เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนคงมองหา Gaming Notebook ราคาคุ้มค่าในช่วงราคา 3x,xxx บาทกันอยู่อย่างแน่นอน จากการมาของสเปกใหม่ล่าสุดอย่างชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่ได้มีการจับคู่ควงแขนมากับชิปกราฟิก NVIDIA GeForce GTX 1050 (และ GTX 1050Ti) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสเปกยอดนิยมที่ Gaming Notebook ช่วงราคาคุ้มค่าเต็มใจนำเสนอกัน โดยก็มีอยู่หลากหลายแบรนด์
แต่ที่ผู้คนให้ความสนใจกันมาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นในส่วนของ Lenovo Legion Y520 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมยอดนิยมอันดับ 1 จาก Top Chart ของ NotebookSPEC วัดจากคนเข้าชมสูงสุด !!! ที่ดูจากสเปกก็โดดเด่นด้วยหน้าจอพาเนล IPS และรูปลักษณ์ที่สวยงาม
Lenovo Legion Y520 แบบออกเป็น2 รุ่นได้ดังต่อไปนี้
- Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 4GB/HDD 1TB ราคา 31,900 บาท
- Core i7-7700HQ/GTX 1050 Ti/RAM 8GB/HDD 1TB + SSD 256GB ราคา 39,900 บาท
สำหรับใครที่สนใจชม รีวิว Lenovo Legion Y520 สามารถเข้าไปรับชมได้เลย ส่วนประเด็นที่จะมาพูดถึงบทความนี้ ก็จะเป็นในส่วนของการเจาะลึก 5 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ Lenovo Legion Y520 เพราะคาดว่ายังมีอีกหลายคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดี หรือจะซื้อแล้วเราต้องรู้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ? ในบทความนี้เราก็จะมาแจกแจงให้ฟังนั่นเอง
1. หน่วยความจำแรม 4GB ยังไงก็ไม่พอเล่นเกม (ไม่ใช่แค่ Y520)
ในส่วนของหน่วยความจำแรมถ้าเป็น Lenovo Legion Y520 รุ่นท็อปจะติดตั้งมา 8GB จำนวน 1 แถว โดยพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปรวมไปถึงเล่นเกม ซึ่งเราสามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้อีก 1 แถมรวมกันเป็น 16GB แน่นอนว่าในการใช้งานทุกสิ่งอย่างไม่ว่าจะเบาหรือหนักคงไม่เป็นปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะจะว่าไปแค่เปิดเครื่องขึ้นมาตัวระบบและโปรแกรมเซอร์วิสต่างๆ ก็ล่อแรมไป 2 – 3 GBไปแล้วด้วยซ้ำ
ทำให้ในกรณีที่เป็น Lenovo Legion Y520 รุ่นเริ่มต้นแรมเดิมๆ มาจะเป็น 4GB แถวเดียว ที่พอจะเล่นเน็ตทำงานเอกสารได้ แต่ถ้านำไปเล่นเกมแล้ว (คือ มันก็ต้องเอาไปเล่นเกมอยู่แล้วล่ะ สเปกแบบนี้) บอกเลยว่าจะการทดสอบนั้นไม่พอเพียงกับการนำไปเล่นเกมอย่างแน่นอน อาจจะพอเล่นได้ แต่ไม่ลื่นไหล ยังไงก็ตามควรต้องอัพเกรดแรมเพิ่มเป็น 8GB โดยการซื้อ 4GB เพิ่มอีกแถว หมายความว่าเราต้องมีงบในการซื้อแรมอีกประมาณ 1,400 บาทแบบเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหมายถึง Gaming Notebook ทุกรุ่นนะ ไม่ใช่แค่ Lenovo Legion Y520 ด้วย
2. Y520 ไม่ได้มาแทน Lenovo Y700 ตัวก่อน
หลายคนอาจจะเข้าใจว่า Lenovo Legion Y520 ที่เป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Lenovo ในราคา 3x,xxx บาท มันมาแทน Lenovo Y700 แบบ 100% เรียกได้ว่าช่วงราคามันเป็นการบ่งชี้อย่างชัดเจน แต่ไหงในส่วนของการวัสดุถึงได้เปลี่ยนไป รวมไปถึงตัดอะไรบางอย่างไปล่ะ โดยเอาเข้าจริงทาง Lenovo ได้ทำการวางไลน์สินค้าของ Lenovo Legion Y520 เป็นรุ่นใหม่ ไม่ได้มาแทน Y700 รุ่นก่อนหน้า แต่เป็นตัวแทนของ ideapad 700 ต่างหาก
รวมไปถึงได้อัพเกรดไลน์ Y700 เดิมเป็น Lenovo Legion Y720 ที่เป็นพรีเมียม Gaming Notebook ยิ่งกว่าด้วยด้วยสเปกและฟีเจอร์ต่างๆ มากมายที่เหนือชั้นกว่า สำหรับ Lenovo Legion Y520 อย่างที่ได้บอกไปว่าวัสดุไม่เหมือนเดิมก็คือ จะเป็นพลาสติกโดยทั้งหมด ต่างจากเดิมที่มีบางชิ้นส่วนเป็นอลูมิเนียมอย่างฝาหลังเป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามเอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานอะไร รวมไปถึงได้มีการตัดลำโพง Subwoofer ออกไป แต่ Lenovo Legion Y520 ก็ยังมีมิติเสียงที่หนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปอยู่ดี
3. Y520 รองรับการอัพเกรดเป็น SSD ความเร็วสูง NVMe PCIe
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและถูกพูดถึงสำหรับ Lenovo Legion Y520 ก็คือ เป็น Gaming Notebook ช่วงราคา 3x,xxx บาท ที่รองรับการอัพเกรดในส่วนของ SSD รูปแบ M.2 มาตรฐานการเชื่อมต่อเป็น NVMe PCIe แน่นอนทำให้การทำงานของระบบนั้นมีความรวดเร็วกว่า Gaming Notebook ที่รองรับเพียง SSD M.2 ธรรมดาเท่านั้น โดยความเร็วในการเขียนอ่านสามารถทำได้ที่ความเร็ว 2,xxx – 3,xxx MB/s เลยทีเดียว
ซึ่งจะซื้อตัวเริ่มต้นมาอัพเกรดภายหลัง หรือจะซื้อตัวท็อปที่ติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe ที่ความจุ 256GB มาเลยก็ได้ (เป็นของ Samsung) โดยจากการทดสอบจะเห็นได้ว่ามีความเร็วไปในระดับ 3,xxx MB/s ที่ต้องบอกว่าเป็น Gaming Notebook ในช่วงราคาไม่เกิน 40,000 บาทที่มี SSD เร็วแรงที่สุดก็ว่าได้ ส่งผลให้เป็นข้อได้เปรียบของ Lenovo Legion Y520 หากเทียบกับ Gaming Notebook ในช่วงราคาที่ใกล้ๆ กันทีเดียว
4. ถ้างบถึงซื้อ Y520 รุ่น GTX 1050 Ti ก็คุ้มค่าน่าสนใจไม่แพงกัน
Lenovo Legion Y520 นั้นถือว่าเป็น Gaming Notebook คุ้มค่าคุ้มราคามาก ทั้งในส่วนของสเปกและดีไซน์ที่สดใหม่ รวมถึงมีระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้นสมกับที่เป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกม อีกทั้งสเปกเองก็เป็นมาตรฐานที่เน้นความแรงในราคาไม่แพงด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ และชิปกราฟิก NVIDIA GeForce GTX 1050 ส่วนแรมเดิมๆ มา 4GB ฮาร์ดดิสก์อีก 1TB ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่า ยังไงก็ตามถ้าจะเล่นเกม (ก็เล่นอยู่แล้วล่ะ) ควรเพิ่มแรมเป็น 8GB เป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ และถ้ามีโอกาสก็อัพเกรด SSD M.2 ด้วยก็ดี (งบถึงก็ไปตัว SSD NVMe เลย)
ส่วนถ้าใครงบถึงตัวท็อปก็โดดไปเล่นตัวนั้นเลยจะดีกว่า เพราได้อะไรที่คุ้มค่ากว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของแรมที่เป็น 8GB แถวเดียว ทำให้รองรับการอัพเกรดอีกแถวสูงสุด 16GB รวมไปถึง SSD ก็มีให้มาเลยที่ความจุ 256GB พร้อมใช้งานทันที ที่สำคัญยังได้ในส่วนของการ์ดจอตัวแรงกง่าอย่าง GTX 1050Ti ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าประมาณ 20 – 30% โดยทำให้เฟรมเรทของเกมลื่นกว่าประมาณ 5 – 20 เฟรมเรทเลยทีเดียว (บวกไป 8,000 บาท แต่คุ้มแน่นอน)
5. Y520 จัดการความร้อนได้ดี พัดลมทำงานเงียบ และแบตอยู่ได้ประมาณ 3 ชั่วโมง
Lenovo Legion Y520 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 3,500 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ยาวนานประมาณ 2:30 – 3 ชั่วโมง ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า Lenovo Legion Y520 ทำเวลาได้น้อยกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Core i7 รุ่นเดียวกันในหลายๆ รุ่นด้วยกัน
อุณหภูมิการระบายความร้อน Lenovo Legion Y520 ถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีขณะที่เราเล่นเกมทดสอบเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลกับชิปกราฟิกพบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องด้านหลัง แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักเมื่อเราใช้งานทั่วไป อันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนทำได้น่าประทับใจอยู่ จากการที่มีพัดลมสองตัว พร้อมฮีตไปป์สองเส้นเป่าออกด้านหลัง และเทคโนโลยี Lenovo ช่วยจัดการ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าชิปประมวลผลจะร้อนที่สุดเพียง 80 – 84 องศาเซลเซียสเท่านั้น ส่วนชิปกราฟิกจะอยู่ไม่เกิน 69 องศาเซลเซียส ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 26 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของ Lenovo Legion Y520 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2017 ทีเดียว ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย อีกทั้งเรียกว่าทำได้ดีกว่ารุ่นพี่อย่าง Ideapad Y700 อยู่พอสมควรเลย (ทั้งสเปก GTX 1050 และ GTX 1050Ti)
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง Lenovo ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานทั้งจาก CPU และ GPU (เช่นการเล่นเกม) เรื่องของเสียงพัดลมนั้นจะไม่มีเสียงดังรบกวนจนเกินไปนัก แม้ว่าจะใช้งานหนักๆ ก็ตาม
Lenovo Legion Y520 ถือว่าเป็น Gaming Notebook สมบูรณ์แบบในช่วงราคา 3x,xxx บาทอีกหนึ่งรุ่น โดยมาพร้อมกับสเปกที่มีประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่ามากๆ รวมไปถึงรองรับการอัพเกรด SSD ความเร็วสูง รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบก็สวยงามตามสไตล์ Gaming Notebook ที่ดุดัน อีกทั้งระบบระบายความร้อนก็ทำได้เป็นอย่างดี แม้ว่าแบตเตอรี่อาจจะใช้งานได้ไม่ยาวนานเท่ากับคู่แข่ง แต่ก็เป็นเรื่องที่มองข้ามได้ สำหรับใครอยากได้จอพาเนล IPS แต่ไม่ต้อง Windows 10 ก็น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ผลทดสอบ Lenovo Legion Y520 เทียบสเปก GTX 1050 และ GTX 1050Ti
ปิดท้ายด้วยผลทดสอบการเล่นเกมระหว่าง Lenovo Legion Y520 สเปกชิปกราฟิก GTX 1050 และ GTX 1050Ti ที่จะเห็นได้ว่ามีความแรงต่างกันประมาณนึงอยู่ในตัวแปรที่เหมือนๆ กัน ที่ต้องบอกเลยว่า GTX 1050Ti แรงกว่า แต่ไม่ได้ทำให้เครื่องทำงานร้อนกว่าแต่อย่างใด