ปัจจุบันนี้หากใครที่ใช้คอมพิวเตอร์อยู่แล้วไม่รู้จัก SSD (Solid State Drive) ขอบอกเลยว่าเชยมาก ซึ่งนับวัน SSD เองก็จะเริ่มมีบทบาทมากยิ่งขึ้น บางรุ่นบางเครื่องซื้อคอมมาก็ติดตั้งมาให้เลย เพราะ ตัวระบบปฏิบัติการ Windows สมัยนี้กินสเปค กินทรัพยากรในตัวเครื่องมากขึ้น และมักจะทำให้ใครหลายคนหงุดหงิดสุดๆ เวลาขึ้นเปิด Task Manager แล้วเจอ Disk 100% ซึ่งวิธีการก็แก้ปัญหาง่ายๆ คือ ใช้ SSD นั่นเอง
VDO Review
และในบทความนี้เองทีมงานก็จะมารีวิว SSD รุ่นล่าสุดของทาง WD ซึ่งมีความจุสูงถึง 1 TB ถือว่าเยอะมากๆ เทียบเท่าฮาร์ดดิสก์ขนาดปกติเลยเดียว แต่ความสามารถเรื่องความเร็วการอ่านเขียวนี่เร็วกว่าหลายขุมแบบไม่ต้องพูดถึงก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่ รุ่นที่ทางทีมงานได้ว่ารีวิวจะใช้ชื่อว่า WD BLUE 3D NAND SATA SSD ขนาด 1 TB ซึ่งซีรีย์ Blue นี่เองก็จะเน้นเรื่องของความคุ้มค่าเป็นหลัก
โดยหน้ากล่องจะมีระบุว่าใช้ชิปแบบใหม่ที่เป็น 3D NAND ชัดเจน เพื่อป้องกันการสับสนกับรุ่นเก่าที่ยังไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ (ตัวเก่าจะมีราคาถูกกว่านิดหน่อย และในอนาคตจะเหลือแค่เพียงรุ่นที่เป็น 3D NAND เท่านั้น)
สเปคของ WD BLUE 3D NAND SATA SSD ตัวนี้มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตชิปแบบ 3D NAND ซึ่งจัดเก็บข้อมูลได้แบบแนวตั้งแบบ 64 เลเยอร์ ที่ทั้งช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพ ความจุ ความคงทน รวมถึงอายุการใช้งานที่สามารถใช้งานมากกว่าเดิม ซึ่งสามารถใช้ได้ยาวนานสูงสุดถึง 1,750,000 ชั่วโมง หรือประมาณ 15 ปี ทำให้ WD BLUE 3D NAND SATA SSD ถือว่าเป็น SSD ที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดในขณะนี้
ราคา
- ความจุ 250GB ราคา 4,290 บาท
- ความจุ 500GB ราคา 7,590 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 13,900 บาท
- ความจุ 2TB ราคา 26,900 บาท
WD BLUE 3D NAND SATA SSD มาพร้อมกัน 2 รูปแบบการเชื่อมต่อคือแบบ 2.5 นิ้วหนา 7 มม. ซึ่งเป็นแบบฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ในโน๊ตบุ๊คทั่วไป และแบบ M.2 2280 ไซท์มาตรฐานที่อยู่บนเมนบอร์ดของโน๊ตบุ๊คและ PC Desktop เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อ SATA III 6GB/s พอร์ตการเชื่อมต่อมาตรฐานที่ใช้งานกันทั่วไปในปัจจุบัน โดยตามสเปคมีความเร็วการอ่านอยู่ที่ 560 MB/s และเขียนอยู่ที่ 530 MB/s ส่วนการรับประกันจะอยู่ที่ 3 ปีเต็ม
การประกอบใส่เข้ากับตัวเครื่องโน๊ตบุ๊ค
หากเพื่อนคนไหนมีโน๊ตบุ๊คอยู่แล้วไม่ว่าจะรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ก็สามารถใช้งาน WD BLUE 3D NAND SATA SSD ได้ทุกรุ่น เพราะ SSD Blue รุ่นนี้ทำมาแบบมาตราฐานเหมือนฮาร์ดดิสก์โน๊ตบุ๊คขนาด 2.5 นิ้วปกติ สามารถถอดออกใส่ทดแทนกันได้เลย ซึ่งอุปกรณ์ที่ต้องมีคือไขควง ไว้สำหรับไขน็อตออกมาที่ละส่วนตามนี่เห็น แล้วค่อยๆ ดึงสาย SATA ที่ติดกับฮาร์ดดิสก์ (ขั้นตอนนี้ต้องระวังมากๆ เพราะ อาจจะทำให้สายหักหรือขาดถ้าไม่ระวัง)
จากนั้นก็ค่อยๆ ถอด Box ที่ติดกับฮาร์ดดิสก์ทีละข้างออกมาใส่กับ SSD ที่เรากำลังจะเปลี่ยนเข้าไปใหม่ เคล็ดลับคือไขน็อตเข้าแบบหลวมๆ ไปก่อนทีละฝั่ง และที่สำคัญเลยคือเวลาขั้นน็อตเข้ากับ Box อย่าขั้นแน่นจนเกินไป ขันแค่ตึงๆ มือก็พอ เพราะ การที่เราขันแน่นมากๆ จะทำให้ตัว SSD เป็นรอย และรูน็อตจะบานออก อาจจะทำให้ตัว SSD เกิดความเสียหายได้
ทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark
ทดสอบด้วยโปรแกรม HD Tune Pro
โปรแกรมเสริมของทาง WD
True Image WD Edition ไว้สำหรับสำรองข้อมูล ไปจนถึงการโคลนฮาร์ดดิสค์ทั้งลูกเผื่อกรณีต้องการเปลี่ยนฮาร์ดดิสค์ หรือย้ายเครื่อง
WD SSD Dashboard เป็นโปรแกรมเช็คสถานะของฮาร์ดดิสค์ทั้งแค่ความจุที่ใช้อยู่ อายุการใช้งาน ไปจนถึงเช็คอุณหภูมิก็ยังได้
สรุป
WD BLUE 3D NAND SATA SSD 1 TB จากผลการทดสอบรวมจะเห็นได้ว่า เป็นไปตามมาตรฐานของรูปแบบการเชื่อมต่อ SATA III ที่ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดในการอ่านอยู่ที่ประมาณ 559 MB/s และเขียนที่ 527 MB/s ตามสเปคที่เขียนไว้บนกล่อง ซึ่งถึงแม้จะมีความจุสูงแต่ก็ยังสามารถทำเวลา Access ได้เร็วถึง 0.1 ms อีกด้วย เหมาะกับผู้ใช้งานที่จะประกอบ PC Desktop เครื่องใหม่ หรืออาจจะอัพเกรดโน๊ตบุ๊คที่ไม่มีช่องใส่ SSD m.2 ก็ได้เช่นกัน
ข้อดี
- หน่วยความจำแบบ SSD อ่าน เขียนข้อมูลได้เร็วกว่า HDD แบบปกติหลายเท่า
- บางเบา สามารถติดตั้งในโน๊ตบุ๊คที่ใช้ฮาร์ดดิสค์แบบ 2.5 นิ้วได้แน่นอน
- ประหยัดพลังงาน อายุการใช้งานยาวนานกว่า SSD ทั่วไป
- มีความจุสูงมาก
ข้อสังเกต
- มีราคาค่อนข้างสูง
- หาซื้อยาก มีวางจำหน่ายเฉพาะร้านไอทีใหญ่ๆ