ในวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ เมืองไทเปประเทศไต้หวัน ผู้บริหาร Asus ได้ทำการแถลงการเปิดเผยถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเป็นโน๊ตบุ๊ค 5 รุ่นที่เน้นในเรื่องของความบางเป็นหลัก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเล็กน้อยสำหรับสื่อมวลชน ที่คาดหวังว่าจะเห็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่หรือนวัตกรรมอื่นๆ ที่ไม่เคยมีมากในโน๊ตบุ๊ค โดย 5 รุ่นที่ Asus ได้ทำการเปิดเผยมีดังนี้คือ
1. Asus VivoBook S
“VivoBook S เป็นแล็ปท็อปเน้นเรื่องความบางเหมาะสำหรับพกพาโดยเปิดตัวราคาอยู่ที่ 499 เหรียญ (ประมาณ 17,000 บาท) บอดี้เป็นอลูมิเนียม MacBook-Pro-ish ขนาด 17.9 มม. ที่มีซีพียู Core i7 และ GPU Nvidia GTX 940MX ภายใน พร้อมหน้าจอ 15 นิ้วซึ่งดูให้มาใหญ่กว่าปกติที่จะไว้ใช้สำหรับพกพา
2. Asus Vivobook Pro
VivoBook Pro เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ระดับกลางของ Asus ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลขนาด 4 นิ้ว 15.6 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Core i7 ซีรีย์ H และ GPU เป็น GTX 1050 เริ่มจะวางจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนราคา 799 เหรียญ (ประมาณ 28,000 บาท) ถือว่าราคาดีมากเลยทีเดียวหากเข้าไทยในราคานี้จริงๆ
3. Asus Zenbook Flip S
สำหรับเจ้าตัว Zenbook Flips S ถือเป็นโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุด ตามที่ประธานกรรมการของอัสซุส Jonney Shih กล่าว โดยมีความหนาเพียง 10.9 มม. ซึ่ง Asus กล่าวว่ามีน้ำหนักเบากว่า MacBook ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และน้ำหนักเบาเพียง 1.1 กก. เท่านั้น พร้อม Core i7 หน้าจอ 13.3 นิ้วความละเอียด 4 K แบตเตอรี่ใช้งานได้ 11.5 ชั่วโมงจากอีกด้วย โดยราคาจะอยู่ที่ $1,099 (ประมาณ 38,000 บาท
4. Asus Zenbook 3 Deluxe
ในงาน Asus ได้กล่าวว่าเจ้าตัว ZenBook 3 เป็น “แล็ปท็อปที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก” เมื่อปีที่แล้ว และใช้สโลแกนเดียวกันสำหรับ ZenBook 3 Deluxe ใหม่ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า ZenBook ปกติ 3 โดย Asus เรียกว่าเป็นแล็ปท็อปขนาด 14 นิ้วบางที่สุดในโลกอีกรุ่นมีความหนา 12.9 มม. พร้อมพอร์ต Thunderbolt ถึง 3 พอร์ต, โปรเซสเซอร์ใช้ Core i7 ที่ไม่ระบุชื่อและจอแสดงผล แต่บอกเพียงความละเอียดอยู่ที่ Full HD โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 1,199 เหรียญ (ประมาณ 42,000 บาท)
5. Asus Zenbook Pro UX550
สำหรับเจ้าตัว ZenBook Pro ก็มีโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกที่มีใส่ GPU Nvidia GTX 1050Ti ในซีรีย์ และมีหน้าจอแสดงผลความละเอียด 4K ขนาด 15.6 นิ้วและซีพียู Core i7 ซีรีส์ H ภายในบอดี้ที่มีความหนาเพียง 18.9 มม. แถมยังสามารถใช้งานแบตเตอรี่ถึง 14 ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มต้นที่ 1,299 เหรียญ (ประมาณ 45,000 บาท)
รูปบรรยากาศภายในงาน