กลับมาอีกครั้งสำหรับความยิ่งใหญ่ของเมนบอร์ดในตระกูล Gaming ที่ปัจจุบันใช้เป็น AORUS ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้ในกลุ่มของเกมเมอร์และนักโอเวอร์คล็อกได้เป็นอย่างดี ด้วยฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาในตัว เช่นเดียวกับเมนบอร์ด GIGABYTE AORUS Z270X-Gaming 7 ที่นำมาพรีวิวในครั้งนี้ ต้องเรียกว่าจัดเต็มทั้งเทคโนโลยี ดีไซน์และการสนับสนุนอุปกรณ์ใหม่ๆ ได้อย่างครบครัน รองรับแรม DDR4 4000+, RGB Fusion, Killer LAN E2500 และ Thunderbolt 3 ก็จัดว่าแรงจนหยุดไม่อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อีกหลายสิ่งที่คุณจะต้องหลงรักในเมนบอร์ด AORUS Z270X-Gaming 7 รุ่นนี้
Specification:
- Supports 7th/ 6th Generation Intel® Core™ Processors
- Dual Channel Non-ECC Unbuffered DDR4, 4 DIMMs, DDR4 4133+(OC)
- Intel® USB 3.1 Gen 2 with USB Type-C™ and Type-A
- 3-Way Graphics Support with Dual Armor and Ultra Durable™ Design
- Triple NVMe PCIe SSDs in RAID 0 Support
- NVMe PCIe Gen3 x4 U.2 Connector
- Dual Ultra-Fast M.2 with PCIe Gen3 x4 & SATA interface
- Intel® Optane™ Memory Ready
- Creative® Sound Core3D™ with SBX Pro Studio Audio Suite
- Killer™ E2500 Gaming Network + Intel® Gigabit LAN
- USB DAC-UP 2 with Adjustable Voltage
- RGB FUSION with Multi-Zone LED Light Show design
- Swappable Overlay for Accent LED
- Smart Fan 5 features Multiple Temperature Sensors and Hybrid Fan Headers
- 2 External Thermistors Headers with 2 Included Thermistors
- Extreme 40 Gb/s Thunderbolt™ 3
- GIGABYTE UEFI DualBIOS™
- APP Center Including EasyTune™ and Cloud Station™ Utilities
คุณสมบัติที่น่าสนใจ
ฟังก์ชั่นและการออกแบบ
สำหรับแพ็คเกจกล่องและการดีไซน์ ยังเป็นรูปเหยี่ยว AORUS พร้อมโชว์ฟีเจอร์มากมายด้านหลังกล่อง พร้อมรายละเอียดตามสไตล์ของกล่องเมนบอร์ดที่ไม่ค่อยเปลี่ยนไปนักสำหรับ GIGABYTE แต่ก็ช่วยอธิบายสิ่งต่างๆ ได้ดี สำหรับคนที่อยากเห็นข้อมูลเบื้องต้น โดยเฉพาะฟีเจอร์ของ RGB และการต่อพ่วงอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ เห็นแล้วอยากได้เลย
บรรดาของที่มีมาให้ในกล่องก็ถือว่าเยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสายสัญญาณ คู่มือ สายรัด แผ่นปิดหลังและ HB Bridge
มาถึงดีไซน์กันบ้างดีกว่า สังเกตได้ว่าเวลานี้เมนบอร์ดส่วนใหญ่จะจับโทน ขาว-ดำมาใช้เป็นหลัก ส่วนหนึ่งก็เพราะให้สามารถขับแสง RGB สวยๆ ออกมาได้เด่นชัดยิ่งขึ้น ซึ่งบอร์ดรุ่นนี้มีไฟมาเยอะจริงๆ ตั้งแต่ครอบปิดพาแนล ซิงก์ชิปเซ็ต ด้านข้างขวา สล็อตแรมและตามจุดต่างๆ บนบอร์ด
โดยที่ชุดไฟ RGB เหล่านี้ สามารถปรับแต่งได้บน RGB Fusion ซึ่งเลือกให้แสดงผลได้หลายรูปแบบ ทั้งการ Random, Music, Static, Flash หรือจะเป็นแบบ Cycle คือหมุนวนไปเรื่อยๆ ก็ได้เช่นกัน
ตรงสล็อตแรม ก็ถถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของบอร์ดรุ่นนี้ เพราะจัด RGB มาให้ด้วย รองรับการปรับแต่งผ่านซอฟต์แวร์ เมื่อเวลาที่ใช้จะเป็นแสงเรืองออกมาจากด้านใต้แรม ดูแล้วสวยงามจริงๆ
แผงปิดพาแนลด้านบน มาพร้อมโลโก้ AORUS ภายใต้พลาสติกสีขาว แถบด้านใต้ตัวอักษรเป็นสีของ RGB เช่นกัน โดยมีซิงก์พร้อมฮีตไปป์ช่วยในการระบายความร้อนให้กับภาคจ่ายไฟ ด้านบนเมนบอร์ด
สล็อต PCI-Express นี้ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะ GIGABYTE ใส่ความเป็น Steel Slot เพิ่มความทนทานแข็งแกร่งให้กับการใช้งานร่วมกับกราฟฟิกการ์ดขนาดใหญ่ น้ำหนักมากๆ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องของแรงดึงรั้งจากการ์ดให้เกิดความเสียหาย โดยเรียกว่า Ultra Durable PCIe Armor ด้วยแผ่นสแตเลสชิ้นเดียวครอบลงไปบนสล็อต พร้อมตัวล็อคและจุดยึดที่แข็งกว่าเดิม ทำให้รองรับน้ำหนักของการ์ดได้มากกว่าเดิมหลายเท่า ตัวสล้อต PICe มีให้ถึง 3 สล็อต รองรับการทำงานได้ที่ X16/x8/x4
ระบบเสียงได้จาก Creative® Sound Core 3D รองรับการทำงานระบบ Surround sound 5.1-channel ให้พลังเสียงจัดเต็มสำหรับการเล่นเกม ดูหนัง
สมเป็นเมนบอร์ดที่จัดเต็มมาในทุกเรื่อง เช่นเดียวกับ U.2 Onboard (NVMe PCIe Gen3 x4) ที่รองรับการทำงานร่วมกับ SSD Intel 750 series เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นกว่าการใช้ SSD ปกติอยู่หลายเท่าเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ที่เห็นมักจะเป็นแบบ Optional แต่ทาง GIGABYTE จัดมาให้บนบอร์ดเรียบร้อย
นอกจากนี้ยังมีพอร์ต SATA Express มาให้อีก 3 ชุด เท่ากับใช้งาน SATA ได้ถึง 8 ชุดด้วยกัน ยังไม่รวม M.2 อื่นๆ ที่ใส่ให้บนเมนบอร์ดอีก 3 ชุด
พอร์ตด้านหลังมีมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1, 3.0, Dual Killer LAN, Sound และยังแถม PS/2 มาให้อีกด้วย ที่สำคัญ GIGABYTE ยังจัดพอร์ต Tunderbolt3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายโอนข้อมูลที่เหนือกว่า เหมาะกับการย้ายหรือถ่ายข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
สล็อต M.2 มีมาให้สองชุด Dual Ultra-Fast NVMe PCIe Gen3 x4 M.2 จุดแรกอยู่ตรงด้านข้างสล็อต PCIe แถวบนสุด จุดที่สองอยู่ติดกับ PCIe สล็อตล่างสุด เท่ากับว่าเมนบอ์ดรุ่นนี้ มีสล็อตสำหรับ Storage ความเร็วสูงให้ถึง 3 อย่างด้วยกันคือ U.2, M.2 และ PCI-Express
บนเมนบอร์ดสนับสนุนการทำงานทั้ง NVIDIA® Quad-GPU SLI™ and 2-Way NVIDIA® SLI™ และ AMD Quad-GPU CrossFireX™ and 3-Way/2-Way AMD CrossFire™
คอนโทรลเลอร์ Turbo B-Clock ช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดการโอเวอร์คล็อกและปรับช่วงสัญญาณนาฬิกาได้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่ 90-500MHz ซึ่งขึ้นอยู่กับซีพียูและการปรับแต่งในแต่ละรุ่น
Conclusion
ไฮไลต์สำคัญของเมนบอร์ดรุ่นนี้ ไม่ได้หยุดอยู่ที่ฟังก์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับซีพียู Intel Skylake หรือ Kaby Lake เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรดาฟีเจอร์ต่างๆ ที่ทาง GIGABYTE เลือกสรรมาให้กับเกมเมอร์หรือผู้ใช้ในกลุ่มเอ็กซ์ตรีมได้ใช้งานกันแบบเต็มๆ สำหรับ AORUS Z270X-Gaming 7 รุ่นนี้ รวมถึงแสงสีต่างๆ จาก RGB ที่เรียกว่าเป็นแฟชั่นของเมนบอร์ดยุคนี้ไปแล้ว ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกง่ายขึ้น ด้วยการใส่ซอฟต์แวร์ สำหรับควบคุมหรือตั้งรูปแบบของแสงให้เป็นโพรไฟล์ สำหรับใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย ที่น่าสนใจก็คือ การสนับสนุนแรม DDR4 ที่ทะลุ 4000MHz ไปแล้ว ให้คนที่ชอบโอเวอร์คล็อกได้ดันกันไปแบบสุดๆ เช่นเดียวกับตัวเลือกการจัดการข้อมูล ที่มีให้เลือกใช้มากมาย หากใครที่ชอบการทำงานที่รวดเร็ว ตัวเลือก M.2 หรือ PCI-Express ก็เป็นทางออกที่ดี ในการเพิ่มศักยภาพทั้งเก็บข้อมูลและบูตระบบ เช่นเดียวกับสล็อต PCI-Express ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ให้ความแข็งแกร่งสำหรับการ์ดรุ่นใหญ่ๆ โดยเฉพาะ ไม่ต้องกังวลเรื่องการ์ดหรือสล็อตเบี้ยวได้ง่ายๆ ในภาพรวมต้องถือว่า GIGABYTE ใส่ใจในรายละเอียดได้ดีทีเดียวสำหรับเมนบอร์ดรุ่นนี้ ตั้งแต่องค์ประกอบบนเมนบอร์ด ไปจนถึงซอฟต์แวร์และการปรับแต่ง รวมถึงความแข็งแรง สำหรับเกมเมอร์หรือนักโอเวอร์คล็อก ที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น และฟังก์ชั่นแบบครบๆ
จุดเด่น
- มีฟังก์ชั่น RGB LED พร้อมปรับแต่งได้ด้วยซอฟต์แวร์
- เพิ่มสล็อต U2 NVMe มาด้วย และให้ M.2 มาถึง 2 ชุดด้วยกัน
- รองรับแรม DDR4 4000+ (OC)
- เพิ่ม Smart Fan มาให้ถึง 8 จุด รองรับชุดปั้มน้ำได้
ข้อสังเกต
- องค์ประกอบส่วนใหญ่ค่อนข้างใกล้กันมา บางครั้งอาจส่งผลต่อการติดตั้งหรืออัพเกรดอุปกรณ์อยู่บ้าง