Gaming Notebook ในปัจจุบัน มาพร้อมกับความแรงและราคาไม่แพง ด้วยสีสันโทนดำตัดแดง ที่ดูแล้วดุดัน โดนใจคอเกมทั่วไป วัสดุก็อาจจะเป็นพลาสติกทั้งตัวหรืออาจจะมีโลหะมาผสมบ้างเพื่อให้ดูแข็งแรงทนทานหรูหรา อย่างไรก็ตามก็อาจจะมีแนวอื่นๆ บ้างอย่างโทนดำสลับสีเขียว รวมไปถึงไฟคีย์บอร์ดก็จะเป็นสีแดงหรือเป็นไฟ RGB ไปเลย ที่เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากได้โน๊ตบุ๊คแรงๆ ไว้เล่นเกม แต่ก็อยากได้ดีไซน์เรียบๆ และความบางเบา ที่พอจะสะดวกพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้
Lenovo Ideapad 720s 15 ถือว่าเป็นสุดทางของโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสเปก Intel Core i7-7700HQ + GTX 1050Ti Max-Q แน่นอนว่าด้วยสองอย่างนี้มีแนวโน้มว่าเล่นเกมได้ในปัจจุบันได้ลื่นไหล รวมไปถึงยังอัดแรม16GB DDR4 และ SSD M.2 PCIe ความจุ 512GB ส่วนหน้าจอก็เป็นขนาด 15.6″ พาเนล IPS ความละเอียด Full HD ตามมาตรฐาน ที่สำคัญยังได้ Windows 10 แท้มาพร้อมใช้งานทันที ทำให้ทีมงาน NotebookSPEC สนใจมากๆ จนต้องหามารีวิวให้ได้เลย ว่ามันจะเจ๋งแค่ไหนกัน
VDO Review
Specification
โดย Lenovo Ideapad 720s 15 ที่ได้นำมารีวิวในบทความนี้ทางทีมงาน NotebookSPEC ซื้อมาเองเลย ตามสเปกคือใช้ชิปประมวลผลตัวแรง รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) Gen 7 Kaby Lake ศักยภาพสูง มีชิปกราฟฟิกเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q (4GB GDDR5) ซึ่งมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 1050 ธรรมดาพอตัว แต่ใช้ไฟและร้อน้อยกว่า GTX 1050Ti ปกติ รองรับการเล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นๆ ทั้งหมด
อีกทั้งได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลมาตรฐาน SSD แบบ M.2 PCIe Gen 3 NVME อีก 1 ตัวความจุ 512GB โดยมีแรม DDR4 ขนาด 16GB (8GB x 2) ตอบรับกับการใช้งานได้ดีในทุกรูปแบบทั้งเกม ทำงาน หรือบันเทิง แบบไม่ต้องอัพเกรดใดๆ เลย เพราะตัว SSD ก็มีความจุที่สูง ส่วนแรมก็เป็นแบบฝั่งบอร์ดมา ไม่สามารถถอดอัพเกรดใดๆ ได้
หน้าจอแสดงผล Lenovo Ideapad 720s 15 มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านพาเนลจอ IPS ให้ความสวยงามสมจริง และมุมมองที่กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไป ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน พร้อมรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไร้สายผ่านมาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac ที่สำคัญคือมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานอีกด้วย
มิติของตัวเครื่อง Lenovo Ideapad 720s 15 มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วทั่วไป ด้วยขอบจอที่บางเฉียบ บนน้ำหนักตัวเครื่องที่เบามากๆ เพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น พอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครัน ทั้ง USB 3.0 Type-A, USB 3.1 Type-C และ Thunderbolt 3 สนนราคาที่ 49,900 บาท พร้อมรับปประกัน 2 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ชมหน้าสเปกเต็มๆ ของ Lenovo Ideapad 720s 15 <<<
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo Ideapad 720s 15 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 14″ แต่ก็ยังใส่จอขนาด 15.6 นิ้วเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์อื่นๆ มาให้อยู่ดี ทำให้ดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบางแบบสุดๆ เพียงแต่อาจจะดูแปลกตาเล็กน้อยในตอนแรกๆ เท่านั้น ส่วนของบอดี้ จะใช้เป็นอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา พร้อมสีสันแทนๆ อย่าง Iron Gray ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหรามากๆ ให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ Lenovo จะมีอยู่ 2 จุดเท่านั้น คือ มุมบนฝาหลังด้านซ้าย และมุมใต้หน้าจอด้านซ้ายเท่านั้น ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลบคมตามขอบอะลูมิเนียมรอบของตัวเครื่อง อารมณ์ Diamond Cutting ตามสมัยนิยม
