คงต้องยอมรับกันครับว่าปัจจุบันนั้น microSD Card เข้ามามีบทบาทในการใช้งานมากขึ้นจากที่เมื่อก่อนผู้ใช้งานจะอยู่ในกลุ่มผู้ที่เล่นกล้อง ทว่าในปัจจุบันนั้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องเกมคอนโซล, แท็บเล็ตและที่ลืมไม่ได้เลยนั้นกับสมาร์ทโฟนต่างก็ใช้งาน microSD Card ในการเก็บข้อมูลกันทั้งนั้น ในสมัยก่อนนั้นการเลือกซื้อ microSD Card นั้นไม่ค่อยยากเท่าไร
เนื่องจากยังไม่มีมาตรฐานอะไรต่างๆ มาให้เราเลือกซื้อจนสับสนมากนักแต่ด้วยยุคเวลาที่เปลี่ยนไปนั้น microSD Card เริ่มมีมาตรฐานเข้ามาควบคุมมากขึ้นและเราจะมาดูกันครับว่าเพื่อให้กหารใช้งาน microSD Card ของคุณเหมาะสมกับอุปกรณ์มากที่สุดนั้นจะมีหลักการอย่างไรบ้าง
สำหรับ SD Card ที่เราๆ ท่านๆ จะได้เห็นกันในทุกวันนี้จะมีขนาดที่แตกต่างกันอยู่ 3 ขนาดด้วยกันครับ แต่ละอุปกรณ์นั้นก็จะมีการใช้งาน SD Card ในขนาดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์นั้นๆ โดยที่ SD Card ทั้ง 3 ขนาดนั้นจะประกอบไปด้วย
- Standard SD cards: SD (SDSC), SDHC, SDXC, SDIO — 32 x 24 x 2.1-1.4mm
- miniSD cards: miniSD, miniSDHC, miniSDIO — 21.5 x 20 x 1.4mm
- microSD cards: microSD, microSDHC, microSDXC — 15 x 11 x 1mm
แต่ละ SD Card จะแตกต่างกันอย่างไรนั้นไปชมรูปทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ
อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นในบทความนี้เราจะเน้นเรื่องของการเลือกซื้อ microSD Card เป็นหลักเนื่องจากว่าอุปกรณ์ในยุคปัจจุบันนี้นั้นนิยมใช้ microSD Card มากกว่าครับ ถ้าพร้อมแล้วติดตามกันต่อได้เลยครับ
มาตรฐานของ microSD Card นั้นได้ถูกกำหนดโดยหน่วยงาน SD Association ซึ่งสเปคของเจ้า microSD Card นั้นก็ได้มีการกำหนดออกมาตั้งแต่ในเดือนกรกฎาคมของปี 2005 ที่ผ่านมา โดยจะแบ่งมาตราฐานของ microSD Card ทั้งหมดเอาไว้ 3 มาตรฐานอันประกอบไปได้ microSD, microSDHC และ microSDXC ซึ่งจะแตกต่างกันไปดังสเปคต่อไปนี้ครับ
- microSD: มีความจุสูงสุดอยู่ที่ 2 GB อัตราการโอนถ่ายข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 25MB/s และใช้ระบบไฟล์ได้ 3 แบบคือ FAT12, FAT16 หรือ FAT16B ครับ
- microSDHC: มีความจุอยู่ระหว่าง 4 GB ถึง 32 GB อัตราการโอนถ่ายข้อมูลอยู่ระหว่าง 50 MB/s ถึง 150 MB/s และใช้ระบบไฟล์ FAT32
- microSDXC: มีความจุอยู่ระหว่าง 32 GB ถึง 200 GB อัตราการโอนถ่ายข้อมูลอยู่ระหว่าง 50 MB/s ถึง 312 MB/s และใช้ระบบไฟล์ exFAT
microSD Card ทั้ง 3 มาตรฐานนั้นจะมีขนาดที่เหมือนกันทั้งหมดซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้สับสนว่าเวลาที่ทำการเลือกซื้อนั้นควรจะซื้อ microSD Card รุ่นไหนมาใช้งาน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจนทางหน่วยงาน SD Association จึงได้มีการกำหนดให้บน microSD Card นั้นมีสัญลักษณ์สำรับใช้ในการบ่งบอกถึงสเปคของ microSD Card รุ่นนั้น โดยสัญลักษณ์แต่ละอย่างนั้นก็จะมีแตกต่างกันไปตามสเปคซึ่งมีดังต่อไปนี้ครับ
สำหรับวิธีการดูตารางด้านบนเพื่อเทียบกับสเปค์ว่าจะเป็นตัวไหนที่เราต้องการนั้น ขอยกตัวอย่างตาม microSD Card ดังรู้ข้างล่างต่อไปนี้ครับ
จากรูปของ microSD Card ทางด้านบนนี้จะเห็นได้ว่ามีสัญลักษณ์ microSDXC ซึ่งเป็น microSD Card ที่มีความจุมากที่สุดและความเร็วสูงสุดในจำนวนประเภทของ microSD Card ทั้ง 3 แบบ ขนาดความจุของ microSD Card ตัวนี้จะอยู่ที่ 64 GB ตามมาด้วยสัญลักษณ์ตัวเลข 10 ในตัวอักษร C ทำให้ทราบได้ว่าเป็น microSD Card ที่เป็น Class 10 พร้อมด้วยตัวเลข 1 ที่อยู่ในตัวอักษร U ดังนั้นแล้ว microSD card ตัวนี้จะมีสเปคคือความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 10 MB/s เหมาะสำหรับใช้งานในการบันทึกไฟล์วีดีโอทั้งความละเอียด 720p, 1080p และ 4K เป็นต้นครับ
หลายๆ ท่านอาจจะสงสัยว่าสัญลักษณ์ตัวเลขที่อยู่ในตัวอักษร U นั้นคืออะไรเรามีคำตอบให้ครับ โดยสัญลักษณ์ดังกล่าวนั้นคือ Ultra High Speed (UHS) ซึ่งเป็นการบ่งบอกมาตราฐานความเร็วของ microSD Card ที่มากกว่า Class 10 ปกติตัวอย่างเช่นตัวเลข 1 ที่อยู่ในตัวอักษร U นั้นก็๋จะหมายความว่า microSD Card รุ่นนั้นๆ มีความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 10 MB/s หรือตัวเลข 3 ที่อยู่ในตัวอักษร U นั้นจะหมายความว่า microSD Card รุ่นนั้นๆ มีความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 30 MB/s เป็นต้นครับ
สำหรับสัญลักษณ์ตัว V ที่จะระบุเอาไว้บน microSD Card นั้นจะเป็นสัญลักษณ์ที่บอกเกี่ยวกับ “Video Speed” ซึ่งทำให้ทราบได้ว่า microSD Card นั้นๆ จะเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อบันทึกไฟล์วีดีโอที่ความละเอียดแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่นหากบน microSD Card นั้นมีสัญลักษณ์ V90 อยู่ล่ะก็นั่นหมายความว่า microSD Card นั้นๆ จะมาพร้อมกับความเร็วในการเขียนข้อมูลที่ 90 MB/s โดยเหมาะกับการใช้งานบันทึกไฟล์วีดีโอความละเอียด 8K ที่ 60 fps หรือ 120 fps เป็นต้นครับ
หมายเหตุ – ส่วนมากแล้วตัวอักษร V นั้นมักจะเห็นกันบน SD card ขนาดปกติมากกว่าครับ
อย่างไรก็ตามแต่เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานซึ่งในปัจจุบันนั้นเรามักจะใช้ microSD Card กับสมาร์ทโฟนเพื่อลงแอปพลิเคชันต่างๆ มาขึ้นทางหน่วยงาน SD Association จึงได้ทำการเพิ่มสัญลัักษณ์ใหม่ขึ้นมาอีกเพื่อบ่งบอกถึง “Application Class” โดย ณ ปัจจุบันนี้จะเป็นเป็น 2 สัญลักษณ์คือ A1 และ A2 โดยทั้ง 2 สัญลักษณ์นั้นมีความแตกต่างกันดังนี้ครับ
จะเห็นได้ครับว่าสัญลักษณ์ A แล้วตามด้วยตัวเลขนั้นจะเป็นการบ่งบอกถึงความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลแบบสุ่ม โดย A1 นั้นจะมีความเร็วในการอ่านข้อมูลต่ำสุดอยู่ที่ 1500 iOPS และความเร็วในการเขียนข้อมูลต่ำสุดอยู่ที่ 500 IOPS ส่วน A2 นั้นจะมีความเร็วในการอ่านข้อมูลต่ำสุดอยู่ที่ 4000 iOPS และความเร็วในการเขียนข้อมูลต่ำสุดอยู่ที่ 2000 IOPS ซึ่งสัญลักษณ์นี้นั้นก็จะสามารถช่วยให้เรารู้ได้ว่า microSD Card ตัวไหนที่มีประสิทธิภาพในการใช้แอปพลิเคชันที่ถูกบันทึกอยู่ใน microSD Card ได้มากกว่ากันครับ
เอาล่ะครับเมื่อเราทราบความหมายของสัญลักษณ์ต่างๆ แล้วนั้นเราขอแนะนำ microSD Card บางรุ่นที่ประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคารวมไปถึงเหมาสมกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ดังต่อไปนี้ครับ
microSD Card ที่มีประสิทธิภาพต่อการใช้งานโดยรวมมากที่สุด
Samsung Evo Select 64GB MB-ME64GA/AM ราคาประมาณ 750 บาท หรือ SanDisk Ultra 64GB SDSQUAR-064G-GN6MA ราคาประมาณ 650 บาท
สำหรับ Samsung นั้นคงต้องยอมรับในประสิทธิภาพของเขาครับว่าดีจริงๆ เพราะ NAND flash ที่ทาง Samsung ผลิตนั้นมีการใช้งานอย่างกว้างขวางมากๆ ในปัจจุบัน โดยในรุ่น Select นี้นั้นเจ้า microSD Card จะมาพร้อมกับความเร็วในการอ่านข้อมูลแบบลำดับอยู่ที่ 100 MB/s และความเร็วในการเขียนข้อมูลอยู่ที่ 60 MB/s ซึ่ง microSD Card ของทาง Sandisk ที่เราแนะนำไว้เป็นตัวเลือกนั้นก็มาพร้อมกับความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลแบบลำดับเท่ากันกับของ Samsung แต่ราคานั้นจะถูกกว่านิดหน่อยครับ
microSD Card ที่มีประสิทธิภาพในการการใช้งานสูงมากที่สุด
Samsung Evo Select 128GB MB-ME128GA/AM ราคาประมาณ 1,470 บาท หรือ SanDisk Extreme SDSQXAF-128G-GN6MA ราคาประมาณ 2,100 บาท
Samsung Evo Select 128 GB นั้นจะมาพร้อมกับความเร็วในการอ่านข้อมูลแบบลำดับอยู่ที่ 100 MB/s และความเร็วในการเขียนข้อมูลอยู่ที่ 90 MB/s ในขณะที่ SanDisk Extreme SDSQXAF-128G-GN6MA จะมาพร้อมกับความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลแบบลำดับเท่ากันกับของ Samsung สิ่งที่แตกต่างกันนั้นก็คือเรื่องของราคาที่ของทาง Samsung จะมีราคาถูกกว่าครับ
microSD Card ที่มีความจุในการเก็บข้อมูลสูงมากที่สุด
SanDisk Ultra 400GB SDSQUAR-400G-GN6MA ราคาประมาณ 6,500 บาท
สำหรับท่านที่ต้องการความจะแบบสะใจกันไปข้างกันล่ะก็ SanDisk Ultra 400GB SDSQUAR-400G-GN6MA ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะมากับความจุสูงถึง 400 GB โดยที่ความเร็วในการอ่านข้อมูลแบบลำดับอยู่ระหว่าง 95 MB/s ถึง 100 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนข้อมูลแบบลำดับสูงสุดนั้นไม่ได้มีการเผยข้อมูลออกมา อย่างไรก็ตามราคาของมันนั้นก็ถือว่าอยู่ในระดับที่โหดเช่นเดียวกันแต่เมื่อแลกกับขนาดความจุสูงขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้มครับ
หมายเหตุ – ราคาทั้งหมดเป็นราคาอ้างอิงจากเว็บ Amazon สำหรับราคาจำหน่ายในเมืองไทยนั้นอาจแตกต่างกันไปตามร้านดังนั้นแล้วขอแนะนำให้ผู้ที่สนใจสอบถามราคาจากทางร้านก่อนจะดีที่สุดครับ
ที่มา : techspot