 เป็นโปรแกรมที่มีการกล่าวขวัญถึงกันอย่างมาก ส่วนใหญ่จะออกไปในแง่ลบเสียมากกว่า เหตุเนื่องมาจากการที่ Apple หักดิบรื้อโปรแกรมเขียนใหม่หมดแบบยกเครื่อง จากโปรแกรม iMovie HD ที่มีการทำงานค่อนข้างเป็น Time Line Edit แบบโปรแกรมตัดต่อวีดีโอทั่วๆไปมีกัน มาเป็นแบบใหม่ที่เป็นลักษณะของ Clip Edit ทำให้หลายคนที่คุ้นเคยกับการใช้โปรแกรมตัดต่อแบบเก่า ต้องปรับสมองพลิกหัวกันไปเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังตัดเอาการทำเทคนิคพิเศษออกไปอีกด้วย หลายคนร้องยี้จน Apple ต้องปรับเกมส์ปล่อย iMovie ?06 HD มาให้โหลดไปใช้กันแทน ในปีนี้ iMovie ?08 กลับมาใหม่ในภาค iMovie ?09 การทำงานโดยรวมยังใช้แนวคิดแบบเดิม แต่ได้รับการปรับปรุงขึ้นมาในหลายจุดมากเลยทีเดียว จะเรียกว่าเป็น iMovie ?08 ที่ทำเสร็จแล้วก็คงไม่น่าจะผิดนัก
อันที่จริง iMovie ?08 สำหรับผู้ใช้แบบใช้งานง่ายๆทั่วๆไป ถือว่าใช้งานได้ง่ายอยู่นะครับ แต่พอความต้องการเริ่มจะเพิ่มขึ้นแล้ว ข้อจำกัดมันเยอะ ทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานเท่าไหร่ สำหรับ iMovie ?09 นั้นคุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มมามีหลายอย่าง ว่าแล้วก็ขอยกฟีเจอร์เด่นๆมากล่าวถึงแล้วกันนะครับ
แก้ไขภาพสั่นไหว (Image Stabilization)
กล้อง consumer ทั่วไปเดี๋ยวนี้นอกจากจะราคาถูกแล้วยังมีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กกระทัดรัด แต่ด้วยน้ำหนักเบา และเล็กกระทัดรัดดังกล่าวนี่แหละครับ ที่ต้องแลกด้วยความนิ่งของภาพ เราขยับมือนิดหน่อยภาพก็ไหวแล้ว เรื่องเดินถ่ายไม่ต้องพูดถึงครับ ยิ่งกว่าดูหนังแบบ Blair Witch Project หรือ Clover Filed อีกครับ ฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ไขภาพลักษณะดังกล่าวได้ จากการลองใช้งานแล้วถือว่าใช้การได้ค่อนข้างดีมาก เสียอย่างเดียวนานไปหน่อย ถ้าทำกับช่วงคลิปสั้นๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าช่วงยาวหลายนาที ก็เรนเดอร์กันนานเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี มันก็ไม่ได้วิเศษถึงขนาดว่า คุณวิ่งถ่ายแล้วมันแก้ให้นิ่งได้นะครับ มันจะแก้ได้ในกรณีที่เรากะว่าเราถ่ายให้นิ่งแล้ว แต่มันไม่นิ่ง แต่ไอ้ที่ถ่ายส่ายไปส่ายมา อันนั้นต้องไล่ไปถ่ายใหม่ละครับ
Precision Editor
อย่างที่บอกไปแล้วว่า iMovie ?09 ใช้มุมมองและแนวคิดการตัดต่อวีดีโอ แบบ Clip Edit ไม่ได้เป็น Time Line Edit ไม่ได้เป็น A/B Edit แม้ว่า Clip Edit จะง่ายในภาพรวมของการทำงาน แต่พอลงรายละเอียดช่วงรอยต่อระหว่างแต่ละ Clip จะทำได้ยาก Precision Editor ได้เข้ามาแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ดีเลยทีเดียว ทำให้เราสามารถตัดและต่อช่วงรอยต่อระหว่าง Clip ได้อย่างต้องการระดับเฟรมเลยทีเดียว การใส่ Transition ก็ทำได้ง่ายขึ้น จริงๆจะว่าไปมุมมองผม Precision Editor ก็คือ Time Line แบบ A/B นี่แหละ แต่ว่ามันจะโผล่ขึ้นมาเฉพาะตอนเราเรียกทำงานตรงช่วงรอยต่อของ Clip อย่างไรก็ตามถ้าเป็นคนที่ถนัดหน้าตาโปรแกรมตัดแบบเก่าอยู่ ก็ยังคงรู้สึกแปลกอยู่ดี ต้องปรับแนวคิดในการทำงานซักนิด แล้วลองใช้มันทำงานจริงๆจังๆ ซัก 3-4 งานจะคล่องและคุ้นเคยขึ้น
Audio , Video Effect
ข้อดีของ iMovie ?09 ก็คือการกลับมาของ Video Effect มีให้เลือกถึง 16 แบบ สามารถทำ Normalize และ Ducking เสียงได้ ปรับ Speed ภาพ ทำภาพเร็ว ภาพช้าได้ แต่ก็ยังมี Effect ที่น้อยกว่า iMovie HD อยู่ดี