สำหรับคอมพิวเตอร์เพื่อการเล่นเกมนั้นน่าจะเจอปัญหาคล้ายๆ กันอย่างหนึ่งก็คือการเล่นเกมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ปกตินั้นมักจะมาพร้อมกับข้อจำกัดในเรื่องของระยะห่างระหว่างตัวเองกับเครื่องคอมและก็หน้าจอที่ไม่สามารถเล่นในระยะไกลๆ ได้เหมือนเครื่องคอนโซล ถึงแม้ว่าจะมีหลายๆ ท่านแก้ด้วยการเชื่อมสายส่งสัญญาณภาพไปยังทีวีแต่ทว่ามันก็ยังคงไม่เหมือนกับการเล่นเกมบนเครื่องคอนโซลอย่างแม้จริง
MSI Trident 3 นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Small Form Factor) หรือ Mini PC ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับเครื่องเกมคอนโซล กับขนาดที่พอๆ กับ PS4 แน่นอนว่าเมื่อเป็น MSI แล้วนั้นเรื่องของการใช้งานสำหรับการเล่นเกมนั้นย่อมสบายใจได้เลย เพราะใน Trident 3 นั้นทาง MSI จัดสเปคมาให้แรงแบบไม่ต้องเกรงใจขนาดของตัวเครื่องกันเลยทีเดียว อย่าง Core i7-7700 + GTX 1060 ITX (Low Profile)โดยล่าสุดได้รับรางวัล iF DESIGN AWARD 2017 มาด้วย
VDO Review
Specification
MSI Trident 3 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่ NotebookSPEC ได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่นท็อป ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700 ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด บนความเร็ว 3.6 สูงสุดที่ 4.2 GHz ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงสำหรับ Gaming Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 ITX ที่มาพร้อมกับแรม 3GB GDDR5 (Low Profile) มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ 1TB 7200 RPM พร้อมติดตั้ง SSD แบบ NVMe M.2 ความจุ 256GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 (อัพเกรดได้อีก 1 แถว) พร้อม Windows 10 ลิขสิทธิ์ติดตั้งมาให้ใช้งานได้ทันที
ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ก็มาพร้อมกับการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB2.0 , USB 3.0 , USB 3.1 Type-A พร้อมด้วยการเชื่อมต่อการแสดงผลอย่าง HDMI, DisplayPort รวมไปถึงการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงต่างๆ แบบครบๆ ทั้งดิจิตอลและอนาล็อค ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็จะมีทั้ง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth 4.0, Dual Band มิติของตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กโดยมีปริมาตรเพียง 4.72 ลิตร และหนักเพียง 3.17 กิโลกรัมเท่านั้น
สนนราคา MSI Trident 3 รุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 43,990 บาท เป็นสเปกชิปประมวลผล Intel Core i5-7400 และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 ITX (Low Profile) มาพร้อม SSD ความจุ 128GB ซึ่งตัวที่ทีมงานได้มารีวิวจะเป็นตัวท็อปราคา 53,990 บาท หลักๆ แล้วก็ต่างที่ชิปประมวลผลและความจุ SSD เท่านั้น ส่วนของชุดบันเดิลที่มาด้วยก็จะเป็นจอยคอนโทรลเลอร์ Steelseries Stratus XL ที่เป็นจอยแบบไร้สาย โดยเชื่อมต่อกันแบบอาศัยสัญญาณ Bluetooth เอา สนนราคา 2,190 บาท ดูรีวิวที่นี่ <<<
Hardware / Design
จากในเรื่องสเปคมาดูในเรื่องของการออกแบบและประสบการณ์ใช้งานกันต่อเลย โดยดีไซน์ของ MSI Trident 3 จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีขนาดมิติตัวเครื่องที่เล็กมากๆ เมื่อเทียบกับขนาดของเคสพีซีทั่วไปหลายเท่า ซึ่งถือได้ว่ามีขนาดที่พอๆ กับ PS4 รุ่นแรกเลยก็ว่าได้ หรือถ้าใครยังนึกไม่ออก ก็ประมาณเอา Mini PC สองเครื่องมาเรียงต่อกัน โดยมีน้ำหนักเพียง 3.17 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้พอที่ยกไปไหนมาไหนหรือจะย้ายไปย้ายมาภายในบ้านก็ไม่ลำบากจนเกินไปหนัก เรียกได้ว่าเหมาะกับการเอาไปใช้กับทีวีในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนก็สามารถทำได้เช่นกัน
หลักๆ แล้ววัสดุภายนอกของ MSI Trident 3 จะเป็นพลาสติกทั้งหมด ซึ่งเน้นไปในสีดำด้าน แต่ภายในจะเป็นรูปแบบโครงเหล็กเหมือนกับเคสพีซีปกติแต่ได้ถูกย่อขนาดลง สำหรับงานประกอบโดยรวมถือว่าดีมากๆ ตามมาตรฐานของ MSI ลักษณะรูปทรงจะเป็นสี่เหลื่ยมคางหมูที่ดูแล้วโฉบเฉียวและเกมมิ่ง แตกต่างจากจากเคสพีซีทั่วไป แต่จะออกไปแนวๆ เครื่องเล่นเกมที่เป็นคอนโซลเสียมากกว่า รองรับการใช้งานทั้งแบบแนวนอนปกติ และแนวตั้งที่ต้องอาศัยแท่นรอง (บันเดิลมาให้) ทำให้เราสามารถวางเครื่องได้ตามลักษณะการใช้งาน
ด้านหน้าของตัวเครื่อง MSI Trident 3 ในการวางแนวนอน เริ่มจากทางซ้ายจะเป็นไฟ LED ที่เป็นลักษณะของ 3 ง่าม ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนสีได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ส่วนขอบตัวเครื่องด้านล่างจะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ ถัดมาด้านขวาก็จะเป็นโลโก้ MSI ปกติ สำหรับด้านบนโซนส่วนซ้ายภายในจะเป็นส่วนของชุดเมนบอร์ดและชิปประมวลผล ซึ่งด้านนอกจะเป็นลักษณะโลหะขัดลายพร้อมโลโก้มังกร Gaming G Series อยู่ ส่วนด้านขวาภายในจะเป็นที่อยู่ของการ์ดจอ โดยภายนอกจะเป็นช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ มองเข้าไปเราก็จะเห็นกับพัดลมของการ์ดจอนั่นเอง
ส่วนอื่นๆ ของเครื่องอย่างด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นปุ่ม Power และช่องระบายความร้อน ส่วนด้านขวาก็จะเป็นช่องระบายความร้อนเช่นกัน สำหรับด้านล่างตัวเครื่องก็จะมียางรอง 4 ตัวด้วยกัน พร้อมช่องระบายความร้อนอีกหนึ่งช่อง อีกทั้งด้านหลังก็จะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ มากมาย และช่องระบายความร้อนอีก เรียกได้ว่าถึงแม้ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็ก แต่ได้มีการออกแบบระบบระบายความร้อนเป็นอย่างดีทีเดียว
Connector / Thin And Weight
ในส่วนของการเชื่อมต่อของ MSI Trident 3 ต้องบอกว่าครบครันทีเดียว เพราะถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวเครื่องที่เล็ก แต่ก็ได้ติดตั้งพอร์ตต่างๆ มาอย่างมากมาย โดยเริ่มจากด้านหลังก็จะมีในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อการแสดงผลของการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 ITX อย่าง DisplayPort, HDMI และ DVI ถัดมาก็จะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อของตัวเครื่อง อาทิ VR Link (HDMI in), ช่องต่ออแดปเตอร์, HDMI out, USB 2.0 x 4 พอร์ต, LAN, USB 3.1 Type-A และช่องสัญญาณเสียง OFC Audio jacks x 3
สำหรับด้านหน้าจะมีไฟแสดงสถานะการทำงาน, ช่องต่อหูฟัง, ช่องต่อไมค์, USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A (with Super Charger 2), USB 3.1 Type-A และ VR Link (HDMI in) โดยในการใช้งานจริงถือว่าเหมาะสมในการใช้งานทีเดียว พร้อมรองรับอุปกรณ์ VR ได้อย่างสบายๆ ด้วย อีกทั้งตัว USB ที่เป็น Super Charger ก็สามารถใช้ชาร์จไฟเข้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนอแดปเตอร์นั้นมีขนาดไม่ใหญ่มาก โดยจ่ายไฟสูงสุดที่ 230Watt
Performance / Software
โดย MSI Trident 3 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700 (รุ่นยอดนิยมบน Desktop) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 3.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.2 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าไปได้ไกลกว่ารุ่นธรรมดา มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกระดับสูงสุดอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 ITX ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 970 อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว แต่ก็อาจจะน่าเสียดายเล็กตรงที่การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 มีแรมเพียง 3GB GDDR5 เท่านั้น เพราะเป็นรุ่น Low Profile เน้นขนาดที่เล็กกระทัดรัดนั่นเอง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700 ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1060 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ SSD ความเร็วสูง รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ (ใช้ติดตั้งเกม)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V, Battlefield 1 และ Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทค่าเฉลี่ยแล้วไม่ต่ำไปกว่า 80FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ
อีก 3 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด
ส่วนเกมออนไลน์ฟอร์มยักษ์ใหม่ล่าสุดอย่าง For Horner ก็ได้นำมาทดสอบกัน โดยปรับเป็นกราฟิกแบบสุดทางอย่าง Extreme ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างลืนไหลและสวยงาม ด้วยเฟรมเรทเฉลี่ยที่ 30+ ซึ่งก็เพียงพอต่อการเล่นได้อย่างสบายๆ แล้ว สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและความสวยงามที่ได้
นอกเหนือจากนี้ทาง MSI Trident 3 ยังมีซอฟต์แวร์ Utility โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย อย่าง MSI Gaming Center ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อาทิเช่น โปรไฟล์การทำงานทั้งทางด้านภาพและเสียง รวมไปถึงการปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ไม่จะเป็นระบบไฟ LED การเชื่อมต่อเมาส์ คีย์บอร์ด ระบบ LAN, Wi-Fi และอื่นๆ อีกมากมาน
Heat / Noise
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 26 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 องศาเซลเซียส
ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเบาพอสมควร ทำให้ไม่รบกวนอะไรสำหรับคนที่เล่นเกมเลย แต่ก็จะเป็นการดังเป็นบางครั้งเท่านั้นกรณีใช้งานหนักๆ หรือตัวเครื่องต้องการระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเย็นแล้วก็จะลดรอบพัดลมมาเงียบเหมือนเดิม ซึ่งแทบไม่ได้ยินเสียงก็ว่าได้
Conclusion / Award
MSI Trident 3 เป็นมากกว่าคอมพิวเตอร์สำหรับการเล่นเกม ซึ่งมันก้าวเข้าสู่ความเป็น Gaming Desktop ที่ใกล้เคียงกับเครื่องเล่นเกมคอนโซลที่สุด เรียกได้ว่าถ้าไปวางบนโต๊ะทำงานแล้วจัดสวยมุมให้สวยๆ จะทำให้ห้องดูงามล้ำ หรือจะวางใช้งานในนอกนั่งเล่นไว้ใช้งานงานคู่กับทีวีจอใหญ่ก็โดดเด่นขึ้นอีก ยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับจอยคอนโทรลเลอร์ที่บันเดิลมาแล้ว ยิ่งมีความใกล้เคียงเครื่องเล่นเกมคอนโซลเข้าไปอีกระดับ ในเรื่องของดีไซน์ต้องบอกว่ามันเยี่ยมยอดขนาดที่ได้รับรางวัล iF DESIGN AWARD 2017 เลยทีเดียว
ซึ่งนอกจากความสวยงามและการออกแบบที่โดดเด่นแล้วยังมีประสิทธิภาพที่ไม่เป็นรองคอมพิวเตอร์เครื่องไหนด้วยประสิทธิภาพของการ์ดจอ GTX 1060 ITX และชิปประมวลผล intel Core i7-7700 ตัวแรง สามารถรองรับการทำงานได้อย่างหลากหลายรวมถึงการเล่นเกมอีกด้วย โดยมาพร้อมกับราคาเริ่มต้นที่ 43,990 บาท ซึ่งเอาเข้าจริงถือว่าราคาสูงกว่าพีซีหรือคอมประกอบทั่วไป แต่ได้ขนาดตัวเครื่องที่เล็ก พร้อมความพรีเมียมและฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามาแทนนั่นเอง
โดยรวมแล้ว MSI Trident 3 ถือว่าเป็น Desktop Gaming ที่น่าสนใจที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ด้วยชื่อชั้นของ MSI ที่ทำ Gaming Notebook และฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจในเรื่องการดีไซน์ออกแบบและประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี แม้ว่าราคาค่าตัวนั้นจะสูงกว่าสเปกพีซีที่ใกล้เคียงกัน รวมไปถึงไม่สามารถแทนที่เครื่องเล่นเกมคอนโซลได้จริงๆ แต่มั่นใจได้เลย MSI Trident 3 ก็มีคนที่สนใจจะจับจองเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหา Gaming Desktop ไซส์เล็ก (พอที่จะใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้เลยล่ะ) เน้นความแรงที่พอเพียง งานประกอบแน่นๆ ดีไซน์ที่ดุดัน รวมถึงต้องการประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดแบบสุดๆ บนงบประมาณสูงหน่อยแล้วล่ะก็ MSI Trident 3 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ด้วยสเปก Core i5 หรือ Core i7 ที่ทำงานรวมกับการ์ดจอ GeForce GTX 1060 ITX ก็เพียงพอกับการเล่นเกมที่หลากหลายแล้วล่ะครับ
ข้อดี
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับ Gaming Desktop ทั่วไป
- รองรับการใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- ดีไซน์สวยงามมีไฟ LED โดดเด่น งานประกอบแน่นๆ ตามสไตล์ของ MSI
- มีประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมจากชิป Core i7-7700 และการ์ดจอ GTX 1060
- รองรับการใช้งานอุปกรณ์ VR
- ถอดฝาตัวเครื่องได้ง่าย เพื่อทำการอัพเกรดหรือทำความสะอาด
- ฟีเจอร์การใช้งานที่มีมาให้อย่างมากมายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้สูงขึ้น
- พอร์ตการเชื่อมต่อมีครบครัน เพียงพอต่อการใช้งาน
- มี USB ที่เป็น Super Charger
- พัดลมทำงานได้ค่อนข้างเงียบ
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- พร้อมบันเดิลจอยคอนโทรลเลอร์มาให้
- รับประกัน 3 ปี
ข้อสังเกตุ
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์สเปคในระดับเดียวกัน
- อุณหภูมิสูงกว่าพีซีทั่วไป แต่ก็อยู่ในเกณ์ที่ทำงานได้ปกติ
VDO Review
Specification
MSI Trident 3 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่ NotebookSPEC ได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่นท็อป ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700 ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด บนความเร็ว 3.6 สูงสุดที่ 4.2 GHz ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงสำหรับ Gaming Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 ITX ที่มาพร้อมกับแรม 3GB GDDR5 (Low Profile) มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ 1TB 7200 RPM พร้อมติดตั้ง SSD แบบ NVMe M.2 ความจุ 256GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 (อัพเกรดได้อีก 1 แถว) พร้อม Windows 10 ลิขสิทธิ์ติดตั้งมาให้ใช้งานได้ทันที
ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ก็มาพร้อมกับการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB2.0 , USB 3.0 , USB 3.1 Type-A พร้อมด้วยการเชื่อมต่อการแสดงผลอย่าง HDMI, DisplayPort รวมไปถึงการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงต่างๆ แบบครบๆ ทั้งดิจิตอลและอนาล็อค ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็จะมีทั้ง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth 4.0, Dual Band มิติของตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กโดยมีปริมาตรเพียง 4.72 ลิตร และหนักเพียง 3.17 กิโลกรัมเท่านั้น
สนนราคา MSI Trident 3 รุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 43,990 บาท เป็นสเปกชิปประมวลผล Intel Core i5-7400 และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 ITX (Low Profile) มาพร้อม SSD ความจุ 128GB ซึ่งตัวที่ทีมงานได้มารีวิวจะเป็นตัวท็อปราคา 53,990 บาท หลักๆ แล้วก็ต่างที่ชิปประมวลผลและความจุ SSD เท่านั้น ส่วนของชุดบันเดิลที่มาด้วยก็จะเป็นจอยคอนโทรลเลอร์ Steelseries Stratus XL ที่เป็นจอยแบบไร้สาย โดยเชื่อมต่อกันแบบอาศัยสัญญาณ Bluetooth เอา สนนราคา 2,190 บาท ดูรีวิวที่นี่ <<<
Hardware / Design
จากในเรื่องสเปคมาดูในเรื่องของการออกแบบและประสบการณ์ใช้งานกันต่อเลย โดยดีไซน์ของ MSI Trident 3 จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีขนาดมิติตัวเครื่องที่เล็กมากๆ เมื่อเทียบกับขนาดของเคสพีซีทั่วไปหลายเท่า ซึ่งถือได้ว่ามีขนาดที่พอๆ กับ PS4 รุ่นแรกเลยก็ว่าได้ หรือถ้าใครยังนึกไม่ออก ก็ประมาณเอา Mini PC สองเครื่องมาเรียงต่อกัน โดยมีน้ำหนักเพียง 3.17 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้พอที่ยกไปไหนมาไหนหรือจะย้ายไปย้ายมาภายในบ้านก็ไม่ลำบากจนเกินไปหนัก เรียกได้ว่าเหมาะกับการเอาไปใช้กับทีวีในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนก็สามารถทำได้เช่นกัน
หลักๆ แล้ววัสดุภายนอกของ MSI Trident 3 จะเป็นพลาสติกทั้งหมด ซึ่งเน้นไปในสีดำด้าน แต่ภายในจะเป็นรูปแบบโครงเหล็กเหมือนกับเคสพีซีปกติแต่ได้ถูกย่อขนาดลง สำหรับงานประกอบโดยรวมถือว่าดีมากๆ ตามมาตรฐานของ MSI ลักษณะรูปทรงจะเป็นสี่เหลื่ยมคางหมูที่ดูแล้วโฉบเฉียวและเกมมิ่ง แตกต่างจากจากเคสพีซีทั่วไป แต่จะออกไปแนวๆ เครื่องเล่นเกมที่เป็นคอนโซลเสียมากกว่า รองรับการใช้งานทั้งแบบแนวนอนปกติ และแนวตั้งที่ต้องอาศัยแท่นรอง (บันเดิลมาให้) ทำให้เราสามารถวางเครื่องได้ตามลักษณะการใช้งาน
ด้านหน้าของตัวเครื่อง MSI Trident 3 ในการวางแนวนอน เริ่มจากทางซ้ายจะเป็นไฟ LED ที่เป็นลักษณะของ 3 ง่าม ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนสีได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ส่วนขอบตัวเครื่องด้านล่างจะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ ถัดมาด้านขวาก็จะเป็นโลโก้ MSI ปกติ สำหรับด้านบนโซนส่วนซ้ายภายในจะเป็นส่วนของชุดเมนบอร์ดและชิปประมวลผล ซึ่งด้านนอกจะเป็นลักษณะโลหะขัดลายพร้อมโลโก้มังกร Gaming G Series อยู่ ส่วนด้านขวาภายในจะเป็นที่อยู่ของการ์ดจอ โดยภายนอกจะเป็นช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ มองเข้าไปเราก็จะเห็นกับพัดลมของการ์ดจอนั่นเอง
ส่วนอื่นๆ ของเครื่องอย่างด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นปุ่ม Power และช่องระบายความร้อน ส่วนด้านขวาก็จะเป็นช่องระบายความร้อนเช่นกัน สำหรับด้านล่างตัวเครื่องก็จะมียางรอง 4 ตัวด้วยกัน พร้อมช่องระบายความร้อนอีกหนึ่งช่อง อีกทั้งด้านหลังก็จะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ มากมาย และช่องระบายความร้อนอีก เรียกได้ว่าถึงแม้ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็ก แต่ได้มีการออกแบบระบบระบายความร้อนเป็นอย่างดีทีเดียว
Connector / Thin And Weight
ในส่วนของการเชื่อมต่อของ MSI Trident 3 ต้องบอกว่าครบครันทีเดียว เพราะถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวเครื่องที่เล็ก แต่ก็ได้ติดตั้งพอร์ตต่างๆ มาอย่างมากมาย โดยเริ่มจากด้านหลังก็จะมีในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อการแสดงผลของการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 ITX อย่าง DisplayPort, HDMI และ DVI ถัดมาก็จะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อของตัวเครื่อง อาทิ VR Link (HDMI in), ช่องต่ออแดปเตอร์, HDMI out, USB 2.0 x 4 พอร์ต, LAN, USB 3.1 Type-A และช่องสัญญาณเสียง OFC Audio jacks x 3
สำหรับด้านหน้าจะมีไฟแสดงสถานะการทำงาน, ช่องต่อหูฟัง, ช่องต่อไมค์, USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A (with Super Charger 2), USB 3.1 Type-A และ VR Link (HDMI in) โดยในการใช้งานจริงถือว่าเหมาะสมในการใช้งานทีเดียว พร้อมรองรับอุปกรณ์ VR ได้อย่างสบายๆ ด้วย อีกทั้งตัว USB ที่เป็น Super Charger ก็สามารถใช้ชาร์จไฟเข้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนอแดปเตอร์นั้นมีขนาดไม่ใหญ่มาก โดยจ่ายไฟสูงสุดที่ 230Watt
Performance / Software
โดย MSI Trident 3 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700 (รุ่นยอดนิยมบน Desktop) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 3.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.2 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าไปได้ไกลกว่ารุ่นธรรมดา มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกระดับสูงสุดอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 ITX ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 970 อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว แต่ก็อาจจะน่าเสียดายเล็กตรงที่การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 มีแรมเพียง 3GB GDDR5 เท่านั้น เพราะเป็นรุ่น Low Profile เน้นขนาดที่เล็กกระทัดรัดนั่นเอง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700 ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1060 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ SSD ความเร็วสูง รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ (ใช้ติดตั้งเกม)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V, Battlefield 1 และ Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทค่าเฉลี่ยแล้วไม่ต่ำไปกว่า 80FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ
อีก 3 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด
ส่วนเกมออนไลน์ฟอร์มยักษ์ใหม่ล่าสุดอย่าง For Horner ก็ได้นำมาทดสอบกัน โดยปรับเป็นกราฟิกแบบสุดทางอย่าง Extreme ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างลืนไหลและสวยงาม ด้วยเฟรมเรทเฉลี่ยที่ 30+ ซึ่งก็เพียงพอต่อการเล่นได้อย่างสบายๆ แล้ว สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและความสวยงามที่ได้
นอกเหนือจากนี้ทาง MSI Trident 3 ยังมีซอฟต์แวร์ Utility โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย อย่าง MSI Gaming Center ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อาทิเช่น โปรไฟล์การทำงานทั้งทางด้านภาพและเสียง รวมไปถึงการปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ไม่จะเป็นระบบไฟ LED การเชื่อมต่อเมาส์ คีย์บอร์ด ระบบ LAN, Wi-Fi และอื่นๆ อีกมากมาน
Heat / Noise
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 26 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 องศาเซลเซียส
ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเบาพอสมควร ทำให้ไม่รบกวนอะไรสำหรับคนที่เล่นเกมเลย แต่ก็จะเป็นการดังเป็นบางครั้งเท่านั้นกรณีใช้งานหนักๆ หรือตัวเครื่องต้องการระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเย็นแล้วก็จะลดรอบพัดลมมาเงียบเหมือนเดิม ซึ่งแทบไม่ได้ยินเสียงก็ว่าได้
Conclusion / Award
MSI Trident 3 เป็นมากกว่าคอมพิวเตอร์สำหรับการเล่นเกม ซึ่งมันก้าวเข้าสู่ความเป็น Gaming Desktop ที่ใกล้เคียงกับเครื่องเล่นเกมคอนโซลที่สุด เรียกได้ว่าถ้าไปวางบนโต๊ะทำงานแล้วจัดสวยมุมให้สวยๆ จะทำให้ห้องดูงามล้ำ หรือจะวางใช้งานในนอกนั่งเล่นไว้ใช้งานงานคู่กับทีวีจอใหญ่ก็โดดเด่นขึ้นอีก ยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับจอยคอนโทรลเลอร์ที่บันเดิลมาแล้ว ยิ่งมีความใกล้เคียงเครื่องเล่นเกมคอนโซลเข้าไปอีกระดับ ในเรื่องของดีไซน์ต้องบอกว่ามันเยี่ยมยอดขนาดที่ได้รับรางวัล iF DESIGN AWARD 2017 เลยทีเดียว
ซึ่งนอกจากความสวยงามและการออกแบบที่โดดเด่นแล้วยังมีประสิทธิภาพที่ไม่เป็นรองคอมพิวเตอร์เครื่องไหนด้วยประสิทธิภาพของการ์ดจอ GTX 1060 ITX และชิปประมวลผล intel Core i7-7700 ตัวแรง สามารถรองรับการทำงานได้อย่างหลากหลายรวมถึงการเล่นเกมอีกด้วย โดยมาพร้อมกับราคาเริ่มต้นที่ 43,990 บาท ซึ่งเอาเข้าจริงถือว่าราคาสูงกว่าพีซีหรือคอมประกอบทั่วไป แต่ได้ขนาดตัวเครื่องที่เล็ก พร้อมความพรีเมียมและฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามาแทนนั่นเอง
โดยรวมแล้ว MSI Trident 3 ถือว่าเป็น Desktop Gaming ที่น่าสนใจที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ด้วยชื่อชั้นของ MSI ที่ทำ Gaming Notebook และฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจในเรื่องการดีไซน์ออกแบบและประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี แม้ว่าราคาค่าตัวนั้นจะสูงกว่าสเปกพีซีที่ใกล้เคียงกัน รวมไปถึงไม่สามารถแทนที่เครื่องเล่นเกมคอนโซลได้จริงๆ แต่มั่นใจได้เลย MSI Trident 3 ก็มีคนที่สนใจจะจับจองเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหา Gaming Desktop ไซส์เล็ก (พอที่จะใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้เลยล่ะ) เน้นความแรงที่พอเพียง งานประกอบแน่นๆ ดีไซน์ที่ดุดัน รวมถึงต้องการประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดแบบสุดๆ บนงบประมาณสูงหน่อยแล้วล่ะก็ MSI Trident 3 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ด้วยสเปก Core i5 หรือ Core i7 ที่ทำงานรวมกับการ์ดจอ GeForce GTX 1060 ITX ก็เพียงพอกับการเล่นเกมที่หลากหลายแล้วล่ะครับ
ข้อดี
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับ Gaming Desktop ทั่วไป
- รองรับการใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- ดีไซน์สวยงามมีไฟ LED โดดเด่น งานประกอบแน่นๆ ตามสไตล์ของ MSI
- มีประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมจากชิป Core i7-7700 และการ์ดจอ GTX 1060
- รองรับการใช้งานอุปกรณ์ VR
- ถอดฝาตัวเครื่องได้ง่าย เพื่อทำการอัพเกรดหรือทำความสะอาด
- ฟีเจอร์การใช้งานที่มีมาให้อย่างมากมายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้สูงขึ้น
- พอร์ตการเชื่อมต่อมีครบครัน เพียงพอต่อการใช้งาน
- มี USB ที่เป็น Super Charger
- พัดลมทำงานได้ค่อนข้างเงียบ
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- พร้อมบันเดิลจอยคอนโทรลเลอร์มาให้
- รับประกัน 3 ปี
ข้อสังเกตุ
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์สเปคในระดับเดียวกัน
- อุณหภูมิสูงกว่าพีซีทั่วไป แต่ก็อยู่ในเกณ์ที่ทำงานได้ปกติ