สำหรับเกมเมอร์จริงจังซีเรียส เพื่อที่ได้ได้ชัยชนะในการแข่งขัน อุปกรณ์ที่ใช้ก็จำเป็นที่จะต้องจริงจังไปด้วย MSI ด้วยพลังของ Intel Core i7-7820HK ซีพียูโน๊ตบุ๊คที่แรงแบบบ้าพลังสุดๆ แรงในแบบที่เรียกได้ว่า ซีพียูของ Desktop ในรุ่น i7-6700K นั้นตกกระป๋องไปได้แบบสบายๆ และทำการยัดการ์ดจอ GTX 1070 บวกกับจอแสดงผลขนาด 17.3 นิ้ว 120Hz นั้นทำให้การเล่นเกมส์ลื่นหัวแตกแบบต้องใส่หมวกกันน๊อคเล่นกันเลยทีเดียว ทำให้ MSI GT73VR 7RE TITAN ยักษ์ใหญ่ตัวนี้มีความลงตัวสุดๆ
โดยที่รุ่นนี้จะเป็นโน๊ตบุ๊คในซีรีย์ GT ที่เป็นโค้ดเนม Titan ตัวที่ราคาต่ำสุด เปิดมาที่ 119,900 บาท โดยที่ถือว่าคุ้มค่าเนื่องจากการที่ได้จอ 120Hz และซีพียูรหัส HK พร้อมยังใส่ระบบระบายความร้อนที่เขื่อถือได้ ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คระดับ Hi-End ที่น่าสนใจมากๆ ตัวหนึ่ง
VDO Review
Specification
MSI GT73VR 7RE TITAN ตัวนี้ที่ทาง NotebookSPEC ใช้ชิปประมวลผลสุดแรงเป็น Intel Core i7-7820HK (2.90 – 3.90 GHz) พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง GeForce GTX 1070 (8GB GDDR5) และยังให้ไดร์ฟเก็บข้อมูลมาสองแบบทั้ง Harddisk 1TB 7200 RPM กับ SSD แบบ M.2 Super Raid สุดแรง ความจุ 256 GB (128×2 GB) ในส่วนของหน่วยความจำหรือแรมนั้นก็ใส่มาแบบจัดเต็ม 16GB DDR4 2400 MHz อัพเกรดได้ถึง 32GB พร้อมกับ Windows 10 แท้ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานได้เลย
ตัวเครื่องของ MSI GT73VR 7RE TITAN นั้นใช้วัสดุเป็น Aluminium Alloy ทำให้ดูมีความพรีเมี่ยมและแข็งแรง ส่วนจอแสดงผลนั้นใช้จอแบบด้าน 17.3 นิ้ว มีอัตราการกระพริบที่เหนือกว่าจอทั่วๆไป ที่ความเร็ว 120Hz แสดงผลได้อย่างลื่นไหล มีความละเอียดระดับ Full HD eDP Panel เกรดสูง มีการแสดงผลดีเยี่ยม ให้สีสันที่ดีมากๆ ด้วยเทคโนโลยี MSI True Color Technology และเทคโนโลยี Wide Viewing Angle Display ทำให้จอแสดงผลมีมุมมองที่กว้างกว่าพาแนลทั่วๆ ไป และตัวเครื่องใช้ลำโพงจาก DYNAUDIO และชิบเสียงระดับ Hi-Res Audio เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดผ่าน SABRE HiFi DAC เพื่อส่งต่อไปยัง Headset ระดับสุดยอดของคุณ มีการแยกทิศทางเสียงได้อย่างเด็ดขาด
ทั้งยังมีกล้องเว็บแคม FHD (1080p) @ 30 FPS มีไมค์ในตัว และยังมีพอร์ทเชื่อมต่อต่างๆ อย่างล้ำสมัย เช่น Thunderbolt, HDMI, Mini DisplayPort, Killer Lan RJ-45, 5 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington lock slot, SD Card Reader, รูหูฟัง 5.1 Ch และการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo WiFi + Bluetooth v4.1
สเปคเต็ม
· ชิปประมวลผล Intel® Core™ i7-7820HK (2.9 – 3.9 GHz Shift to 4.2)
· การ์ดจอ GeForce® GTX1070 8GB GDDR5
· แรม DDR4 2400MHz 16GB x1
· SSD 256GB (2x128GB SuperRAID 4 PCIE Gen3) + HDD 1TB(SATA)7200rpm
· หน้าจอแสดงผล 17.3″ Full HD eDP แบบด้าน 120Hz 5ms
· เชื่อมต่อด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo และ Killer™ Lan DoubleShot Pro
· คุณภาพเสียงระดับ HI-Res Audio ด้วย ESS SABRE HiFi DAC
· ระบบปฏิบัติการ Windows 10 home พร้อมใช้งาน
· ราคา 119,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี
Hardware / Design
สำหรับการออกแบบของ MSI GT73VR 7RE TITAN มองเพียงครั้งเดียวก็จะรับรู้ถึงความเป็น Gaming notebook จริงจังอย่างทันที ตามแบบฉบับของ MSI ที่เน้นความเป็น MSI Dragon Gaming Notebook อีกรุ่นหนึ่ง ซึงรหัส GT Titan จะเป็นซีรี่สูงสุดของ MSI ในเรื่องของการดีไซน์นั้น ข้อสังเกตุแรกอาจจะมีความหนาที่ค่อนข้างมาก แต่ก็แลกมาด้วยเหตุผลทางด้าน Hardware ที่ใส่ชุดระบายความร้อนมาแบบจัดเต็มด้วย เทคโนโลยี Cooler Boost Titan Technology ที่มีการใช้ Heat pipe ระบายความร้อนถึง 10 เส้นด้วยกัน ตัวเครื่องนั้นยังใช้วัสดุที่เป็น Aluminum alloy black Anodize ตั้งแต่ฝาหลัง ให้ความรู้สึกเป็นโลหะที่มีการประกอบแน่หนา มั่นคง พร้อมลูกเล่นแถบสีแดงและโลโก้มังกรแดงแบบใหม่ Spirit Dragon มากับจอจอที่มีขนาดใหญ่ 17.3 นิ้ว FullHD 120Hz โดยฝาพับเป็นแบบบานพับคู่แข็งแรง
