หากนึกถึง Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แวบแรกเราก็จะนึกถึงตัวเครื่องที่ใหญ่ หนา โดยมีน้ำหนักระดับ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเครื่องนั้นใช้สเปกภายในที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ ทำให้จำเป็นต้องใช้ชุดระบายความร้อนที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ตัวเครื่องนั้น ใหญ่ หนา หนัก เป็นธรรมดา
ซึ่งในบทความนี้ทางทีมงาน NotebookSPEC จะรีวิวในส่วนของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ที่เป็นรุ่นอัพเดทมาจาก MSI GS63 7RE-032XTH Stealth Proโดยมีสเปกระดับกลางค่อนไปทางสูง แต่จะเน้นในส่วนของหน้าตาตัวเครื่องที่สวยงาม มีการออกแบบมาให้มีความเรียบหรูและบางเบาพร้อมฟีเจอร์มากมาย โดยตัวเครื่องจะมีน้ำหนักที่เบาที่สุดจากทุก Series และจากการที่ใช้ชุดระบายความร้อนที่พัฒนามาอย่างดี มีน้ำหนักแค่ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้นเอง แต่ได้สเปก Core i7-7700HQ + NVIDIA GeForce GTX 1050Ti + หน้าจอ 15.6″ Full HD พร้อมรองรับการแสดงผล 120Hz
VDO Review
Specification
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูล 1TB 7200 RPM พร้อมรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว อัพเกรดได้สูงสุด 32GB
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง VA ที่เทคโนโลยี Wide Viewing Angle Display ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญต่างจากรุ่นก่อนหน้าก็คือการรองรับ 120Hz ส่งผลให้เล่นเกมได้ลื่นไหลสุดๆ และตัวเครื่องยังมีลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio พร้อมซอฟแวร์เสียง Nahimic เวอร์ชั่น 2 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า
พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, mini DisplayPort, 3 x USB 3.0, USB 2.0, Thunderbolt 3 (USB Type-C), Kensington lock slot, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac สนนราคา MSI GS63 7RE Stealth Pro เริ่มจะอยู่ที่ 52,900 บาท มาพร้อมการรับประกันมาตรฐาน MSI จำนวน 2 ปี
หน้าสเปกของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro
Hardware / Design
สำหรับMSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่สามารถทำได้ดีมากๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจเคอเกมอย่างสุดๆ ด้วยการขัดเงาพร้อมเส้นสายที่ดูโดดเด่น มีลูกเล่นนูนตามสไตล์ฝากระโปรงรถสปอร์ต ตัดด้วยโลโก้มันกรแดง Dragon Army ที่มีไฟสวยงาม ยิ่งในที่มืดๆ ยิ่งเห็นชัด
ด้านฐานล่างตัวเครื่องใช้วัสดุผ้ากํามะหยี่คลุมตลอดทั้งชิ้นเพื่อดักจับฝุ่นก่อนเข้าเครื่อง อีกทั้งยังส่งผลให้มีสัมผัสที่ดีในการจับถือ นอกจากนี้ยังมียางรอง 9 จุด ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นเข้าช่องดูดลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องอยู่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านข้างทางขวา (ในการกดเปิดต้องกดค้างเล็กน้อย) ซึ่งถูกย้ายจากรุ่นก่อนๆ ที่ปกติแล้วจะอยู่เหนือคีย์บอร์ด แทนที่ด้วยไฟ LED การเปิดเครื่องแทน เพื่อการติดตั้งชุดระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 6 เส้น หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ขอบตัวเครื่องด้านหน้ามีไฟแสดงผล 7 ดวงสีแดง เวลาใช้งานจะกระพริบแสดงสถานะ ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมขัดสีดำด้าน โดดเด่นด้วยตัวคีย์บอร์ดแป้นพิมพ์เกมมิ่งแบบ SteelSereies พร้อมไฟ RGB สวยงาม เรียกได้ว่ายังคงรักษาความสำเร็จของรุ่นก่อนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสได้ถึงความเป็น Gaming Notebook พันธุ์แท้ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูดีและดุดัน ที่สำคัญยังสามารถใช้งานได้จริง ที่ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย ด้วยน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ยังใช้เป็นคีย์บอร์ดแบรนด์ SteelSeries ที่ถูกคิดค้นพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้เกมมิ่งคีย์บอร์ดแยก บนไฟ LED RGB เปลี่ยนสีได้ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน Steelseries Engine 3 ได้ด้วยเช่นกัน
แต่ส่วนของทัชแพดมีขนาดใหญ่ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง แต่ว่าจะมีผิวสัมผัสที่สากกว่า ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งไปซักเล็กน้อย แต่การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับรับได้ (ถ้าเน้นใช้เมาส์ไม่ต้องซีเรียสมาก) ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี มีการตัดขอบไฟ LED สีแดง ที่ขอบนอกเข้ากับตัวคีย์บอร์ด
Screen / Speaker
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 120Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น ที่แม้ว่าจะเป็นพาเนล VA ไม่ใช่ IPS แบบรุ่นก่อน ถ้าไม่นับเรื่องมุมมองที่เป็นรอง เรื่องสีสันก็ไม่ได้เสียเปรียบกรณีที่ใช้งานคนเดียวมองตรงๆ เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าแทบเท่าพาเนล IPS เลยทีเดียว ยิ่งปรับโปรไฟล์สีผ่านซอฟแวร์ MSI True Color เทคโนโลยีที่ให้ค่าสีที่สมจริง ใกล้เคียงกับ 100% sRGB พร้อมโหมดพรีเซ็ทปรับได้อีก 6 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ก็แจ่มและใช้งานได้จริง
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Proที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล VA ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 100% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอด้านบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องกลางล่างและด้านซ้ายล่างเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 28% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง DYNAUDIO แบบสเตอริโอ โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic เวอร์ชั่น 2 สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน ใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียง และความกว้างของเวทีได้สูงขึ้นถึง 30% อีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปประมวลต่างหาก
Connector / Thin And Weight
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3x USB 3.0, 1x USB 2.0, Thunderbolt 3 (USB Type-C) 1x HDMI 1.4, 1x miniDisplayPort 1.2, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out แน่นอนว่าด้วยความป็นที่โน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาทำให้ได้มีการตัดไดร์ฟ DVD-RW ออกไปนั่นเอง อย่างไรก็ตาม พอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้
มีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอเล่นเกม ได้หลากหลายจอแบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 3, HDMI และ miniDisplayPort ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดั ด้วยน้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook
Performance / Software
โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 970M อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 7200 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 20MB/s และสูงสุดที่ 134MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 94MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 20.2 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ และ SSD ทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดียิ่งกว่า
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V (Best)/ Battlefield 1 (Ultra)/ NFS : Payback (Ultra) ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย เมื่อเปิด V-Sync (แต่ตอนทดสอบปิดนะ)
ส่วนอีก 3 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch (Epic), DOTA 2 (Best) ค่าเฟรมเรทไม่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 60 – 70 เฟรมเช่นกัน พูดได้เลยว่าลื่นไหลหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นฉากบวก ฉากตะลุมบอนก็สามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ต่อมาดูเกมเกม PUBG (Ultra) กัน ก็สามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นในระดับหนึ่งที่เฉลี่ยเกือบๆ 30 FPS ซึ่งพบอาการโหลดฉากไม่ทัน บ้านตึกเป็นดินน้ำมัน โดยต้องใช้เวลาโหลดเพิ่มอีกจากกระโดดร่มถึงพื้นประมาณ 20 วินาที ถึงจะเข้าบ้านได้ และมีอาการกระตุกนิดหน่อยเวลาเล่น โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเกมได้เรนเดอร์ฉากเสร็จทั้งหมดซึ่งเวลาประมาณ 2 นาทีครับ
- แนะนำสำหรับเกมมุมมองบุคคลที่ 1 อาทิ CS:GO หรือ Overwatch ถ้าต้องการใช้งานหน้าจอ 120Hz แบบเต็มประสิทธิภาพ ก็จำเป็นต้องปรับความสวยของเกมลงมา ประมาณ Medium เพื่อให้เครื่องสามารถขับเฟรมเรทสูงๆ ได้
MSI DRAGON CENTER เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ดังนี้
- App Portal : ทางลัดในการเข้าสู่โปรแกรมต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- System Monitor : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- LED Wizard : ปรับแต่งไฟคีย์บอร์ด RGB ตามความต้องการ
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วนของ MSI True Color ที่เราสามารถปรับโปรไฟล์สีสันได้ รวมไปถึง SteelSeries Engine 3 ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้
ปิดท้ายด้วยโปรแกรม Killer Control Center ที่เราสามารถปรับแต่งได้การใช้งานเครือข่ายได้อย่างอิสระ ช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีความสเถียรยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อลดอาการกระตุนภายในเกมออนไลน์ต่างๆ อีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 5 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก) แต่อย่างไรก็ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่มีพัดลม 3 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง
Conclusion / Award
สรุปรีวิว MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro เป็น Gaming Notebook เน้นความบางเบา โดยมีน้ำหนักแค่ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงระดับกลางค่อนบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ดีและคุ้มค่าที่สุดของปี 2017 เลยก็ว่าได้ ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่เป็น Core i Gen 7 Kaby Lake บนแรม DDR4 ที่อัพเกรดได้ถึง 32GB ที่สำคัญคือควบคุมความร้อนได้แบบมีเสถียรภาพผ่านชุดระบายความร้อน Cooler Boost Trinity โดยจัดเต็มมาให้ด้วยพัดลมถึง 3 ตัว
อีกทั้ง MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บข้อมูลความเร็วสูง PCIe, เทคโนโลยีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 120Hz ขอบเขตสี sRGB 100%, ระบบเสียง Dynaudio – Nahimic 2 , Killer Network , คีย์บอร์ด SteelSeries มีไฟแสดงผลเปลี่ยนสี RGB ได้บนเทคโนโลยี Silver Lining Print พร้อมกันนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 ที่ครอบคลุมใช้ประโยชน์ได้จริงและทันสมัย และขาดไม่ได้เลยสำหรับ MSI Dragon Center ที่บอกได้เลยว่าไม่มี Gaming Notebook แบรนด์ไหนให้ฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์ได้มากมายขนาดนี้ในราคานี้ กับความบางเบาแบบนี้
ถึงแม้ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro จะยังมีข้อสังเกตอยู่บ้างในเรื่องของปุ่มคลิกทัชแพดที่แข็งไปเล็กน้อย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ หรือคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง สนนราคาขายที่ 52,900 บาท ต้องยอมรับเลยว่า MSI GS63 7RE-032XTH Stealth Pro เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ตัวเครื่องบางเฉียบ โดยมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น พกพาสะดวก
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-7700HQ และการ์ดจอ GeForce GTX 1050Ti
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 120Hz ขอบเขตสี sRGB 100%
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, HDMI และ Mini DisplayPort 1.2
- อีกทั้งยังมาพร้อมพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ที่เป็นฟอร์ม USB-C
- มาพร้อมลำโพง Dynaudio ชาแนลพร้อมระบบเสียง Nahimic 2 ให้เสียงที่ดี
- รองรับไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- คีย์บอร์ด SteelSeries ปรับเปลี่ยนสีไฟได้ Silver Lining Print ให้แสงสดใสสวยงาม
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- พอร์ตการเชื่อมต่อชิดกันไปนิด สายพอร์ตอาจจะติดกันได้
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกัน
- น่าจะมี Windows 10 แท้ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานเลย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Technology
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น หน้าจอ 120Hz sRGB 100%, NVMe M.2, Nahimic, DDR4, Steelseries Keyboard, Killer Network, Thunderbolt 3 รวมไปถึงซอฟต์แวร์ MSI Dragon Center ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ยิ่งเทียบในระดับเดียวกันยิ่งหาตัวจับยาก
Best Performance
