หากนึกถึง Gaming notebook ในตลาดปัจจุบัน แวบแรกเราก็จะนึกถึงตัวเครื่องที่ใหญ่ หนา หนักระดับ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเครื่องนั้นใช้ Hardware ภายในที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้จำเป็นต้องใช้ชุดระบายความร้อนที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ตัวเครื่องนั้น ใหญ่ หนา หนัก เป็นธรรมดา แต่ทาง MSI ได้ทำการใช้ชุดระบายความร้อนที่พัฒนามาอย่างดี ลงใน Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้วเครื่องนี้ ได้อย่างลงตัวมากๆ
GS Series จะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีสเปกระดับกลางไปทางสูง แต่จะเน้นในส่วนของหน้าตาบอดี้ มีการออกแบบมาให้มีความเรียบหรูและบางเบา โดยตัวเครื่องจะมีน้ำหนักที่เบาที่สุดจากทุก Series เป็น Gaming Notebook ที่เน้นใช้งานและพกพาไปได้สะดวกมากๆ ถือเป็นหนึ่งใน Series ที่ดูพรีเมี่ยมมากๆ เลยทีเดียว
Specification
- สเปค
· ชิปประมวลผล Intel® Core™ i7-7700HQ (2.9 – 3.9 GHz)
· การ์ดจอ GeForce® GTX1060 6GB GDDR5
· แรม DDR4 2400MHz 16GBx1
· SSD 128GB NVMe + HDD 1TB (SATA) 7200rpm
· หน้าจอแสดงผลแบบด้าน 14″ Full HD IPS
· เชื่อมต่อด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo และ Killer™ Lan DoubleShot Pro
· มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 home พร้อมใช้งาน
· ราคา 65,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี (1Y Inter.)
- สเปกเต็มๆ MSI GS43VR 7RE Phantom Pro
Hardware / Design
Keyboard / Touchpad
MSI GS43VR 7RE จัดเต็มด้วยการใช้ตัวคีย์บอร์ดจากทาง Steelseries ที่มีไฟ LED สีแดงสุดเท่ เป็นปุ่มแบบ Chiclet ที่ให้การตอบสนองที่รวดเร็ว สมกับเป็นคีย์บอร์ดเกรด Gaming จาก SteelSeries ซึ่งจะไม่มีในส่วนของตัวเลข Numpad เนื่องจากพื้นที่จำกัดด้วยขนาดของตัวเครื่องที่เล็ก เช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คที่ใช้จอขนาด 14 นิ้ว ทั่วๆ ไป ในส่วนของ Touchpad มีขนาดใหญ่ ใช้งานได้สะดวกมากๆ สำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ ออกแบบให้เป็นแบบซ่อนปุ่มที่ด้านล่าง โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม มีการตัดขอบไฟ LED สีแดง ที่ขอบนอกเข้ากับตัวคีย์บอร์ด
Screen / Speaker
มาพร้อมฟีทเจอร์ True Color สามารถนำมาใช้ได้จริงเป็นอย่างดี โดยที่สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมสีที่แสดงผลออกมาได้อีกในส่วนของโหมดต่างๆ ให้เหมาะกับสถาณะการณ์ต่างๆ เช่น เล่นเกมส์ หรือถนอมสายตา
Connector / Thin And Weight
เริ่มจากด้านหลังตัวเครื่องจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อจอแบบ Mini Display Port รองรับการเชื่อมต่อจอแสดงผลความละเอียดสูง 4K ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ อาจจะมีไม่เยอะเท่ารุ่นใหญ่ๆ ที่มีขนาดจอ 15″ โดยที่ด้านขวา จะมีพอร์ท Thunderbolt, USB 3.0 และ HDMI พร้อมกับแผงระบายความร้อนที่วางตำแหน่งได้ไม่ดีนัก เนื่องจากคนถนัดขวาจะถูกลมร้อนเป่า ในฝั่งด้านซ้ายจะมี RJ-45(LAN), Power, USB 3.0, SD Card Reader, และ Jack หูฟังและไมค์โครโฟนชุบทอง
และยังใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo WiFi + Bluetooth v4.1 รองรับได้ทุกมาตรฐานตามยุคสมัย 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer Shield ระบบจัดการเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมด้วยการให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อกับเกมมาเป็นอันดับแรก ทำให้ได้ Ping ที่ต่ำ
Performance / Software
ต่อกับการทดสอบ Harddisk จานหมุน ขนาด 1TB ที่ติดตั้งมาให้ แบบความเร็วรอบ 7200 ด้วยซอฟแวร์ HD Tune Pro 5.6 ได้ผลลัพท์จากการ Bennchmark อัตราการถ่ายโอนข้อมูลต่ำสุดอยู่ที่ 70.8 MB/s และสูงสุดที่ 150MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 115.3MB/s มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.9 ms จัดได้ว่ามีความเร็วที่ดีกว่า HDD ทั่วๆ ไปในท้องตลาดอยู่มาก ใส่ใจแม้กระทั่งอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GS43VR 7REเครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ มีระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่อยู่ในช่วงเวลา 4-5 ชั่วโมงโดยประมาณขึ้นอยู่กับการใช้งาน ซึ่งแบตเตอร์รี่ขนาด 4-Cell ที่ติดตั้งฝังมานั้นไม่สามารถถอดออกได้
