Steam ก็เป็นแหล่งขายเกมแบบออนไลน์ที่มีอายุอานามหลายปีแล้วและมันก็ได้รับความนิยมจากนักเล่นเกมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของเกมก็ดีหรือระบบการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนก็ดีแต่ทั้งนี้ Valve หัวเรือหลักก็ไม่เคยที่จะหยุดยั้งการพัฒนาแม้ว่าการอัปเดตแต่ละรอบจะสร้างเสียงวิจารณ์ไปต่าง ๆ นา ๆ ก็ตาม
ด้วยการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งเช่นนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ Valve จะได้บอกแนวทางของ Steam ซึ่งพวกเขาได้โพสต์ข้อความลงใน Blog และได้ให้ข้อมูลผ่านสื่อ Gamespot ว่าต่อจากนี้ไปพวกเขาจะยกระดับ Steam ให้เป็นร้านค้าเกมที่สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าทุกระดับทุกประเภทโดยพวกเขาก็ได้แบ่งจำแนกกลุ่มลูกค้าที่รองรับดังนี้
- ผู้เล่น: กลุ่มผู้เล่นที่เชื่อมต่อพูดคุยในคอมมูนิตี้และกลุ่มผู้เล่นที่ไม่สนคอมมูนิตี้
- ผู้เล่น: กลุ่มผู้เล่นที่ต้องการค้นหาเกมในร้านค้าก่อนและกลุ่มผู้เล่นที่รู้ทันทีว่าต้องการเกมอะไรในร้านค้า
- ผู้เล่น: กลุ่มผู้เล่นที่เข้ามาดูเกมในร้านค้าเดือนละครั้งและกลุ่มผู้เล่นที่เข้ามาดูเกมหลายครั้งในหนึ่งวัน
- ผู้เล่น: กลุ่มผู้เล่นที่ต้องการซื้อเกมฟอร์มยักษ์ระดับ AAA และกลุ่มผู้เล่นที่ต้องการซื้อเกมดีแต่ไม่มีคนเหลียวแล
- ผู้เล่น: กลุ่มผู้เล่นที่เล่นเกมในระหว่างพัฒนาและกลุ่มผู้เล่นที่ร่วมมือพัฒนาไปด้วย
- ผู้เล่น: กลุ่มผู้เล่นที่มีความต้องการแบบเฉพาะทางจำพวกเกมเพลย์ , ภาษาที่ใช้ , เทคโนโลยีที่ใช้ในเกม
- นักพัฒนา: กลุ่มนักพัฒนาเกมระดับ AAA ที่มีแฟน ๆ เกมจำนวนมากกับกลุ่มนักพัฒนาเกมหน้าใหม่ที่ยังไม่เป็นที่นิยม
- นักพัฒนา: กลุ่มนักพัฒนาเกมเฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ
- นักพัฒนา: กลุ่มนักพัฒนาเกมที่ต้องการคำวิจารณ์เสียงตอบรับในช่วงที่เกมอยู่ในระหว่างการพัฒนา
กลุ่มลูกค้าดังกล่าวคือกลุ่มที่ Valve ต้องการรองรับซึ่งถ้าหากทำได้จริงมันจะเป็นความเท่าเทียมเสมอภาคแก่ผู้ใช้งานทุกกลุ่มแต่ขณะเดียวกันในโลกความเป็นจริงแล้วมันเป็นอะไรที่ยากและท้าทายมากทีเดียวที่จะทำให้ทุกกลุ่มเห็นพ้องต้องกันด้วยทั้งหมด
แม้จะเป็นเรื่องยากแต่ Valve ก็บอกว่ามันท้าทายที่ต้องพัฒนาระบบให้ทุกฝ่ายโอเคโดยไม่ทิ้งกลุ่มลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไปเพราะมันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากกว่าครับ
“มันง่ายมากนะที่จะแก้ปัญหาด้วยวิธีการเลือกเมินลูกค้ากลุ่มหนึ่งแล้วสนใจแต่ลูกค้าอีกกลุ่มซึ่งร้านค้าอื่น ๆ ก็มักจะทำกันแบบนั้นแต่มันจะดีกว่าไหมถ้าหากเราต้องการสร้างร้านค้าที่ให้กลุ่มลูกค้าทั้งคู่รู้สึกโอเค”
จากข้อมูลที่กล่าวมาก็ดูเป็นความจริงครับเพราะตลอดระยะเวลาที่ Steam ได้อัปเดตทุกฟีเจอร์ที่เข้ามามันได้ตอบโจทย์รองรับกับกลุ่มลูกค้าได้แทบทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นระบบค้นหาเกมที่ผู้เล่นสนใจ , ระบบคืนเงิน Refund , ระบบรีวิวเกมเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเล็กน้อยเพราะในอนาคต Valve จะพัฒนาให้ครอบคลุมมากกว่าเดิม
โดยการพัฒนาหลัก ๆ ที่น่าสนใจในตอนนี้นั้น Valve ได้เสริมว่าการพัฒนาตัวอัลกอริทึมคือสิ่งสำคัญที่สุดเพราะจะช่วยให้ผู้ใช้พบกับเกมที่ต้องการได้เร็วขึ้นโดยการเก็บข้อมูลประวัติการซื้อเกมระบบจะประมวลข้อมูลจากประวัติผู้ใช้แล้วแสดงรายชื่อเกมที่ผู้ใช้ซื้อ/กดดูบ่อย ๆ เช่นซื้อเกมแนว FPS ตัวระบบก็อาจจะแสดงรายชื่อเกม FPS ออกใหม่มาแนะนำ เป็นต้น
นอกจากนี้ Valve ก็มีแผนมากมายที่จะทำลงใน Steam นอกจากที่กล่าวมาเช่นค่าธรรมเนียมในส่วน Steam Greenlight หรือ Steam Direct ของผู้พัฒนาเกมแต่ถึงอย่างนั้นจากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นและยังช่วยปรับความเข้าใจให้ตรงกันระหว่างผู้ใช้/นักพัฒนากับ Valve อีกด้วย
ที่มา: Gamespot