งานวิจัยจากทาง University of Chicago ล่าสุดที่พึ่งเผยออกมาไม่นานนี้นั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจและมีความจำเป็นที่จะต้องใส่ใจเป็นอย่างยิ่งครับ โดยในงานวิจัยได้เผยออกมาครับว่าวัยรุ่นตอนปลายถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นของสหรัฐอเมริกานั้นเลือกที่จะเล่นเกมมากกว่าที่จะทำงานเป็นจริงเป็นจังครับ
ค่าสถิติที่แสดงออกมานั้นพบว่าในปี 2016 นั้นผู้ชายวัยรุ่นตอนปลายถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นที่มีอายุอยู่ที่ 21 ถึง 30 ปีนั้นมีจำนวนมากถึง 15% ที่ไม่ได้ทำงานแบบจริงจังเต็มเวลา เพิ่มขึ้นมากว่า 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับอัตราผู้เล่นเกมในช่วงวัยเดียวกันในปี 2000 ที่มีจำนวนอยู่ที่ 8% โดยผลของมันนั้นทำให้เวลาในการทำงานของคนในช่วงวัยเดียวกันนั้นลดลงถึง 12% จากปี 2000 มาปี 2015 ครับ
ในงานวิจัยยังเผยอีกครับว่ากว่า 67% ของผู้ที่ยังคงเล่นเกมในช่วงวัยข้างต้นนั้นจะอยู่กับครอบครัวหรือผู้ดูแลมากกว่าที่จะแยกไปอยู่คนเดียวซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้สูงขึ้นมากจาก 46% ที่ได้ทำการสำรวจไว้ในปี 2000 ทั้งนี้ตามข้อมูลของงานวิจัยนั้นบอกเอาไว้ว่าในฃั่วโมงของการใช้คอมพิวเตอร์เฉลี่ยของคนกลุ่มนี้นั้น กว่า 60% เป็นชั่วโมงที่พวกเขาใช้ในการเล่นเกมครับ(จากชั่วโมงของการใช้งานคอมพิวเตอร์เฉลี่ย 520 ฃั่วโมง)
นี่ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญมากๆ เลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในช่วงนี้ที่ทางสหรัฐอเมริกาเองต้องการแรงงานที่เป็นบุคคลในสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก(ตามนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่) ซึ่งคงต้องแก้ไขกันอย่างเร่งด่วน ซึ่งในงานวิจัยนั้นก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ด้วยครับว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไรครับ
ที่มา : fortune