ส่วนในเรื่องความร้อนนั้น ขณะที่กำลังเล่นเกมความร้อนได้เป่าออกมาสัมพัสกับเม้าส์ที่จับทางด้านขวามือ นับว่าเป็นข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง แต่ด้วยพื้นผิวตัวเครื่องแบบอลูมิเนียมทำให้สามารถระบายความร้อนผ่านพื้นผิวได้เป็นอย่างดี พร้อมยังใชเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของ MSI อย่าง Cooler boost 3 ที่มี 2 พัดลม + 5 Heatpipe ทำให้ Hardware ประสิทธิภาพสูง นั้นไม่มีปัญหาเฟรมเรทตกจากความร้อนถึงแม้อุณภูมิจะพุ่งไปสูงก็ตาม
ในส่วนพื้นผิวของด้านบนคีย์บอร์ดจะมีความร้อนที่สูงมาก หากสัมผัสไปนาน ๆ โดยการทดสอบเล่นเกมส์เป็นเวลานาน จะมี อุณภูมิที่วัดได้สูงสุดอยู่ที่ 97 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว และอุณหภูมิขณะเปิดเครื่องไว้เฉย ๆ อยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส (เปิด Cooler Boost) ผู้รีวิวแนะนำให้ควรหา Cooling Pad มาช่วยระบายความร้อนในขณะที่กำลังเล่นเกมจะดียิ่งขึ้น
Conclusion / Award
ในส่วนของฟีทเจอร์นั้นก็อัดมาให้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การรองรับ SSD แบบ PCI-E, SHIFT ที่สามารถโอเวอร์คล๊อคเพิ่มไปได้อีก, MSI True Colur, Wide Angle view, รองรับความละเอียดจอ ระดับ 4K ด้วย พอร์ท Thunderbolt, ชิพ DAC ในตัวที่มีความละเอียดระดับ HI-RES, ระบบเสียง Nahimic 2 engine3ระบบควบคุมด้วยแป้นพิมพ์จาก Steelseries , แผงคอนโทรลซอฟแวร์ Dragon Center, พร้อมยังให้การสรีมมิ่งอย่างลื่นไหลด้วย KILLER ทั้งในส่วนของ LAN และ Wifi แถมด้วยการบันเดิล Software XSplit สำหรับการแคสเกมอีกด้วย
พร้อมยังใช้เทคโนโลยีอย่าง Cooler boost 3 ที่มี 2 พัดลม + 5 Heatpipe ทำให้ไม่มีปัญหาเฟรมเรทตกจากความร้อนถึงแม้อุณภูมิจะพุ่งไปสูงก็ตาม แต่ก็ยังค่อนข้างทำออกมาได้ไม่ดีนัก เนื่องจากตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กทำให้อาจจะต้องหา Cooling Pad มาช่วยระบายความร้อนหากต้องการเล่นเกมส์
- เบา บาง แรงสุดๆ ด้วยสเปคระดับเอามาแทนที่ PC ได้เลย ด้วย Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 6GB
- จอสีสวยมากๆ และยังปรับแต่งผ่าน MSI True Color ได้ด้วย และยังเป็นแบบด้านไม่สะท้อนแสงแม้ใช้งานในที่แจ้ง
- พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเยอะจุใจ Thunderbolt, USB 3.0, และ Mini DisplayPort , HDMI
- ใช้ชิปเสียงระดับ Hi-Res ให้เสียงระดับ Audiophile ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม
- ใช้ไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 ทำให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วมากๆ มีอัตราความเร็วในการอ่านถึง 2019MB/s
- ระบายความร้อน Cooler Boost 3 นั้นทำได้ดีมาก เล่นเกมนานๆ ได้สบาย โดยที่ประสิทธิภาพไม่ตก ถึงแม้อุณภูมิจะขึ้นไปสูงมากก็ตาม
- ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่จะค่อนข้างหมดเร็ว หากเล่นเกมส์
- มีลมร้อนเป่าออกทางด้านขวาขณะเล่นเกมส์ ทำให้ร้อนมือ
- ร้อนเกินไป อาจจะต้องใช้ Cooling pad ช่วย หากเล่นเกมส์เป็นเวลานาน
- ราคาสูงไปหน่อย
AWARDS
BEST TECHNOLOGY
BEST PERFORMANCE
Specification
- สเปค
· ชิปประมวลผล Intel® Core™ i7-7700HQ (2.9 – 3.9 GHz)
· การ์ดจอ GeForce® GTX1060 6GB GDDR5
· แรม DDR4 2400MHz 16GBx1
· SSD 128GB NVMe + HDD 1TB (SATA) 7200rpm
· หน้าจอแสดงผลแบบด้าน 14″ Full HD IPS
· เชื่อมต่อด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo และ Killer™ Lan DoubleShot Pro
· มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 home พร้อมใช้งาน
· ราคา 65,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี (1Y Inter.)