ตัวเครื่องด้านล่างของ MSI GT73VR 7RE TITAN มีคีย์บอร์ดจาก SteelSeries ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ถัดมาด้านขวานจะเห็นปุ่ม Power ที่ทำซ่อนมาเรียบไปกับตัวเครื่อง และมีอีก 4 ปุ่มที่เป็นฟีทเจอร์พิเศษของทาง MSI ได้แก่ 1. ปุ่มเปิดปิดการใช้งานการ์ดจอ 2.ปุ่มเปิดฟีทเจอร์ Cooler Boost 3. ปุ่ม เปิดใช้งานการ Cast game ด้วยซอฟแวร์ X-split 4 . ปุ่มเปิดซอฟแวร์ SteelSeries Engine 3 เพื่อการปรับแต่งต่างๆ ของ Keyboard ในส่วนของด้านล่างจะเป็นเป็นพลาสติก ABS งานเนียบ มียางรอง 4 จุดขนาดใหญ่ และมี Subwoofer จาก DYNAUDIO และที่ชัดเจนที่สุดจะเห็นแผงดูดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่สีแดง ทำให้ดูดลมเข้าไปได้สะดวก
รายละเอียดในเรื่องของชุดระบายความร้อน ของ MSI GT73VR 7RE TITAN นั้น ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost Titan ที่ใช้ Heat Pipe มากถึง 10 เส้น ที่แยกการระบายความร้อนระหว่าง CPU กับ GPU ไว้ และพัดลม Whirlwind Blade เป่าลมระบายความร้อนออกทางด้านหลังและด้านข้างทั้งสองของตัวเครื่อง ทำให้หมดกังวลในเรื่องของอุณหภูมิสูงแล้วประสิทธิภาพจะตกไปได้เลย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GT73VR 7RE TITAN ตัวนี้แน่นอนว่าใช้คีย์บบอร์ดที่ผลิดโดย SteelSeries ถึงแม้จะไม่ใช่คีย์บอร์ดประเภท Mechanical มีฟีลลิ่งน้ำหนักการกดที่ในระดับที่ดีมาก ตอบสองได้รวดเร็วสุดๆ มีการเด้งรับที่ดี แต่ก็สามารถนำมาเล่นเกมส์ได้สบายๆ จุดเด่นก็คือมีไฟ LED แบบ RGB ตามสมัยนิยม
ทัชแพดมีขนาดที่ใหญ่ มีการทำไฟ LED ที่ขอบรอบๆทัชแพด เข้ากับคีย์บอร์ด ดีไซน์เป็นแบบปุ่มคลิก ซ้าย-ขวา แยกออกจากกัน โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม พื้นผิวสัมผัสแบบด้านกันรอยนิ้วมือ โดยที่ปุ่มคลิกซ้ายและขวาก็มีน้ำหนักการกดที่พอดี ไม่เเข็งจนเกินไป และ และซอฟแวร์ SteelSeries Engine 3 นี้ยังสามารถนำมาใช้ปรับแต่งไฟ LED โดยที่มีให้เลือกปรับแต่งอย่างหลากหลายตามที่ User ต้องการได้ดั่งใจ
Screen / Speaker
หน้าจอจอแสดงผล 17.3 นิ้ว eDP 120Hz ได้ทำการติดตั้งมาเพื่อใช้เล่นเกมโดยเฉพาะ มีมุมมองที่กว้างและสีค่อนข้างสดใส การเล่นเกมก็ทำได้สุดยอด แม้กระทั่งการเข้าเว็ปไซด์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งดูหนังก็มีความสมูท ลื่นไหล และยังสามารถปรับโปรไฟล์สีแบบต่างๆ ผ่านซอฟแวร์ MSI True Color ได้ถึง 6 โหมดได้แก่ ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER นั้นค่อนข้างมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในการแต่งรูป
ในเรื่องของเสียงทำได้ยอดเยี่ยม ด้วยลำโพง DYNAUDIO 2.1Ch มีซัพวูฟเฟอร์ในตัว พลังเสียงดังกระหึ่ม และ MSI ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ด้านคุณภาพเสียงด้วยเทคโนโลยี ESS SABRE HiFi มีคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio โดยที่ขับผ่าน SABRE HiFi DAC เพื่อส่งต่อไปยัง Headset ที่ขับเสียงได้อย่างเครื่องเสียงระดับสูง โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic สร้างการจำลองมิติของเสียงต่างๆ ทำให้มีการแยกมิติเสียงที่ชัดเจน เด็ดขาด ในเกม FPS โดยที่มีการใช้ชุดแจ๊คแบบชุบทองคำแบบ 5.1Ch ทำให้ได้คุณภาพเสียงแบบ 360 องศา การใช้งานจริงพบว่าสามารถเอามาฟังเพลงได้อย่างดีสุดยอด ไม่แพ้อุปกรณ์ฟังเพลงระดับ Audiophile เลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
MSI GT73VR 7RE TITAN นั้นมีการเชื่อมต่อทีล้ำสมัยสุดๆ โดยที่ใส่มาอย่างครบๆด้วย Thunderbolt, HDMI, Mini DisplayPort, Killer Lan RJ-45, 5 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington lock slot, SD Card Reader,และ รูหูฟัง 5.1 Ch แจ็คชุบทองคำ และยังใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo WiFi + Bluetooth v4.1 รองรับได้ทุกมาตรฐานตามยุคสมัย 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer Shield ระบบจัดการเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมด้วยการให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อของเกมส์มาเป็นอันดับแรก ทำให้ได้ Ping ที่ต่ำ
