เนื่องจากการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนค่อนข้างสูง ผู้ผลิตแต่ละรายจึงพยายามเข็นเอาฟีเจอร์ใหม่ๆ ยัดเข้ามาใส่สมาร์ทโฟนของตนเองให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะกับรุ่นเรือธงอย่าง Asus Zenfone AR ด้วยแล้ว ต้องบอกว่ามีการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพมาเป็นอย่างดี ทั้งการอัพขนาดแรมเป็น 8GB การเพิ่มฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพ หรือแม้กระทั้งการนำเอาเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) มาใช้งาน เพื่อสร้างภาพให้มีมิติมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังสนับสนุน Google Tango ในการสร้างภาพเสมือนจริงหรือแผนที่ 3 มิติที่มีความนูน ความลึก และการรองรับ Daydream ซึ่งเป็นเทคโนโลยี VR คุณภาพสูงจาก Google โดยปัจจุบันผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดโปรแกรม หรือแอพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับ VR ผ่านทาง Play Store ได้แล้ว
Asus Zenfone AR ที่มาโชว์ครั้งแรกในงาน CES 2017 มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามเน้นความหรูหราหน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Super AMOLED 2K Quad HD ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1,440 x 2,560 พิกเซล (หน้าจอ Corning Gorilla Glass 4) ตัวซีพียูเป็นแบบ Quad-Core 64-bit รุ่น Qualcomm Snapdragon 821 ความเร็ว 2.35GHz พร้อมชิบประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 530 แรมแบบ LPDDR4 ขนาด 6GB และ 8GB ติดตั้งหน่วยความจำภายในมาให้หลายขนาดทั้ง 32GB, 64GB, 128GB และ 256GB พร้อมหน่วยความจำแบบ microSD สูงสุดที่ 2TB แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh พร้อมระบบ Fast Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 60% ภายในเวลา 39 นาที ส่วนระบบปฏิบัติการที่ใช้งานก็คือ Android 7.0 Nougat พร้อม ZenUI 3.0 จาก Asus
ในส่วนของฟังก์ชั่น Asus Zenfone AR จะมาพร้อมกับเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX318 และเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างถึง F2.0 มีความละเอียด 23 ล้านพิกเซล สามารถจับโฟกัสด้วยความเร็ว 0.03 วินาที รองรับการซูมภาพแบบ Optical Zoom ได้ 3 เท่า และมีระบบการป้องกันภาพสั่นไหว OIS และ EIS พร้อมระบบซีเคียวริตี้แบบ Fingerprint Scanner ใช้สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพิ่มความเป็นส่วนตัว
Asus Zenfone AR ใช้ระบบเสียงแบบ Hi-Res Audio สนับสนุนฟังก์ชั่น DTS HeadphoneX 7.1 พร้อมลำโพง Magnet Speaker จำนวน 5 ตัว ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็ให้มาแบบจัดเต็มทั้งการรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, NFC และ USB Type-C 2.0 คาดว่า Asus Zenfone AR จะวางจำหน่ายในช่วง Q-2 ในปี 2017
ที่มา arstechnica