ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการรวม 9 ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกมยอดเยี่ยมไปแล้วแต่จะไม่มีคู่ตรงข้ามก็ดูจะกระไรอยู่ดังนั้นเพือ่ไม่ให้น้อยหน้าเราจึงมีภาพยนตร์จากวีดีโอเกมที่จัดว่ายอดแย่เข้าขั้นห่วยจนอยากจะบอกว่า “ช่วยลบความจำที!” มาให้รับชมกันครับโดยมีถึง 10 เรื่องด้วยกัน
Mortal Kombat: Annihilation
แม้ว่า Mortal Kombat ภาคแรกจะไม่ดีมากแต่มันก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดูสนุกแต่พอมาถึงภาคที่สองอย่าง Mortal Kombat: Annihilation กลับพบว่าความสนุกน่าติดตามไม่มีอยู่เลยแต่กลับเต็มไปด้วยความน่าเบื่อ , แอ็คติ้งนักแสดงที่แข็งโป้กแถมยังเปลี่ยนนักแสดงอีก ไม่เพียงแค่นั้นงานสร้างก็ดูทุนต่ำสุด ๆ อีกต่างหากเลยทำให้ Mortal Kombat ภาคที่สองนี้โดนนักวิจารณ์สับเละ Fatality ไปเลย
Max Payne
จากวีดีโอเกมแอ็คชั่นสุดเท่ที่มีจุดเด่นคือฉาก Bullet Time สโลว์โมชั่นแต่พอมาขึ้นจอเงินแล้วกลายเป็นว่าใครที่คาดหวังฉากแอ็คชั่นอาจจะผิดหวังไปเพราะมีให้เห็นน้อยเหลือเกินและฉากสโลว์โมฯ อันเป็นจุดขายก็น้อยนิดและการเล่าเรื่องที่หนักไปทางสืบสวนแต่ทำได้ไม่น่าสนใจอีกทำให้ Max Payne ฉบับหนังไปไม่สุดสักทาง
Super Mario Bros.
ใครจะรู้ว่าเกมในตำนาน Mario ก็เคยถูกทำเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 1993 กับเรื่องราวที่ไม่ได้เหมือนกับในเกมเลยยกเว้นแค่เอาชื่อตัวละคร Mario กับ Luigi และชื่อเรื่องมาเท่านั้นและเอาจริง ๆ ตัวเกมเองก็ไม่ค่อยเหมาะกับการดัดแปลงเป็นหนัง Live-Action อยู่แล้วทำให้สิ่งที่อยู่ในหนังมีแต่ตัวพิลึกกึกกือเรียกว่าถ้าเด็ก ๆ ดูแล้วอาจจะเป็นฝันร้ายทำลายความฝันกันอย่างสิ้นเชิง
Wing Commander
จากเกมขับยานอวกาศสุดโด่งดังในยุคเก่าก็ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เหมือนกันในปี 1999 โดยได้ Chris Robert ผู้สร้าง Wing Commander มากำกับแต่ทว่าสิ่งที่ได้รับในหนังคือความเบื่อหน่ายไม่ประสบความสำเร็จอย่างสิ้นเชิงทั้งรายได้และคุณภาพหนัง ถึงแม้ว่า Mark Hamill นักแสดงดังจะมาร่วมแจมในหนังด้วยก็ไม่ช่วยอะไรและการแจ้งเกิดของ Chris Robert ในวงการฮอลลีวูดก็ดับวูบอย่างรวดเร็ว
Doom
จริงอยู่แม้ว่า Doom ฉบับภาพยนตร์จะทำออกมาได้เพลิน ๆ พอดูได้แต่สิ่งที่แฟน ๆ ผิดหวังก็คือการต่อสู้โดยการใช้ปืนชนิดต่าง ๆ แต่ในหนังแทบจะไม่มีให้เห็นเลยรวมถึงการบิดเนื้อเรื่องจากปีศาจนรกที่หลุดขึ้นมาบนดาวอังคารเป็นไวรัสชีวภาพแทนก็ทำให้แฟนบอยรู้สึกเฟลไปพอสมควรและฉากในมุมมอง FPS ที่ดูเหมือนจะทำมาเพื่อเอาใจแฟนคลับ Doom แต่ดูแล้วเฉย ๆ ซะมากกว่า
Street Fighter
เกมไฟท์ติ้งระดับตำนานที่อยู่ยงมาถึงปี 2017 มีภาคต่อออกมามากมายแต่ถ้ามองในฉบับภาพยนตร์แล้วเรียกว่าจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยล่ะเพราะฉบับหนังนั้นถึงจะอุดมไปด้วยตัวละครมากมายก็จริงแต่พวกเขาก็มาพร้อมคอสตูมราคาถูกและการตะลุยภารกิจก็ทำให้สงสัยว่าพวกเอ็งมาเล่นอะไรกัน!! มิหนำซ้ำ Raul Julia นักแสดงผู้ล่วงลับที่รับบทเป็น Bison ก็เคยบอกว่ามันเป็นความอัปยศที่ได้เล่นหนังเรื่องนี้!
Double Dragon
เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองที่สร้างต่อจาก Super Mario Bros. กับเรื่องราวการต่อสู้ของสองพี่น้องในโลกอนาคตธีมดิสโทเปียซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ดิ่งลงเหวตาม Mario ไปครับเพราะใน Double Dragon ฉบับหนังมันไม่มีอะไรที่น่าจดจำเลยนอกจากไอ้หนุ่มตัวละครหลัก 2 คนสู้กันอย่างเดียวเนื้อหาไม่ต้องสนใจทั้งนั้น
House of the Dead
ตำนานหนังที่สร้างจากเกมเรื่องหนึ่งที่ทุกคนจะต้องจดจำในเรื่องของความห่วยแตกทั้งด้านบท , การแสดง , กำกับ , ตัดต่อ ทุกอย่างสอบตกหมดแถมยังดัดแปลงเนื้อเรื่องซะไม่เหลือชิ้นดีจากคฤหาสน์ที่มีการทดลองสิ่งมีชีวิตประหลาด ๆ กลายเป็นหนังสยองขวัญวัยรุ่นไปเที่ยวเกาะซะอย่างนั้นและฉากแอ็คชั่นสู้ซอมบี้ที่เข้าขั้นบ้าบอคอแตกหาความสยองแบบในเกมไม่ได้เลย
Alone in the Dark
หลังจาก House of the Dead ฉายไปไม่นาน Alone in the Dark ก็ตามมาติด ๆ ที่สร้างจากวีดีโอเกม PC สยองขวัญสุดปังแต่มาแป้กในรูปแบบหนังแทนซึ่งหนังเรื่องนี้รวมทุกความย่ำแย่ไว้ในที่เดียวไม่ว่าจะเป็นการแสดงที่แข็งดุจหิน เนื้อหาเกี่ยวกับอารยธมมโบราณปีศาจก็ไม่ทำให้ดึงดูดอะไรและเป็นผลงานของ Uwe Boll ผู้กำกับที่ขึ้นชื่อเรื่องหยิบเกมมาปู้ยี่ปู้ยำมาหลายเรื่อง (House of the Dead ก็ด้วย)
Postal
อีกหนึ่งผลงานจากนาย Uwe Boll ที่นำเกมสุดโหดอย่าง Postal มาสร้างและก็ตามฝีมืออันยอดแย่ของเขาก็ทำให้หนังเรื่องนี้อยู่ในลิสต์หนังจากเกมยอดแย่อย่างไม่ต้องสงสัยอย่างมุกตลกในหนังที่ยั่วล้อเรื่องศีลธรรมที่มากล้นเกินพอดีหรืองานโปรดักชั่นต่าง ๆ ก็ให้ความเป็นเกรด B สุด ๆ ซึ่งใครที่ได้ชมเรื่องนี้ก็ต่างยกนิ้วให้ (นิ้วกลางนะ)
ทั้งหมด 10 เรื่องนี้ก็คือภาพยนตร์จากเกมยอดแย่ที่คุณไม่ต้องหามาดูก็ได้และถ้าหากใครมีภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าขั้นห่วยกว่านี้ก็แชร์ความเห็นกันมาได้เลยนะครับ
ที่มา: businessinsider