กระแส Bitcoin กำลังมาแรง และก็กำลังร่วงในเวลาเดียวกัน แต่สำหรับใครที่สนใจอยากจะเป็น Starter ผู้เริ่มต้น หลักจากที่ได้ศึกษาหาข้อมูลมาอย่างถี่ถ้วน ถ่องแท้ และแตกฉาน ถึงเวลาลงมือทำจริง แต่ใช่ว่าจะมีความรู้อย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีเงินด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่จำนวนเงินน้อย ๆ ด้วยราคาค่าค่าตัวของมันสูงถึง 60,000 บาท ซึ่งเป็นขั้นต่ำสำหรับริกที่ใช้การ์ดจอ GTX 1050 Ti จำนวน 6 ใบเป็นหัวขุดหลักในการสร้างรายได้ของคุณ สำหรับรายละเอียดริกนี้จะเป็นการประกอบคอมขุด Bitcoin ของแอดมินตั้นเอง !!!
Specification
- CPU Intel Prntium G4560
- M/B ASUS Strix Z270H Gaming
- RAM Avexir Budget Series 8GB Bus 2400
- SSD M.2 WD Green 120 GB (แนะนำให้ใช้แบบ SATA ดีกว่า)
- GPU MSI GTX 1050 Ti Gaming X 4G (x6)
- PSU Corsair RM 750X 80+ Gold
- PSU ThermalTake Smart M 650W 80+ Bronze
ส่วนหัวเจาะหลักของเครื่องขุดชุดนี้คือการ์ดจอ MSI GTX 1050 Ti Gaming X 4G ทั้งหมด 6 ใบ ซึ่งเหตุผลหลักที่เลือกการ์ดจอรุ่นนี้ก็คือมันมีของขายพอดี ณ เวลานั้น….. แต่จริงๆแล้วการ์ดจอของ MSI นั้นเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ออกแบบชุดระบายความร้อนมาอย่างดีเยี่ยม ทำให้มีอุณหภูมิที่เย็นเป็นอันดับต้น ๆ อีกทั้งยังใช้ RAM ของ Samsung ทำให้สามารถ Overclock ได้ไกล นั้นหมายความว่าแรงขุดก็จะสูงตามไปด้วย
สำหรับ PSU นั้นใช้ทั้งหมด 2 ตัว โดยจะให้ตัวรอง ThermalTake Smart M 650W 80+Bronze จ่ายไฟให้กับเมนบอร์ด CPU และ Riser เท่านั้น แต่ PSU อีกตัว Corsair RM 750X 80+ Gold จะเป็นตัวหลักที่จ่ายไฟให้กับการ์ดจอทั้ง 6 ใบ เท่านั้น เพื่อให้ประสิทธิภาพในการจ่ายกระแสไฟระดับ Gold ทำงานได้อย่างเต็มที่ช่วยให้การ Overclock ทำได้อย่างนิ่งเสถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนการเปิดใช้งาน PSU Corsair ตัวนี้โดยไม่ต้องเสียบลงเมนบอร์ด ใช้การ Jump สายที่ 4 และ 5 ก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องซื้อสายแปลงให้เปลืองเงิน
สำหรับสายไฟเลี้ยง 24-pin SATA จาก PSU ThermalTake ที่ใช้จ่ายไฟให้กับ Riser ทั้ง 6 เส้น โดยจะแบ่งสายไฟ 24-pin SATA จาก PSU 1 เส้น ต่อ Riser 2 เส้น เพื่อป้องกันไม่ให้สายร้อนเกินไปจากการโหลดกระแสไฟที่หนักเป็นเวลานาน ถ้าหากเสียบสาย 24-pin SATA 1 เส้น ต่อ Riser 3 เส้น ขึ้นไป อาจจะทำให้ขั้วสายไหม้ได้ ซึ่งอันตรายมาก
สำหรับสาย Riser ที่เสียบเข้ากับ PCIe ต่อเข้าเมนบอร์ดโดยพยายามให้สายตั้งฉากมากที่สุด ป้องตัว Connector หลวม ซึ่งอาจจะทำให้เมนบอร์ดเกิดการไฟช็อตลัดวงจร ซึ่งการประกอบเครื่องนั้นให้ทำการเสียบสาย Riser 1 เส้นต่อการ์ดจอ 1 ใบ และทำการเสียบลงเมนบอร์ดครั้งละ 1 เส้น แล้วทำการลง Driver ให้ Windows ทำการ Detecting การ์ดจอ
หลักจากนั้นก็ถอดการ์ดจอชุดเดิมออกและใส่การ์ดจอชุดใหม่เข้าไป ทำแบบนี้จนครบทั้ง 6 ชุด แล้วค่อยเสียบการ์ดจอลงเมนบอร์ดพร้อมกันทั้ง 6 ชุด เพื่อป้องกันปัญหา Windows ไม่ Detecting การ์ดจอทั้ง 6 ตัว
สำหรับ SSD สำหรับลง Windows นั้น ปกติแล้วจะใช้ SSD SATA แบบธรรมดายี่ห้ออะไรก็ได้เน้นราคาถูก เพื่อในอนาคตสามารถเพิ่ม Riser ได้อีก 2 ตัวจากสล๊อต M.2 ทั้ง 2 ช่องของเมนบอร์ด ซึ่งหมายความว่าเมนบอร์ด ASUS STRIX Z270H Gaming รองรับการ์ดจอได้สูงสุด 8 ใบ โดยต่อจากสล๊อต PCIe 6 ใบ และ M.2 2 ใบ แต่เหตุผลที่ใช้ M.2 ประกอบชุดนี้เพราะว่า SSD M.2 มันเหลือใช้ไม่ต้องซื้อใหม่
สำหรับ RAM ก็เช่นกัน เน้นความถูก ยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้ 8GB 1 แถว เพราะประหยัดและคุ้มค่าที่สุด อีกทั้งยังรองรับโปรแกรมขุดที่ต้องใช้แรมมากกว่า 4GB ขึ้นไป
ในส่วนของ Riser เสียบเข้ากับการ์ดจอโดยตรงด้วยพอร์ต PCIe 16X แต่ Riser จะแปลงให้เป็น 1X เข้าสู่เมนบอร์ด ซึ่งความเสถียรในการทำงานของการ์ดจอนั้นขึ้นอยู่กับ Riser ด้วย ถ้าหาก Riser ไม่ดี การ์ดจอก็จะทำงานได้ไม่เสถียร แรงขุดก็จะแกว่ง หรือบางครั้งถ้าหาก Riser มีปัญหา อาจทำให้เครื่องดับทั้งระบบ
สำหรับ Riser ส่วนมากจะไม่มีประกัน ถ้าหากมีปัญหาก็ทิ้งอย่างเดียว ถ้าหากใครที่พอหาของเองได้ก็ให้หาที่มีคุณภาพสักหน่อย เช่น Riser สีขาว ซึ่งเป็นแรร์ไอเทม ที่ใครใช้แล้วต้องติดใจในความเสถียรของมัน แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องจำใจใช้ Riser สีดำ หรือ สีฟ้า ก่อนจะซื้อควรตรวจสอบรอยสนิม คราบออกไซด์ หรือตำหนิต่าง ๆ บนแผงวงจร เพื่อป้องกันปัญหาในการใช้งาน
หลักจากที่ทำการประกอบเครื่องลงโปรแกรมสำเร็จ เห็นการ์ดจอครบทุกใบ แล้วก็ทำการเก็บสายไฟ ซึ่งพยายามทำให้เรียบร้อยมากที่สุด แต่ก็ได้เท่านี้ (ฮา~)
ตรวจเช็คไดร์เวอร์จาก Device Manager เห็นการจอครบทั้งหมด 6 ใบ ไม่มีปัญหาแจ้งเตือน Driver แต่อย่างใด แบบนี้หมายความว่าพร้อมขุด
ในส่วนของโปรแกรมที่ใช้ในการ OverClock การ์ดจอนั้นสามารถหาโหลดได้จาก afterburner ซึ่งหน้าตาของโปรแกรมออกแบบ Ui มาอย่างสวยงาม ใช้งานได้ง่าย เพียงแค่ลากให้ความเร็วเหมาะสมกับระบบเท่านั้น “คำเตือน ค่อยๆทำ ค่อยๆลากไปทีละนิด” ซึ่งความเร็วที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปในแต่ละการ์ดจอ และ PSU ในการ OverClock ที่เหมาะสมนั้นควรอยู่ในลิมิต สังเกตได้จากกราฟ Power วิ่งแบบนิ่ง ๆ เป็นเส้นตรงคงที่ เพื่อป้องกันการ์ดจอทำงานหนักจนเกินไป
โปรแกรมที่ใช้ในการขุดคือ Claymore 9.6 สำหรับความเร็วที่ทำได้ของริกนี้จะอยู่ที่ประมาณ 83 Mh/s ในการขุด Ethereum หรือ ประมาณ 900 – 1,100 Sol/s ในการขุด Zcash ซึ่งเป็นความเร็วที่การ์ดจอทั้ง 6 ใบทำงานได้เสถียรที่สุด
การใช้พลังงาน ริกนี้กินไฟเพียงแค่ 380-400 W เท่านั้น โดยคิดเป็นค่าไฟประมาณ 1,000-1,500 บาท / เดือน
สำหรับใครที่สนใจเดินทางสายขุดสามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปประยุกต์ใช้กับเหมืองของตัวเองที่กำลังจะสร้างก็ได้ แต่ถ้าหากใครที่กำลังจะเริ่มขุดตอนนี้ก็อาจจะต้องทำใจเรื่องราคาชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่หาได้ยากและมีราคาแพงขึ้น อีกทั้งราคาเหรียญต่าง ๆ กำลังปรับตัวลงทำให้ระยะเวลาการคืนทุนถูกเลื่อนออกไปอีก ดังนั้นต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ๆ ก่อนที่จะลงทุนทำอะไร
หากใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีขุดก็สามารถศึกษาต่อได้จากบทความนี้
สอนวิธีใช้ NiceHash ขุดง่ายได้ Bitcoin เร็ว
แนะนำขั้นตอน สอนวิธีการขุดเหรียญ Zcash และ Ethereum