ในที่สุดก็ออกมาวางจำหน่ายเสียทีกับ ASUS VivoBook Pro ตัวใหม่ซึ่งได้นำมาให้คนไทยได้ชมกันที่งาน Commart ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจะรูปแบบกาดีไซน์จะคล้ายๆ ZenBook แต่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า รวมถึงการออบแบบที่ดูเรียบง่าย บอดี้วัสดุเป็นอลูมิเนียม แถมเลือกใช้ CPU เป็นตัว Intel Core i7-7700HQ ที่เป็นซีรีส์ตัวแรง และยังเลือกใช้การ์ดจอที่เป็น GTX 1050 เรียกได้ว่าสเปคจัดเต็มเหมือนจำพวกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเลยทีเดียว นอกจากนี้จุดเด่นอีกอย่างน้ำหนักของเข้าตัวนี้คือน้ำหนักเบาเพียง 1.99 กิโลกรัม เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับการใช้งานแบบพกพาไปทำงานนอกสถานที่ต่างๆ ทั้งด้วยสเปคประสิทธิภาพที่มาให้ค่อนข้างดีและมีแบตเตอรรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน ประกันก็ 2 ปีเต็ม ทำให้เจ้า ASUS VivoBook Pro รุ่นใหม่นี้ดูน่าสนใจมากเลยทีเดียว
ซึ่งในบทความนี้เราจะมารีวิวเจ้าตัว ASUS VivoBook Pro N580VD สีทองหรูหรา แถมสเปคก็แรงไม่น้อยหน้าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค โดยมาราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 32,900 บาท มาดูกันดีกว่าครับจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
VDO Review
Specification
สเปคภายในของตัว ASUS VivoBook Pro N580VD จะคล้ายกับกลุ่มเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทั่วไป โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD แต่หน้าเสียดายที่รุ่นเข้าไทยเป็นพาเนล TN ส่วนตัว CPU เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ แบบ 4 Cores/8 Threads ความเร็ว 2.80 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 3.80 GHz ซึ่งแน่นอนว่าเป็นชิปยอดนิยมที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดแบตเตอรี่มากกว่ารุ่นเดิมๆ อย่างเห็นได้ชัด
ส่วน Ram ก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8 GB DDR4 bus 2400 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานสบายๆ แบบ Dual Channel (4 GB 2 ตัว) ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) ที่ให้ประสิทธิภาพทั้งการทำงาน 3 มิติหรือนำมาเล่นเกมก็สามารถเล่นๆ ได้อย่างสบายทุกเกมบนโลกในระดับ Full HD นอกจากนี้ตัวเครื่องยังเลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุ 1 TB 5400 RPM คุณภาพสูง พร้อมรองรับด้วย SSD M.2 อีกด้วย ที่สำคัญมาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายมาตราฐานใหม่อย่าง Wireless 802.11ac และ Bluetooth 4.2 (Dual band) ด้วย ตัวคีย์บอร์ดเองก็มีไฟ Backlit สีขาวปรับได้สามระดับ รวมถึงตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.99 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมประกัน 2 ปีเต็ม โดยเจ้าตัวนี้สนนราคาอยู่ที่ 32,900 บาท ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่สเปคคุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียวครับ
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS VivoBook Pro N580VD นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร ซึ่งตัวเครื่องมีความหนาประมาณ 19.2 มม เล็กกว่ารุ่นที่เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่เป็นสเปคใกล้เคียงกัน ขอบจอก็มีขนาดค่อนข้างบางแต่ก็ไม่ได้บางแบบ NanoEdge เหมือนรุ่น VivoBook S อย่างไรก็ตามการดีไซน์ก็ยังคงคล้ายๆ กันเน้นความเรียบง่ายมินินอล สีทองอ่อนสง่างาม ดูดี และมีความโดดเด่น เรียกได้ว่าพัฒนาจากรุ่นก่อนๆ ที่เป็นซีรีส์ N ได้ดูทันสมัยและเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมมุมตัวเครื่องแบบโค้งมน แถมยังมีแกนพับหน้าจอขนาดใหญ่ตรงกลางแข็งแรงสุดๆ
ส่วนบอดี้จะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนของสวนของฝาหน้าจอที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งกว่ากว่าปกติและทำให้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบา ส่วนบอดี้ด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอลูมิเนียมธรรมดา ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกการสัมผัสที่ด฿เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แุถมเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากอีกด้วย แต่ส่วนฝาหน้าจอจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อย ดังนั้นผู้ใช้อาจจะต้องขยันเช็ดดูแลทำความสะอาดเครื่องซักนิด ลักษณะซอพต์ทัชให้ความรู้สึกที่ลื่น ปุ่มกดแข็งแรง สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว และในส่วนกล้องเว็บแคมก็ติดตั้งให้มาด้วยแบบ HD พร้อมไมค์ 2 ตัวแบบตัดเสียงเล่น Webcam สบายๆ
Keyboard / Touchpad
ทางด้านของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองฉับไว โดยตัวแป้นพิมพ์ที่ให้มาเป็นแบบ Fullsize ซึ่งมีในส่วนของ Numpad มาให้แต่ไม่มีปุ่ม Enter ด้านข้างทำให้ใครที่ใช้ปุ่มนี้บ่อยๆ อาจจะหงุดหงิดนิดหน่อย ในของวัสดุส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ซึ่งต้องระมัดเพราะอาจจะเผลอไปกดโดนได้
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การสัมผัสเลื่อนนิ้วไปมาจะดูฝืดๆ สักหน่อย ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร
Screen / Speaker
ASUS VivoBook Pro N580VD ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD ตามมาตราฐาน แต่น่าเสียดายที่พาเนลเป็น TN ไม่ใช่ IPS เหมือนที่เปิดตัวมาในงานคอมมาร์ค ทำให้ใครที่รอคอยคงผิดหวังกันไม่น้อย แต่สำหรับหน้าจอตัวนี้ก็ใช่ว่าจะแย่อะไรมากมาย ซึ่งสีที่ได้ก็ดูสวยงามดี มีมุมมองที่กว้างพอสมควร และมาพร้อมกล้องความคมชัดระดับ HD ไมค์ตัดเสียง 2 ตัว อีกทั้งวัสดุในฝาหลังเป็นอลูมิเนียม ทำให้แข็งแรง ทนทานกว่ารุ่นอื่นและช่วยลดน้ำหนักตัวเครื่องให้เบามากขึ้นนั่นเอง
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ระบบเสียง Harman/Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ สบายๆ
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต ซึ่งเป็นแบบ Quick Charge ด้วยไว้สำหรับชาร์จไฟเข้ามือถือหรือเพาวเวอร์แบงค์ได้อย่างรวดเร็ว, พอร์ต USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ตและก็มีพอร์ต USB 3.1 Type C มาให้อีกด้วยสำหรับการรองรับเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ต HDMI มาให้ ส่วนใครที่ต้องการใช้พอร์ท VGA ตัวก็คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง HDMI to VGA มาเอง รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และก็พอร์ต Lan RJ-45 ตัวเต็ม ส่วนช่องอ่าน SD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และ Wireless 802.11 AC มาตราฐานใหม่ ส่วนขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.99 กิโลกรัม เมื่อรวมกับอแดปเตอร์เข้าไปด้วยกันแล้ว น่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 2.2 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าตัวนี้แน่นอนว่าออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างดีเลยทีเดียว
Performance / Software
ASUS VivoBook Pro N580VD เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ ซึ่งเป็นชิปประมวลตัวแรงรุ่นยอดนิยมที่ใส่ในเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz ซึ่งเป็นแบบ CPU แบบ 4 Cores/ 8 Threads และพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB Bus 2400 แบบ Dual-Channel (4 GB 2 ตัว)
ในส่วนของการ์ดจอ ตัวออนบอร์ดใช้เป็นตัว Intel HD Graphic 630 ใช้สำหรับประมวลผลในระดับธรรมดาทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง ส่วนการ์ดจอแยกจาก Nvidia GeForce GTX 1050 ขนาด 4 GB DDR5 สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับสูงได้เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นยอดนิยมได้สบายๆ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอโดยใช้ประสิทธิภาพของ CPU และการ์ดจอเป็นหลักคะแนนก็อยู่ในระดับสูง ตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจ ทำให้เจ้าเครื่องนี้คะแนนออกมาดูน่าประทับใจมากอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 22.3 MB/s และสูงสุดที่ 139.4 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 104.1 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 19.4 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมาได้มาตราฐานดี
ในส่วนนี้เราจะทดสอบ ASUS VivoBook Pro N580VD ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 4 เกมหลักยอดนิยมและกินทรัพยากรเครื่องหนักๆ จะเป็นยังบ้างไปดูกราฟกันเลยครับ
คะแนนเฟรมเรมในการเล่นเกมแต่ละเกมทำออกได้น่าประทับใจพอสมควร โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 4 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30 FPS ขึ้นไปทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปคภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 4GB ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ที่ 5400 รอบ เกรดดีที่ไม่อาการโหลดฉากไม่ทันเหมือนร 5400 รุ่นอื่น
โดยทั้งเกม GTA V, DOTA 2 และ Overwatch ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ยกเว้น GTA V ที่ปรับได้เกือบสุด ซึ่งเฟรมเรทที่ได้สามารถเล่นได้อย่างลื่นๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นฉากบวก ฉากตะลุมบอน หรือฉากที่มียูนิตเยอะๆ ก็เล่นได้อย่างสบายๆ หายห่วง ส่วนเกมที่กินสเปคหนักๆ อย่าง PUBG ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล โดยการทดสอบจะปรับอยู่ในระดับ Medium หรือเพื่อนๆ อยากจะปรับ High ก็พอเล่นได้เช่นกันแต่เฟรมเรทจะดรอปลงนิดหน่อย
Battery / Heat / Noise
ASUS VivoBook Pro N580VD นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4,000 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นให้มาค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยทีเดียว โดยประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่ายอดเยี่ยมเลยที่เดียว สามารถใช้งานต่อ Wi-Fi ทำงาน เล่นอินเตอร์เน็ตดูหนังฟังเพลง ได้ยาวนานประมาณ 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเฉลี่ย 94 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS VivoBook Pro N580VD เครื่องนี้ทำได้ดีในหมวดการใช้งานปกติ แต่หากเราใช้งานหนักๆ อุณหภูมิค่อนข้างสูงพอสมควรเพราะบอดี้ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม และการรูระบายความค่อนข้างเล็กแอบอยู่ตรงใต้แกนฝาพับหน้าจอ แต่ก็ไม่ได้ร้อนมากจนสัมผัสบอดี้ไม่ได้
Conclusion / Award
สำหรับเจ้าตัว ASUS VivoBook Pro N580VD เรียกได้ว่า เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความน่าสนใจไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสเปคที่ให้มาทั้ง
i7-7700HQ + GTX 1050 + Ram 8 GB เรียกได้ว่าแรงกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแท้ๆ บางรุ่นในสเปคที่คุ้มค่า สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว รวมถึงในเรื่องของการดีไซน์ที่ทำออกมาได้ลงตัว ดูดีกว่ารุ่นอื่นพอสมควร แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตนิดหน่อยตรงที่หน้าจอไม่ใช่เป็นจอ IPS เหมือน ASUS VivoBook S รุ่นน้องที่ได้วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้
ส่วนทางด้านราคาของ ASUS VivoBook Pro N580VD จะสนนราคาที่ 32,900 บาท ถือว่าราคาอยู่ในช่วงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่สเปคใกล้เคียงกัน ซึ่งเหมาะสำหรับใครที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ แต่ไม่ชอบลายหรือดีไซน์ที่เป็นแบบเกมมิ่งที่ดูตัวเครื่องจะเป็นแบบโทนมืดหรือโทนดำแดง ก็หันมาเลือกซื้อเลือกใช้ตัวนี้ก็ได้เช่นกันครับ
อีกอย่างที่เป็นจุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือเรื่องของขนาดและน้ำหนักที่เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีน้ำหนักเบาเพียง 1.99 กิโลกรัม และความหนา 1.92 เซนติเมตร ทำให้การพกพาจับถือได้คล่องตัวสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งลำโพงที่เป็นของ Harman/Kardon ที่ให้ระบบเสียงเป็นแบบสเตอริโอ ดังออกมาชัดเจนทุกย่านเสียง และมีความดังกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว
ข้อดี
- สเปคสูง Core i7-7700HQ การ์ดจอ GTX 1050 (4 GB) และ Ram 8 GB สามารถเอามาเล่นเกมได้ลื่นๆ
- วัสดุบอดี้เป็นอลูมิเนียม แข็งแรงทนทาน และมีน้ำหนักเบา
- มีไฟ Blacklit Keyboard ปรับแสงได้ 3 ระดับ
- แบตเตอรรี่ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงครึ่งเมื่อนำมาเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube
- มีพอร์ต USB 3.1 type C มาให้ด้วย
ข้อสังเกต
- หน้าจอพาเนล TN ไม่ใช่ IPS
- ระบบระบายความร้อนยังสู้พวกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คไม่ได้เมื่อนำมาใช้งานหนักๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS VivoBook Pro N580VD ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ASUS VivoBook Pro N580VD มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องขนาด 8 GB DDR4 Bus 2400 และรองรับ SSD แบบ m.2 อีกด้วย
Best Design
ด้วยเจ้าตัว ASUS VivoBook Pro N580VD มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงาม เรียบง่าย เรียบหรู ดูไฮและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และตัวบอดี้เองก็ทำมาจากอลูมิเนียมทั้งหมดดูแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา แถมยังมีขอบหน้าจอที่บางสุดๆ อีกด้วย
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา ทั้งในความบางเพียง 19.2 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.9 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 2.2 กิโลกรัม เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
VDO Review
Specification
สเปคภายในของตัว ASUS VivoBook Pro N580VD จะคล้ายกับกลุ่มเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทั่วไป โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD แต่หน้าเสียดายที่รุ่นเข้าไทยเป็นพาเนล TN ส่วนตัว CPU เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ แบบ 4 Cores/8 Threads ความเร็ว 2.80 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 3.80 GHz ซึ่งแน่นอนว่าเป็นชิปยอดนิยมที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดแบตเตอรี่มากกว่ารุ่นเดิมๆ อย่างเห็นได้ชัด
ส่วน Ram ก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8 GB DDR4 bus 2400 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานสบายๆ แบบ Dual Channel (4 GB 2 ตัว) ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) ที่ให้ประสิทธิภาพทั้งการทำงาน 3 มิติหรือนำมาเล่นเกมก็สามารถเล่นๆ ได้อย่างสบายทุกเกมบนโลกในระดับ Full HD นอกจากนี้ตัวเครื่องยังเลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุ 1 TB 5400 RPM คุณภาพสูง พร้อมรองรับด้วย SSD M.2 อีกด้วย ที่สำคัญมาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายมาตราฐานใหม่อย่าง Wireless 802.11ac และ Bluetooth 4.2 (Dual band) ด้วย ตัวคีย์บอร์ดเองก็มีไฟ Backlit สีขาวปรับได้สามระดับ รวมถึงตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.99 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมประกัน 2 ปีเต็ม โดยเจ้าตัวนี้สนนราคาอยู่ที่ 32,900 บาท ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่สเปคคุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียวครับ
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS VivoBook Pro N580VD นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร ซึ่งตัวเครื่องมีความหนาประมาณ 19.2 มม เล็กกว่ารุ่นที่เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่เป็นสเปคใกล้เคียงกัน ขอบจอก็มีขนาดค่อนข้างบางแต่ก็ไม่ได้บางแบบ NanoEdge เหมือนรุ่น VivoBook S อย่างไรก็ตามการดีไซน์ก็ยังคงคล้ายๆ กันเน้นความเรียบง่ายมินินอล สีทองอ่อนสง่างาม ดูดี และมีความโดดเด่น เรียกได้ว่าพัฒนาจากรุ่นก่อนๆ ที่เป็นซีรีส์ N ได้ดูทันสมัยและเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมมุมตัวเครื่องแบบโค้งมน แถมยังมีแกนพับหน้าจอขนาดใหญ่ตรงกลางแข็งแรงสุดๆ
ส่วนบอดี้จะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนของสวนของฝาหน้าจอที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งกว่ากว่าปกติและทำให้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบา ส่วนบอดี้ด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอลูมิเนียมธรรมดา ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกการสัมผัสที่ด฿เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แุถมเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากอีกด้วย แต่ส่วนฝาหน้าจอจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อย ดังนั้นผู้ใช้อาจจะต้องขยันเช็ดดูแลทำความสะอาดเครื่องซักนิด ลักษณะซอพต์ทัชให้ความรู้สึกที่ลื่น ปุ่มกดแข็งแรง สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว และในส่วนกล้องเว็บแคมก็ติดตั้งให้มาด้วยแบบ HD พร้อมไมค์ 2 ตัวแบบตัดเสียงเล่น Webcam สบายๆ
Keyboard / Touchpad
ทางด้านของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองฉับไว โดยตัวแป้นพิมพ์ที่ให้มาเป็นแบบ Fullsize ซึ่งมีในส่วนของ Numpad มาให้แต่ไม่มีปุ่ม Enter ด้านข้างทำให้ใครที่ใช้ปุ่มนี้บ่อยๆ อาจจะหงุดหงิดนิดหน่อย ในของวัสดุส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ซึ่งต้องระมัดเพราะอาจจะเผลอไปกดโดนได้
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การสัมผัสเลื่อนนิ้วไปมาจะดูฝืดๆ สักหน่อย ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร
Screen / Speaker
ASUS VivoBook Pro N580VD ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD ตามมาตราฐาน แต่น่าเสียดายที่พาเนลเป็น TN ไม่ใช่ IPS เหมือนที่เปิดตัวมาในงานคอมมาร์ค ทำให้ใครที่รอคอยคงผิดหวังกันไม่น้อย แต่สำหรับหน้าจอตัวนี้ก็ใช่ว่าจะแย่อะไรมากมาย ซึ่งสีที่ได้ก็ดูสวยงามดี มีมุมมองที่กว้างพอสมควร และมาพร้อมกล้องความคมชัดระดับ HD ไมค์ตัดเสียง 2 ตัว อีกทั้งวัสดุในฝาหลังเป็นอลูมิเนียม ทำให้แข็งแรง ทนทานกว่ารุ่นอื่นและช่วยลดน้ำหนักตัวเครื่องให้เบามากขึ้นนั่นเอง
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ระบบเสียง Harman/Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ สบายๆ
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต ซึ่งเป็นแบบ Quick Charge ด้วยไว้สำหรับชาร์จไฟเข้ามือถือหรือเพาวเวอร์แบงค์ได้อย่างรวดเร็ว, พอร์ต USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ตและก็มีพอร์ต USB 3.1 Type C มาให้อีกด้วยสำหรับการรองรับเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ต HDMI มาให้ ส่วนใครที่ต้องการใช้พอร์ท VGA ตัวก็คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง HDMI to VGA มาเอง รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และก็พอร์ต Lan RJ-45 ตัวเต็ม ส่วนช่องอ่าน SD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และ Wireless 802.11 AC มาตราฐานใหม่ ส่วนขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.99 กิโลกรัม เมื่อรวมกับอแดปเตอร์เข้าไปด้วยกันแล้ว น่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 2.2 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าตัวนี้แน่นอนว่าออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างดีเลยทีเดียว
Performance / Software
ASUS VivoBook Pro N580VD เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ ซึ่งเป็นชิปประมวลตัวแรงรุ่นยอดนิยมที่ใส่ในเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz ซึ่งเป็นแบบ CPU แบบ 4 Cores/ 8 Threads และพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB Bus 2400 แบบ Dual-Channel (4 GB 2 ตัว)
ในส่วนของการ์ดจอ ตัวออนบอร์ดใช้เป็นตัว Intel HD Graphic 630 ใช้สำหรับประมวลผลในระดับธรรมดาทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง ส่วนการ์ดจอแยกจาก Nvidia GeForce GTX 1050 ขนาด 4 GB DDR5 สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับสูงได้เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นยอดนิยมได้สบายๆ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอโดยใช้ประสิทธิภาพของ CPU และการ์ดจอเป็นหลักคะแนนก็อยู่ในระดับสูง ตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจ ทำให้เจ้าเครื่องนี้คะแนนออกมาดูน่าประทับใจมากอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 22.3 MB/s และสูงสุดที่ 139.4 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 104.1 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 19.4 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมาได้มาตราฐานดี
ในส่วนนี้เราจะทดสอบ ASUS VivoBook Pro N580VD ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 4 เกมหลักยอดนิยมและกินทรัพยากรเครื่องหนักๆ จะเป็นยังบ้างไปดูกราฟกันเลยครับ
คะแนนเฟรมเรมในการเล่นเกมแต่ละเกมทำออกได้น่าประทับใจพอสมควร โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 4 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30 FPS ขึ้นไปทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปคภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 4GB ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ที่ 5400 รอบ เกรดดีที่ไม่อาการโหลดฉากไม่ทันเหมือนร 5400 รุ่นอื่น
โดยทั้งเกม GTA V, DOTA 2 และ Overwatch ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ยกเว้น GTA V ที่ปรับได้เกือบสุด ซึ่งเฟรมเรทที่ได้สามารถเล่นได้อย่างลื่นๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นฉากบวก ฉากตะลุมบอน หรือฉากที่มียูนิตเยอะๆ ก็เล่นได้อย่างสบายๆ หายห่วง ส่วนเกมที่กินสเปคหนักๆ อย่าง PUBG ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล โดยการทดสอบจะปรับอยู่ในระดับ Medium หรือเพื่อนๆ อยากจะปรับ High ก็พอเล่นได้เช่นกันแต่เฟรมเรทจะดรอปลงนิดหน่อย
Battery / Heat / Noise
ASUS VivoBook Pro N580VD นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4,000 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นให้มาค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยทีเดียว โดยประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่ายอดเยี่ยมเลยที่เดียว สามารถใช้งานต่อ Wi-Fi ทำงาน เล่นอินเตอร์เน็ตดูหนังฟังเพลง ได้ยาวนานประมาณ 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเฉลี่ย 94 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS VivoBook Pro N580VD เครื่องนี้ทำได้ดีในหมวดการใช้งานปกติ แต่หากเราใช้งานหนักๆ อุณหภูมิค่อนข้างสูงพอสมควรเพราะบอดี้ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม และการรูระบายความค่อนข้างเล็กแอบอยู่ตรงใต้แกนฝาพับหน้าจอ แต่ก็ไม่ได้ร้อนมากจนสัมผัสบอดี้ไม่ได้
Conclusion / Award
สำหรับเจ้าตัว ASUS VivoBook Pro N580VD เรียกได้ว่า เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความน่าสนใจไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสเปคที่ให้มาทั้ง
i7-7700HQ + GTX 1050 + Ram 8 GB เรียกได้ว่าแรงกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแท้ๆ บางรุ่นในสเปคที่คุ้มค่า สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว รวมถึงในเรื่องของการดีไซน์ที่ทำออกมาได้ลงตัว ดูดีกว่ารุ่นอื่นพอสมควร แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตนิดหน่อยตรงที่หน้าจอไม่ใช่เป็นจอ IPS เหมือน ASUS VivoBook S รุ่นน้องที่ได้วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้
ส่วนทางด้านราคาของ ASUS VivoBook Pro N580VD จะสนนราคาที่ 32,900 บาท ถือว่าราคาอยู่ในช่วงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่สเปคใกล้เคียงกัน ซึ่งเหมาะสำหรับใครที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ แต่ไม่ชอบลายหรือดีไซน์ที่เป็นแบบเกมมิ่งที่ดูตัวเครื่องจะเป็นแบบโทนมืดหรือโทนดำแดง ก็หันมาเลือกซื้อเลือกใช้ตัวนี้ก็ได้เช่นกันครับ
อีกอย่างที่เป็นจุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือเรื่องของขนาดและน้ำหนักที่เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีน้ำหนักเบาเพียง 1.99 กิโลกรัม และความหนา 1.92 เซนติเมตร ทำให้การพกพาจับถือได้คล่องตัวสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งลำโพงที่เป็นของ Harman/Kardon ที่ให้ระบบเสียงเป็นแบบสเตอริโอ ดังออกมาชัดเจนทุกย่านเสียง และมีความดังกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว
ข้อดี
- สเปคสูง Core i7-7700HQ การ์ดจอ GTX 1050 (4 GB) และ Ram 8 GB สามารถเอามาเล่นเกมได้ลื่นๆ
- วัสดุบอดี้เป็นอลูมิเนียม แข็งแรงทนทาน และมีน้ำหนักเบา
- มีไฟ Blacklit Keyboard ปรับแสงได้ 3 ระดับ
- แบตเตอรรี่ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงครึ่งเมื่อนำมาเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube
- มีพอร์ต USB 3.1 type C มาให้ด้วย
ข้อสังเกต
- หน้าจอพาเนล TN ไม่ใช่ IPS
- ระบบระบายความร้อนยังสู้พวกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คไม่ได้เมื่อนำมาใช้งานหนักๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS VivoBook Pro N580VD ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ASUS VivoBook Pro N580VD มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องขนาด 8 GB DDR4 Bus 2400 และรองรับ SSD แบบ m.2 อีกด้วย
Best Design
ด้วยเจ้าตัว ASUS VivoBook Pro N580VD มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงาม เรียบง่าย เรียบหรู ดูไฮและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และตัวบอดี้เองก็ทำมาจากอลูมิเนียมทั้งหมดดูแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา แถมยังมีขอบหน้าจอที่บางสุดๆ อีกด้วย
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา ทั้งในความบางเพียง 19.2 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.9 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 2.2 กิโลกรัม เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