- สเปกเต็มๆ MSI GS43VR 7RE Phantom Pro
Hardware / Design
Keyboard / Touchpad
MSI GS43VR 7RE จัดเต็มด้วยการใช้ตัวคีย์บอร์ดจากทาง Steelseries ที่มีไฟ LED สีแดงสุดเท่ เป็นปุ่มแบบ Chiclet ที่ให้การตอบสนองที่รวดเร็ว สมกับเป็นคีย์บอร์ดเกรด Gaming จาก SteelSeries ซึ่งจะไม่มีในส่วนของตัวเลข Numpad เนื่องจากพื้นที่จำกัดด้วยขนาดของตัวเครื่องที่เล็ก เช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คที่ใช้จอขนาด 14 นิ้ว ทั่วๆ ไป ในส่วนของ Touchpad มีขนาดใหญ่ ใช้งานได้สะดวกมากๆ สำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ ออกแบบให้เป็นแบบซ่อนปุ่มที่ด้านล่าง โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม มีการตัดขอบไฟ LED สีแดง ที่ขอบนอกเข้ากับตัวคีย์บอร์ด
Screen / Speaker
มาพร้อมฟีทเจอร์ True Color สามารถนำมาใช้ได้จริงเป็นอย่างดี โดยที่สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมสีที่แสดงผลออกมาได้อีกในส่วนของโหมดต่างๆ ให้เหมาะกับสถาณะการณ์ต่างๆ เช่น เล่นเกมส์ หรือถนอมสายตา
Connector / Thin And Weight
เริ่มจากด้านหลังตัวเครื่องจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อจอแบบ Mini Display Port รองรับการเชื่อมต่อจอแสดงผลความละเอียดสูง 4K ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ อาจจะมีไม่เยอะเท่ารุ่นใหญ่ๆ ที่มีขนาดจอ 15″ โดยที่ด้านขวา จะมีพอร์ท Thunderbolt, USB 3.0 และ HDMI พร้อมกับแผงระบายความร้อนที่วางตำแหน่งได้ไม่ดีนัก เนื่องจากคนถนัดขวาจะถูกลมร้อนเป่า ในฝั่งด้านซ้ายจะมี RJ-45(LAN), Power, USB 3.0, SD Card Reader, และ Jack หูฟังและไมค์โครโฟนชุบทอง
และยังใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo WiFi + Bluetooth v4.1 รองรับได้ทุกมาตรฐานตามยุคสมัย 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer Shield ระบบจัดการเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมด้วยการให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อกับเกมมาเป็นอันดับแรก ทำให้ได้ Ping ที่ต่ำ
Performance / Software
ต่อกับการทดสอบ Harddisk จานหมุน ขนาด 1TB ที่ติดตั้งมาให้ แบบความเร็วรอบ 7200 ด้วยซอฟแวร์ HD Tune Pro 5.6 ได้ผลลัพท์จากการ Bennchmark อัตราการถ่ายโอนข้อมูลต่ำสุดอยู่ที่ 70.8 MB/s และสูงสุดที่ 150MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 115.3MB/s มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.9 ms จัดได้ว่ามีความเร็วที่ดีกว่า HDD ทั่วๆ ไปในท้องตลาดอยู่มาก ใส่ใจแม้กระทั่งอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GS43VR 7REเครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ มีระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่อยู่ในช่วงเวลา 4-5 ชั่วโมงโดยประมาณขึ้นอยู่กับการใช้งาน ซึ่งแบตเตอร์รี่ขนาด 4-Cell ที่ติดตั้งฝังมานั้นไม่สามารถถอดออกได้
ส่วนในเรื่องความร้อนนั้น ขณะที่กำลังเล่นเกมความร้อนได้เป่าออกมาสัมพัสกับเม้าส์ที่จับทางด้านขวามือ นับว่าเป็นข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง แต่ด้วยพื้นผิวตัวเครื่องแบบอลูมิเนียมทำให้สามารถระบายความร้อนผ่านพื้นผิวได้เป็นอย่างดี พร้อมยังใชเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของ MSI อย่าง Cooler boost 3 ที่มี 2 พัดลม + 5 Heatpipe ทำให้ Hardware ประสิทธิภาพสูง นั้นไม่มีปัญหาเฟรมเรทตกจากความร้อนถึงแม้อุณภูมิจะพุ่งไปสูงก็ตาม
ในส่วนพื้นผิวของด้านบนคีย์บอร์ดจะมีความร้อนที่สูงมาก หากสัมผัสไปนาน ๆ โดยการทดสอบเล่นเกมส์เป็นเวลานาน จะมี อุณภูมิที่วัดได้สูงสุดอยู่ที่ 97 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว และอุณหภูมิขณะเปิดเครื่องไว้เฉย ๆ อยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส (เปิด Cooler Boost) ผู้รีวิวแนะนำให้ควรหา Cooling Pad มาช่วยระบายความร้อนในขณะที่กำลังเล่นเกมจะดียิ่งขึ้น
Conclusion / Award
ในส่วนของฟีทเจอร์นั้นก็อัดมาให้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การรองรับ SSD แบบ PCI-E, SHIFT ที่สามารถโอเวอร์คล๊อคเพิ่มไปได้อีก, MSI True Colur, Wide Angle view, รองรับความละเอียดจอ ระดับ 4K ด้วย พอร์ท Thunderbolt, ชิพ DAC ในตัวที่มีความละเอียดระดับ HI-RES, ระบบเสียง Nahimic 2 engine3ระบบควบคุมด้วยแป้นพิมพ์จาก Steelseries , แผงคอนโทรลซอฟแวร์ Dragon Center, พร้อมยังให้การสรีมมิ่งอย่างลื่นไหลด้วย KILLER ทั้งในส่วนของ LAN และ Wifi แถมด้วยการบันเดิล Software XSplit สำหรับการแคสเกมอีกด้วย
พร้อมยังใช้เทคโนโลยีอย่าง Cooler boost 3 ที่มี 2 พัดลม + 5 Heatpipe ทำให้ไม่มีปัญหาเฟรมเรทตกจากความร้อนถึงแม้อุณภูมิจะพุ่งไปสูงก็ตาม แต่ก็ยังค่อนข้างทำออกมาได้ไม่ดีนัก เนื่องจากตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กทำให้อาจจะต้องหา Cooling Pad มาช่วยระบายความร้อนหากต้องการเล่นเกมส์
- เบา บาง แรงสุดๆ ด้วยสเปคระดับเอามาแทนที่ PC ได้เลย ด้วย Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 6GB
- จอสีสวยมากๆ และยังปรับแต่งผ่าน MSI True Color ได้ด้วย และยังเป็นแบบด้านไม่สะท้อนแสงแม้ใช้งานในที่แจ้ง
- พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเยอะจุใจ Thunderbolt, USB 3.0, และ Mini DisplayPort , HDMI
- ใช้ชิปเสียงระดับ Hi-Res ให้เสียงระดับ Audiophile ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม
- ใช้ไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 ทำให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วมากๆ มีอัตราความเร็วในการอ่านถึง 2019MB/s
- ระบายความร้อน Cooler Boost 3 นั้นทำได้ดีมาก เล่นเกมนานๆ ได้สบาย โดยที่ประสิทธิภาพไม่ตก ถึงแม้อุณภูมิจะขึ้นไปสูงมากก็ตาม
- ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่จะค่อนข้างหมดเร็ว หากเล่นเกมส์
- มีลมร้อนเป่าออกทางด้านขวาขณะเล่นเกมส์ ทำให้ร้อนมือ
- ร้อนเกินไป อาจจะต้องใช้ Cooling pad ช่วย หากเล่นเกมส์เป็นเวลานาน
- ราคาสูงไปหน่อย