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Proo มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องที่อัพเกรดได้มากถึง 32GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบา ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งานต่อเนื่องทั้งวัน โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
# บทความรีวิว MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro นี้เป็นการนำบทความรีวิว MSI GS63 7RE-032XTH Stealth Pro มาเพิ่มเติมส่วนของฟีเจอร์หน้าจอ 120Hz เพราะส่วนอื่นๆ มีความเหมือนกันทั้งหมด
VDO Review
Specification
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูล 1TB 7200 RPM พร้อมรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว อัพเกรดได้สูงสุด 32GB
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง VA ที่เทคโนโลยี Wide Viewing Angle Display ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญต่างจากรุ่นก่อนหน้าก็คือการรองรับ 120Hz ส่งผลให้เล่นเกมได้ลื่นไหลสุดๆ และตัวเครื่องยังมีลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio พร้อมซอฟแวร์เสียง Nahimic เวอร์ชั่น 2 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า
พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, mini DisplayPort, 3 x USB 3.0, USB 2.0, Thunderbolt 3 (USB Type-C), Kensington lock slot, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac สนนราคา MSI GS63 7RE Stealth Pro เริ่มจะอยู่ที่ 52,900 บาท มาพร้อมการรับประกันมาตรฐาน MSI จำนวน 2 ปี
หน้าสเปกของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro
Hardware / Design
สำหรับMSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่สามารถทำได้ดีมากๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจเคอเกมอย่างสุดๆ ด้วยการขัดเงาพร้อมเส้นสายที่ดูโดดเด่น มีลูกเล่นนูนตามสไตล์ฝากระโปรงรถสปอร์ต ตัดด้วยโลโก้มันกรแดง Dragon Army ที่มีไฟสวยงาม ยิ่งในที่มืดๆ ยิ่งเห็นชัด
ด้านฐานล่างตัวเครื่องใช้วัสดุผ้ากํามะหยี่คลุมตลอดทั้งชิ้นเพื่อดักจับฝุ่นก่อนเข้าเครื่อง อีกทั้งยังส่งผลให้มีสัมผัสที่ดีในการจับถือ นอกจากนี้ยังมียางรอง 9 จุด ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นเข้าช่องดูดลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องอยู่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านข้างทางขวา (ในการกดเปิดต้องกดค้างเล็กน้อย) ซึ่งถูกย้ายจากรุ่นก่อนๆ ที่ปกติแล้วจะอยู่เหนือคีย์บอร์ด แทนที่ด้วยไฟ LED การเปิดเครื่องแทน เพื่อการติดตั้งชุดระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 6 เส้น หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ขอบตัวเครื่องด้านหน้ามีไฟแสดงผล 7 ดวงสีแดง เวลาใช้งานจะกระพริบแสดงสถานะ ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมขัดสีดำด้าน โดดเด่นด้วยตัวคีย์บอร์ดแป้นพิมพ์เกมมิ่งแบบ SteelSereies พร้อมไฟ RGB สวยงาม เรียกได้ว่ายังคงรักษาความสำเร็จของรุ่นก่อนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสได้ถึงความเป็น Gaming Notebook พันธุ์แท้ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูดีและดุดัน ที่สำคัญยังสามารถใช้งานได้จริง ที่ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย ด้วยน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ยังใช้เป็นคีย์บอร์ดแบรนด์ SteelSeries ที่ถูกคิดค้นพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้เกมมิ่งคีย์บอร์ดแยก บนไฟ LED RGB เปลี่ยนสีได้ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน Steelseries Engine 3 ได้ด้วยเช่นกัน
แต่ส่วนของทัชแพดมีขนาดใหญ่ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง แต่ว่าจะมีผิวสัมผัสที่สากกว่า ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งไปซักเล็กน้อย แต่การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับรับได้ (ถ้าเน้นใช้เมาส์ไม่ต้องซีเรียสมาก) ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี มีการตัดขอบไฟ LED สีแดง ที่ขอบนอกเข้ากับตัวคีย์บอร์ด
Screen / Speaker
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 120Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น ที่แม้ว่าจะเป็นพาเนล VA ไม่ใช่ IPS แบบรุ่นก่อน ถ้าไม่นับเรื่องมุมมองที่เป็นรอง เรื่องสีสันก็ไม่ได้เสียเปรียบกรณีที่ใช้งานคนเดียวมองตรงๆ เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าแทบเท่าพาเนล IPS เลยทีเดียว ยิ่งปรับโปรไฟล์สีผ่านซอฟแวร์ MSI True Color เทคโนโลยีที่ให้ค่าสีที่สมจริง ใกล้เคียงกับ 100% sRGB พร้อมโหมดพรีเซ็ทปรับได้อีก 6 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ก็แจ่มและใช้งานได้จริง
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Proที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล VA ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 100% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอด้านบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องกลางล่างและด้านซ้ายล่างเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 28% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง DYNAUDIO แบบสเตอริโอ โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic เวอร์ชั่น 2 สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน ใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียง และความกว้างของเวทีได้สูงขึ้นถึง 30% อีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปประมวลต่างหาก
Connector / Thin And Weight
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3x USB 3.0, 1x USB 2.0, Thunderbolt 3 (USB Type-C) 1x HDMI 1.4, 1x miniDisplayPort 1.2, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out แน่นอนว่าด้วยความป็นที่โน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาทำให้ได้มีการตัดไดร์ฟ DVD-RW ออกไปนั่นเอง อย่างไรก็ตาม พอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้
มีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอเล่นเกม ได้หลากหลายจอแบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 3, HDMI และ miniDisplayPort ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดั ด้วยน้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook
Performance / Software
โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 970M อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 7200 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 20MB/s และสูงสุดที่ 134MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 94MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 20.2 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ และ SSD ทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดียิ่งกว่า
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V (Best)/ Battlefield 1 (Ultra)/ NFS : Payback (Ultra) ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย เมื่อเปิด V-Sync (แต่ตอนทดสอบปิดนะ)
ส่วนอีก 3 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch (Epic), DOTA 2 (Best) ค่าเฟรมเรทไม่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 60 – 70 เฟรมเช่นกัน พูดได้เลยว่าลื่นไหลหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นฉากบวก ฉากตะลุมบอนก็สามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ต่อมาดูเกมเกม PUBG (Ultra) กัน ก็สามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นในระดับหนึ่งที่เฉลี่ยเกือบๆ 30 FPS ซึ่งพบอาการโหลดฉากไม่ทัน บ้านตึกเป็นดินน้ำมัน โดยต้องใช้เวลาโหลดเพิ่มอีกจากกระโดดร่มถึงพื้นประมาณ 20 วินาที ถึงจะเข้าบ้านได้ และมีอาการกระตุกนิดหน่อยเวลาเล่น โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเกมได้เรนเดอร์ฉากเสร็จทั้งหมดซึ่งเวลาประมาณ 2 นาทีครับ
- แนะนำสำหรับเกมมุมมองบุคคลที่ 1 อาทิ CS:GO หรือ Overwatch ถ้าต้องการใช้งานหน้าจอ 120Hz แบบเต็มประสิทธิภาพ ก็จำเป็นต้องปรับความสวยของเกมลงมา ประมาณ Medium เพื่อให้เครื่องสามารถขับเฟรมเรทสูงๆ ได้
MSI DRAGON CENTER เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ดังนี้
- App Portal : ทางลัดในการเข้าสู่โปรแกรมต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- System Monitor : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- LED Wizard : ปรับแต่งไฟคีย์บอร์ด RGB ตามความต้องการ
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วนของ MSI True Color ที่เราสามารถปรับโปรไฟล์สีสันได้ รวมไปถึง SteelSeries Engine 3 ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้
ปิดท้ายด้วยโปรแกรม Killer Control Center ที่เราสามารถปรับแต่งได้การใช้งานเครือข่ายได้อย่างอิสระ ช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีความสเถียรยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อลดอาการกระตุนภายในเกมออนไลน์ต่างๆ อีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 5 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก) แต่อย่างไรก็ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่มีพัดลม 3 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง
Conclusion / Award
สรุปรีวิว MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro เป็น Gaming Notebook เน้นความบางเบา โดยมีน้ำหนักแค่ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงระดับกลางค่อนบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ดีและคุ้มค่าที่สุดของปี 2017 เลยก็ว่าได้ ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่เป็น Core i Gen 7 Kaby Lake บนแรม DDR4 ที่อัพเกรดได้ถึง 32GB ที่สำคัญคือควบคุมความร้อนได้แบบมีเสถียรภาพผ่านชุดระบายความร้อน Cooler Boost Trinity โดยจัดเต็มมาให้ด้วยพัดลมถึง 3 ตัว
อีกทั้ง MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บข้อมูลความเร็วสูง PCIe, เทคโนโลยีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 120Hz ขอบเขตสี sRGB 100%, ระบบเสียง Dynaudio – Nahimic 2 , Killer Network , คีย์บอร์ด SteelSeries มีไฟแสดงผลเปลี่ยนสี RGB ได้บนเทคโนโลยี Silver Lining Print พร้อมกันนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 ที่ครอบคลุมใช้ประโยชน์ได้จริงและทันสมัย และขาดไม่ได้เลยสำหรับ MSI Dragon Center ที่บอกได้เลยว่าไม่มี Gaming Notebook แบรนด์ไหนให้ฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์ได้มากมายขนาดนี้ในราคานี้ กับความบางเบาแบบนี้
ถึงแม้ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro จะยังมีข้อสังเกตอยู่บ้างในเรื่องของปุ่มคลิกทัชแพดที่แข็งไปเล็กน้อย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ หรือคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง สนนราคาขายที่ 52,900 บาท ต้องยอมรับเลยว่า MSI GS63 7RE-032XTH Stealth Pro เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ตัวเครื่องบางเฉียบ โดยมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น พกพาสะดวก
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-7700HQ และการ์ดจอ GeForce GTX 1050Ti
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 120Hz ขอบเขตสี sRGB 100%
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, HDMI และ Mini DisplayPort 1.2
- อีกทั้งยังมาพร้อมพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ที่เป็นฟอร์ม USB-C
- มาพร้อมลำโพง Dynaudio ชาแนลพร้อมระบบเสียง Nahimic 2 ให้เสียงที่ดี
- รองรับไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- คีย์บอร์ด SteelSeries ปรับเปลี่ยนสีไฟได้ Silver Lining Print ให้แสงสดใสสวยงาม
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- พอร์ตการเชื่อมต่อชิดกันไปนิด สายพอร์ตอาจจะติดกันได้
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกัน
- น่าจะมี Windows 10 แท้ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานเลย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Technology
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น หน้าจอ 120Hz sRGB 100%, NVMe M.2, Nahimic, DDR4, Steelseries Keyboard, Killer Network, Thunderbolt 3 รวมไปถึงซอฟต์แวร์ MSI Dragon Center ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ยิ่งเทียบในระดับเดียวกันยิ่งหาตัวจับยาก
Best Performance
MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Proo มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องที่อัพเกรดได้มากถึง 32GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบา ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งานต่อเนื่องทั้งวัน โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
# บทความรีวิว MSI GS63 7RE-049XTH Stealth Pro นี้เป็นการนำบทความรีวิว MSI GS63 7RE-032XTH Stealth Pro มาเพิ่มเติมส่วนของฟีเจอร์หน้าจอ 120Hz เพราะส่วนอื่นๆ มีความเหมือนกันทั้งหมด