แน่นอนว่างานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกัน แบบ Unibody ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย หรือถ้าจะเช็ดก็ง่ายดาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo Ideapad 720s 15 เป็นโน๊ตบุ๊คทรงประสิทธิภาพระดับสูงที่เน้นการพกพา เพราะมีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมความบางเพียง 17.95 มิลลิเมตรเท่านั้น บอกได้เลยว่าบางสุดๆ แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ซึ่งการที่จะบางขนาดนี้ได้ ฮาร์ดแวร์ภายในจำเป็นต้องฝังบอร์ดเกือบทั้งหมด จะมีเพียง SSD M.2 ที่สามารถอัพเกรดได้ (จริงๆ 512GB ก็ไม่อัพแล้วก็ได้นะ)
นอกเหนือจากนี้ Lenovo Ideapad 720s 15 ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนข้างในเครื่องจำนวน 2 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ โดยดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่อง ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ส่วนใต้ตัวเครื่องก็มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ระดับสูง
ที่สำคัญการเข้าใช้งาน Lenovo Ideapad 720s 15 ผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10 ยังสามารถทำได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัยและรวดเร็วด้วย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ถือว่าทำได้ดีได้ไวมากๆ ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันเลย
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด
และแน่นอนว่าความที่ Lenovo Ideapad 720s 15 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ก็เลยต้องมี Numpad มาให้ด้วย ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน เป็นสีเงินพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
หน้าจอของ Lenovo Ideapad 720s 15 มีความบางเฉียบตามเทคโนโลยีในปัจจุบัน ใช้พาเนล IPS คุณภาพสูง ความละเอียด Full HD เรียกได้ว่ารองรับทุกการทำงานหรือความบันเทิงแบบเต็มประสบการณ์อย่างสุดๆ จุดที่น่าชื่นชมอีกอย่างหนึ่งก็คือ Lenovo Ideapad 720s 15 เครื่องนี้ ก็คือมีการใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้ และที่ถึงแม้ขอบจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้งกล้องเว็บแคมไปอยู่บริเวณขอบจอด้านบนของหน้าจอได้ ซึ่งในการใช้งานจริงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Lenovo IdeaPad 720s 15 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันดีมากเลยทีเดียว ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างเลยทีเดียว เหมาะสำหรับใช้ในงานตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบบนตรงกลาง 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านมุมซ้ายล่างที่ลดลงไปถึงระดับ 21% เลยทีเดียว ซึ่งต้องใช้งานอย่างระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงมุมนี้สำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าได้ว่าค่อนข้างดีมากเลยทีเดียวครับ
ด้านของลำโพงสเตอรีโอของ JBL Premium Audio มีเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก และสามารถจำลองเสียง 360 องศาได้ โดยถูกติดตั้งบริเวณด้านล่างซ้ายขวาขอบตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo Ideapad 720s 15 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีความครบครันครับเครื่องเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต (always-on charging) USB 3.1 Type-C อีกหนึ่งพอร์ต อีกทั้งยังมี Thunderbolt 3 สุดล้ำด้วย ส่วน HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอกตามมาตรฐานถูกตัดออกไป พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และ micro SD Card Reader ปิดท้ายปุ่ม Recovery ตามสไตล์ของ Lenovo
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.9 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว
Performance / Software
โดย Lenovo Ideapad 720s 15 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่า Core i7 Gen 8 ตระกูล U ตอนนี้แน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 บัส 2400 MHz
