ก็ถึงเวลาเสียทีที่ Mass Effect ภาค Andromeda ได้ฤกษ์เปิดตัววางจำหน่ายให้เล่นกันเสียหลังจากห่างหายไปนานกว่า 5 ปีเลยทีเดียวและการมาครั้งนี้แน่นอน Bioware ต้องสรรหาอะไรที่แปลกใหม่มาให้ผู้เล่นได้สัมผัสกันและก็เป็นจริงดังว่าครับเพราะใน Andromeda แม้จะยังคงรูปแบบเกม RPG เหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มเติมคือการสำรวจดวงดาวนั่นเอง
Mass Effect: Andromeda จะเดินเรื่องในปี 2182 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับ Mass Effect 2 กับเรื่องราวการเดินทางเพื่อออกสำรวจดาวดวงใหม่เพื่อหาแหล่งที่อยู่แห่งใหม่ของมวลมนุษยชาติผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Scott Ryder หนึ่งในนักสำรวจบนยาน Tempest และสถานที่ที่พวกเขาจะไปนั่นคือระบบสุริยะ Andromeda นั่นเอง
ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะเกิดในช่วงเดียวกับ Mass Effect 2 แต่จะไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใดเพราะตามเนื้อเรื่องก่อนที่จะไประบบสุริยะ Andromeda พวกเขาได้แช่แข็งตัวเองไว้และตั้งเวลาตื่นในอีก 600 ปี ข้างหน้า ดังนั้นลูกเรือจะไม่รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาค 2 และ 3 เลย
อย่างแรกที่สัมผัสได้ชัดเลยก็คือความสดใหม่ของเกมไม่ว่าจะเป็นทั้งบรรยากาศหรือตัวละครที่ไม่ใช่ Shepard อีกต่อไปตัวเกมที่กว้างใหญ่ให้อิสระแบบ Open World ก็สามารถทำอะไรได้อิสระขึ้นแต่ก็ยังอยู่ในกรอบของเกมและแม้จะรับรู้ถึงความใหม่แต่ก็พบกับปัญหาของเกมบางประการด้วยครับแม้จะเล็กน้อยแต่ก็ชวนหงุดหงิดไม่น้อยทีเดียว
ปัญหาที่ว่าก็คือการควบคุมเคลื่อนไหวตัวละครที่เร็วหรือหน้าต่าง UI ในเวอร์ชั่น PC ที่เหมือนว่าถูกออกแบบให้เหมาะกับจอยคอนโทรลเลอร์มากกว่าคีย์บอร์ดกับเม้าส์ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่ยุ่งยากและปรับตัวกันพอสมควรเลยในระยะแรกเริ่มซึ่งถ้าหากใครยังไม่คุ้นก็อาจจะสับสนหงุดหงิดได้
แอนิเมชั่นตัวละครอย่างการขยับปากก็เหมือนกันที่ภาคนี้ดูจะแย่กว่าภาคก่อน ๆ ครับเพราะบางครั้งก็ขยับปากตรงกับบทสนทนาแต่บางฉากก็ไม่ตรงซะอย่างงั้นแต่เป็นในส่วนของเนื้อเรื่องบทสนทนาเนื้อในก็จัดว่าดีเยี่ยมตามสไตล์ Mass Effect ซึ่งถ้าหากเทียบกับการนำยานร่อนลงจอดล่ะก็สัมผัสแรกของภาค Andromeda ก็เหมือนการลงจอดบนพื้นขรุขระไม่นิ่มนวลแต่ก็ถึงที่หมายอยู่ดีล่ะครับ
บรรยากาศดวงดาวที่เราลงไปสำรวจก็เป็นอะไรที่น่าตื่นตาและกว้างใหญ่มาก ๆ เปิดให้ผู้เล่นได้เดินทางออกสำรวจกันเต็มที่เหมือนกับที่ทีมงานผู้สร้างบอกไว้ว่ามันจะเป็นภาคที่เน้นสำรวจ เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศพื้นที่อันแปลกใหม่อย่างป่าดงดิบ , ซากยานโบราณหรือเดินสำรวจท่ามกลางแสงจันทร์
เมื่อบวกกับการใช้ขุมพลังเอนจิ้น Frostbite 3 อันน่าภาคภูมิใจของ EA ก็ยิ่งทำให้ภาพที่ได้สวยจนเอาไปตั้งเป็น Wallpaper หน้าจอก็ยังได้
การต่อสู้ใน Mass Effect: Andromeda ก็เหมือนกลับสู่รากเหง้าของเกม RPG ครับกับระบบคลาสที่สามารถสลับสับเปลี่ยนได้โดยผู้เล่นสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ได้เลยว่าอยากให้คลาสนี้เด่นด้านอะไร ดังนั้นผลที่ได้คือสามารถพลิกแพลงการเล่นได้หลายแบบแถมระบบการอัพความสามารถก็แบ่งได้เป็น 3 แบบได้แก่ Combat , Biotic , Tech
ความหลากหลายแบบนี้เลยทำให้การต่อสู้กับศัตรูแต่ละครั้งทำได้สนุกไม่น่าเบื่อจะเล่นเป็นบู๊เพียว ๆ หรือเป็นสายผสมใช้พลัง Biotic ตรึงศัตรูแล้วจัดการด้วยปืน Shotgun ก็ได้
ระบบการเคลื่อนไหวก็เช่นกันได้ปรับปรุงใหม่ให้ดูเจ๋งขึ้นครับเพราะเราสามารถทำการ Dash หรือเคลื่อนที่ไปอีกจุดได้ในพริบตาทำให้การต่อสู้ที่มีที่กำบังเยอะ ๆ ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปหรือจะบินโดยใช้ Jetpack สอยกลางอากาศก็ทำได้เหมือนกันและระบบนี้ก็นำไปประยุกต์กับโปรไฟล์คลาสที่ผู้เล่นตั้งไว้ได้เรียกว่าพลิกแพลงกันตามความชอบเต็มที่
ปืนอาวุธในเกมนี้ก็มีระบบปลีกย่อยอีกที่เรียกว่า Augmentations จะเป็นการเสริมพลังปืนให้แกร่งขึ้นมีความสามารถพิเศษเพิ่มจะเปลี่ยนให้ปืนไรเฟิลจู่โจมกลายเป็นปืนยิงลำแสงหรือจะเพิ่มอานุภาพปืนพกให้มีพลังทำลายเหมือนปืนใหญ่ในส่วนนี้สามารถทำได้หมดก็ขึ้นกับผู้เล่นแล้วล่ะว่าต้องการปรับแต่งอาวุธประจำกายของตนเองไปในทิศทางไหน
แม้ระบบการต่อสู้จะดูดีแต่ในส่วนของเนื้อหาการเดินเรื่องในเกม Bioware ก็ไม่ได้ทอดทิ้งแต่ยังคงจัดเต็มกับบทสนทนาที่ซับซ้อนเข้มข้นและบทสนทนาที่เราตอบกับ NPC ก็ส่งผลในอนาคตเมื่อเจอครั้งถัดไปด้วย แถมในยาน Tempest ก็ใช่ว่าจะมีแต่มนุษย์แต่ยังมีเอเลี่ยนสายพันธุ์อื่น ๆ อยู่ด้วยเราสามารถถามไถ่หรือรับรู้ประวัติที่มาของพวกเขาเบื้องต้นได้ครับ
แน่นอนบทสนทนาสุดโรแมนซ์ที่ชักชวน NPC เป้าหมายให้มาหลับนอนก็มีเหมือนกันครับได้หมดทั้งมนุษย์หรือเอเลี่ยนแต่จะเกี้ยวพาราสีอย่างไรนั้นก็อยู่ที่คารมของผู้เล่นแล้วล่ะครับ
รวม ๆ แล้ว Mass Effect: Andromeda ก็เป็นอีกเกมไซไฟอีกภาคที่สร้างความประทับใจได้ดีไม่แพ้ภาค 2 หรือ 3 ได้รับความแปลกใหม่กับบรรยากาศและการสำรวจพื้นที่มากขึ้นมาพร้อมกับระบบต่อสู้ที่พลิกแพลงได้หลายรูปแบบหลายตลบ กราฟิกสวยงามที่ใช้เอนจิ้น Frostbite 3 ก็ทำได้น่าประทับใจบวกกับการเดินเรื่องที่มีทั้งมุกตลกและตื่นเต้นระทึกใจเหมือนดูหนังยาวเรื่องหนึ่ง
แม้ว่าจะมีปัญหาตะกุกตะกักบ้างอย่างการควบคุมที่ไม่เหมาะกับ PC นักต้องใช้เวลาปรับตัวสักพักถึงจะชินหรือแอนิเมชั่นตัวละครที่ดรอปลงจากภาคก่อน ๆ แถมยังมี Bug อีกเล้กน้อยแต่ถ้าหากมองข้ามส่วนเล็ก ๆ นี้ได้ Mass Effect: Andromeda ก็เป็นอีกเกมที่ยอดเยี่ยมเกมหนึ่งของ Bioware และ EA ครับ
Mass Effect: Andromeda (PC , PlayStation 4 , Xbox One)
- ผู้พัฒนา: Bioware
- ผู้จัดจำหน่าย: EA
- วันวางจำหน่าย: 20 มีนาคม 2017
- Link: Origin
Minimum Requirements
- OS: 64-bit Windows 7, Windows 8.1 and Windows 10
- Processor: Intel Core i5 3570 or AMD FX-6350
- Memory: 8 GB RAM
- Video Card: Nvidia GTX 660 2GB, AMD Radeon 7850 2GB
- Hard Drive: At least 55 GB of free space
- DirectX: DirectX 11
Recommend Requirements
- OS: 64-bit Windows 7, Windows 8.1 and Windows 10
- Processor: Intel Core i7-4790 or AMD FX-8350
- Memory: 16 GB RAM
- Video Card: NVIDIA GTX 1060 3GB, AMD RX 480 4GB
- Hard Drive: At least 55 GB of free space
- DirectX: DirectX 11
Score: 80/100
ที่มา: PCGAMER