ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นรูปแบบดีไซน์ใหม่ของทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไปเรียบร้อยแล้วล่ะครับกับดีไซน์ที่ไร้ขอบและการตัดช่องเสียงหูฟังขนาด 3.5 mm ทิ้ง โดยล่าสุดนั้นเว็บไซต์จากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Macotakara ก็ได้มีการโพสข้อมูลของ iPad Pro รุ่นใหม่เอาไว้ครับว่าในครั้งนี้นั้น iPad Pro จะมาพร้อมกับดีไซน์หน้าจอแบบไร้ขอบเนื่องจะจะใช้ระบบปลดล๊อคหน้าจอแบบ Face ID เหมือนกับ iPhone X เข้ามาแทน แถมด้วยตัวเครื่องนั้นจะบางลงมากกว่าเดิมเพราะจะมีการตัดช่องเสียบขนาด 3.5 mm ทิ้งไปด้วยครับ
สำหรับ iPad Pro รุ่นใหม่ในครั้งนี้นั้นจะมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 10.5 นิ้ว และ 12 .9 นิ้วครับ โดยหากเปรียบเทียบขนาดของตัวเครื่อง iPad Pro ขนาดหน้าจอ 10.5 นิ้ว และ 12.9 นิ้วรุ่นใหม่และรุ่นเก่าด้วยกันแล้วนั้นจะพบว่าต่างกันพอสมควรโดยขนาดตัวเครื่องของรุ่นหน้าจอ 10.5 นิ้วในรุ่นเก่านั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 250.6 x 174.1 x 6.1 mm ส่วนรุ่นใหม่จะเหลือขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 247.5 x 178.7 x 6 mm ส่วนในรุ่นขนาดหน้าจอ 12.9 นิ้วนั้น รุ่นเก่าจะมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 305.7 x 220.6 x 6.9 mm ส่วนรุ่นใหม่จะมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 280 x 215 x 6.4 mm ครับ(ขนาดตัวเครื่องวัดโดยใช้ ความสูง x ความกว้าง x ความหนา)
และอย่างที่บอกไปในตอนต้นครับว่าด้วยดีไซน์ตัวเครื่องแบบไร้ขอบนี้นั้นทำให้ทาง Apple ต้องตัดระบบปลดล๊อค Touch ID ทิ้งไป โดยจะนำระบบปลดล๊อคใหม่อย่าง Face ID ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ใช้ยากอย่างที่คิดมาใช้งานแทน(แต่บน iPad Pro นั้นจะมีการใช้งานต่างไปจาก iPhone X หรือไม่คงต้องคอยดูกันต่อไป) สิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดก็คือในส่วนของการตัดช่องหูฟัง 3.5 mm ทิ้งไปนั้นทำให้ผู้ใช้จะต้องใช้ Lightning-to-3.5 mm adapter ในการเชื่อมหูฟังแทนซึ่งยังคงไม่มีข้อมูลครับว่าทาง Apple นั้นจะเพิ่มลงในชุดจำหน่ายด้วยเลยไหมหรือว่าต้องซื้อแยกเอาเองต่างหากครับ
หมายเหตุ – สิ่งหนึ่งที่ทาง Macotakara ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้อย่างน่าสนใจนั่นก็คือระบบปลดล๊อค Face ID นั้นจะต้องใช้งานตัวกล้องในรูปแบบการตั้งหน้าจอเท่านั้นซึ่งใน iPhone X ที่เป็นสมาร์ทโฟนก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรแต่กับ iPad Pro ที่มาพร้อมกับขนาดใหญ่กว่านั้นอาจจะสร้างความน่าเบื่อมที่ตั้งหมุนหน้าจอไปมาได้ และยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ทาง Macotakara ได้เผยเอาไว้ซึ่งนั่นก็คือ Smart Connector ของ iPad Pro นั้นจะถูกเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่ตำแหน่งใหม่ทางด้านหลังตรงส่วนด้านล่างของตัวเครื่องใกล้ๆ กับ Lightning connector แทนซึ่งในการใช้งานจริงก็ต้องดูกันต่อไปครับว่าจะใช้งานได้ดีหรือไม่ครับ
ที่มา : notebookcheck