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี แต่กินไฟน้อยกว่าเยอะ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นย่อยของการ์ดจอตระกูล GTX 1050 บนโน๊ตบุ๊ค ที่ยังคงความแรงแบบ GTX 1050Ti แต่ร้อนน้อยกินไฟน้อย ทำให้นำมาติดตั้งบนโน๊ตบุ๊คบางๆ แบบนี้ได้ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว ทำให้รองรับเกมใหม่ๆ ที่ความละเอียด Full HD ได้อย่างไม่ต้องกังวลเหมือนกับชิปกราฟิกรุ่นอื่นๆ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 NVMe ที่เป็น SSD รุ่นใหม่ล่าสุดความเร็วสูง ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน หรือ SSD M.2 แบบธรรมดาแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3242MB/s และเขียนที่ 1901MB/s เลยทีเดียว
ซึ่งในส่วนนี้เราจะทดสอบ Lenovo Ideapad 720s 15 ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 7 เกม โดยรุ่นที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้ซื้อมารีวิวเองเลย เพราะฉะนั้นสเปกภายในตรงกับที่เพื่อนๆ จะซื้อแน่นอน พร้อมมีกราฟเทียบกับ Lenovo Legion Y520 สเปกใกล้เคียงกัน ที่เป็น Gaming Notebook ยอดนิยมของทาง Lenovo เองอีกด้วย
โดยผลเฟรมเรทในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ที่ความละเอียด Full HD ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกที่สูง ได้ภาพสวยๆ ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 Ti Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 และ SSD NVMe ความเร็วสูง
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Final Fantasy XV ปรับ Standard /GTA V ปรับเกือบสุด / Battlefield 1 ปรับ Ultra / Rise of the Tomb Raider ปรับ Ultra ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ (เว้น FF XV) กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตุว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น G-Sync เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แต่ในส่วนของพาเนล IPS ก็ทำหน้าที่เรื่องสีสันได้ดีเช่นเดิม
อีก 2 เกมออนไลน์ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch ปรับสุด Epic / DOTA 2 ปรับสุด Best Looking / PUBG ปรับสุด Ultra ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 60 เฟรมเช่นกัน (เว้น PUBG) สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
ซึ่งเมื่อเทียบกับผลการทดสอบในส่วนของ Lenovo Legion Y520 สเปก i7-7700HQ + GTX 1050Ti จะเห็นได้สามารถทำเฟรมเรทได้ใกล้เคียงกัน อาจจะมี + – บ้าง ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่แล้วแต่เกม หรือบางเกมอาจจะมีเฟรมเรทไม่ได้ต่างกันนักอย่าง DOTA 2 สรุปคือเล่นเกมในปัจจุบันได้ทุกเกมแน่นอน ส่วนความลื่นไหลอาจจะอยู่กับการที่เราปรับอีกที แต่ส่วนมากก็สามารถปรับได้สุดนะ ถือว่าน่าพอใจมากๆ
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
Lenovo Ideapad 720s 15 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4,500 mAh ที่ถือว่าจัดมามากพอตัว เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า Lenovo Ideapad 720s 15 ทำเวลาได้ดีกว่า 2 – 3 เท่า เทียบโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Core i7HQ ในหลายๆ รุ่นด้วยกัน
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงเหนือชุดคีย์บอร์ดที่เป็นชุดระบายความร้อน แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักอันนี้คงต้องยอมรับหล่ะครับว่าระบบระบายความร้อนของเขาดีจริงๆ และสำหรับนักเล่นเกมที่ใช้คีย์บอร์ดเล่นเป็นประจำนั้น บริเวณของปุ่ม WASD ก็มีความร้อนสะสมน้อยเช่นกัน
ส่วนของอุณหภูมิการระบายความร้อน Lenovo Ideapad 720s 15 ถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีขณะที่เราเล่นเกมทดสอบเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลกับชิปกราฟิกพบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องด้านหลัง แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักเมื่อเราใช้งานทั่วไป อันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนทำได้น่าประทับใจอยู่ จากการที่มีพัดลมสองตัว พร้อมฮีตไปป์เป่าออกด้านหลัง และเทคโนโลยี Lenovo ช่วยจัดการ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 96 องศาเซลเซียส ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของ Lenovo Ideapad 720s 15 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีน่าปีะทับใจ ซึ่งอาจจะร้อนกว่าก็จริงด้วยการที่ตัวเครื่องบาง ชุดระบายความก็เล็กลงไปด้วย อย่างไรก็ตามไม่มีต่อการใช้งานและประสิทธิภาพแต่อย่างใด ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย อีกทั้งเรียกว่าทำได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้เล็กน้อย
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง Lenovo ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานทั้งจาก CPU และ GPU (เช่นการเล่นเกม) เรื่องของเสียงพัดลมนั้นจะไม่มีเสียงดังรบกวนจนเกินไปนัก แม้ว่าจะใช้งานหนักๆ ก็ตาม
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คทรงประสิทธิภาพที่แสนบางเบารุ่นล่าสุดสุดพรีเมียมจากทาง Lenovo Ideapad 720s 15 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล Ideapad รุ่นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี (Ideapad 720s ทีหลายรุ่นมาก ทั้งจอ 13.3″, 14″ รวมถึงรุ่นนี้ 15.6″) เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่แม้ว่าราคาค่าตัวที่สูงซักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับสเปกและคุณสมบัติที่ได้ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ยอมจ่ายได้ แบบไม่ต้องคิดมาก
อย่างสเปกที่ได้จะเป็น Core i7-7700HQ ตัวแรงตัวยอดนิยมที่ใช้บน Gaming Notebook หรือรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูง สำหรับการ์ดจอก็เป็น GTX 1050Ti Max-Q ที่ทั้งแรงทั้งน้อยกว่าตัวปกติ (ตัวปกติยัดลงมาความร้อนได้ไปเกิน 100 องศาเซลเซียสแน่นอน) นอกจากนี้แรมยังให้มา 16GB และ SSD NVMe ก็จัดเต็มด้วย 512GB จากสเปกตรงนี้ต้องบอกเลยว่าไม่ใช้แค่แรงอย่างเดียว แต่ลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน พร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
คุณสมบัติความเจ๋งกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วเท่านั้น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว และแน่นอนว่าขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไป ที่น้ำหนัก 1.9 กิโลกรัมกับความบาง 17.95 มิลลิเมตร พกพาไปใช้งานได้สะดวกสุดๆ แถมแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งชาร์จกลับก็ไว้มากๆ เพียง 1 ชั่วโมงได่ถึง 80% ปิดท้ายที่ช่อง USB 3.0 มี always-on charging รองรับการชาร์จสมาร์ทโฟนอีกด้วย
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับ ซึ่งครบครันทั้งประสิทธิภาพสูงระดับคอมพิวเตอร์พีซี ในขนาดตัวเครื่องที่เล็กกระทัดรัด พร้อมด้วยดีไซน์ที่เห็นแล้วสวยงามสุดๆ โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวมากนักล่ะก็ Lenovo Ideapad 720s 15 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว กับการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านอีกด้วย
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว
- หน้าจอมีความละเอียด Full HD พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง เป็นแบบจอด้าน
- ตัวเครื่องเบาเพียง 1.9 กิโลกรัม บางเพียง 17.95 มิลลิเมตร
- น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบางพิเศษ วัสดุเป็นอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
- ประสิทธิภาพสูงด้วย Core i7 HQ และการ์ดจอ GTX 1050 Ti Max-Q
- ลื่นไหลด้วยแรมขนาด 16GB พร้อมด้วย SSD NVMe 512GB
- เล่นเกมได้ดี ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เทียบเท่า Gaming Notebook
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทันสมัยด้วย Thunderbolt 3
- Windows 10 แท้พร้อมใช้งานทันที มีซอฟต์แวร์ช่วยจัดการ
- ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง
ข้อสังเกตุ
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในสเปกซีพียูและการ์ดจอที่เหมือนกัน
- เมื่อทำงานหนักตัวเครื่องค่อนข้างร้อน แต่อยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ (ไม่มีผลกับการใช้งาน)
- แรมฝังบอร์ดมาเลย อัพเกรดได้เพียง SSD เท่านั้นที่เป็นมาตรฐาน M.2
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Lenovo Ideapad 720s 15 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Lenovo Ideapad มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Lenovo Ideapad 720s 15 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบง่าย ไม่โดดเด่น แต่หรูหราพรีเมียมตามสไตล์ครุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คตระกูล Ideapad ระดับบน ทั้งในความบางเพียง 17.95 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.9 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ด้วยขนาดตัวเทียบเท่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 2 กิโลกรัมนิดๆ เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แบตใช้งานได้ราวๆ 10 ชั่วโมง
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดตัวแรงตัวใหม่อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 Ti Max-Q ขนาด 4GB DDR5 อีกทั้งยังได้ SSD NVMe ความจุ 512GB มาด้วย ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย
VDO Review
Specification
โดย Lenovo Ideapad 720s 15 ที่ได้นำมารีวิวในบทความนี้ทางทีมงาน NotebookSPEC ซื้อมาเองเลย ตามสเปกคือใช้ชิปประมวลผลตัวแรง รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) Gen 7 Kaby Lake ศักยภาพสูง มีชิปกราฟฟิกเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q (4GB GDDR5) ซึ่งมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 1050 ธรรมดาพอตัว แต่ใช้ไฟและร้อน้อยกว่า GTX 1050Ti ปกติ รองรับการเล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นๆ ทั้งหมด
อีกทั้งได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลมาตรฐาน SSD แบบ M.2 PCIe Gen 3 NVME อีก 1 ตัวความจุ 512GB โดยมีแรม DDR4 ขนาด 16GB (8GB x 2) ตอบรับกับการใช้งานได้ดีในทุกรูปแบบทั้งเกม ทำงาน หรือบันเทิง แบบไม่ต้องอัพเกรดใดๆ เลย เพราะตัว SSD ก็มีความจุที่สูง ส่วนแรมก็เป็นแบบฝั่งบอร์ดมา ไม่สามารถถอดอัพเกรดใดๆ ได้
หน้าจอแสดงผล Lenovo Ideapad 720s 15 มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านพาเนลจอ IPS ให้ความสวยงามสมจริง และมุมมองที่กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไป ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน พร้อมรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไร้สายผ่านมาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac ที่สำคัญคือมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานอีกด้วย
มิติของตัวเครื่อง Lenovo Ideapad 720s 15 มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วทั่วไป ด้วยขอบจอที่บางเฉียบ บนน้ำหนักตัวเครื่องที่เบามากๆ เพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น พอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครัน ทั้ง USB 3.0 Type-A, USB 3.1 Type-C และ Thunderbolt 3 สนนราคาที่ 49,900 บาท พร้อมรับปประกัน 2 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ชมหน้าสเปกเต็มๆ ของ Lenovo Ideapad 720s 15 <<<
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo Ideapad 720s 15 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 14″ แต่ก็ยังใส่จอขนาด 15.6 นิ้วเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์อื่นๆ มาให้อยู่ดี ทำให้ดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบางแบบสุดๆ เพียงแต่อาจจะดูแปลกตาเล็กน้อยในตอนแรกๆ เท่านั้น ส่วนของบอดี้ จะใช้เป็นอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา พร้อมสีสันแทนๆ อย่าง Iron Gray ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหรามากๆ ให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ Lenovo จะมีอยู่ 2 จุดเท่านั้น คือ มุมบนฝาหลังด้านซ้าย และมุมใต้หน้าจอด้านซ้ายเท่านั้น ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลบคมตามขอบอะลูมิเนียมรอบของตัวเครื่อง อารมณ์ Diamond Cutting ตามสมัยนิยม
แน่นอนว่างานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกัน แบบ Unibody ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย หรือถ้าจะเช็ดก็ง่ายดาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo Ideapad 720s 15 เป็นโน๊ตบุ๊คทรงประสิทธิภาพระดับสูงที่เน้นการพกพา เพราะมีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมความบางเพียง 17.95 มิลลิเมตรเท่านั้น บอกได้เลยว่าบางสุดๆ แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ซึ่งการที่จะบางขนาดนี้ได้ ฮาร์ดแวร์ภายในจำเป็นต้องฝังบอร์ดเกือบทั้งหมด จะมีเพียง SSD M.2 ที่สามารถอัพเกรดได้ (จริงๆ 512GB ก็ไม่อัพแล้วก็ได้นะ)
นอกเหนือจากนี้ Lenovo Ideapad 720s 15 ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนข้างในเครื่องจำนวน 2 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ โดยดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่อง ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ส่วนใต้ตัวเครื่องก็มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ระดับสูง
ที่สำคัญการเข้าใช้งาน Lenovo Ideapad 720s 15 ผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10 ยังสามารถทำได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัยและรวดเร็วด้วย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ถือว่าทำได้ดีได้ไวมากๆ ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันเลย
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด
และแน่นอนว่าความที่ Lenovo Ideapad 720s 15 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ก็เลยต้องมี Numpad มาให้ด้วย ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน เป็นสีเงินพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
หน้าจอของ Lenovo Ideapad 720s 15 มีความบางเฉียบตามเทคโนโลยีในปัจจุบัน ใช้พาเนล IPS คุณภาพสูง ความละเอียด Full HD เรียกได้ว่ารองรับทุกการทำงานหรือความบันเทิงแบบเต็มประสบการณ์อย่างสุดๆ จุดที่น่าชื่นชมอีกอย่างหนึ่งก็คือ Lenovo Ideapad 720s 15 เครื่องนี้ ก็คือมีการใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้ และที่ถึงแม้ขอบจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้งกล้องเว็บแคมไปอยู่บริเวณขอบจอด้านบนของหน้าจอได้ ซึ่งในการใช้งานจริงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Lenovo IdeaPad 720s 15 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันดีมากเลยทีเดียว ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างเลยทีเดียว เหมาะสำหรับใช้ในงานตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบบนตรงกลาง 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านมุมซ้ายล่างที่ลดลงไปถึงระดับ 21% เลยทีเดียว ซึ่งต้องใช้งานอย่างระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงมุมนี้สำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าได้ว่าค่อนข้างดีมากเลยทีเดียวครับ
ด้านของลำโพงสเตอรีโอของ JBL Premium Audio มีเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก และสามารถจำลองเสียง 360 องศาได้ โดยถูกติดตั้งบริเวณด้านล่างซ้ายขวาขอบตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo Ideapad 720s 15 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีความครบครันครับเครื่องเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต (always-on charging) USB 3.1 Type-C อีกหนึ่งพอร์ต อีกทั้งยังมี Thunderbolt 3 สุดล้ำด้วย ส่วน HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอกตามมาตรฐานถูกตัดออกไป พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และ micro SD Card Reader ปิดท้ายปุ่ม Recovery ตามสไตล์ของ Lenovo
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.9 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว
Performance / Software
โดย Lenovo Ideapad 720s 15 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่า Core i7 Gen 8 ตระกูล U ตอนนี้แน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 บัส 2400 MHz
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี แต่กินไฟน้อยกว่าเยอะ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นย่อยของการ์ดจอตระกูล GTX 1050 บนโน๊ตบุ๊ค ที่ยังคงความแรงแบบ GTX 1050Ti แต่ร้อนน้อยกินไฟน้อย ทำให้นำมาติดตั้งบนโน๊ตบุ๊คบางๆ แบบนี้ได้ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว ทำให้รองรับเกมใหม่ๆ ที่ความละเอียด Full HD ได้อย่างไม่ต้องกังวลเหมือนกับชิปกราฟิกรุ่นอื่นๆ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 NVMe ที่เป็น SSD รุ่นใหม่ล่าสุดความเร็วสูง ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน หรือ SSD M.2 แบบธรรมดาแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3242MB/s และเขียนที่ 1901MB/s เลยทีเดียว
ซึ่งในส่วนนี้เราจะทดสอบ Lenovo Ideapad 720s 15 ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 7 เกม โดยรุ่นที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้ซื้อมารีวิวเองเลย เพราะฉะนั้นสเปกภายในตรงกับที่เพื่อนๆ จะซื้อแน่นอน พร้อมมีกราฟเทียบกับ Lenovo Legion Y520 สเปกใกล้เคียงกัน ที่เป็น Gaming Notebook ยอดนิยมของทาง Lenovo เองอีกด้วย
โดยผลเฟรมเรทในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ที่ความละเอียด Full HD ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกที่สูง ได้ภาพสวยๆ ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 Ti Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 และ SSD NVMe ความเร็วสูง
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Final Fantasy XV ปรับ Standard /GTA V ปรับเกือบสุด / Battlefield 1 ปรับ Ultra / Rise of the Tomb Raider ปรับ Ultra ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ (เว้น FF XV) กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตุว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น G-Sync เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แต่ในส่วนของพาเนล IPS ก็ทำหน้าที่เรื่องสีสันได้ดีเช่นเดิม
อีก 2 เกมออนไลน์ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch ปรับสุด Epic / DOTA 2 ปรับสุด Best Looking / PUBG ปรับสุด Ultra ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 60 เฟรมเช่นกัน (เว้น PUBG) สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
ซึ่งเมื่อเทียบกับผลการทดสอบในส่วนของ Lenovo Legion Y520 สเปก i7-7700HQ + GTX 1050Ti จะเห็นได้สามารถทำเฟรมเรทได้ใกล้เคียงกัน อาจจะมี + – บ้าง ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่แล้วแต่เกม หรือบางเกมอาจจะมีเฟรมเรทไม่ได้ต่างกันนักอย่าง DOTA 2 สรุปคือเล่นเกมในปัจจุบันได้ทุกเกมแน่นอน ส่วนความลื่นไหลอาจจะอยู่กับการที่เราปรับอีกที แต่ส่วนมากก็สามารถปรับได้สุดนะ ถือว่าน่าพอใจมากๆ
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
Lenovo Ideapad 720s 15 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4,500 mAh ที่ถือว่าจัดมามากพอตัว เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า Lenovo Ideapad 720s 15 ทำเวลาได้ดีกว่า 2 – 3 เท่า เทียบโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Core i7HQ ในหลายๆ รุ่นด้วยกัน
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงเหนือชุดคีย์บอร์ดที่เป็นชุดระบายความร้อน แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักอันนี้คงต้องยอมรับหล่ะครับว่าระบบระบายความร้อนของเขาดีจริงๆ และสำหรับนักเล่นเกมที่ใช้คีย์บอร์ดเล่นเป็นประจำนั้น บริเวณของปุ่ม WASD ก็มีความร้อนสะสมน้อยเช่นกัน
ส่วนของอุณหภูมิการระบายความร้อน Lenovo Ideapad 720s 15 ถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีขณะที่เราเล่นเกมทดสอบเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลกับชิปกราฟิกพบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องด้านหลัง แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักเมื่อเราใช้งานทั่วไป อันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนทำได้น่าประทับใจอยู่ จากการที่มีพัดลมสองตัว พร้อมฮีตไปป์เป่าออกด้านหลัง และเทคโนโลยี Lenovo ช่วยจัดการ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 96 องศาเซลเซียส ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของ Lenovo Ideapad 720s 15 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีน่าปีะทับใจ ซึ่งอาจจะร้อนกว่าก็จริงด้วยการที่ตัวเครื่องบาง ชุดระบายความก็เล็กลงไปด้วย อย่างไรก็ตามไม่มีต่อการใช้งานและประสิทธิภาพแต่อย่างใด ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย อีกทั้งเรียกว่าทำได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้เล็กน้อย
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง Lenovo ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานทั้งจาก CPU และ GPU (เช่นการเล่นเกม) เรื่องของเสียงพัดลมนั้นจะไม่มีเสียงดังรบกวนจนเกินไปนัก แม้ว่าจะใช้งานหนักๆ ก็ตาม
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คทรงประสิทธิภาพที่แสนบางเบารุ่นล่าสุดสุดพรีเมียมจากทาง Lenovo Ideapad 720s 15 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล Ideapad รุ่นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี (Ideapad 720s ทีหลายรุ่นมาก ทั้งจอ 13.3″, 14″ รวมถึงรุ่นนี้ 15.6″) เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่แม้ว่าราคาค่าตัวที่สูงซักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับสเปกและคุณสมบัติที่ได้ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ยอมจ่ายได้ แบบไม่ต้องคิดมาก
อย่างสเปกที่ได้จะเป็น Core i7-7700HQ ตัวแรงตัวยอดนิยมที่ใช้บน Gaming Notebook หรือรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูง สำหรับการ์ดจอก็เป็น GTX 1050Ti Max-Q ที่ทั้งแรงทั้งน้อยกว่าตัวปกติ (ตัวปกติยัดลงมาความร้อนได้ไปเกิน 100 องศาเซลเซียสแน่นอน) นอกจากนี้แรมยังให้มา 16GB และ SSD NVMe ก็จัดเต็มด้วย 512GB จากสเปกตรงนี้ต้องบอกเลยว่าไม่ใช้แค่แรงอย่างเดียว แต่ลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน พร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
คุณสมบัติความเจ๋งกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วเท่านั้น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว และแน่นอนว่าขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไป ที่น้ำหนัก 1.9 กิโลกรัมกับความบาง 17.95 มิลลิเมตร พกพาไปใช้งานได้สะดวกสุดๆ แถมแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งชาร์จกลับก็ไว้มากๆ เพียง 1 ชั่วโมงได่ถึง 80% ปิดท้ายที่ช่อง USB 3.0 มี always-on charging รองรับการชาร์จสมาร์ทโฟนอีกด้วย
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับ ซึ่งครบครันทั้งประสิทธิภาพสูงระดับคอมพิวเตอร์พีซี ในขนาดตัวเครื่องที่เล็กกระทัดรัด พร้อมด้วยดีไซน์ที่เห็นแล้วสวยงามสุดๆ โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวมากนักล่ะก็ Lenovo Ideapad 720s 15 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว กับการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านอีกด้วย
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว
- หน้าจอมีความละเอียด Full HD พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง เป็นแบบจอด้าน
- ตัวเครื่องเบาเพียง 1.9 กิโลกรัม บางเพียง 17.95 มิลลิเมตร
- น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบางพิเศษ วัสดุเป็นอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
- ประสิทธิภาพสูงด้วย Core i7 HQ และการ์ดจอ GTX 1050 Ti Max-Q
- ลื่นไหลด้วยแรมขนาด 16GB พร้อมด้วย SSD NVMe 512GB
- เล่นเกมได้ดี ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เทียบเท่า Gaming Notebook
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทันสมัยด้วย Thunderbolt 3
- Windows 10 แท้พร้อมใช้งานทันที มีซอฟต์แวร์ช่วยจัดการ
- ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง
ข้อสังเกตุ
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในสเปกซีพียูและการ์ดจอที่เหมือนกัน
- เมื่อทำงานหนักตัวเครื่องค่อนข้างร้อน แต่อยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ (ไม่มีผลกับการใช้งาน)
- แรมฝังบอร์ดมาเลย อัพเกรดได้เพียง SSD เท่านั้นที่เป็นมาตรฐาน M.2
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Lenovo Ideapad 720s 15 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Lenovo Ideapad มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Lenovo Ideapad 720s 15 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบง่าย ไม่โดดเด่น แต่หรูหราพรีเมียมตามสไตล์ครุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คตระกูล Ideapad ระดับบน ทั้งในความบางเพียง 17.95 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.9 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ด้วยขนาดตัวเทียบเท่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 2 กิโลกรัมนิดๆ เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แบตใช้งานได้ราวๆ 10 ชั่วโมง
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดตัวแรงตัวใหม่อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 Ti Max-Q ขนาด 4GB DDR5 อีกทั้งยังได้ SSD NVMe ความจุ 512GB มาด้วย ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย