เป็นที่ทราบกันว่าปัญหา DRAM ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และในอุตสาหกรรมตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ยิ่งทำให้ตลาดโลกมีความต้องการในการใข้งานที่มากขึ้น ไม่จำกัดแค่คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นอีกด้วย จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ DDR4 ราคากระโดดเป็นสองเท่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้
และราคาแรมที่เพิ่มขึ้นนี้ สร้างรายได้มหาศาลให้กับผู้ผลิตรายใหญ่โดยรวม ที่มีผลกำไรสูงขึ้น อาทิเช่น Samsung, SK Hynix และ Micron เป็นต้น ที่ส่งให้กับคู่ค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตแรม DDR4 รายต่างๆ เช่น G.Skill หรือ Corsair เพื่อตอบสนองความต้องการผู้ใช้ในท้องตลาดได้ทั่วถึง แม้ว่าเวลานี้ราคาแรมจะเริ่มทรงตัว แต่ก็การคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นเป็น 75% ในปีหน้า
ราคาเฉลี่ยของแรม DDR4 ในบัสปกติ คือบัสแรมที่น้อยกว่า DDR4 3000 จะอยู่ที่ราวๆ 7,000 – 8,000 บาทสำหรับ 16GB ส่วน 8GB จะอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท จะเห็นได้ว่าสูงกว่าเมื่อปลายปี 2016 อยู่ไม่น้อย
และแน่นอนว่ายอดขายแรมจะเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกันในไตรมาส 4 ของปีต่อปี และมูลค่าสูงถึง 21.1 พันล้านเหรียญ ตามข้อมูลที่ได้บน IC Insight และที่สำคัญยอดขายแรมในปี 2017 นี้ เติบโตขึ้นทุกๆ ไตรมาสอีกด้วย เป็นการสร้างสถิติใหม่ตลอด นับตั้งแต่ปี 1993 ยอดจำหน่าย DRAM สูงขึ้นกว่า 50% และอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ 13% ต่อปีตามข้อมูลของ IC Insight แต่ก็ยังพอมีข่าวดีสำหรับผู้ใช้ เพราะผู้ผลิตมีแนวโน้มขยายกำลังการผลิต เพื่อเพิ่มปริมาณแรมให้ป้อนสู่ตลาดได้มากขึ้นอีกในช่วง 2 ปีข้างหน้านี้ แต่ถ้าถามว่าปีหน้านี้ จะมีโอกาสที่ได้ใช้แรมในราคาที่ถูกลงบ้างมั้ย? คงบอกได้ยาก และน่าจะยังส่งผลต่อราคาของโน๊ตบุ๊คและพีซีประกอบต่อไปสักระยะ …ได้แต่ร้องเพลงรอ
ที่มา : DDR4