Dell Vostro 7570 ที่จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมชิปประมวลผลและการ์ดจอระดับ Gaming Notebook โดยเป็นรุ่นที่ DNA มาจาก Dell Inspiron 7567 ก็ว่าได้ แน่นอนว่านั่นก็มาจากการที่ Dell มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งต่อยอดความเร็จที่มีอยู่อย่างตลอดเวลา ที่สำคัญด้วยบริการ Dell Pro Support ซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ (On-site Sevice) ระยะเวลา 2 ปีเต็มด้วย ทำให้มั่นใจได้เลย บริการหลังการขายของ Dell นั้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
Dell Vostro 7570 ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดจากทาง Intel อย่าง Core i7-7700HQ และการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti แรมมาตรฐานเป็น DDR4 ขนาด 8GB พร้อม SSD 128GB และฮาร์ดดิสก์ 1TB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน สนนราคาเริ่มต้นที่ 28,900 บาท (i5 + GTX 1050) ไปจนถึง 34,900 บาท (i7 + GTX 1050Ti)
VDO Review
Specification
Dell Vostro 7570 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย แต่ตัวที่ NotebookSPEC ได้ซื้อมาทดสอบ เป็นตัวรุ่นเริ่มต้น ใช้ชิปประมวลผลเป็นIntel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB ที่ 5400 RPM และได้ติดตั้ง SSD แบบ M.2 SATA 3 ความจุ 128GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 อัพเกรดได้ 16GB ทันที ส่วนระบบปฎิบัติการเป็น Ubuntu
นอกจากนี้ Dell Vostro 7570 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจ พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง Thunderbolt 3 (40 Gbps), HDMI, VGA, 3 x USB 3.1 Gen 1 (5 Gbps) with PowerShare , Kensington lock slot , 2-in-1 SD (UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac
สนนราคา Dell Vostro 7570 รุ่นเริ่มต้นจะอยู่ที่ 28,900 บาทได้สเปก Intel Core i5-7300HQ + GTX 1050 + RAM 4GB + HDD 1TB สำคัญคือหน้าจอเป็น TN และ 34,900 บาท คือรุ่นที่เรานำมารีวิว ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น Dell Pro Support แบบ On-site Service เป็นเวลา 2 ปี จาก Dell Thailand เช่นกัน
- Dell Vostro 7570 : i5 + GTX 1050 + RAM 4GB + HDD 1TB ราคา 28,990 บาท
- Dell Vostro 7570 : i7 + GTX 1050Ti + RAM 8GB + HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 34,990 บาท
Hardware / Design
การออกแบบต่างๆ ของ Dell Vostro 7570 ดูแปลกตาไปมากกว่า Vostro รุ่นอื่นๆ ซึ่งถ้าดูให้ดีนั้นจะเห็นถึงเค้าโครงทรวดทรงได้ DNA มาจาก Dell Inspiron 7567 เต็มๆ แต่เปลี่ยนในเรื่องของพื้นผิวและสีสันแทน แต่แง่ของดีไซน์โดยรวม ที่แฝงความดุดันรวมไปถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่าแน่นหนา !!! ยังคงมีความเยี่ยมยอดตามมาตรฐาน Dell
การออกแบบโมเดลของ Dell Vostro 7570 บอกได้เลยว่ามีโครงสร้างโดยรวมเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสีสันสว่างๆ ด้วย สีเงิน Platinum Silver หรือ สีน้ำเงิน Bali Blue Metallic ที่เชื่อว่าน่าจะถูกใจหลายๆ คนทีเดียว วัสดุก็จะเป็นพลาสติกคุณภาพสูงตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยต่างที่จะเป็นแบบเรียบๆ ไม่เหมือนกับ Dell Inspiron 7567 ที่จะเป็นซอฟต์ทัช ฉะนั้นเรื่องเป็นรอยสบายใจหายห่วงได้
สำหรับ Dell Vostro 7570 สีน้ำเงิน Bali Blue Metallic ที่เราเลือกมารีวิวนั้น จะเห็นว่าตัวเครื่องภายนอกจะเป็นสีน้ำเงิน โลโก้ฝาหลังก็จะเป็นสีน้ำเงินมันวาว ส่วนตัวเครื่องด้านในรวมไปถึงฝาใต้เครื่องเครื่องจะเป็นลักษณะสีเทา โดยใต้หน้าจอยังมีโลโก้ Dell สีน้ำเงินสวยงาม ซึ่ง Dell Vostro 7570 มีน้ำหนัก 2.65 กิโลกรัม ที่สำคัญติดตั้ง Thunderbolt 3 พอร์ตการเชื่อมต่อความเร็วสูง มาในโน๊ตบุ๊คระดับนี้ด้วย
หน้าจอของ Dell Vostro 7570 จะเป็นแบบบานพับเดียว ที่ดูดอากาศเย็นเข้าไปแล้วปล่อยออกด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่แบบคู่สองพัดลม ครีบฟินที่ดำเน้นเรียบๆ โดยสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสม เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ในช่วงราคาเริ่มต้นไม่ถึง 30,000 บาท ที่เน้นหนักไปที่ชุดระบายความร้อนมากกว่าแบรนด์อื่นๆ
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องมียางรองกันลื่นสองเส้นพาดยาวยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ยกตัวเครื่องให้อากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องระบายอากาศอีก 2 ช่องด้านล่างด้วย พร้อมลำโพงซับวูฟเฟอร์ใต้เครื่อง ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตตัวเดียว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง Dell นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Dell ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ อย่างไรก็ตามแม้ Dell Vostro 7570 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของ Dell ที่เน้นทำงานระดับมืออาชีพ ไม่ใช่เน้นสายเกมเมอร์แต่ แต่ด้วยสเปกแล้วจะนำไปเน้นเล่นเกมก็ไม่เสียอะไร
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบคล้ายกับซีรีส์ Vostro ทั่วไป ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยเป็นไฟสีขาวดูแล้วสวยงาม ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น มีเส้นแบ่งเป็นสีน้ำเงิน การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
Dell Vostro 7570 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook xปี 2017 พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ยังไงก็ตามถ้าเป็นรุ่นสเปกที่เป็น Core i5 + GTX 1050 จะได้หน้าจอพาเนลเป็น TN เรียกได้ว่าสเปก Core i7 + GTX 1050Ti น่าสนใจกว่า
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Vostro 7570 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 60% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงแล้ว อันนี้ไม่แนะนำ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านซ้ายและตรงกลางแถวกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงกลางด้านบนเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 11% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่หน้า (Waves MaxxAudio Pro) ระบบเสียง Waves MaxxAudio Pro ให้เสียงคมชัดดังกระหึ่ม เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็น 2 ชาแนล อยู่ข้างใต้ตัวเครื่องทางซ้ายและขวา ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
ส่วนในการเชื่อมต่อและการบันทึกข้อมูลต่างๆ Dell Vostro 7570 รองรับการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 และ VGA รวมไปถึง HDMI v1.4a with 4K Display support , 3 x USB 3.1 Gen 1 (5 Gbps) with PowerShare, Kensington lock slot , 2-in-1 SD(UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac ถือว่ารองรับได้ดีตามมาตรฐาน
Dell Vostro 7570 เลือกติดตั้ง Thunderbolt 3 (40 Gbps) มาให้ด้วย ซึ่งหน้าตาจะเหมือนกับ USB Type-C แต่ว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วกว่า รวมไปถึงต่อจอแยก หรือต่อการ์ดจอแยกก็ยังได้ ส่วน VGA ที่ติดตั้งมาให้เข้าใจว่าเผื่อไว้เชื่อมต่อเพื่อนำเสนองานกับเครื่องโปรเจคเตอร์รุ่นเก่าๆ ส่วนการพกพาเองก็ถือว่าDell Vostro 7570 มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมากถึง 2.65 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ สเปกใกล้เคียงกัน ที่ถึงแม้ว่าจะหนักซักหน่อย ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัมทีเดียว
Performance / Software
โดย Dell Vostro 7570 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยม) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 (1 แถว) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M อย่างสบายๆ พูดตรงๆ ง่ายๆ ก็คือแรงกว่า GTX 970M ด้วย เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2 มาตรฐาน SATA 3 (รองรับการอัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้ภายหลัง) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ 540.6MB/s และเขียนที่ 333.1MB/s
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 55.1 MB/s และสูงสุดที่ 117.5 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 92.5 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 17.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าจัดอยู่มาตรฐานของฮาร์ดดิสก์
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 รอบ และ SSD ทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดียิ่งกว่า
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V (Best)/ Battlefield 1 (Ultra)/ Ghost Recon Wildlands (Very High) ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด เว้นแต่ Ghost Recon Wildlands ที่ปรับเป็นเพียง High เท่านั้น (มากกว่านี้เฟรมเรทจะต่ำกว่า 30fps) ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น 120Hz เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ โดยไม่เปิด V-Sync
วนอีก 2 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch (Epic), DOTA 2 (Best) ค่าเฟรมเรทไม่เฉลี่ยไม่ต่ำ 50 เฟรมเช่นกัน พูดได้เลยว่าลื่นไหลหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นฉากบวก ฉากตะลุมบอนก็สามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ต่อมาดูเกมเกม PUBG (Ultra) กันบ้างซึ่งทางทีมงานได้ปรับเป็นแบบ High ซึ่งตัว Dell Vostro 7570 ก็สามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นในระดับหนึ่ง ซึ่งพบอาการโหลดฉากไม่ทัน บ้านตึกเป็นดินน้ำมัน โดยต้องใช้เวลาโหลดเพิ่มอีกจากกระโดดร่มถึงพื้นประมาณ 20 วินาที ถึงจะเข้าบ้านได้ และมีอาการกระตุกนิดหน่อยเวลาเล่น โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเกมได้เรนเดอร์ฉากเสร็จทั้งหมดซึ่งเวลาประมาณ 2 นาทีครับ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell Vostro 7570 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Dell Vostro 7570 เครื่องนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 3200 mAh แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานจึงมีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำที่สุดแล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 6 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงหากปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละสถานการณ์อาจจะให้ใช้แบตเตอรี่ได้น้อยกว่านี้
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผลอยู่ที่ไม่เกิน 82 องศาเซลเซียส และการ์ดจอไม่เกิน 68 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเสียงไม่ดังเลยเมื่อใช้งานหนักๆ ถือว่าไม่รบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกม
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell Vostro 7570 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คทำงานแต่เล่นเกมได้สบายในราคาคุ้มค่า จากทาง Dell ที่ต่อยอดความสำเร็จจาก Vostro รุ่นก่อนหน้า ได้เป็นอย่างดีด้วยประสิทธิภาพที่แรงเหนือชั้นยิ่งกว่า ส่วนดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิม อีกทั้งแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน 6 ชั่วโมง ส่งผลได้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดยิ่งกว่า
ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตในเรื่องการระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไปเล็กน้อย รวมไปถึงมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในรุ่นสเปกใกล้เคียงกัน แต่ถ้าดูราคา งานประกอบ สเปก และการมีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้แล้ว ก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าซื้อที่สุดช่วงปลายปี 2017 นี้ก็ว่าได้
Dell Vostro 7570 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงทั้งในส่วนของเกมและมัลติมีเดีย ด้วยสเปคภายในที่แรงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แถมยังให้การรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Pro Support คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจาก Dell
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell Vostro 7570 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ส่วนข้อมูล Dell รุ่นอื่นๆ สามารถตามดูต่อได้ที่ https://www.facebook.com/DellThailand ได้เลย ซึ่งถ้าใครเน้นเล่นเกมและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดแบบสุดๆ ล่ะก็ แนะนำให้ดูเป็น Alienware ไปเลยก็ได้ครับ
จุดเด่น
- เป็น Gaming Notebook ดีไซน์สวย งานประกอบแน่นๆ มาตราฐาน Dell
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7 และการ์ดจอ GTX 1050Ti
- ติดตั้ง SSD M.2 SATA 3 (รองรับการอัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้ภายหลัง)
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดีระดับนึง
- การอัพเกรดทำได้ง่ายมากๆ ด้วยฝาใต้เครื่องมีน็อตตัวเดียว
- เป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง มาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 3 ความเร็วสูง
- ยังมีพอร์ต VGA (D-Sub) ไว้สำหรับการใช้งานจอเก่าๆ
- พัดลมระบายความร้อน ทำงานได้เสียงค่อนข้างเบา
- สเปก งานประกอบ ฟีเจอร์ ต่อราคาคุ้มค่าน่าซื้อมาก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 6 ชั่วโมงสูงสุด
- ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม Dell Pro Support ซ่อมตรงถึงที่ ในอีก 1 วันทำการ (On-site Sevice)
ข้อสังเกต
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อยในสเปกใกล้เคียงกัน
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊ครุ่นใกล้เคียงกัน
- การระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไปเล็กน้อย
- หน้าจอเป็นพาเนล TN สำหรับรุ่นเริ่มต้น
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Vostro 7570 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Dell Vostro โน๊ตบุ๊คสายทำงานมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Vostro 7570 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ขนาด 4GB DDR5 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูงก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย
VDO Review
Specification
Dell Vostro 7570 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย แต่ตัวที่ NotebookSPEC ได้ซื้อมาทดสอบ เป็นตัวรุ่นเริ่มต้น ใช้ชิปประมวลผลเป็นIntel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB ที่ 5400 RPM และได้ติดตั้ง SSD แบบ M.2 SATA 3 ความจุ 128GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 อัพเกรดได้ 16GB ทันที ส่วนระบบปฎิบัติการเป็น Ubuntu
นอกจากนี้ Dell Vostro 7570 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจ พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง Thunderbolt 3 (40 Gbps), HDMI, VGA, 3 x USB 3.1 Gen 1 (5 Gbps) with PowerShare , Kensington lock slot , 2-in-1 SD (UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac
สนนราคา Dell Vostro 7570 รุ่นเริ่มต้นจะอยู่ที่ 28,900 บาทได้สเปก Intel Core i5-7300HQ + GTX 1050 + RAM 4GB + HDD 1TB สำคัญคือหน้าจอเป็น TN และ 34,900 บาท คือรุ่นที่เรานำมารีวิว ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น Dell Pro Support แบบ On-site Service เป็นเวลา 2 ปี จาก Dell Thailand เช่นกัน
- Dell Vostro 7570 : i5 + GTX 1050 + RAM 4GB + HDD 1TB ราคา 28,990 บาท
- Dell Vostro 7570 : i7 + GTX 1050Ti + RAM 8GB + HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 34,990 บาท
Hardware / Design
การออกแบบต่างๆ ของ Dell Vostro 7570 ดูแปลกตาไปมากกว่า Vostro รุ่นอื่นๆ ซึ่งถ้าดูให้ดีนั้นจะเห็นถึงเค้าโครงทรวดทรงได้ DNA มาจาก Dell Inspiron 7567 เต็มๆ แต่เปลี่ยนในเรื่องของพื้นผิวและสีสันแทน แต่แง่ของดีไซน์โดยรวม ที่แฝงความดุดันรวมไปถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่าแน่นหนา !!! ยังคงมีความเยี่ยมยอดตามมาตรฐาน Dell
การออกแบบโมเดลของ Dell Vostro 7570 บอกได้เลยว่ามีโครงสร้างโดยรวมเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสีสันสว่างๆ ด้วย สีเงิน Platinum Silver หรือ สีน้ำเงิน Bali Blue Metallic ที่เชื่อว่าน่าจะถูกใจหลายๆ คนทีเดียว วัสดุก็จะเป็นพลาสติกคุณภาพสูงตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยต่างที่จะเป็นแบบเรียบๆ ไม่เหมือนกับ Dell Inspiron 7567 ที่จะเป็นซอฟต์ทัช ฉะนั้นเรื่องเป็นรอยสบายใจหายห่วงได้
สำหรับ Dell Vostro 7570 สีน้ำเงิน Bali Blue Metallic ที่เราเลือกมารีวิวนั้น จะเห็นว่าตัวเครื่องภายนอกจะเป็นสีน้ำเงิน โลโก้ฝาหลังก็จะเป็นสีน้ำเงินมันวาว ส่วนตัวเครื่องด้านในรวมไปถึงฝาใต้เครื่องเครื่องจะเป็นลักษณะสีเทา โดยใต้หน้าจอยังมีโลโก้ Dell สีน้ำเงินสวยงาม ซึ่ง Dell Vostro 7570 มีน้ำหนัก 2.65 กิโลกรัม ที่สำคัญติดตั้ง Thunderbolt 3 พอร์ตการเชื่อมต่อความเร็วสูง มาในโน๊ตบุ๊คระดับนี้ด้วย
หน้าจอของ Dell Vostro 7570 จะเป็นแบบบานพับเดียว ที่ดูดอากาศเย็นเข้าไปแล้วปล่อยออกด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่แบบคู่สองพัดลม ครีบฟินที่ดำเน้นเรียบๆ โดยสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสม เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ในช่วงราคาเริ่มต้นไม่ถึง 30,000 บาท ที่เน้นหนักไปที่ชุดระบายความร้อนมากกว่าแบรนด์อื่นๆ
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องมียางรองกันลื่นสองเส้นพาดยาวยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ยกตัวเครื่องให้อากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องระบายอากาศอีก 2 ช่องด้านล่างด้วย พร้อมลำโพงซับวูฟเฟอร์ใต้เครื่อง ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตตัวเดียว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง Dell นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Dell ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ อย่างไรก็ตามแม้ Dell Vostro 7570 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของ Dell ที่เน้นทำงานระดับมืออาชีพ ไม่ใช่เน้นสายเกมเมอร์แต่ แต่ด้วยสเปกแล้วจะนำไปเน้นเล่นเกมก็ไม่เสียอะไร
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบคล้ายกับซีรีส์ Vostro ทั่วไป ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยเป็นไฟสีขาวดูแล้วสวยงาม ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น มีเส้นแบ่งเป็นสีน้ำเงิน การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
Dell Vostro 7570 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook xปี 2017 พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ยังไงก็ตามถ้าเป็นรุ่นสเปกที่เป็น Core i5 + GTX 1050 จะได้หน้าจอพาเนลเป็น TN เรียกได้ว่าสเปก Core i7 + GTX 1050Ti น่าสนใจกว่า
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Vostro 7570 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 60% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงแล้ว อันนี้ไม่แนะนำ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านซ้ายและตรงกลางแถวกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงกลางด้านบนเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 11% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่หน้า (Waves MaxxAudio Pro) ระบบเสียง Waves MaxxAudio Pro ให้เสียงคมชัดดังกระหึ่ม เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็น 2 ชาแนล อยู่ข้างใต้ตัวเครื่องทางซ้ายและขวา ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
ส่วนในการเชื่อมต่อและการบันทึกข้อมูลต่างๆ Dell Vostro 7570 รองรับการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 และ VGA รวมไปถึง HDMI v1.4a with 4K Display support , 3 x USB 3.1 Gen 1 (5 Gbps) with PowerShare, Kensington lock slot , 2-in-1 SD(UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac ถือว่ารองรับได้ดีตามมาตรฐาน
Dell Vostro 7570 เลือกติดตั้ง Thunderbolt 3 (40 Gbps) มาให้ด้วย ซึ่งหน้าตาจะเหมือนกับ USB Type-C แต่ว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วกว่า รวมไปถึงต่อจอแยก หรือต่อการ์ดจอแยกก็ยังได้ ส่วน VGA ที่ติดตั้งมาให้เข้าใจว่าเผื่อไว้เชื่อมต่อเพื่อนำเสนองานกับเครื่องโปรเจคเตอร์รุ่นเก่าๆ ส่วนการพกพาเองก็ถือว่าDell Vostro 7570 มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมากถึง 2.65 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ สเปกใกล้เคียงกัน ที่ถึงแม้ว่าจะหนักซักหน่อย ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัมทีเดียว
Performance / Software
โดย Dell Vostro 7570 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยม) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 (1 แถว) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M อย่างสบายๆ พูดตรงๆ ง่ายๆ ก็คือแรงกว่า GTX 970M ด้วย เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2 มาตรฐาน SATA 3 (รองรับการอัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้ภายหลัง) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ 540.6MB/s และเขียนที่ 333.1MB/s
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 55.1 MB/s และสูงสุดที่ 117.5 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 92.5 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 17.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าจัดอยู่มาตรฐานของฮาร์ดดิสก์
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 รอบ และ SSD ทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดียิ่งกว่า
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V (Best)/ Battlefield 1 (Ultra)/ Ghost Recon Wildlands (Very High) ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด เว้นแต่ Ghost Recon Wildlands ที่ปรับเป็นเพียง High เท่านั้น (มากกว่านี้เฟรมเรทจะต่ำกว่า 30fps) ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น 120Hz เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ โดยไม่เปิด V-Sync
วนอีก 2 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch (Epic), DOTA 2 (Best) ค่าเฟรมเรทไม่เฉลี่ยไม่ต่ำ 50 เฟรมเช่นกัน พูดได้เลยว่าลื่นไหลหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นฉากบวก ฉากตะลุมบอนก็สามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ต่อมาดูเกมเกม PUBG (Ultra) กันบ้างซึ่งทางทีมงานได้ปรับเป็นแบบ High ซึ่งตัว Dell Vostro 7570 ก็สามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นในระดับหนึ่ง ซึ่งพบอาการโหลดฉากไม่ทัน บ้านตึกเป็นดินน้ำมัน โดยต้องใช้เวลาโหลดเพิ่มอีกจากกระโดดร่มถึงพื้นประมาณ 20 วินาที ถึงจะเข้าบ้านได้ และมีอาการกระตุกนิดหน่อยเวลาเล่น โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเกมได้เรนเดอร์ฉากเสร็จทั้งหมดซึ่งเวลาประมาณ 2 นาทีครับ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell Vostro 7570 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Dell Vostro 7570 เครื่องนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 3200 mAh แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานจึงมีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำที่สุดแล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 6 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงหากปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละสถานการณ์อาจจะให้ใช้แบตเตอรี่ได้น้อยกว่านี้
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผลอยู่ที่ไม่เกิน 82 องศาเซลเซียส และการ์ดจอไม่เกิน 68 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเสียงไม่ดังเลยเมื่อใช้งานหนักๆ ถือว่าไม่รบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกม
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell Vostro 7570 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คทำงานแต่เล่นเกมได้สบายในราคาคุ้มค่า จากทาง Dell ที่ต่อยอดความสำเร็จจาก Vostro รุ่นก่อนหน้า ได้เป็นอย่างดีด้วยประสิทธิภาพที่แรงเหนือชั้นยิ่งกว่า ส่วนดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิม อีกทั้งแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน 6 ชั่วโมง ส่งผลได้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดยิ่งกว่า
ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตในเรื่องการระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไปเล็กน้อย รวมไปถึงมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในรุ่นสเปกใกล้เคียงกัน แต่ถ้าดูราคา งานประกอบ สเปก และการมีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้แล้ว ก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าซื้อที่สุดช่วงปลายปี 2017 นี้ก็ว่าได้
Dell Vostro 7570 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงทั้งในส่วนของเกมและมัลติมีเดีย ด้วยสเปคภายในที่แรงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แถมยังให้การรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Pro Support คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจาก Dell
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell Vostro 7570 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ส่วนข้อมูล Dell รุ่นอื่นๆ สามารถตามดูต่อได้ที่ https://www.facebook.com/DellThailand ได้เลย ซึ่งถ้าใครเน้นเล่นเกมและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดแบบสุดๆ ล่ะก็ แนะนำให้ดูเป็น Alienware ไปเลยก็ได้ครับ
จุดเด่น
- เป็น Gaming Notebook ดีไซน์สวย งานประกอบแน่นๆ มาตราฐาน Dell
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7 และการ์ดจอ GTX 1050Ti
- ติดตั้ง SSD M.2 SATA 3 (รองรับการอัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้ภายหลัง)
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดีระดับนึง
- การอัพเกรดทำได้ง่ายมากๆ ด้วยฝาใต้เครื่องมีน็อตตัวเดียว
- เป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง มาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 3 ความเร็วสูง
- ยังมีพอร์ต VGA (D-Sub) ไว้สำหรับการใช้งานจอเก่าๆ
- พัดลมระบายความร้อน ทำงานได้เสียงค่อนข้างเบา
- สเปก งานประกอบ ฟีเจอร์ ต่อราคาคุ้มค่าน่าซื้อมาก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 6 ชั่วโมงสูงสุด
- ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม Dell Pro Support ซ่อมตรงถึงที่ ในอีก 1 วันทำการ (On-site Sevice)
ข้อสังเกต
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อยในสเปกใกล้เคียงกัน
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊ครุ่นใกล้เคียงกัน
- การระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไปเล็กน้อย
- หน้าจอเป็นพาเนล TN สำหรับรุ่นเริ่มต้น
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Vostro 7570 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Dell Vostro โน๊ตบุ๊คสายทำงานมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Vostro 7570 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ขนาด 4GB DDR5 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูงก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย