ปี 2017 ที่ผ่านมา ทาง HP หนึ่งในผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ระดับโลกก็ได้ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมามากมาย ทั้งในส่วนของ HP OMEN และอื่นๆ แน่นอนว่าโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจของใครต่อใครหลายคนช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเจ้า HP Pavilion Power 15 ที่จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงที่ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือทำงานก็รองรับได้ไม่แพ้ซีรีย์ OMEN เช่นเดียวกัน โดยมากับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าสวยงามหรูหรา เรียบง่าย แนวโน๊ตบุ๊คที่เน้นทำงาน โดยแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้คือ มาพร้อมไฟขาวแทนเขียวแล้ว รวมไปถึงรายละเอียดอื่นๆ จะเป็นสีดำแทน
ที่สำคัญยังมาพร้อมราคาที่คุ้มค่าโดยไม่เกินสามหมื่นบาท อยู่ที่ 27,900 บาทเท่านั้น ซึ่งในตอนนี้ทีมงานได้มีโอกาสมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน สำหรับ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 เลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX 1050 สเปกอื่นๆ ก็จะได้แรมมาขนาด 4GB และฮาร์ดดิสก์ 1TB ตามมาตรฐาน ซึ่งในส่วนของรีวิวนี้จะได้พื้นฐานจากรุ่นก่อนหน้านะครับ
Specification
ก่อนอื่นเลยเรามาดูสเปคเจ้าเครื่อง HP Pavilion Power 15 ติดตั้งชิปประมวลผลตัวแรง รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ศักยภาพสูง แบบ 4 Cores/ 8 Threads ใช้การ์ดจอแยกอย่าง NVDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) รุ่นยอดนิยม ใส่ฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 7200 RPM (สามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม SSD แบบ M.2 PCIe Gen 3 NVMe ได้) พร้อมแรมขนาด 4 GB DDR4 bus 2400 MHz (แนะนำให้อัพเกรดเป็น 8GB ทันที)
หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านลดแสงสะท้อน พาเนลจอ IPS ความคมชัดสูง มีกล้องเว็บแคมมุมกว้าง 77 องศา และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มี รูฟังและไมค์โครโฟรแบบคอมโบ 1 ช่อง, USB 2.0 จำนวน 1 ช่อง , USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง, LAN, HDMI และที่สำคัญมาพร้อม USB 3.1 Type-C อีก 1 ช่องด้วย ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายเป็น Bluetooth 4.2 และ Wireless แบบ 802.11 a/b/g/n/ac
มิติของตัวเครื่อง HP Pavilion Power cb035TX เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คจอขนาด 15.6 นิ้ว ก็มีขนาดมาตรฐานทั่วไป บนน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 2.18 กิโลกรัม พกพาง่าย เพราะ ตัวเครื่องได้รวมเอาแบตเตอรี่เอาไว้ภายในตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องเล็กลงพกพาง่ายขึ้น พร้อมสนนราคาอยู่ที่ 27,900 บาท เท่านั้น พร้อมการรับประกันขั้นเทพ 2 ปี ซ่อมฟรีถึงบ้านและบริการช่วยเหลืออื่นๆ
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกับรุ่นที่เปิดตัวปี 2017 แต่แตกต่างเรื่องของสีสัน โดยตัวเครื่องยังคงความสวยแต่ดูเรียบง่ายขึ้นจากการใช้โทนดำเป็นหลักไม่มีการตัดด้วยสีเขียวอีกต่อไป แต่แทนที่ด้วยไฟคีย์บอร์ดสีเขียวแบบเดิมๆ เน้นเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงาน ดูแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปซึ่งส่วนมากจะเป็นสีดำล้วนบ้าง สีดำแดงบ้าง สีดำส้มบ้าง ส่วนเนื้องานการประกอบถือว่าทำได้แน่น เนี้ยบ สวยงามเรียบหรูสมกับเป็นแบรนด์ HP เลยทีเดียว
เริ่มจากด้านนอกตัวเครื่องบอดี้เป็นสีดำ วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี ตัดด้วยโลโก้ HP สีเงินแวววาวที่เป็นโครเมียมด้านหลัง สังเกตว่าด้านหลังฝาหน้าจอจะมียางรองสีดำ ซึ่งไว้สำหรับตั้งโน๊ตบุ๊คให้สูงขึ้นจากระดับตัวพื้นให้สูงขึ้น เพื่อให้เวลาพิมพ์งานหรือเล่นเกมได้วางมือได้ถูกหลักสรีระ และยังช่วยในเรื่องของการระบายความให้ดีขึ้นด้วย ส่วนสีด้านใต้เครื่องจะเป็นสีเดียวกันกับด้านนอกดูสวยงาม พร้อมมียางรองสีดำ 4 ตำแหน่ง รูปแบบตัว X เป็นตัวเอกลักษณ์สำหรับรุ่นนี้
มาดูส่วนด้านในตัวเครื่องกันบ้าง ก็ยังคงเป็นสีดำเรียบๆ เหมือนบอดี้ด้านนอก ซึ่งวัสดุตรงแผงคีย์บอร์ดจะเป็นอะลูมิเนียม แข็งแรงดูดีเลยทีเดียวและจุดเด่นที่สุดเลยอีกอย่างคือการระบายความร้อนอยู่ที่แกนบานพับตัวเครื่อง ทำให้พัดลมระบายความร้อนไม่เป่าลมร้อนออกมาโดนผู้ใช้ ซึ่งหากดูจากภาพรวมและการดีไซน์ทั้งหมดของ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ตัวนี้ เรียกได้ว่า ทำออกมาได้สวยงามมากเลยทีเดียว เหมาะกับเกมเมอร์ที่ชอบดีไซน์เรียบๆ แต่แฝงไปด้วยขุมพลังที่เต็มเปี่ยมพอๆ กับโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสิทธิภาพรุ่นอื่นๆ เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการที่ HP Pavilion Power 15 รุ่นใหม่ ออกแบบตัวเครื่องดีไซน์ได้ลงตัว เน้นไปในทิศทางโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานได้หลากหลายไม่ดูเป็น Gaming Notebook จนเกินไป แน่นอนหลายคนอาจจะชอบบ้างไม่ชอบบ้างก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน หรือบางคนอาจจะชอบสีดำแดง หรือสีดำขาวมากกว่า ซึ่งตอนนี้ HP Pavilion Power ที่เป็นสีดำออกมาแล้ว ใครที่อาจจะไม่ชอบสีเขียวก็จัดกันได้เลย ส่วนตัวเครื่องบางน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว มาตรฐานทั่วไป บนน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 2.18 กิโลกรัม พกพาง่าย เพราะ ตัวเครื่องได้รวมเอาแบตเตอรี่เอาไว้ภายในตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องเล็กลงพกพาง่ายขึ้น
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ด HP Pavilion Power 15 ปี 2018 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรสีเขียวฟอนต์เรียบง่าย มาพร้อมแป้นพิมพ์ขนาดใหญ่ แบบมาตรฐาน island-style สามารถใช้งานได้สะดวก และแน่นอนว่ามาพร้อมกับปุ่มชุดตัวเลข Numpad ด้านขวา พร้อมไฟ Backlit สีขาว โดยจะมีแค่เปิด-ปิดไฟเท่านั้น ไม่สามารถปรับรับไฟได้ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบน เวลาเปิดไฟจะขึ้นเป็นสีเขียว ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ ซึ่งโดยรวมแล้วแม้ไม่ใช่คีย์บอร์ด Gaming เหมือนรุ่นอื่น แต่ก็พอที่จะใช้งานได้อย่างไม่ติดขัดอะไร
ทางด้านทัชแพดของตัวเครื่องมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และกว้างกว่าปกติ เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบเรียบๆ สีดำซ่อนปุ่ม โดยไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ HP Pavilion รุ่นก่อนหน้าการใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี พร้อมรองรับระบบสั่งการแบบมัลติทัช ที่ตอบสนองการใช้งานได้ดีเพราะหน้ากว้างใช้งานสะดวก
Screen / Speaker
HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ทางด้านหน้าจอแสดงผลมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD แบบจอด้าน ลดแสงสะท้อน พร้อมใช้พาเนล IPS ซึ่งทำให้มีมุมมองกว้างและสีสันที่สดใส สามารถแสดงผลภาพในการทำงาน ดูหนัง เล่นเกมได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนในทุกมุมมอง เหนือกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วมาตรฐานรุ่นอื่นพอสมควรที่ใช้พาแนล TN และตัวโน๊ตบุ๊คยังมีกล้องเว็บแคม HP แบบ HD Wide Vision พร้อมมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ทำให้สามารถใช้กล้อง Webcam ได้เป็นอย่างดี
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 215 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอด้านบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องมุมขวาบนเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 17% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
ทางด้านลำโพงเจ้าเครื่องนี้ก็เลือกใช้ระบบเสียง Bang & Olufsen โดยตัวลำโพงจะอยู่บนแผงคีย์บอร์ดจำนวน 2 ตัว แยกเสียงซ้ายขวาชัดเจน เช่นเดียวกับรุ่น Pavilion รุ่นอื่น ส่วนเรื่องเสียงก็ให้เสียงที่มีคุณภาพดีและเสียงดังพอสมควร เหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลง สบายๆ ได้หายห่วง อีกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปเลยทีเดียว
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง HP Pavilion Power 15 นั้นสามารถทำได้ค่อนข้างยาก เพราะงานประกอบค่อนข้างแน่น ต้องใช้ฝีมือและทักษะพอสมควร ซึ่งหลังจากถอดน็อตทุกตัวเสร็จหมดแล้ว ต้องใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากหลังมาหน้า และค่อยๆ ทำอย่าใจร้อนไม่งั้นอาจจะหักได้ ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ยังมีน็อตสองตัวซ่อนอยู่ที่ฐานรองซ้ายขวาทางด้านฝั่งหน้าจอ และเมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ อย่างชัดเจนตามรูปเลย
การวางเลย์เอาท์ฮาร์ดแวร์ของเจ้าเครื่องนี้ทำได้ดูดีเลยที วางแบ่งจัดปั่นส่วนได้ดี ซึ่งในส่วนที่สามารถทำการอัพเกรด ก็สามารถทำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเก็บข้อมูลแบบ SATA ขนาด 2.5 นิ้วหรือ SSD แบบ M.2 (รองรับเป็นแบบ NVMe) หรือแรมที่สามารถใส่ได้สูงสุดสองแถว ซึ่งทางทีมงานได้ใส่แรมเพิ่มไปแล้วอีก 4 GB 1 แถว ทำให้เครื่องมีแรมเป็น 8GB ส่วนเรื่องระบายความร้อนตัวเครื่องมี Heat Pipe จำนวน 2 เส้น วางพาดยาวไล่ไปทั้งชิพการ์ดจอและตัวซีพียูเอง ส่วนพัดลมเครื่องนี้ก็มีมาให้ 2 ตัว เป่าลมออกด้านหลังเครื่องออกแบบมาได้ดีเลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP Pavilion Power 15 ปี 2018 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครัน ด้วยความที่ออกแบบบอดี้มาใหม่สวยสดและเน้นความบาง น้ำหนักเบาเป็นหลัก ซึ่งถือได้ว่าดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้พอสมควร โดยมีพอร์ต USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต (ของเดิมจะมี USB 2.0 ติดมาให้ 1 พอร์ต), LAN, HDMI, SD Card Reader พร้อมช่องต่อหูฟังและไมค์แบบคอมโบขนาด 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ยังมาพร้อมกับ USB 3.1 Type-C อีก 1 พอร์ตอีกด้วย ถือว่าค่อนข้างครบครันจริงๆ ในการใช้งาน
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.18 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่เกิน 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
Performance / Software
สำหรับตัว HP Pavilion Power 15 ปี 2018 มาพร้อม CPU ที่เป็น Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz ถึง 3.80 GHz เแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมแรมภายในขนาด 4GB DDR4 bus 2400 MHz หนึ่งแถว (ใส่ได้สูงสุดสองแถว เครื่องที่นำมารีวิวทีมงานได้ทำการใส่แรมเพิ่มอีก 4GB หนึ่งแถว)
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ยอดนิยมอย่าง Nvidia GeForce GTX 1050 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M พอสมควร เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
มาในส่วนของการทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 7200 รอบที่ติดตั้งมาให้กัน ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 56.7 MB/s และสูงสุดที่ 152.1 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 112.5 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.7 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
ซึ่งในส่วนนี้เราจะทดสอบ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 6 เกม มาดูเลยกราฟด้านล่างกันเลยดีกว่าครับว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง โดยในการทดสอบนี้ทีมงานได้เพิ่มแรมไปเป็น 8GB เรียบร้อยแล้ว เพราะ 4GB เดิมๆ อาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนการทดสอบเล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพ
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีน่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 (ทีมงานใส่เพิ่ม 4 GB ) รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 ที่ทำให้โหลดฉากต่างๆ ได้ค่อนข้างเร็วกว่า 5400 รอบแบบเดิมๆ
มาดูทางด้ายเกมที่เกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / Battlefield 1 / Overwatch / DotA 2 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด(ที่ทำได้) ซึ่งเฟรทเรทเฉลี่ยเกิน 30 FPS ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ส่วนเกม PUBG เกมสุดกินสเปคเราก็ได้นำมาทดสอบกัน โดยปรับเป็นกราฟิกแบบ Medium ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างลืนไหลในระดับหนึ่ง ซึ่งเฟรทเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 34 ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 รวมไปถึงโน๊ตบุ๊ค HP ทุกรุ่น ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
HP Pavilion Power 15 ปี 2018 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4,000 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็อยู่ระดับพอดีๆ และเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย สามารถใช้งานเล่นเว็ปไซต์ ดู Youtube ได้ประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ก็อยู่ในระดับปกติไม่ได้โดดเด่นอะไร
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมิที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงด้านล่างขอบเครื่องด้านขวาใต้ Numpad โดยตัวเครื่องเมื่อใช้งานหนักๆ จะมีอุณหภูมิสูงสุดไม่เกิน 85 องศา (เล่นในห้องแอร์) ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว
Conclusion / Award
สรุปได้ว่า HP Pavilion Power 15 ปี 2018 เป็นโน๊ตบุ๊คมัลติมีเดียหรือจะนำมาเล่นเกมที่น่าสนใจมากๆ ด้วยสเปคเครื่องที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Core i7-7700HQ พร้อมด้วยการ์ดจอ Nvidia GeForce GTX 1050 GDDR5 4GB อีกทั้งด้วยที่มีราคาเพียง 27,900 บาท (ถูกลงกว่ารุ่นก่อนหน้า 2,000 บาท)ให้แรมมาขนาด 4GB ฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB พร้อมหน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD แบบ IPS ให้ภาพที่สีสดชื่นแจ่มใส ใช้งานต่างๆ ได้อย่างคมชัดสวยงามสมราคา
พร้อมด้วยระบบเสียง B&O ที่สามารถดูหนัง ฟังเพลง และตัวเครื่องยังรองรับการเพิ่ม SSD M.2 NVMe ได้อีกด้วย ซึ่งตรงนี้แนะนำเลยว่าถ้าเป็นไปได้ควรอัพเกรดแรมเป็น 8GB ขึ้นไป ถึงจะเล่นเกมได้ลื่น ส่วน SSD ไว้มีโอกาสสามารถอัพเกรดได้ภายหลัง
ที่สำคัญการมาของบอดี้ใหม่ของตัว Pavilion นี้มาพร้อมกับ USB 3.1 Type-C ทำให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคตได้ รวมถึงวัสดุและการออกแบบที่ดูดีขึ้น มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง บวกการรับประกันอย่าง HP Onsite Service รับซ่อมเครื่องถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง แต่กระนั้นแล้วข้อสังเกตก็พอมีอยู่บ้างเช่นปุ่มลูกศรที่คีย์บอร์ดค่อนข้างเล็ก และการแกะเครื่องเพื่อทำการอัพเกรดทำได้ค่อนข้างยาก
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยและงานประกอบมีความประณีต ดูหรูหราและโดดเด่น
- ใช้วัสดุชั้นดีอย่างอลูมิเนียมทำให้ตัวเครื่องแข็งแรง
- สเปคสูงด้วย Core i7-7700HQ + GTX 1050
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง
- มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 Type-C
- ระบบเสียง Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดีพอสมควร
- รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 NVMe
- รับประกันอยู่ที่ 2 ปี พร้อมบริการ On-site Service
- HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีระดับนึง
ข้อสังเกต
- Ram ตัวเครื่องให้มา 4GB ถ้าเอามาเล่นเกมหนักๆ ไม่พอ
- การแกะเครื่องอัพเกรดทำได้ค่อนข้างยาก
Award
Best Multimedia
HP Pavilion Power 15 เลือกระบบเสียง Bang & Olufsen และหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD พาเนล IPS มาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมเป็นอย่างจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะได้รับรางวัลนี้ไป
Best Value
ด้วย HP Pavilion Power 15 ให้สเปคที่จัดเต็ม ในราคาเพียง 27,900 บาท ที่ได้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD IPS, Core i7-7700HQ, GTX 1050 พร้อมรองรับ SSD m.2 PCIE NVMe บอดี้ดีไซน์ใหม่ เรียกได้ว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์กันเลยทีเดียวครับ
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นอีกอย่างของเจ้า HP Pavilion Power 15 เครื่องนี้เลย ด้วยการดีไซน์ใหม่ที่เป็นสีดำ เน้นเรียบง่ายแต่สวยงาม ตัวเครื่องวัสดุงานประกอบทำได้ดี โดยเฉพาะตัวรองยางที่อยู่บนฝาบนหน้าจอที่ออกแบบมาทำให้ตัวเครื่องยกเครื่องสูงขึ้น ช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนและสรีระเวลาพิมพ์งานให้คล่องขึ้นอีกด้วย
Best Performance
HP Pavilion Power 15 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องขนาด 4GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ M.2 NVMe ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Specification
ก่อนอื่นเลยเรามาดูสเปคเจ้าเครื่อง HP Pavilion Power 15 ติดตั้งชิปประมวลผลตัวแรง รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ศักยภาพสูง แบบ 4 Cores/ 8 Threads ใช้การ์ดจอแยกอย่าง NVDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) รุ่นยอดนิยม ใส่ฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 7200 RPM (สามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม SSD แบบ M.2 PCIe Gen 3 NVMe ได้) พร้อมแรมขนาด 4 GB DDR4 bus 2400 MHz (แนะนำให้อัพเกรดเป็น 8GB ทันที)
หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านลดแสงสะท้อน พาเนลจอ IPS ความคมชัดสูง มีกล้องเว็บแคมมุมกว้าง 77 องศา และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มี รูฟังและไมค์โครโฟรแบบคอมโบ 1 ช่อง, USB 2.0 จำนวน 1 ช่อง , USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง, LAN, HDMI และที่สำคัญมาพร้อม USB 3.1 Type-C อีก 1 ช่องด้วย ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายเป็น Bluetooth 4.2 และ Wireless แบบ 802.11 a/b/g/n/ac
มิติของตัวเครื่อง HP Pavilion Power cb035TX เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คจอขนาด 15.6 นิ้ว ก็มีขนาดมาตรฐานทั่วไป บนน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 2.18 กิโลกรัม พกพาง่าย เพราะ ตัวเครื่องได้รวมเอาแบตเตอรี่เอาไว้ภายในตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องเล็กลงพกพาง่ายขึ้น พร้อมสนนราคาอยู่ที่ 27,900 บาท เท่านั้น พร้อมการรับประกันขั้นเทพ 2 ปี ซ่อมฟรีถึงบ้านและบริการช่วยเหลืออื่นๆ
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกับรุ่นที่เปิดตัวปี 2017 แต่แตกต่างเรื่องของสีสัน โดยตัวเครื่องยังคงความสวยแต่ดูเรียบง่ายขึ้นจากการใช้โทนดำเป็นหลักไม่มีการตัดด้วยสีเขียวอีกต่อไป แต่แทนที่ด้วยไฟคีย์บอร์ดสีเขียวแบบเดิมๆ เน้นเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงาน ดูแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปซึ่งส่วนมากจะเป็นสีดำล้วนบ้าง สีดำแดงบ้าง สีดำส้มบ้าง ส่วนเนื้องานการประกอบถือว่าทำได้แน่น เนี้ยบ สวยงามเรียบหรูสมกับเป็นแบรนด์ HP เลยทีเดียว
เริ่มจากด้านนอกตัวเครื่องบอดี้เป็นสีดำ วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี ตัดด้วยโลโก้ HP สีเงินแวววาวที่เป็นโครเมียมด้านหลัง สังเกตว่าด้านหลังฝาหน้าจอจะมียางรองสีดำ ซึ่งไว้สำหรับตั้งโน๊ตบุ๊คให้สูงขึ้นจากระดับตัวพื้นให้สูงขึ้น เพื่อให้เวลาพิมพ์งานหรือเล่นเกมได้วางมือได้ถูกหลักสรีระ และยังช่วยในเรื่องของการระบายความให้ดีขึ้นด้วย ส่วนสีด้านใต้เครื่องจะเป็นสีเดียวกันกับด้านนอกดูสวยงาม พร้อมมียางรองสีดำ 4 ตำแหน่ง รูปแบบตัว X เป็นตัวเอกลักษณ์สำหรับรุ่นนี้
มาดูส่วนด้านในตัวเครื่องกันบ้าง ก็ยังคงเป็นสีดำเรียบๆ เหมือนบอดี้ด้านนอก ซึ่งวัสดุตรงแผงคีย์บอร์ดจะเป็นอะลูมิเนียม แข็งแรงดูดีเลยทีเดียวและจุดเด่นที่สุดเลยอีกอย่างคือการระบายความร้อนอยู่ที่แกนบานพับตัวเครื่อง ทำให้พัดลมระบายความร้อนไม่เป่าลมร้อนออกมาโดนผู้ใช้ ซึ่งหากดูจากภาพรวมและการดีไซน์ทั้งหมดของ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ตัวนี้ เรียกได้ว่า ทำออกมาได้สวยงามมากเลยทีเดียว เหมาะกับเกมเมอร์ที่ชอบดีไซน์เรียบๆ แต่แฝงไปด้วยขุมพลังที่เต็มเปี่ยมพอๆ กับโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสิทธิภาพรุ่นอื่นๆ เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการที่ HP Pavilion Power 15 รุ่นใหม่ ออกแบบตัวเครื่องดีไซน์ได้ลงตัว เน้นไปในทิศทางโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานได้หลากหลายไม่ดูเป็น Gaming Notebook จนเกินไป แน่นอนหลายคนอาจจะชอบบ้างไม่ชอบบ้างก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน หรือบางคนอาจจะชอบสีดำแดง หรือสีดำขาวมากกว่า ซึ่งตอนนี้ HP Pavilion Power ที่เป็นสีดำออกมาแล้ว ใครที่อาจจะไม่ชอบสีเขียวก็จัดกันได้เลย ส่วนตัวเครื่องบางน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว มาตรฐานทั่วไป บนน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 2.18 กิโลกรัม พกพาง่าย เพราะ ตัวเครื่องได้รวมเอาแบตเตอรี่เอาไว้ภายในตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องเล็กลงพกพาง่ายขึ้น
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ด HP Pavilion Power 15 ปี 2018 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรสีเขียวฟอนต์เรียบง่าย มาพร้อมแป้นพิมพ์ขนาดใหญ่ แบบมาตรฐาน island-style สามารถใช้งานได้สะดวก และแน่นอนว่ามาพร้อมกับปุ่มชุดตัวเลข Numpad ด้านขวา พร้อมไฟ Backlit สีขาว โดยจะมีแค่เปิด-ปิดไฟเท่านั้น ไม่สามารถปรับรับไฟได้ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบน เวลาเปิดไฟจะขึ้นเป็นสีเขียว ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ ซึ่งโดยรวมแล้วแม้ไม่ใช่คีย์บอร์ด Gaming เหมือนรุ่นอื่น แต่ก็พอที่จะใช้งานได้อย่างไม่ติดขัดอะไร
ทางด้านทัชแพดของตัวเครื่องมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และกว้างกว่าปกติ เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบเรียบๆ สีดำซ่อนปุ่ม โดยไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ HP Pavilion รุ่นก่อนหน้าการใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี พร้อมรองรับระบบสั่งการแบบมัลติทัช ที่ตอบสนองการใช้งานได้ดีเพราะหน้ากว้างใช้งานสะดวก
Screen / Speaker
HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ทางด้านหน้าจอแสดงผลมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD แบบจอด้าน ลดแสงสะท้อน พร้อมใช้พาเนล IPS ซึ่งทำให้มีมุมมองกว้างและสีสันที่สดใส สามารถแสดงผลภาพในการทำงาน ดูหนัง เล่นเกมได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนในทุกมุมมอง เหนือกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วมาตรฐานรุ่นอื่นพอสมควรที่ใช้พาแนล TN และตัวโน๊ตบุ๊คยังมีกล้องเว็บแคม HP แบบ HD Wide Vision พร้อมมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ทำให้สามารถใช้กล้อง Webcam ได้เป็นอย่างดี
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 215 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอด้านบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องมุมขวาบนเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 17% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
ทางด้านลำโพงเจ้าเครื่องนี้ก็เลือกใช้ระบบเสียง Bang & Olufsen โดยตัวลำโพงจะอยู่บนแผงคีย์บอร์ดจำนวน 2 ตัว แยกเสียงซ้ายขวาชัดเจน เช่นเดียวกับรุ่น Pavilion รุ่นอื่น ส่วนเรื่องเสียงก็ให้เสียงที่มีคุณภาพดีและเสียงดังพอสมควร เหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลง สบายๆ ได้หายห่วง อีกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปเลยทีเดียว
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง HP Pavilion Power 15 นั้นสามารถทำได้ค่อนข้างยาก เพราะงานประกอบค่อนข้างแน่น ต้องใช้ฝีมือและทักษะพอสมควร ซึ่งหลังจากถอดน็อตทุกตัวเสร็จหมดแล้ว ต้องใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากหลังมาหน้า และค่อยๆ ทำอย่าใจร้อนไม่งั้นอาจจะหักได้ ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ยังมีน็อตสองตัวซ่อนอยู่ที่ฐานรองซ้ายขวาทางด้านฝั่งหน้าจอ และเมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ อย่างชัดเจนตามรูปเลย
การวางเลย์เอาท์ฮาร์ดแวร์ของเจ้าเครื่องนี้ทำได้ดูดีเลยที วางแบ่งจัดปั่นส่วนได้ดี ซึ่งในส่วนที่สามารถทำการอัพเกรด ก็สามารถทำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเก็บข้อมูลแบบ SATA ขนาด 2.5 นิ้วหรือ SSD แบบ M.2 (รองรับเป็นแบบ NVMe) หรือแรมที่สามารถใส่ได้สูงสุดสองแถว ซึ่งทางทีมงานได้ใส่แรมเพิ่มไปแล้วอีก 4 GB 1 แถว ทำให้เครื่องมีแรมเป็น 8GB ส่วนเรื่องระบายความร้อนตัวเครื่องมี Heat Pipe จำนวน 2 เส้น วางพาดยาวไล่ไปทั้งชิพการ์ดจอและตัวซีพียูเอง ส่วนพัดลมเครื่องนี้ก็มีมาให้ 2 ตัว เป่าลมออกด้านหลังเครื่องออกแบบมาได้ดีเลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP Pavilion Power 15 ปี 2018 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครัน ด้วยความที่ออกแบบบอดี้มาใหม่สวยสดและเน้นความบาง น้ำหนักเบาเป็นหลัก ซึ่งถือได้ว่าดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้พอสมควร โดยมีพอร์ต USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต (ของเดิมจะมี USB 2.0 ติดมาให้ 1 พอร์ต), LAN, HDMI, SD Card Reader พร้อมช่องต่อหูฟังและไมค์แบบคอมโบขนาด 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ยังมาพร้อมกับ USB 3.1 Type-C อีก 1 พอร์ตอีกด้วย ถือว่าค่อนข้างครบครันจริงๆ ในการใช้งาน
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.18 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่เกิน 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
Performance / Software
สำหรับตัว HP Pavilion Power 15 ปี 2018 มาพร้อม CPU ที่เป็น Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz ถึง 3.80 GHz เแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมแรมภายในขนาด 4GB DDR4 bus 2400 MHz หนึ่งแถว (ใส่ได้สูงสุดสองแถว เครื่องที่นำมารีวิวทีมงานได้ทำการใส่แรมเพิ่มอีก 4GB หนึ่งแถว)
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ยอดนิยมอย่าง Nvidia GeForce GTX 1050 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M พอสมควร เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
มาในส่วนของการทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 7200 รอบที่ติดตั้งมาให้กัน ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 56.7 MB/s และสูงสุดที่ 152.1 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 112.5 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.7 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
ซึ่งในส่วนนี้เราจะทดสอบ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 6 เกม มาดูเลยกราฟด้านล่างกันเลยดีกว่าครับว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง โดยในการทดสอบนี้ทีมงานได้เพิ่มแรมไปเป็น 8GB เรียบร้อยแล้ว เพราะ 4GB เดิมๆ อาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนการทดสอบเล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพ
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีน่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 (ทีมงานใส่เพิ่ม 4 GB ) รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 ที่ทำให้โหลดฉากต่างๆ ได้ค่อนข้างเร็วกว่า 5400 รอบแบบเดิมๆ
มาดูทางด้ายเกมที่เกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / Battlefield 1 / Overwatch / DotA 2 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด(ที่ทำได้) ซึ่งเฟรทเรทเฉลี่ยเกิน 30 FPS ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ส่วนเกม PUBG เกมสุดกินสเปคเราก็ได้นำมาทดสอบกัน โดยปรับเป็นกราฟิกแบบ Medium ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างลืนไหลในระดับหนึ่ง ซึ่งเฟรทเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 34 ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion Power 15 ปี 2018 รวมไปถึงโน๊ตบุ๊ค HP ทุกรุ่น ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
HP Pavilion Power 15 ปี 2018 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4,000 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็อยู่ระดับพอดีๆ และเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย สามารถใช้งานเล่นเว็ปไซต์ ดู Youtube ได้ประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า HP Pavilion Power 15 ปี 2018 ก็อยู่ในระดับปกติไม่ได้โดดเด่นอะไร
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมิที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงด้านล่างขอบเครื่องด้านขวาใต้ Numpad โดยตัวเครื่องเมื่อใช้งานหนักๆ จะมีอุณหภูมิสูงสุดไม่เกิน 85 องศา (เล่นในห้องแอร์) ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว
Conclusion / Award
สรุปได้ว่า HP Pavilion Power 15 ปี 2018 เป็นโน๊ตบุ๊คมัลติมีเดียหรือจะนำมาเล่นเกมที่น่าสนใจมากๆ ด้วยสเปคเครื่องที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Core i7-7700HQ พร้อมด้วยการ์ดจอ Nvidia GeForce GTX 1050 GDDR5 4GB อีกทั้งด้วยที่มีราคาเพียง 27,900 บาท (ถูกลงกว่ารุ่นก่อนหน้า 2,000 บาท)ให้แรมมาขนาด 4GB ฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB พร้อมหน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD แบบ IPS ให้ภาพที่สีสดชื่นแจ่มใส ใช้งานต่างๆ ได้อย่างคมชัดสวยงามสมราคา
พร้อมด้วยระบบเสียง B&O ที่สามารถดูหนัง ฟังเพลง และตัวเครื่องยังรองรับการเพิ่ม SSD M.2 NVMe ได้อีกด้วย ซึ่งตรงนี้แนะนำเลยว่าถ้าเป็นไปได้ควรอัพเกรดแรมเป็น 8GB ขึ้นไป ถึงจะเล่นเกมได้ลื่น ส่วน SSD ไว้มีโอกาสสามารถอัพเกรดได้ภายหลัง
ที่สำคัญการมาของบอดี้ใหม่ของตัว Pavilion นี้มาพร้อมกับ USB 3.1 Type-C ทำให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคตได้ รวมถึงวัสดุและการออกแบบที่ดูดีขึ้น มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง บวกการรับประกันอย่าง HP Onsite Service รับซ่อมเครื่องถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง แต่กระนั้นแล้วข้อสังเกตก็พอมีอยู่บ้างเช่นปุ่มลูกศรที่คีย์บอร์ดค่อนข้างเล็ก และการแกะเครื่องเพื่อทำการอัพเกรดทำได้ค่อนข้างยาก
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยและงานประกอบมีความประณีต ดูหรูหราและโดดเด่น
- ใช้วัสดุชั้นดีอย่างอลูมิเนียมทำให้ตัวเครื่องแข็งแรง
- สเปคสูงด้วย Core i7-7700HQ + GTX 1050
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง
- มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 Type-C
- ระบบเสียง Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดีพอสมควร
- รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 NVMe
- รับประกันอยู่ที่ 2 ปี พร้อมบริการ On-site Service
- HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีระดับนึง
ข้อสังเกต
- Ram ตัวเครื่องให้มา 4GB ถ้าเอามาเล่นเกมหนักๆ ไม่พอ
- การแกะเครื่องอัพเกรดทำได้ค่อนข้างยาก
Award
Best Multimedia
HP Pavilion Power 15 เลือกระบบเสียง Bang & Olufsen และหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD พาเนล IPS มาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมเป็นอย่างจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะได้รับรางวัลนี้ไป
Best Value
ด้วย HP Pavilion Power 15 ให้สเปคที่จัดเต็ม ในราคาเพียง 27,900 บาท ที่ได้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD IPS, Core i7-7700HQ, GTX 1050 พร้อมรองรับ SSD m.2 PCIE NVMe บอดี้ดีไซน์ใหม่ เรียกได้ว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์กันเลยทีเดียวครับ
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นอีกอย่างของเจ้า HP Pavilion Power 15 เครื่องนี้เลย ด้วยการดีไซน์ใหม่ที่เป็นสีดำ เน้นเรียบง่ายแต่สวยงาม ตัวเครื่องวัสดุงานประกอบทำได้ดี โดยเฉพาะตัวรองยางที่อยู่บนฝาบนหน้าจอที่ออกแบบมาทำให้ตัวเครื่องยกเครื่องสูงขึ้น ช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนและสรีระเวลาพิมพ์งานให้คล่องขึ้นอีกด้วย
Best Performance
HP Pavilion Power 15 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องขนาด 4GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ M.2 NVMe ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล