โน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมในสมัยก่อนนั้นถ้าขึ้นชื่อว่าประสิทธิภาพแรงแล้ว ต้องมาพร้อมกับตัวเครื่องใหญ่และน้ำหนักเครื่องที่มาก แต่ไม่ใช่ตั้งแต่ในงาน Computex 2017 อีกต่อไป เพราะว่า Acer นั้นได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊คแบบบางเบาขั้นเทพสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะออกมาแล้วอย่าง Predator Triton 700 โดยล่าสุดทาง Acer ประเทศไทยได้เคาะราคาออกมาแล้ว สนนอยู่ที่ 119,900 บาท ประกัน 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือถ้าใครอยากส่งศูนย์ก็ซ่อมด่วนภายใน 3 ชั่วโมงด้วย
โดย Predator Triton 700 มาพร้อมสเปก Intel ชิปประมวลผลรุ่นที่ 7 รหัส HQ สถาปัตยกรรม Kaby Lake ที่สำคัญด้วยตัวเครื่องที่บางเบาก็ได้เลือกใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q ที่เน้นประสิทธิภาพความแรง แต่ร้อนน้อยกว่า GTX 1080 รุ่นปกติ ซึ่งตัวเครื่องก็บางเพียง 18.9 มิลลิเมตร เบาเพียง 2.4 กิโลกรัม เรียกได้ทำให้เป็น Gaming Notebook ในฝันของหลายคนทีเดียว
VDO Review
Specification
Predator Triton 700 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7 7700HQ รุ่นยอดนิยม ทำงานความเร็ว 2.9 – 3.8 GHz แบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ที่สำคัญยังติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1080 (DDR5 8GB) Max-Q ที่มีค่า TDP อยู่ที่ 100W เท่านั้น แต่ความแรงให้มากกว่า GTX 1070 เสียอีก ส่วนของแรมมีขนาด 32GB DDR4 Bus 2400MHz (16GB x 2) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB (512GB x 2 แบบ Raid 0) หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง รองรับ 120Hz พร้อม NVIDIA G-SYNC
ความหนาของตัวเครื่องอยู่ที่ 18.9 มิลลิเมตร และหนักเพียง 2.4 กิโลกรัม ที่สำคัญคือยังได้ติดตั้ง Mechanical Keyboard แบบ Low Profile พร้อมไฟหลากสร RGB นอกจากนี้โดยพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.0, Thunderbolt 3 (USB Type-C), HDMI พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac สนนราคา Predator Triton 700 อยู่ที่ 119,900 บาท ประกัน 3 ปี On-site Service พร้อมขายตามช่องทางจัดจำหน่ายทั่วไป
**หมายเหตุ เครื่องที่วางจำหน่ายในไทย เป็น Ram 16 GB ครับ
สเปกเต็มๆ ของ Predator Triton 700
Hardware / Design
เพียงแรกเห็นก็บอกได้เลยว่าการออกแบบโดยรวมของ Predator Triton 700 จากทาง Acer ที่เป็น Gaming Notebook ที่สวยงามและดูลงตัวที่สุดรุ่นนึง สมกับเป็นไฮเอนด์โน๊ตบุ๊ค รวมไปถึงยังติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q เป็นรุ่นแรกๆ ของโลก ส่งผลให้ทำให้ตัวเครื่องนั้นมีความบางกว่าโน๊ตบุ๊คที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมาก โดยตัวเครื่องของ Predator Triton 700 นั้นจะมีความบางตลอดทั้งตัวเครื่องเพียง 18.9 มิลลิเมตรเท่านั้น แถมน้ำหนักของตัวเครื่องก็อยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม ซึ่งทำให้เป็นโน้ตบุ๊ตเล่นเกมการ์ดจอตัวแรงตัวจริงที่สามารถพกพาได้สะดวกมากๆ
ดีไซน์การของ Predator Triton 700 มาพร้อมความสดใหม่อย่างที่ Acer ไม่เคยนำเสนอมาก่อน ตัวเครื่องนั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและแมกนีเซียม มาในโทนสีดำอย่าง Obsidian black สลับกับสีฟ้าบางส่วน พร้อมกันนั้นพื้นผิวเรียบจากการใช้วิธีพ่นทราย ซึ่งจะทำได้ละเอียดกว่าการขัดปกติ ผิวชิ้นงานเนียน และช่วยให้สีติดที่เนื้อวัสดุได้อย่างดีที่สุด แถมยังมีความทนทานด้วย โดยการใช้งานจริงนับว่าให้สัมผัสที่เยี่ยมยอด แตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปแบบรู้สึกได้ในครั้งแรก
เรียกได้ว่านอกเหนือจากความบางเบาและยังพรีเมียมพรูหราอีกด้วย และอีกสิ่งที่โดดเด่นก็คือทัชแพดได้ถูกย้ายมาไว้ที่ด้านบนของชุดคีย์บอร์ดแทน ที่สำคัญยังมีลักษณะที่พิเศษคือเป็นกระจกดำที่พอมองเข้าไปจะเห็นฮีท์ไปป์ทองแดงบางส่วน พร้อมพัดลมมีไฟ LED ที่แสดงถึงการทำงาน ส่วนปุ่ม Power จะถูกติดตั้งอยู่ทางด้านข้างทางขอบเครื่องทางซ้าย โดยเปิดเครื่องแล้วปุ่มจะมีไฟ LED สีฟ้าเปล่งออกมา
ซึ่งเวลาใช้งานตัวเครื่องนั้นทำให้ดูน่าใช้งานแบบเทพๆ เข้าไปอีก ด้วยกระจก Corning Gorilla Glass หนา 0.7 มิลลิเมตร ที่อยู่เหนือคีย์บอร์ดจะโชว์การทำงานของพัดลมด้านซ้ายพร้อมมีไฟ LED (เปลี่ยนสีได้) อย่างที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของรอยขีดขวนที่อาจจะเกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริงทีเดียว นอกจากนั้นฝาหลังก็จะมาพร้อมโลโก้ Predator ขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสีฟ้า แตกต่างจาก Predator รุ่นอื่นๆ ที่เป็นสีแดง
ระบบระบายอากาศของ Predator Triton 700 จะมาพร้อมพัดลมขนาดใหญ่สองตัวอย่าง AeroBlade 3D Fan ที่มีลักษณะพิเศษคือวัสดุเป็นโลหะแข็งแรงทนทาน พร้อมเพิ่มใบพัดให้มากกว่าปกติ โดยมีหลักการทำงานก็คือ ใต้ตัวเครื่องจะมีช่องดูดลมเย็น 3 ช่อง พร้อมด้านบนข้างๆ ทัชแพดอีกหนึ่งช่อง ซึ่งพัดลม 2 ตัวทำหน้าที่ดูดลมเย็น เพื่อนำพาความร้อนจากฮีทไปป์จำนวน 5 เส้น แล้วเป่าออกทางด้านหลัง 2 ทาง และด้านซ้ายขวาอีก 2 ทาง ทำงานร่วมกับฟินสีฟ้าตามช่องระบายความร้อน
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ Predator Triton 700 ต้องยอมรับว่า Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง Acer ทำออกมาได้แล้ว
Keyboard / Touchpad
เมื่อเปิดฝาหน้าจอ Predator Triton 700 ขึ้นมามองภายในเราก็จะพบกับการวางตำแหน่งของคีย์บอร์ดที่แตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นทั่วไปอย่างชัดเจน จากการที่เลื่อนชุดแป้นคีย์บอร์ดมาไว้ด้านล่างสุด และขยับในส่วนของทัชแพดแบบพิเศษที่เป็นกระจกแบบไร้ปุ่มคลิกซ้ายขวาแทน อย่างไรก็ตามยังสามารถใช้งานคลิกซ้ายขวาหรือคุณสมบัติอื่นๆ ได้อีกผ่านทาง Multi Gesture ผ่านทาง Windows 10 กับการใช้งานหลายนิ้วพร้อมๆ กัน ตั้งแต่ 1 – 4 นิ้ว ซึ่งอาจจะต้องฝึกให้คุ้นชินเท่านั้นเอง
โดยที่ต้องวางตำแหน่งแบบนี้นั้นเป็นเพราะได้ติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบจัดเต็มเอาไว้ ซึ่งจะมีทั้งกระจก Corning Gorilla Glass ที่มองลอดลงไปเห็นพัดลมด้านซ้าย และช่องขนาดเล็กพัดลมด้านขวาทำหน้าที่ดูดลมเย็นลงไปให้ผ่านทางฮีต์ไปป์ แน่นอนว่าเป็นผลมาจากตัวเครื่องที่เน้นบาง เลยทำให้ชุดระบายความร้อนทั้งหมดต้องติดตั้งบริเวณนั้น
โดยคีย์บอร์ดของ Predator Triton 700 เป็นแบบ Mechanical Keyboard ประเภท Low Profile ทำให้การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ Mechanical Keyboard แบบแยกของพีซี บนเทคโนโลยีไฟ RGB ทำให้เปลี่ยนสีได้ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ Predator Sense ซึ่งความโดดเด่นด้วยการที่เป็นแบบโปร่งแสงทำให้มีไฟเรืองแสงขึ้นมาจากตัวอักษรด้วย เรียกได้ว่าเน้นสำหรับเกมหรือทำงานก็เต็มประสิทธิภาพ
ส่วนข้อสังเกตมีอยู่เล็กน้อยในการใช้งานคีย์บอร์ดข้อมือของเราต้องโดนขอบเครื่องตรงๆ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ลำบากกว่าคีย์บอร์ด Gaming Notebook ทั่วไปและทัชแพดเองก็อยู่ด้านบนเหนือคีย์บอร์ด ทำให้ใช้งานแล้วแปลกๆ แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาจากการที่ใช้งานจริง เพราะเกมเมอร์หรือคนเล่นเกมนั้นน่าจะต้องใช้เมาส์อยู่แล้ว ส่วนคีย์บอร์ดแบบแยกนั้นถ้าใครซีเรียสมากก็คาดว่าต้องต่อเพิ่มแน่นอน
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอนั้นถือได้ว่า Acer นั้นให้หน้าจอที่มีประสิทธิภาพที่จัดว่าเยี่ยมยอด ซึ่ง Predator Triton 700 ใช้หน้าจอขนาด 15.6 ” แบบด้าน ที่ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญเป็นพาเนล IPS คุณภาพสูงเรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้จากหลายมุม การให้สีสันนั้นถือว่าสามารถที่จะทำได้ดี โดยมี Refresh Rate อยู่ที่ 120 Hz แถมยังติดตั้งชิปประมวลผลภาพ NVIDIA G-SYNC ทำให้ในการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงเล่นเกมนั้นมีความลื่นไหลกว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากๆ รวมไปถึงยังไม่มีอาการภาพฉีกหรือภาพเบลอให้เห็นอีกด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Predator Triton 700 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันได้ดีน่าประทับใจ ภาพนี้จะแสดงเป็นตารางที่จะบ่งบอกถึงค่าความสว่างต่อคอนทราสต์ที่ได้ อย่างแรกที่เห็นก็คือความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านล่างตรงกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านขวาบนเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 17% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ส่วนระบบเสียงเป็น Dolby Atmos Surround Sound และ Acer TrueHarmony พร้อมลำโพงสเตอริโอที่ติดตั้งมาในตัวก็ระดับเสียงที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปอยู่พอสมควรสามารถใช้ฟังเพลงต่างๆ ได้ค่อนข้างดีกว่าอยู่บ้าง มีเสียงเบสมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของเสียงแนะนำให้ปรับแต่งเสียงตามแนวเสียงของตัวเอง สำหรับการเล่นเกมถือว่าทำได้ดีทีเดียว จากการที่ให้เสียงที่แยกชัดเจน โดยตัวลำโพงติดตั้งข้างๆ ซ้ายและขวาชุดแป้นคีย์บอร์ดนั่นเอง โดยรวมถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเสียงดีที่สุดอีกหนึ่งรุ่นเท่าที่เคยทดสอบมา
Connector / Thin And Weight
Predator Triton 700 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันในระดับนึง โดยติดตั้งทั้งด้านขวาด้านขวาของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 1 ช่อง พร้อมชาร์จไฟได้, Thunderbolt 3 (USB Type-C) 1 ช่อง พร้อมกับ LAN ตัวเต็ม ส่วนทางด้านซ้าย Mic-in/Headphone-out พร้อม USB 3.0 อีก 2 พอร์ต ที่สำคัญยังมีพอร์ต USB 2.0 แบบพิเศษ ที่มีดีไซน์แบบซ่อนลึกพร้อมฝาปิด เพื่อใช้งานกับพวก USB Receiver โดยเฉพาะ เวลาใช้งานจริงจะเรียบเนียนไปกับตัวเครื่อง ยังหมดแค่นั้น เพราะด้านหลังตัวเครื่องยังติดตั้งพอร์ตชาร์จไฟ พร้อม DisplayPort และ HDMI อีกด้วย
พอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ แน่นอนว่ามีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี
ในส่วนความบางของเครื่องอยู่ที่ 18.9 มิลลิเมตรตลอดทั้งตัวเครื่องเมื่อปิดฝาจอ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็น Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นกับสเปกความแรงระดับ GTX 1080 Max-Q ที่บางที่สุดก็ว่าได้ อีกทั้งมีน้ำหนักแค่ 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น ถือได้ว่าไม่เคยมีโน๊ตบุ๊คที่มีประสิทธิภาพขนาดนี้ แต่เบาขนาดนี้มาก่อน เมื่อรวมกับอแดปเตอร์ก็มีน้ำหนักประมาณ 2.7 กิโลกรัมเท่านั้นเอง
Performance / Software
ประสิทธิภาพในการใช้งานทั่วไปนั้นถือว่า Predator Triton 700 สามารถทำออกมาได้ดีตามสเปคที่ทาง Acer โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุด
เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 2400 MHz (16GB x 2) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 และการเปิดหลายๆ โปรแกรมได้อย่างสบายๆ
ในส่วนของประสิทธิภาพของ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q นั้นก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรครับ โดยประสิทธิภาพนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ให้ประสิทธิภาพแรงเหนือชั้นกว่า GTX 1070 (เวอร์ชันโน๊ตบุ๊ค) ซึ่งไม่ได้ขัดอะไรไปจากการทดสอบที่เคยมีออกมาก่อนหน้านี้ทำให้ Predator Triton 700 สามารถที่จะรองรับการเล่นเกมบนหน้าจอขนาด 15.6 นิ้วที่ความละเอียด Full HD ได้เฟรมเรทอย่างลื่นไหล อย่างไรก็ตามจะเห็นว่ามีการ์ดจอแยกเพียง NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q แต่ความจริงแล้ว บนตัวชิปประมวลผลก็ยังคงมี การ์ดจอออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 แต่ได้ถูกปิดการใช้งานเอาไว้ผ่านทาง BIOS เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด (ไม่ต้องสลับไปมา)
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ทั้งลูก โดยทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจตามมาตรฐานการเชื่อมต่อ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 บนขนาด 512GB x 2 พร้อมมาตรฐาน Raid 0 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD M.2 SATA 3 ทั่วไปจะเห็นว่ามีความเร็วห่างชั้นกันมาก รวมไปถึงพวกฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันแบบเทียบไม่ติด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ด้วยความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3207 MB/s และเขียนที่ 2796 MB/s
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 รวมไปถึง SSD ความจุใหญ่ความเร็วสูง
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / Battlefield 1 / Rise of the Tomb Raider / Ghost Recon Wildlands ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด รวมไปถึง Ghost Recon Wildlands ก็ปรับเป็นระดับ Ultra ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย จากการทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพ NVIDIA G-SYNC
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 / Overwatch / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 130 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมนั้น NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q สามารถที่จะรองรับการใช้งานได้อย่างสบายๆ ครับ ในตรงจุดนี้นั้นจะเห็นได้ว่าผลการทดสอบการเล่นเกมทั้ง 7 เกม นั้นจะอยู่สูงกว่า GTX 1070 เวอร์ชันโน๊ตบุ๊คในสเปกอื่นๆ ที่เหมือนกันอยู่พอควร เรียกได้ว่าการเล่นเกมนั้นน่าจะสบายๆ ใช้งานได้มั่นใจเรื่องความแรงได้เลย
Predator Triton 700 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ Predator Sense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าไฟคีย์บอร์ด RGB, ไฟพัดลม, เร่งรอบพัดลมได้เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงเรายังสามารถ Overclock การ์ดจอ เพื่อเร่งประสิทธิภาพให้แรงยิ่งขึ้นไปอีกได้ และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน Predator Sense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Predator Triton 700 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 2 ชั่วโมงโดยประมาณไม่เกินนี้ ทำให้เรียกได้ว่าเป็นข้อสังเกตในส่วนของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ก็ว่าได้ เพราะมีความจุต่ำกว่าเครื่องรุ่นอื่นๆ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่ต้องออกแบบตัวเครื่องออกมาให้บางที่สุด เลยมีผลทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นค่อนข้างที่จะต่ำอยู่มากเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Predator Triton 700 ก็สามารถที่จะทำออกใสได้ดีเช่นเดียวกันโดยหากเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับชิปกราฟิก GTX 1070 หรือ GTX 1080 รุ่นปกติบนโน๊ตบุ๊ค พบว่าควบคุมอุณหภูมิสามารถทำออกมาได้ดีกว่าซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการใช้ GTX 1080 Max-Q นั่นเอง โดยมาพร้อมกับระบบจ่ายไฟที่มีกำลังไฟอยู่ที่ 230 W พบว่าชิป GTX 1080 Max-Q น่าจะมีอัตราการใช้ไฟที่ 100 W TDP ส่วน GTX 1080 รุ่นพี่นั้นจะมีอัตราการใช้ไฟที่ 180 W ซึ่งตรงนี้นั้นถือว่าลดมามากเลย
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบให้เครื่องทำงานสูงสุด ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ หลายชั่วโมงเพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 85 – 87 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวลผล และการ์ดจอก็จะอยู่ไม่เกิน 67- 70 องศาเซลเซียส โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา
Conclusion / Award
Predator Triton 700 นั้นถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์สำหรับการเล่นเกมเน้นความบางเบา โดยมีน้ำหนักแค่ 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น อีกทั้งยังมีความบางตัวเครื่องเพียง 18..9 มิลลิเมตร ที่มีประสิทธิภาพที่แรงแบบเหนือชั้น ซึ่งสามารถที่จะใช้งานได้ในระยะยาวโดยน่าจะรองรับกับเกมใหม่ๆ 2 – 3 ปีนี้ได้อย่างสบายๆ
การมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่เป็น Core i Gen 7 Kaby Lake บนแรม DDR4 ที่ 16GB และการ์ดจอตัวเทพ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q ที่แรงมาก (แรงกว่า GTX 1070 แต่อ่อนกว่า GTX 1080) แถมกินไฟต่ำลง สำคัญคือควบคุมความร้อนได้แบบมีเสถียรภาพผ่านชุดระบายความร้อนฮีท์ไปป์ 5 เส้น พร้อมพัดลมขนาดใหญ่สองตัวอย่าง AeroBlade 3D
นอกเหนือจากนั้นยังจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์มากมาย ไม่จะเป็น การดีไซน์ออกแบบที่สุดล้ำด้วยวัสดุและด้วยกระจก Corning Gorilla Glass หนา 0.7 มิลลิเมตร ที่อยู่เหนือคีย์บอร์ดจะโชว์การทำงานของพัดลมด้านซ้ายพร้อมมีไฟ LED (เปลี่ยนสีได้) อย่างที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของรอยขีดขวนที่อาจจะเกิดขึ้น และ Mechanical Keyboard ประเภท Low Profile ทำให้การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ Mechanical Keyboard แบบแยกของพีซี บนเทคโนโลยีไฟ RGB ทำให้เปลี่ยนสีได้
สรุปแล้ว Predator Triton 700 ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ สมกับที่ได้รางวัลจากต่างประเทศมากมาย (ถ้าไม่เกี่ยงในเรื่องของราคา) เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเบามากๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย ไม่แค่นั้นเรื่องระบบระบายความร้อนก็ยอดเยี่ยม ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคา 119,900 บาท ที่การรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service เหมาะกับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่สุดทั้งบางเบาเร็วแรงในเครื่องเดียว อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยให้ได้แบบนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตามใช่ว่า Predator Triton 700 จะไม่มีข้อสังเกตเสียทีเดียว ด้วยความที่การออกแบบเน้นเรื่องของขนาดตัวเครื่องที่มีความบางมากขึ้นกว่าเดิมทำให้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่อายุการใช้งานต่ำ แต่เชื่อได้ว่าคนที่ซื้อน่าจะรับกับจุดนี้ได้อยู่ ง่ายๆ คือพกอแดปเตอร์ไปใช้งานด้วยทุกครั้งนั่นเอง และอีกอย่างก็คือทัชแพดอาจจะหนืดนิ้วไปหน่อย
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์พันธุ์ Predator งานประกอบแน่นวัสดุดี
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-7700HQ และการ์ดจอ GeForce GTX 1080 Max-Q
- ส่วนของแรมก็ขนาด 32GB DDR4 พร้อม SSD ความเร็วสูง 512GB x 2 เหลือเฟือในการใช้งาน
- หน้าจอ IPS พร้อม Refresh Rate 120 Hz แสดงผลภาพดีมาก ทำงานร่วมกับ NVIDIA G-SYNC
- ตัวเครื่องมีความบางเบามากๆ เพียง 18.9 มิลลิเมตรและหนักเพียง 2.4 กิโลกรัม
- ตัวเครื่องมีระบายความร้อนที่ดี น่าประทับใจ
- คีย์บอร์ดมีไฟหลากสีด้วย RGB
- มีพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ฟอร์มเป็น USB-C
- มีซอฟต์แวร์ ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- รับประกัน 3 ปี On-site Service
ข้อสังเกต
- ไม่สามารถที่จะสลับการ์ดจอไปมาระหว่างออนบอร์ดกับแยกได้
- แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานเพียง 2 ชั่วโมง (จากการที่สลับการ์ดจอไม่ได้)
- คีย์บอร์ดและทัชแพดใช้งานค่อนข้างที่จะใช้งานลำบากเล็กน้อย
- ราคาสูงที่ 119,900 บาท
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Predator Triton 700 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Predator ของทาง Acer มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Predator Triton 700 จากการที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คเกมเมอร์รุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Technology
Predator Triton 700 เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย ดีไซน์ความบางตัวเครื่องที่เบาซึ่งและการ์ดจอ GeForce GTX 1080 Max-Q ที่ทั้งแรงและกินไฟต่ำ ตัวเครื่องมีการยกตัวให้สูงขึ้นเพื่อช่วยเรื่องระบายความร้อน ตัวคีย์บอร์ดมีไฟหลากสี RGB อีกทั้งมีพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ฟอร์มเป็น USB-C พร้อมซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน
Best Performance
Predator Triton 700 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q พร้อมแรมตัวเครื่องที่ให้มา 32GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 Bus 2400 MHz และ SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe PCIe Gen 3 ความจุ 512GB x 2 (Raid 0) ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 3200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงหน้าจอ IPS พร้อม Refresh Rate 120 Hz แสดงผลภาพดีมาก ทำงานร่วมกับ NVIDIA G-SYNC
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ Predator Triton 700 อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบที่ 18.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 2.4 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
VDO Review
Specification
Predator Triton 700 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7 7700HQ รุ่นยอดนิยม ทำงานความเร็ว 2.9 – 3.8 GHz แบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ที่สำคัญยังติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1080 (DDR5 8GB) Max-Q ที่มีค่า TDP อยู่ที่ 100W เท่านั้น แต่ความแรงให้มากกว่า GTX 1070 เสียอีก ส่วนของแรมมีขนาด 32GB DDR4 Bus 2400MHz (16GB x 2) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB (512GB x 2 แบบ Raid 0) หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง รองรับ 120Hz พร้อม NVIDIA G-SYNC
ความหนาของตัวเครื่องอยู่ที่ 18.9 มิลลิเมตร และหนักเพียง 2.4 กิโลกรัม ที่สำคัญคือยังได้ติดตั้ง Mechanical Keyboard แบบ Low Profile พร้อมไฟหลากสร RGB นอกจากนี้โดยพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.0, Thunderbolt 3 (USB Type-C), HDMI พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac สนนราคา Predator Triton 700 อยู่ที่ 119,900 บาท ประกัน 3 ปี On-site Service พร้อมขายตามช่องทางจัดจำหน่ายทั่วไป
**หมายเหตุ เครื่องที่วางจำหน่ายในไทย เป็น Ram 16 GB ครับ
สเปกเต็มๆ ของ Predator Triton 700
Hardware / Design
เพียงแรกเห็นก็บอกได้เลยว่าการออกแบบโดยรวมของ Predator Triton 700 จากทาง Acer ที่เป็น Gaming Notebook ที่สวยงามและดูลงตัวที่สุดรุ่นนึง สมกับเป็นไฮเอนด์โน๊ตบุ๊ค รวมไปถึงยังติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q เป็นรุ่นแรกๆ ของโลก ส่งผลให้ทำให้ตัวเครื่องนั้นมีความบางกว่าโน๊ตบุ๊คที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมาก โดยตัวเครื่องของ Predator Triton 700 นั้นจะมีความบางตลอดทั้งตัวเครื่องเพียง 18.9 มิลลิเมตรเท่านั้น แถมน้ำหนักของตัวเครื่องก็อยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม ซึ่งทำให้เป็นโน้ตบุ๊ตเล่นเกมการ์ดจอตัวแรงตัวจริงที่สามารถพกพาได้สะดวกมากๆ
ดีไซน์การของ Predator Triton 700 มาพร้อมความสดใหม่อย่างที่ Acer ไม่เคยนำเสนอมาก่อน ตัวเครื่องนั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและแมกนีเซียม มาในโทนสีดำอย่าง Obsidian black สลับกับสีฟ้าบางส่วน พร้อมกันนั้นพื้นผิวเรียบจากการใช้วิธีพ่นทราย ซึ่งจะทำได้ละเอียดกว่าการขัดปกติ ผิวชิ้นงานเนียน และช่วยให้สีติดที่เนื้อวัสดุได้อย่างดีที่สุด แถมยังมีความทนทานด้วย โดยการใช้งานจริงนับว่าให้สัมผัสที่เยี่ยมยอด แตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปแบบรู้สึกได้ในครั้งแรก
เรียกได้ว่านอกเหนือจากความบางเบาและยังพรีเมียมพรูหราอีกด้วย และอีกสิ่งที่โดดเด่นก็คือทัชแพดได้ถูกย้ายมาไว้ที่ด้านบนของชุดคีย์บอร์ดแทน ที่สำคัญยังมีลักษณะที่พิเศษคือเป็นกระจกดำที่พอมองเข้าไปจะเห็นฮีท์ไปป์ทองแดงบางส่วน พร้อมพัดลมมีไฟ LED ที่แสดงถึงการทำงาน ส่วนปุ่ม Power จะถูกติดตั้งอยู่ทางด้านข้างทางขอบเครื่องทางซ้าย โดยเปิดเครื่องแล้วปุ่มจะมีไฟ LED สีฟ้าเปล่งออกมา
ซึ่งเวลาใช้งานตัวเครื่องนั้นทำให้ดูน่าใช้งานแบบเทพๆ เข้าไปอีก ด้วยกระจก Corning Gorilla Glass หนา 0.7 มิลลิเมตร ที่อยู่เหนือคีย์บอร์ดจะโชว์การทำงานของพัดลมด้านซ้ายพร้อมมีไฟ LED (เปลี่ยนสีได้) อย่างที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของรอยขีดขวนที่อาจจะเกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริงทีเดียว นอกจากนั้นฝาหลังก็จะมาพร้อมโลโก้ Predator ขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสีฟ้า แตกต่างจาก Predator รุ่นอื่นๆ ที่เป็นสีแดง
ระบบระบายอากาศของ Predator Triton 700 จะมาพร้อมพัดลมขนาดใหญ่สองตัวอย่าง AeroBlade 3D Fan ที่มีลักษณะพิเศษคือวัสดุเป็นโลหะแข็งแรงทนทาน พร้อมเพิ่มใบพัดให้มากกว่าปกติ โดยมีหลักการทำงานก็คือ ใต้ตัวเครื่องจะมีช่องดูดลมเย็น 3 ช่อง พร้อมด้านบนข้างๆ ทัชแพดอีกหนึ่งช่อง ซึ่งพัดลม 2 ตัวทำหน้าที่ดูดลมเย็น เพื่อนำพาความร้อนจากฮีทไปป์จำนวน 5 เส้น แล้วเป่าออกทางด้านหลัง 2 ทาง และด้านซ้ายขวาอีก 2 ทาง ทำงานร่วมกับฟินสีฟ้าตามช่องระบายความร้อน
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ Predator Triton 700 ต้องยอมรับว่า Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง Acer ทำออกมาได้แล้ว
Keyboard / Touchpad
เมื่อเปิดฝาหน้าจอ Predator Triton 700 ขึ้นมามองภายในเราก็จะพบกับการวางตำแหน่งของคีย์บอร์ดที่แตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นทั่วไปอย่างชัดเจน จากการที่เลื่อนชุดแป้นคีย์บอร์ดมาไว้ด้านล่างสุด และขยับในส่วนของทัชแพดแบบพิเศษที่เป็นกระจกแบบไร้ปุ่มคลิกซ้ายขวาแทน อย่างไรก็ตามยังสามารถใช้งานคลิกซ้ายขวาหรือคุณสมบัติอื่นๆ ได้อีกผ่านทาง Multi Gesture ผ่านทาง Windows 10 กับการใช้งานหลายนิ้วพร้อมๆ กัน ตั้งแต่ 1 – 4 นิ้ว ซึ่งอาจจะต้องฝึกให้คุ้นชินเท่านั้นเอง
โดยที่ต้องวางตำแหน่งแบบนี้นั้นเป็นเพราะได้ติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบจัดเต็มเอาไว้ ซึ่งจะมีทั้งกระจก Corning Gorilla Glass ที่มองลอดลงไปเห็นพัดลมด้านซ้าย และช่องขนาดเล็กพัดลมด้านขวาทำหน้าที่ดูดลมเย็นลงไปให้ผ่านทางฮีต์ไปป์ แน่นอนว่าเป็นผลมาจากตัวเครื่องที่เน้นบาง เลยทำให้ชุดระบายความร้อนทั้งหมดต้องติดตั้งบริเวณนั้น
โดยคีย์บอร์ดของ Predator Triton 700 เป็นแบบ Mechanical Keyboard ประเภท Low Profile ทำให้การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ Mechanical Keyboard แบบแยกของพีซี บนเทคโนโลยีไฟ RGB ทำให้เปลี่ยนสีได้ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ Predator Sense ซึ่งความโดดเด่นด้วยการที่เป็นแบบโปร่งแสงทำให้มีไฟเรืองแสงขึ้นมาจากตัวอักษรด้วย เรียกได้ว่าเน้นสำหรับเกมหรือทำงานก็เต็มประสิทธิภาพ
ส่วนข้อสังเกตมีอยู่เล็กน้อยในการใช้งานคีย์บอร์ดข้อมือของเราต้องโดนขอบเครื่องตรงๆ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ลำบากกว่าคีย์บอร์ด Gaming Notebook ทั่วไปและทัชแพดเองก็อยู่ด้านบนเหนือคีย์บอร์ด ทำให้ใช้งานแล้วแปลกๆ แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาจากการที่ใช้งานจริง เพราะเกมเมอร์หรือคนเล่นเกมนั้นน่าจะต้องใช้เมาส์อยู่แล้ว ส่วนคีย์บอร์ดแบบแยกนั้นถ้าใครซีเรียสมากก็คาดว่าต้องต่อเพิ่มแน่นอน
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอนั้นถือได้ว่า Acer นั้นให้หน้าจอที่มีประสิทธิภาพที่จัดว่าเยี่ยมยอด ซึ่ง Predator Triton 700 ใช้หน้าจอขนาด 15.6 ” แบบด้าน ที่ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญเป็นพาเนล IPS คุณภาพสูงเรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้จากหลายมุม การให้สีสันนั้นถือว่าสามารถที่จะทำได้ดี โดยมี Refresh Rate อยู่ที่ 120 Hz แถมยังติดตั้งชิปประมวลผลภาพ NVIDIA G-SYNC ทำให้ในการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงเล่นเกมนั้นมีความลื่นไหลกว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากๆ รวมไปถึงยังไม่มีอาการภาพฉีกหรือภาพเบลอให้เห็นอีกด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Predator Triton 700 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันได้ดีน่าประทับใจ ภาพนี้จะแสดงเป็นตารางที่จะบ่งบอกถึงค่าความสว่างต่อคอนทราสต์ที่ได้ อย่างแรกที่เห็นก็คือความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านล่างตรงกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านขวาบนเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 17% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ส่วนระบบเสียงเป็น Dolby Atmos Surround Sound และ Acer TrueHarmony พร้อมลำโพงสเตอริโอที่ติดตั้งมาในตัวก็ระดับเสียงที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปอยู่พอสมควรสามารถใช้ฟังเพลงต่างๆ ได้ค่อนข้างดีกว่าอยู่บ้าง มีเสียงเบสมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของเสียงแนะนำให้ปรับแต่งเสียงตามแนวเสียงของตัวเอง สำหรับการเล่นเกมถือว่าทำได้ดีทีเดียว จากการที่ให้เสียงที่แยกชัดเจน โดยตัวลำโพงติดตั้งข้างๆ ซ้ายและขวาชุดแป้นคีย์บอร์ดนั่นเอง โดยรวมถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเสียงดีที่สุดอีกหนึ่งรุ่นเท่าที่เคยทดสอบมา
Connector / Thin And Weight
Predator Triton 700 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันในระดับนึง โดยติดตั้งทั้งด้านขวาด้านขวาของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 1 ช่อง พร้อมชาร์จไฟได้, Thunderbolt 3 (USB Type-C) 1 ช่อง พร้อมกับ LAN ตัวเต็ม ส่วนทางด้านซ้าย Mic-in/Headphone-out พร้อม USB 3.0 อีก 2 พอร์ต ที่สำคัญยังมีพอร์ต USB 2.0 แบบพิเศษ ที่มีดีไซน์แบบซ่อนลึกพร้อมฝาปิด เพื่อใช้งานกับพวก USB Receiver โดยเฉพาะ เวลาใช้งานจริงจะเรียบเนียนไปกับตัวเครื่อง ยังหมดแค่นั้น เพราะด้านหลังตัวเครื่องยังติดตั้งพอร์ตชาร์จไฟ พร้อม DisplayPort และ HDMI อีกด้วย
พอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ แน่นอนว่ามีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี
ในส่วนความบางของเครื่องอยู่ที่ 18.9 มิลลิเมตรตลอดทั้งตัวเครื่องเมื่อปิดฝาจอ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็น Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นกับสเปกความแรงระดับ GTX 1080 Max-Q ที่บางที่สุดก็ว่าได้ อีกทั้งมีน้ำหนักแค่ 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น ถือได้ว่าไม่เคยมีโน๊ตบุ๊คที่มีประสิทธิภาพขนาดนี้ แต่เบาขนาดนี้มาก่อน เมื่อรวมกับอแดปเตอร์ก็มีน้ำหนักประมาณ 2.7 กิโลกรัมเท่านั้นเอง
Performance / Software
ประสิทธิภาพในการใช้งานทั่วไปนั้นถือว่า Predator Triton 700 สามารถทำออกมาได้ดีตามสเปคที่ทาง Acer โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุด
เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 2400 MHz (16GB x 2) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 และการเปิดหลายๆ โปรแกรมได้อย่างสบายๆ
ในส่วนของประสิทธิภาพของ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q นั้นก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรครับ โดยประสิทธิภาพนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ให้ประสิทธิภาพแรงเหนือชั้นกว่า GTX 1070 (เวอร์ชันโน๊ตบุ๊ค) ซึ่งไม่ได้ขัดอะไรไปจากการทดสอบที่เคยมีออกมาก่อนหน้านี้ทำให้ Predator Triton 700 สามารถที่จะรองรับการเล่นเกมบนหน้าจอขนาด 15.6 นิ้วที่ความละเอียด Full HD ได้เฟรมเรทอย่างลื่นไหล อย่างไรก็ตามจะเห็นว่ามีการ์ดจอแยกเพียง NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q แต่ความจริงแล้ว บนตัวชิปประมวลผลก็ยังคงมี การ์ดจอออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 แต่ได้ถูกปิดการใช้งานเอาไว้ผ่านทาง BIOS เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด (ไม่ต้องสลับไปมา)
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ทั้งลูก โดยทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจตามมาตรฐานการเชื่อมต่อ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 บนขนาด 512GB x 2 พร้อมมาตรฐาน Raid 0 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD M.2 SATA 3 ทั่วไปจะเห็นว่ามีความเร็วห่างชั้นกันมาก รวมไปถึงพวกฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันแบบเทียบไม่ติด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ด้วยความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3207 MB/s และเขียนที่ 2796 MB/s
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 รวมไปถึง SSD ความจุใหญ่ความเร็วสูง
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / Battlefield 1 / Rise of the Tomb Raider / Ghost Recon Wildlands ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด รวมไปถึง Ghost Recon Wildlands ก็ปรับเป็นระดับ Ultra ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย จากการทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพ NVIDIA G-SYNC
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 / Overwatch / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 130 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมนั้น NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q สามารถที่จะรองรับการใช้งานได้อย่างสบายๆ ครับ ในตรงจุดนี้นั้นจะเห็นได้ว่าผลการทดสอบการเล่นเกมทั้ง 7 เกม นั้นจะอยู่สูงกว่า GTX 1070 เวอร์ชันโน๊ตบุ๊คในสเปกอื่นๆ ที่เหมือนกันอยู่พอควร เรียกได้ว่าการเล่นเกมนั้นน่าจะสบายๆ ใช้งานได้มั่นใจเรื่องความแรงได้เลย
Predator Triton 700 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ Predator Sense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าไฟคีย์บอร์ด RGB, ไฟพัดลม, เร่งรอบพัดลมได้เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงเรายังสามารถ Overclock การ์ดจอ เพื่อเร่งประสิทธิภาพให้แรงยิ่งขึ้นไปอีกได้ และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน Predator Sense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Predator Triton 700 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 2 ชั่วโมงโดยประมาณไม่เกินนี้ ทำให้เรียกได้ว่าเป็นข้อสังเกตในส่วนของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ก็ว่าได้ เพราะมีความจุต่ำกว่าเครื่องรุ่นอื่นๆ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่ต้องออกแบบตัวเครื่องออกมาให้บางที่สุด เลยมีผลทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นค่อนข้างที่จะต่ำอยู่มากเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Predator Triton 700 ก็สามารถที่จะทำออกใสได้ดีเช่นเดียวกันโดยหากเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับชิปกราฟิก GTX 1070 หรือ GTX 1080 รุ่นปกติบนโน๊ตบุ๊ค พบว่าควบคุมอุณหภูมิสามารถทำออกมาได้ดีกว่าซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการใช้ GTX 1080 Max-Q นั่นเอง โดยมาพร้อมกับระบบจ่ายไฟที่มีกำลังไฟอยู่ที่ 230 W พบว่าชิป GTX 1080 Max-Q น่าจะมีอัตราการใช้ไฟที่ 100 W TDP ส่วน GTX 1080 รุ่นพี่นั้นจะมีอัตราการใช้ไฟที่ 180 W ซึ่งตรงนี้นั้นถือว่าลดมามากเลย
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบให้เครื่องทำงานสูงสุด ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ หลายชั่วโมงเพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 85 – 87 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวลผล และการ์ดจอก็จะอยู่ไม่เกิน 67- 70 องศาเซลเซียส โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา
Conclusion / Award
Predator Triton 700 นั้นถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์สำหรับการเล่นเกมเน้นความบางเบา โดยมีน้ำหนักแค่ 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น อีกทั้งยังมีความบางตัวเครื่องเพียง 18..9 มิลลิเมตร ที่มีประสิทธิภาพที่แรงแบบเหนือชั้น ซึ่งสามารถที่จะใช้งานได้ในระยะยาวโดยน่าจะรองรับกับเกมใหม่ๆ 2 – 3 ปีนี้ได้อย่างสบายๆ
การมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่เป็น Core i Gen 7 Kaby Lake บนแรม DDR4 ที่ 16GB และการ์ดจอตัวเทพ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q ที่แรงมาก (แรงกว่า GTX 1070 แต่อ่อนกว่า GTX 1080) แถมกินไฟต่ำลง สำคัญคือควบคุมความร้อนได้แบบมีเสถียรภาพผ่านชุดระบายความร้อนฮีท์ไปป์ 5 เส้น พร้อมพัดลมขนาดใหญ่สองตัวอย่าง AeroBlade 3D
นอกเหนือจากนั้นยังจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์มากมาย ไม่จะเป็น การดีไซน์ออกแบบที่สุดล้ำด้วยวัสดุและด้วยกระจก Corning Gorilla Glass หนา 0.7 มิลลิเมตร ที่อยู่เหนือคีย์บอร์ดจะโชว์การทำงานของพัดลมด้านซ้ายพร้อมมีไฟ LED (เปลี่ยนสีได้) อย่างที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของรอยขีดขวนที่อาจจะเกิดขึ้น และ Mechanical Keyboard ประเภท Low Profile ทำให้การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ Mechanical Keyboard แบบแยกของพีซี บนเทคโนโลยีไฟ RGB ทำให้เปลี่ยนสีได้
สรุปแล้ว Predator Triton 700 ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ สมกับที่ได้รางวัลจากต่างประเทศมากมาย (ถ้าไม่เกี่ยงในเรื่องของราคา) เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเบามากๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย ไม่แค่นั้นเรื่องระบบระบายความร้อนก็ยอดเยี่ยม ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคา 119,900 บาท ที่การรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service เหมาะกับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่สุดทั้งบางเบาเร็วแรงในเครื่องเดียว อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยให้ได้แบบนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตามใช่ว่า Predator Triton 700 จะไม่มีข้อสังเกตเสียทีเดียว ด้วยความที่การออกแบบเน้นเรื่องของขนาดตัวเครื่องที่มีความบางมากขึ้นกว่าเดิมทำให้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่อายุการใช้งานต่ำ แต่เชื่อได้ว่าคนที่ซื้อน่าจะรับกับจุดนี้ได้อยู่ ง่ายๆ คือพกอแดปเตอร์ไปใช้งานด้วยทุกครั้งนั่นเอง และอีกอย่างก็คือทัชแพดอาจจะหนืดนิ้วไปหน่อย
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์พันธุ์ Predator งานประกอบแน่นวัสดุดี
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-7700HQ และการ์ดจอ GeForce GTX 1080 Max-Q
- ส่วนของแรมก็ขนาด 32GB DDR4 พร้อม SSD ความเร็วสูง 512GB x 2 เหลือเฟือในการใช้งาน
- หน้าจอ IPS พร้อม Refresh Rate 120 Hz แสดงผลภาพดีมาก ทำงานร่วมกับ NVIDIA G-SYNC
- ตัวเครื่องมีความบางเบามากๆ เพียง 18.9 มิลลิเมตรและหนักเพียง 2.4 กิโลกรัม
- ตัวเครื่องมีระบายความร้อนที่ดี น่าประทับใจ
- คีย์บอร์ดมีไฟหลากสีด้วย RGB
- มีพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ฟอร์มเป็น USB-C
- มีซอฟต์แวร์ ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- รับประกัน 3 ปี On-site Service
ข้อสังเกต
- ไม่สามารถที่จะสลับการ์ดจอไปมาระหว่างออนบอร์ดกับแยกได้
- แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานเพียง 2 ชั่วโมง (จากการที่สลับการ์ดจอไม่ได้)
- คีย์บอร์ดและทัชแพดใช้งานค่อนข้างที่จะใช้งานลำบากเล็กน้อย
- ราคาสูงที่ 119,900 บาท
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Predator Triton 700 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Predator ของทาง Acer มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Predator Triton 700 จากการที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คเกมเมอร์รุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Technology
Predator Triton 700 เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย ดีไซน์ความบางตัวเครื่องที่เบาซึ่งและการ์ดจอ GeForce GTX 1080 Max-Q ที่ทั้งแรงและกินไฟต่ำ ตัวเครื่องมีการยกตัวให้สูงขึ้นเพื่อช่วยเรื่องระบายความร้อน ตัวคีย์บอร์ดมีไฟหลากสี RGB อีกทั้งมีพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ฟอร์มเป็น USB-C พร้อมซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน
Best Performance
Predator Triton 700 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1080 Max-Q พร้อมแรมตัวเครื่องที่ให้มา 32GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 Bus 2400 MHz และ SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe PCIe Gen 3 ความจุ 512GB x 2 (Raid 0) ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 3200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงหน้าจอ IPS พร้อม Refresh Rate 120 Hz แสดงผลภาพดีมาก ทำงานร่วมกับ NVIDIA G-SYNC
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ Predator Triton 700 อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบที่ 18.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 2.4 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