สวัสดีครับผม หลายๆคนที่ชอบดูการแข่งขันเกมต่างๆอย่าง CS : GO หรือ DOTA 2 อาจจะมีสงสัยกันบ้างว่าทำไมนักแข่งต่างๆถึงต้องใส่หูฟังกันถึง 3 ชิ้นไม่ว่างจะเป็น In-ear แล้วก็หูฟังถึง 2 อัน ทั้งครอบหัวอันหนึ่ง และ คล้องคออีกอันหนึ่ง ในบทความนี้เราจะมาเฉลยกันครับผม
โดยหูฟังที่นักแข่งใส่เวลาแข่งรอบ Offline นั้นจะแบบออกเป็น 3 ชนิดนั้นก็คือ
- Ear Muff
- In-Ear
- Headset
เราจะมาระบุหน้าที่ของแต่ละตัวกันอย่างละเอียดกันครับผมเริ่มจากอย่างแรกกันก่อนเลย
-
Ear Muff
เป็นสิ่งที่นักแข่งครอบหูไว้นั้นเองมีลักษณะคล้ายๆกับหูฟังโดยหน้าที่หลักๆของเจ้า Ear Muff นี้นั้นคือเอาไว้ป้องกันเสียงจากด้านนอก โดยเจ้าหูฟังตัวนี้จะไม่ให้เสียงอะไรเลยนอกจากกันเสียงด้านนอกอย่างเดียว แล้วนอกจากนั้นยังเป็นกฏเหล็กของการแข่งขั้นด้วยว่า เวลาที่แข่งอยู่ห้ามถอดเจ้า Ear Muff ออก เพราะว่าจะทำให้ได้ยินเสียงกองเชียร์ที่อาจจะบอกตำแหน่งศัตรูอยู่ หรือได้ยินแผนของศัตรูเวลากำลังสั่งการกันอยู่นั้นเองโดยการแข่งในประเทศไทยหลายๆรายการเริ่มที่จะใช้กฏนี้กันแล้วครับผม
-
In-Ear
แน่นอนเมื่อกฏออกมาว่าต้องใส่ Ear Muff ขณะที่กำลังแข่งอยู่ นั้นหมายความว่าเราไม่สามารถใช้ Headset ที่เราเตรียมมาได้สิ่งที่จะใช้ได้ก็มีเพียงแค่ In-Ear เท่านั้น ดังนั้นเวลาที่นักแข่งเข้าสู่รอบ Offline แล้วสิ่งที่จะทำให้เราได้ยินเสียงในเกมนั้นก็มีเพียงอยู่อย่างเดียวเท่านั้น นั้นก็คือ หูฟัง In-Ear นั้นเองดังนั้นใครที่กำลังจะเป็นนักกีฬา E-sport แล้วละก็ควรหาชื้อหูฟัง In-Ear ดีๆสักตัวแล้วละครับ โดยในตอนนี้แบรนด์เกมมิ่งหลายๆเจ้า ก็เริ่มที่จะมาผลิตตัว In-Ear กันบ้างแล้ว
-
Headset
สำหรับเจ้าตัว Headset ที่นักกีฬามักจะคล้องไว้ที่คอส่วนใหญ่จะเป็นหูฟังจากทาง สปอนเซอร์ นั้นเอง และส่วนใหญ่นักกีฬามักจะเลือกใช้ไมค์จากหูฟังตัวนั้น เพราะว่าจะได้เสียงที่มีคุณภาพกว่าและมีเสียงที่ชัดกว่านั้นเอง
คงจะคลายข้อสงสัยกันได้อย่างกระจ่างกันเลยทีเดียว ต้องบอกก่อนว่าเวลาแข่งรอบ offline นั้นยังมีกฏการแข่งขั้นอีกมากมาย ในส่วนนี้ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ เพียงเท่านั้น สำหรับใครที่กำลังอยากที่จะเป็นนักกีฬา E-sport แล้วละก็เริ่มฝึกฝนตัวเองกันตั้งแต่ตอนนี้ ความฝันไม่ไกลเกินจริง แน่นอนครับผม