และในส่วนของน้ำหนักนั้นเป็นทำมาได้ที่ 4.14 Kg บวกกับอแดปเตอร์จ่ายไฟอีก 860g รวมแล้วก็ 5 Kg พอดีๆ จัดว่าค่อนข้างหนัก ไม่ค่อยสะดวกในการเคลื่อนย้ายเท่าใดนัก แต่ก็แลกมาด้วยประสิทธิภาพระดับท๊อป ถือว่าสมเหตุสมผลครับ
Performance / Software
ในเรื่องของประสิทธิภาพนั้นทำได้อย่างไม่มีที่ติ โดยใช้ชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7820HK (2.90 GHz, 8 MB L3 Cache, up to 3.90 GHz) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่มีความแรงระดับเดียวกันกับ Desktop PC ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือเล่นเกม ก็ให้ความแรงที่เหลือล้น และสามารถเร่งประสิทธิภาพเพิ่มไปได้อีกด้วยการ Overclock ด้วยเทคโนโลยี Shift ของทาง MSI เพิ่มความเร็ซขึ้นไปได้อีกถึง 4.2 GHz มีประสิทธิภาพเทียบกับรุ่นก่อนหน้ามากกว่าถึง 10% โดยที่เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถพร้อมที่จะรองรับการทำงานทั่วๆ ไปได้ทุกงานและพระเอกก็คือการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรง NVIDIA GeForce GTX 1070 ตัวเดียวกันกับที่ใช้ใน Desktop PC แรงกว่า GTX 980M อย่างรู้สึกได้ สามารถเล่นเกมส์กราฟฟิคสูงๆ ปรับสุดได้ทุกเกมก็ว่าได้ในปัจจุบัน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล เป็นการทดสอบประสิทธิภาพการเร็นเดอร์ภาพ 3 มิติ เป็นตัวชี้วัดความแรงของ CPU ได้เป็นอย่างดี ก็สามารถทำได้คะแนนที่สูงระดับเดียวกันกับ i7-6700 ใน Desktop PC เรียกได้ว่าแรงมากๆ ที่ 900 cb
ถัดมาเป็นการทดสอบ Benchmark ประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมส์ด้วย 3DMARK โดยจะทดสอบทั้ง Fire Strike และ 3DMARK 11 Perforamance โดยที่ทั้งสองการทดสอบก็ได้คะแนนในระดับที่ Desktop บางเครื่องนี่ยังอาย
มาดูในเรื่องการเล่นเกมโดยที่เป็นหัวใจของเจ้าเครื่องนี้ การตั้งค่านั้นจะเป็นการปรับสุดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Render Scale สุด และทำการปิด Vsync โดยผลทดสอบค่าเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปทุกเกม โดยเฉพาะเกมส์ FPS อย่าง Titanfall2 ด้วยความที่ใช้จอ 120Hz ทำให้ภาพนั้นสมูทมากๆๆ เนียนตา ได้อรรถรส เล่นสนุกจริงๆครับ สามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกสูงๆ ปรับสุดหมด ได้อย่างลื่นสุดๆ ไม่มีปัญหา
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 128×2 GB ทำ Raid เพิ่มความแรงกันแบบสุดๆ ทำคะแนนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเร็วการอ่านที่ 2840MB/s และเขียนที่ 915MB/s จัดว่าลืมไปได้เลยอะไรคือ Harddisk จานหมุน
มาต่อกับการทดสอบ Harddisk จานหมุน ขนาด 1TB ที่ติดตั้งมาให้ แบบความเร็วรอบ 7200 ด้วยซอฟแวร์ HD Tune Pro 5.6 ได้ผลลัพท์จากการ Bennchmark อัตราการถ่ายโอนข้อมูลต่ำสุดอยู่ที่ 62MB/s และสูงสุดที่ 144MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 113MB/s มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.2 ms เรียกว่า MSI ตัวนี้ทำได้แรงกว่า HDD ทั่วไปในท้องตลาดอยู่มาก ใส่ใจแม้กระทั่ง อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GT73VR 7RE TITAN เครื่องนี้เป็นแบบฝัง 8-Cell ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ที่ระดับ 70% แล้วทำการเล่นเว็ปสลับกับดู Youtube แล้วจับการคลายประจุด้วยโปรแกรม BatteryMon นั้นได้แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยประมาณ เวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งาน เนื่องจากสเปคที่แรงสุดๆ ทำให้อัตราการใช้พลังงานั้นสูงไปด้วย จึงไม่เเปลกที่แบตจะอยู่ได้ไม่นานนัก
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 39 – 45 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมส์ต่อเนื่อง เพื่อระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนทำงานเต็มที่ ดูจาก Software Hwmornitor แล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 82 องศาเซลเซียส โดยการเปิด Cooler Boost ส่วนเสียงพัดลมก็ดังไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้ดีมากๆ โดยเฉพาะการ์ดจอนั้นสามารถคุมได้อยู่หมัด Max อยู่ที่ 67 องศาเท่านั้น
Conclusion / Award
สรุปแล้วจากการรีวิวและใช้งานจริง พบว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เรียกได้ว่าครบเครื่องสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์ หรือดูหนังฟังเพลง ไม่เว้นเเม้แต่การทำงานประมวลผลหนักๆ ก็เอาอยู่หมด เรียกได้ว่าใช้เเทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเลยก็ยังได้ โดยที่ประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์นั้นล้นเหลือสุดๆ โดยเฉพาะเกม FPS ทำได้ดีมากๆ เพราะหน้าจอ 120 Hz และการ์ดจอที่แรงระดับท๊อปๆ อย่าง GTX1070 โดยที่เป็นรองแค่ GTX1080 เท่านั้น
ในส่วนของการใช้งานนั้นอาจจะไม่ถนัดสำหรับการเคลื่อนย้ายไปมากบ่อยๆ เพราะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นข้อดีที่ทำให้การระบายความร้อนนั้นทำได้ดีสุดๆ ด้วยเทคโนโลยี Cooler Boost Titan ที่ใช้ Heat Pipe มากถึง 10 เส้น ที่แยกการระบายความร้อนระหว่าง CPU กับ GPU ไว้ และพัดลม Whirlwind Blade มีช่องระบายความร้อนอยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง ทำให้หมดกังวลในเรื่องของอุณหภูมิสูงแล้วประสิทธิภาพจะตกไปได้เลย
ในส่วนของฟีทเจอร์นั้นก็อัดมาให้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การรองรับ SSD แบบ PCI-E, SHIFT ที่สามารถโอเวอร์คล๊อคเพิ่มไปได้อีก, MSI True Colur, Wide Angle view, รองรับความละเอียดจอ ระดับ 4K ด้วย พอร์ท Thunderbolt, ชิพ DAC ในตัวที่มีความละเอียดระดับ HI-RES, ระบบเสียง Nahimic 2 และยังใช้ลำโพงจาก DYNAUDIO, ควบคุมด้วยแป้นพิมพ์จาก Steelseries และ Steelseries engin3 , แผงคอนโทรซอฟแวร์ Dragon Center, พร้อมยังให้การสรีมมิ่งอย่างลื่นไหลด้วย KILLER ทั้งในส่วนของ LAN และ Wifi แถมด้วยการบันเดิล Software XSplit สำหรับการแคสเกมอีกด้วย
เรียกได้ว่า MSI เป็นเจ้าแรกๆ ที่นำ Intel Gen 7 มาขายในบ้านเรา หากใครต้องการในตอนนี้ก็สามารถหาซื้อกันได้แล้วตามร้าน IT ชั้นนำครับ
ข้อดี
- สเปคระดับเอามาแทนที่ PC ได้เลย ด้วย Intel Core i7-7820HK และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1070
- จอมีอัตรา Refresh rate ที่ 120Hz ทำให้การเล่นเกมส์นั้นได้อารมณ์สุดๆ โดยเฉพาะเกมส์ FPS
- จอสีสวยมากๆ และยังปรับแต่งผ่าน MSI True Color ได้ด้วย ถึงแม้จะไม่ใช่ IPS panal
- พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเยอะจุใจ Thunderbolt, USB 3.0, USB 3.1 Type-C และ Mini DisplayPort 1.2 , HDMI
- ใช้ชิปเสียงระดับ Hi-Res ให้เสียงระดับ Audiophile และลำโพง Dynaudio แบบ 2.1Ch ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม
- ใช้ไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 แถมยังทำ Raid ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงมากๆ มีอัตราความเร็วในการอ่านถึง 2840MB/s
- ระบายความร้อน Cooler Boost Titan นั้นทำได้ดีเยี่ยม เล่นเกมนานๆ ได้สบาย โดยที่ประสิทธิภาพไม่ตก
- คีย์บอร์ด SteelSeries ปรับเปลี่ยนสีไฟได้ Silver Lining Print ให้แสงสดใสสวยงาม
ข้อสังเกต
- ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่ค่อนข้างสั้น ด้วยความที่สเปคแรงมากๆ
- มีลมร้อนเป่าออกทางด้านซ้ายและขวาขณะเล่นเกมส์ ทำให้ร้อนมือเล็กน้อย
- น้ำหนักมาก เคลื่อนยากบ่อยๆ ไม่ค่อยสะดวก
- ราคาสูงไปหน่อย แต่ก็คุ้มเนื่องจากจอ 120Hz ไม่ได้หากันง่ายๆ ในโน๊ตบุ๊ค เก็บเงินกันยาวๆ
AWARDS
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คเกมส์มิ่งขนาดหน้าจอ 17 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GT73VR 7RE Titan ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
BEST TECHNOLOGY
MSI GT73VR 7RE Titan เป็น Gaming Notebook ที่อัดฟีทเจอท์มาเยอะสุดๆ เช่นการ Raid SSD แบบ PCI-E มาให้, ESS Sabre DAC ระดับ Hi-Fi , Steelseries Keyboard, Killer Network, ThunderBolt รวมไปถึงซอฟต์แวร์ MSI Dragon Center ที่รวมเทคโนโลยีล้ำๆ เข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าจัดมาให้ครบๆ
BEST PERFORMANCE
MSI GT73VR 7RE Titan มีสเปคที่ระดับสูง ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ ด้วย Intel Core i7-7820HK และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1070 (8GB GDDR5) ทั้งยังใช้จอระดับ Hi-End 120Hz ทำให้มอบประสบการณ์การเล่นเกมส์ที่สุดยอดไม่เหมือนใคร
VDO Review
Specification
MSI GT73VR 7RE TITAN ตัวนี้ที่ทาง NotebookSPEC ใช้ชิปประมวลผลสุดแรงเป็น Intel Core i7-7820HK (2.90 – 3.90 GHz) พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง GeForce GTX 1070 (8GB GDDR5) และยังให้ไดร์ฟเก็บข้อมูลมาสองแบบทั้ง Harddisk 1TB 7200 RPM กับ SSD แบบ M.2 Super Raid สุดแรง ความจุ 256 GB (128×2 GB) ในส่วนของหน่วยความจำหรือแรมนั้นก็ใส่มาแบบจัดเต็ม 16GB DDR4 2400 MHz อัพเกรดได้ถึง 32GB พร้อมกับ Windows 10 แท้ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานได้เลย
ตัวเครื่องของ MSI GT73VR 7RE TITAN นั้นใช้วัสดุเป็น Aluminium Alloy ทำให้ดูมีความพรีเมี่ยมและแข็งแรง ส่วนจอแสดงผลนั้นใช้จอแบบด้าน 17.3 นิ้ว มีอัตราการกระพริบที่เหนือกว่าจอทั่วๆไป ที่ความเร็ว 120Hz แสดงผลได้อย่างลื่นไหล มีความละเอียดระดับ Full HD eDP Panel เกรดสูง มีการแสดงผลดีเยี่ยม ให้สีสันที่ดีมากๆ ด้วยเทคโนโลยี MSI True Color Technology และเทคโนโลยี Wide Viewing Angle Display ทำให้จอแสดงผลมีมุมมองที่กว้างกว่าพาแนลทั่วๆ ไป และตัวเครื่องใช้ลำโพงจาก DYNAUDIO และชิบเสียงระดับ Hi-Res Audio เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดผ่าน SABRE HiFi DAC เพื่อส่งต่อไปยัง Headset ระดับสุดยอดของคุณ มีการแยกทิศทางเสียงได้อย่างเด็ดขาด
ทั้งยังมีกล้องเว็บแคม FHD (1080p) @ 30 FPS มีไมค์ในตัว และยังมีพอร์ทเชื่อมต่อต่างๆ อย่างล้ำสมัย เช่น Thunderbolt, HDMI, Mini DisplayPort, Killer Lan RJ-45, 5 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington lock slot, SD Card Reader, รูหูฟัง 5.1 Ch และการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo WiFi + Bluetooth v4.1
สเปคเต็ม
· ชิปประมวลผล Intel® Core™ i7-7820HK (2.9 – 3.9 GHz Shift to 4.2)
· การ์ดจอ GeForce® GTX1070 8GB GDDR5
· แรม DDR4 2400MHz 16GB x1
· SSD 256GB (2x128GB SuperRAID 4 PCIE Gen3) + HDD 1TB(SATA)7200rpm
· หน้าจอแสดงผล 17.3″ Full HD eDP แบบด้าน 120Hz 5ms
· เชื่อมต่อด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo และ Killer™ Lan DoubleShot Pro
· คุณภาพเสียงระดับ HI-Res Audio ด้วย ESS SABRE HiFi DAC
· ระบบปฏิบัติการ Windows 10 home พร้อมใช้งาน
· ราคา 119,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี
Hardware / Design
สำหรับการออกแบบของ MSI GT73VR 7RE TITAN มองเพียงครั้งเดียวก็จะรับรู้ถึงความเป็น Gaming notebook จริงจังอย่างทันที ตามแบบฉบับของ MSI ที่เน้นความเป็น MSI Dragon Gaming Notebook อีกรุ่นหนึ่ง ซึงรหัส GT Titan จะเป็นซีรี่สูงสุดของ MSI ในเรื่องของการดีไซน์นั้น ข้อสังเกตุแรกอาจจะมีความหนาที่ค่อนข้างมาก แต่ก็แลกมาด้วยเหตุผลทางด้าน Hardware ที่ใส่ชุดระบายความร้อนมาแบบจัดเต็มด้วย เทคโนโลยี Cooler Boost Titan Technology ที่มีการใช้ Heat pipe ระบายความร้อนถึง 10 เส้นด้วยกัน ตัวเครื่องนั้นยังใช้วัสดุที่เป็น Aluminum alloy black Anodize ตั้งแต่ฝาหลัง ให้ความรู้สึกเป็นโลหะที่มีการประกอบแน่หนา มั่นคง พร้อมลูกเล่นแถบสีแดงและโลโก้มังกรแดงแบบใหม่ Spirit Dragon มากับจอจอที่มีขนาดใหญ่ 17.3 นิ้ว FullHD 120Hz โดยฝาพับเป็นแบบบานพับคู่แข็งแรง
ตัวเครื่องด้านล่างของ MSI GT73VR 7RE TITAN มีคีย์บอร์ดจาก SteelSeries ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ถัดมาด้านขวานจะเห็นปุ่ม Power ที่ทำซ่อนมาเรียบไปกับตัวเครื่อง และมีอีก 4 ปุ่มที่เป็นฟีทเจอร์พิเศษของทาง MSI ได้แก่ 1. ปุ่มเปิดปิดการใช้งานการ์ดจอ 2.ปุ่มเปิดฟีทเจอร์ Cooler Boost 3. ปุ่ม เปิดใช้งานการ Cast game ด้วยซอฟแวร์ X-split 4 . ปุ่มเปิดซอฟแวร์ SteelSeries Engine 3 เพื่อการปรับแต่งต่างๆ ของ Keyboard ในส่วนของด้านล่างจะเป็นเป็นพลาสติก ABS งานเนียบ มียางรอง 4 จุดขนาดใหญ่ และมี Subwoofer จาก DYNAUDIO และที่ชัดเจนที่สุดจะเห็นแผงดูดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่สีแดง ทำให้ดูดลมเข้าไปได้สะดวก
รายละเอียดในเรื่องของชุดระบายความร้อน ของ MSI GT73VR 7RE TITAN นั้น ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost Titan ที่ใช้ Heat Pipe มากถึง 10 เส้น ที่แยกการระบายความร้อนระหว่าง CPU กับ GPU ไว้ และพัดลม Whirlwind Blade เป่าลมระบายความร้อนออกทางด้านหลังและด้านข้างทั้งสองของตัวเครื่อง ทำให้หมดกังวลในเรื่องของอุณหภูมิสูงแล้วประสิทธิภาพจะตกไปได้เลย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GT73VR 7RE TITAN ตัวนี้แน่นอนว่าใช้คีย์บบอร์ดที่ผลิดโดย SteelSeries ถึงแม้จะไม่ใช่คีย์บอร์ดประเภท Mechanical มีฟีลลิ่งน้ำหนักการกดที่ในระดับที่ดีมาก ตอบสองได้รวดเร็วสุดๆ มีการเด้งรับที่ดี แต่ก็สามารถนำมาเล่นเกมส์ได้สบายๆ จุดเด่นก็คือมีไฟ LED แบบ RGB ตามสมัยนิยม
ทัชแพดมีขนาดที่ใหญ่ มีการทำไฟ LED ที่ขอบรอบๆทัชแพด เข้ากับคีย์บอร์ด ดีไซน์เป็นแบบปุ่มคลิก ซ้าย-ขวา แยกออกจากกัน โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม พื้นผิวสัมผัสแบบด้านกันรอยนิ้วมือ โดยที่ปุ่มคลิกซ้ายและขวาก็มีน้ำหนักการกดที่พอดี ไม่เเข็งจนเกินไป และ และซอฟแวร์ SteelSeries Engine 3 นี้ยังสามารถนำมาใช้ปรับแต่งไฟ LED โดยที่มีให้เลือกปรับแต่งอย่างหลากหลายตามที่ User ต้องการได้ดั่งใจ
Screen / Speaker
หน้าจอจอแสดงผล 17.3 นิ้ว eDP 120Hz ได้ทำการติดตั้งมาเพื่อใช้เล่นเกมโดยเฉพาะ มีมุมมองที่กว้างและสีค่อนข้างสดใส การเล่นเกมก็ทำได้สุดยอด แม้กระทั่งการเข้าเว็ปไซด์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งดูหนังก็มีความสมูท ลื่นไหล และยังสามารถปรับโปรไฟล์สีแบบต่างๆ ผ่านซอฟแวร์ MSI True Color ได้ถึง 6 โหมดได้แก่ ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER นั้นค่อนข้างมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในการแต่งรูป
ในเรื่องของเสียงทำได้ยอดเยี่ยม ด้วยลำโพง DYNAUDIO 2.1Ch มีซัพวูฟเฟอร์ในตัว พลังเสียงดังกระหึ่ม และ MSI ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ด้านคุณภาพเสียงด้วยเทคโนโลยี ESS SABRE HiFi มีคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio โดยที่ขับผ่าน SABRE HiFi DAC เพื่อส่งต่อไปยัง Headset ที่ขับเสียงได้อย่างเครื่องเสียงระดับสูง โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic สร้างการจำลองมิติของเสียงต่างๆ ทำให้มีการแยกมิติเสียงที่ชัดเจน เด็ดขาด ในเกม FPS โดยที่มีการใช้ชุดแจ๊คแบบชุบทองคำแบบ 5.1Ch ทำให้ได้คุณภาพเสียงแบบ 360 องศา การใช้งานจริงพบว่าสามารถเอามาฟังเพลงได้อย่างดีสุดยอด ไม่แพ้อุปกรณ์ฟังเพลงระดับ Audiophile เลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
MSI GT73VR 7RE TITAN นั้นมีการเชื่อมต่อทีล้ำสมัยสุดๆ โดยที่ใส่มาอย่างครบๆด้วย Thunderbolt, HDMI, Mini DisplayPort, Killer Lan RJ-45, 5 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington lock slot, SD Card Reader,และ รูหูฟัง 5.1 Ch แจ็คชุบทองคำ และยังใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Killer™ Wireless-AC 1535 Combo WiFi + Bluetooth v4.1 รองรับได้ทุกมาตรฐานตามยุคสมัย 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer Shield ระบบจัดการเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมด้วยการให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อของเกมส์มาเป็นอันดับแรก ทำให้ได้ Ping ที่ต่ำ
และในส่วนของน้ำหนักนั้นเป็นทำมาได้ที่ 4.14 Kg บวกกับอแดปเตอร์จ่ายไฟอีก 860g รวมแล้วก็ 5 Kg พอดีๆ จัดว่าค่อนข้างหนัก ไม่ค่อยสะดวกในการเคลื่อนย้ายเท่าใดนัก แต่ก็แลกมาด้วยประสิทธิภาพระดับท๊อป ถือว่าสมเหตุสมผลครับ
Performance / Software
ในเรื่องของประสิทธิภาพนั้นทำได้อย่างไม่มีที่ติ โดยใช้ชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7820HK (2.90 GHz, 8 MB L3 Cache, up to 3.90 GHz) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่มีความแรงระดับเดียวกันกับ Desktop PC ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือเล่นเกม ก็ให้ความแรงที่เหลือล้น และสามารถเร่งประสิทธิภาพเพิ่มไปได้อีกด้วยการ Overclock ด้วยเทคโนโลยี Shift ของทาง MSI เพิ่มความเร็ซขึ้นไปได้อีกถึง 4.2 GHz มีประสิทธิภาพเทียบกับรุ่นก่อนหน้ามากกว่าถึง 10% โดยที่เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถพร้อมที่จะรองรับการทำงานทั่วๆ ไปได้ทุกงานและพระเอกก็คือการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรง NVIDIA GeForce GTX 1070 ตัวเดียวกันกับที่ใช้ใน Desktop PC แรงกว่า GTX 980M อย่างรู้สึกได้ สามารถเล่นเกมส์กราฟฟิคสูงๆ ปรับสุดได้ทุกเกมก็ว่าได้ในปัจจุบัน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล เป็นการทดสอบประสิทธิภาพการเร็นเดอร์ภาพ 3 มิติ เป็นตัวชี้วัดความแรงของ CPU ได้เป็นอย่างดี ก็สามารถทำได้คะแนนที่สูงระดับเดียวกันกับ i7-6700 ใน Desktop PC เรียกได้ว่าแรงมากๆ ที่ 900 cb
ถัดมาเป็นการทดสอบ Benchmark ประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมส์ด้วย 3DMARK โดยจะทดสอบทั้ง Fire Strike และ 3DMARK 11 Perforamance โดยที่ทั้งสองการทดสอบก็ได้คะแนนในระดับที่ Desktop บางเครื่องนี่ยังอาย
มาดูในเรื่องการเล่นเกมโดยที่เป็นหัวใจของเจ้าเครื่องนี้ การตั้งค่านั้นจะเป็นการปรับสุดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Render Scale สุด และทำการปิด Vsync โดยผลทดสอบค่าเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปทุกเกม โดยเฉพาะเกมส์ FPS อย่าง Titanfall2 ด้วยความที่ใช้จอ 120Hz ทำให้ภาพนั้นสมูทมากๆๆ เนียนตา ได้อรรถรส เล่นสนุกจริงๆครับ สามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกสูงๆ ปรับสุดหมด ได้อย่างลื่นสุดๆ ไม่มีปัญหา
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 128×2 GB ทำ Raid เพิ่มความแรงกันแบบสุดๆ ทำคะแนนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเร็วการอ่านที่ 2840MB/s และเขียนที่ 915MB/s จัดว่าลืมไปได้เลยอะไรคือ Harddisk จานหมุน
มาต่อกับการทดสอบ Harddisk จานหมุน ขนาด 1TB ที่ติดตั้งมาให้ แบบความเร็วรอบ 7200 ด้วยซอฟแวร์ HD Tune Pro 5.6 ได้ผลลัพท์จากการ Bennchmark อัตราการถ่ายโอนข้อมูลต่ำสุดอยู่ที่ 62MB/s และสูงสุดที่ 144MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 113MB/s มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.2 ms เรียกว่า MSI ตัวนี้ทำได้แรงกว่า HDD ทั่วไปในท้องตลาดอยู่มาก ใส่ใจแม้กระทั่ง อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GT73VR 7RE TITAN เครื่องนี้เป็นแบบฝัง 8-Cell ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ที่ระดับ 70% แล้วทำการเล่นเว็ปสลับกับดู Youtube แล้วจับการคลายประจุด้วยโปรแกรม BatteryMon นั้นได้แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยประมาณ เวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งาน เนื่องจากสเปคที่แรงสุดๆ ทำให้อัตราการใช้พลังงานั้นสูงไปด้วย จึงไม่เเปลกที่แบตจะอยู่ได้ไม่นานนัก
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 39 – 45 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมส์ต่อเนื่อง เพื่อระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนทำงานเต็มที่ ดูจาก Software Hwmornitor แล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 82 องศาเซลเซียส โดยการเปิด Cooler Boost ส่วนเสียงพัดลมก็ดังไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้ดีมากๆ โดยเฉพาะการ์ดจอนั้นสามารถคุมได้อยู่หมัด Max อยู่ที่ 67 องศาเท่านั้น
Conclusion / Award
สรุปแล้วจากการรีวิวและใช้งานจริง พบว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เรียกได้ว่าครบเครื่องสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์ หรือดูหนังฟังเพลง ไม่เว้นเเม้แต่การทำงานประมวลผลหนักๆ ก็เอาอยู่หมด เรียกได้ว่าใช้เเทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเลยก็ยังได้ โดยที่ประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์นั้นล้นเหลือสุดๆ โดยเฉพาะเกม FPS ทำได้ดีมากๆ เพราะหน้าจอ 120 Hz และการ์ดจอที่แรงระดับท๊อปๆ อย่าง GTX1070 โดยที่เป็นรองแค่ GTX1080 เท่านั้น
ในส่วนของการใช้งานนั้นอาจจะไม่ถนัดสำหรับการเคลื่อนย้ายไปมากบ่อยๆ เพราะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นข้อดีที่ทำให้การระบายความร้อนนั้นทำได้ดีสุดๆ ด้วยเทคโนโลยี Cooler Boost Titan ที่ใช้ Heat Pipe มากถึง 10 เส้น ที่แยกการระบายความร้อนระหว่าง CPU กับ GPU ไว้ และพัดลม Whirlwind Blade มีช่องระบายความร้อนอยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง ทำให้หมดกังวลในเรื่องของอุณหภูมิสูงแล้วประสิทธิภาพจะตกไปได้เลย
ในส่วนของฟีทเจอร์นั้นก็อัดมาให้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การรองรับ SSD แบบ PCI-E, SHIFT ที่สามารถโอเวอร์คล๊อคเพิ่มไปได้อีก, MSI True Colur, Wide Angle view, รองรับความละเอียดจอ ระดับ 4K ด้วย พอร์ท Thunderbolt, ชิพ DAC ในตัวที่มีความละเอียดระดับ HI-RES, ระบบเสียง Nahimic 2 และยังใช้ลำโพงจาก DYNAUDIO, ควบคุมด้วยแป้นพิมพ์จาก Steelseries และ Steelseries engin3 , แผงคอนโทรซอฟแวร์ Dragon Center, พร้อมยังให้การสรีมมิ่งอย่างลื่นไหลด้วย KILLER ทั้งในส่วนของ LAN และ Wifi แถมด้วยการบันเดิล Software XSplit สำหรับการแคสเกมอีกด้วย
เรียกได้ว่า MSI เป็นเจ้าแรกๆ ที่นำ Intel Gen 7 มาขายในบ้านเรา หากใครต้องการในตอนนี้ก็สามารถหาซื้อกันได้แล้วตามร้าน IT ชั้นนำครับ
ข้อดี
- สเปคระดับเอามาแทนที่ PC ได้เลย ด้วย Intel Core i7-7820HK และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1070
- จอมีอัตรา Refresh rate ที่ 120Hz ทำให้การเล่นเกมส์นั้นได้อารมณ์สุดๆ โดยเฉพาะเกมส์ FPS
- จอสีสวยมากๆ และยังปรับแต่งผ่าน MSI True Color ได้ด้วย ถึงแม้จะไม่ใช่ IPS panal
- พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเยอะจุใจ Thunderbolt, USB 3.0, USB 3.1 Type-C และ Mini DisplayPort 1.2 , HDMI
- ใช้ชิปเสียงระดับ Hi-Res ให้เสียงระดับ Audiophile และลำโพง Dynaudio แบบ 2.1Ch ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม
- ใช้ไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 แถมยังทำ Raid ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงมากๆ มีอัตราความเร็วในการอ่านถึง 2840MB/s
- ระบายความร้อน Cooler Boost Titan นั้นทำได้ดีเยี่ยม เล่นเกมนานๆ ได้สบาย โดยที่ประสิทธิภาพไม่ตก
- คีย์บอร์ด SteelSeries ปรับเปลี่ยนสีไฟได้ Silver Lining Print ให้แสงสดใสสวยงาม
ข้อสังเกต
- ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่ค่อนข้างสั้น ด้วยความที่สเปคแรงมากๆ
- มีลมร้อนเป่าออกทางด้านซ้ายและขวาขณะเล่นเกมส์ ทำให้ร้อนมือเล็กน้อย
- น้ำหนักมาก เคลื่อนยากบ่อยๆ ไม่ค่อยสะดวก
- ราคาสูงไปหน่อย แต่ก็คุ้มเนื่องจากจอ 120Hz ไม่ได้หากันง่ายๆ ในโน๊ตบุ๊ค เก็บเงินกันยาวๆ
AWARDS
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คเกมส์มิ่งขนาดหน้าจอ 17 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GT73VR 7RE Titan ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
BEST TECHNOLOGY
MSI GT73VR 7RE Titan เป็น Gaming Notebook ที่อัดฟีทเจอท์มาเยอะสุดๆ เช่นการ Raid SSD แบบ PCI-E มาให้, ESS Sabre DAC ระดับ Hi-Fi , Steelseries Keyboard, Killer Network, ThunderBolt รวมไปถึงซอฟต์แวร์ MSI Dragon Center ที่รวมเทคโนโลยีล้ำๆ เข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าจัดมาให้ครบๆ
BEST PERFORMANCE
MSI GT73VR 7RE Titan มีสเปคที่ระดับสูง ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ ด้วย Intel Core i7-7820HK และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1070 (8GB GDDR5) ทั้งยังใช้จอระดับ Hi-End 120Hz ทำให้มอบประสบการณ์การเล่นเกมส์ที่สุดยอดไม่เหมือนใคร