ใกล้ปีใหม่ที่ไรนั่นหมายความว่าในวงการไอทีของเรานั้นก็เข้าใกล้งานโชว์ผลงานทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของโลกอย่างงาน CES เข้ามาทุกทีครับ และเป็นที่แน่นอนครับว่าเมื่อใกล้งานมากขึ้นเท่าไรนั้นทางผู้ผลิตทั้งหลายต่างก็จะออกมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่เตรียมเอาไว้เพื่อที่จะไปโชว์ตัวจริงในงาน ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้นั้นทาง Lenovo ได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่นอัพเดทและโมเดลใหม่ในซีรีส์ ThinkPad ออกมารวดเดียวถึง 9 ตัวครับ
ทั้ง 9 รุ่นนั้นจะเป็นรุ่นที่มีสเปคต่างๆ รองรับกับปี 2017 ไม่ว่าจะเป็นการใช้ cache drive เทคโนโลยีใหม่กับ Intel Optane M.2 drives บน ThinkPad T470p, L470, L570, T470 และ T570 หรือจะเป็นการที่ตัวเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับพอร์ต USB Type-C ที่รองรับ Thunderbolt 3(โดยทาง Lenovo วางแผนที่จะเปิดตัว Docking เพิ่มออกมาด้วยอีกต่างหาก) ทั้งนี้แต่ละรุ่นใน 9 รุ่นที่ได้มีการเปิดตัวออกมานั้นจะมีอะไรน่าสนใจมากแค่ไหน มาติดตามดูกันได้เลยครับ
ThinkPad Yoga 370
เริ่มต้นกับ ThinkPad Yoga 370 ซึ่งเป็นโมเดลใหม่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ 13.3 นิ้วรองรับความละเอียดที่ระดับ FullHD(แต่ไลน์มาจาก Yoga 260 ท่มีหน้าจอ 12.5 นิ้วและ Yoga 460 ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 14 นิ้ว) จุดเด่นของ Yoga 370 นั้นคือการมาพร้อมกับปากกาสไตลัส(ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเครื่อง) พร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Thunderbolt 3 ตัวเครื่องจะวางจำหน่ายด้วยกัน 2 สีคือดำและเงิน พร้อมลงตลาดในเดือนมีนาคม 2017 นี้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1264 หรือประมาณ 45,470 บาท
ThinkPad T470
ตามติดด้วยอีกหนึ่งโมเดลใหม่อย่าง T470 ที่มาพร้อมกับตัวเลือก cache drive เทคโนโลยีใหม่กับ Intel Optane ขนาด 16 GB และตัวเลือกการระบุตัวตนอย่างระบบสแกนลายนิ้วมือกับกล้องที่รองรับ Windows Hello ที่ขาดไม่ได้เลยคือพอร์ต Thunderbolt 3 โดยสเปคตัวเครื่องอื่นๆ นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้วพร้อมกราฟิกแยก GeForce 940MX(ซึ่งดูจะล้าสมัยไปหน่อย) กับหน่วยความจำแบบ DDR4 ขนาด 32 GB
แบตเตอรี่เป็นแบบแยกโดยจะมีหนึ่งก้อนที่ด้านหน้าความจุ 23 Wh และด้านหลังเป็นแบบเคลื่อนย้ายด้วยสามารถเลือกความจุได้ 2 ขนาดที่ 48 Wh และ 73 Wh ตัวเครื่องจะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $914 หรือประมาณ 32,870 บาท
ThinkPad T570
เช่นเดียวกับรุ่น T470 ที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ ซึ่งสเปคของตัวเครื่องโดยทั่วไปของ T570 นั้นจะเหมือน T470 ทั้งหมด เว้นแต่ในส่วนของหน้าจอที่จะมาพร้อมกับขนาด 15.6 นิ้วโดยมีตัวเลือกความละเอียดที่ระดับ UHD หรือ 3840 x 2160 pixels กับ FullHD หรือ 1920 x 1080 pixels ตัวเครื่องพร้อมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ สนนราคาอยู่ที่ $909 หรือประมาณ 32,690 บาท
ThinkPad T470s
ยังคงอยู่กับซีรีส์ T ที่ในคราวนี้นั้นเป้นรุ่นที่บางและเบากว่าเดิมจนได้ชื่อว่าเป็นรุ่นที่บางที่สุดในซีรีส์กับ ThinkPad T470s โดยตัวเครื่องจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้วแต่มีน้ำหนักอยู่ที่ 1.315 kg เท่านั้น ผู้ใช้สามารถที่จะเลือกเพิ่มหน่วยความจำได้มากสุดถึง 24 GB โดยจะมีช่องสำหรับใส่ RAM จำนวน 2 ช่องที่ในรุ่นเริ่มต้นนั้นจะมาพร้อมกับหน่วยความจำ 8 GB และผู้ใช้สามารถเลือกเพิ่มได้อีก 16 GB หรือ 8 GB สำหรับอีกช่องที่เหลือ
ถึงตัวเครื่องจะเน้นความบางทว่ามันยังคงมาพร้อมกับพอร์ตต่างๆ มากมายอย่างเช่น Ethernet ซึ่งหาไม่ค่อยได้แล้วกับโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบาง และแน่นอนว่าเพื่อให้รองรับกับปี 2017 ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt 3 ด้วย ในส่วนของแหล่งเก็บข้อมูลนั้นจะสามารถเลือกได้สูงสุดที่ขนาด 1 TB โดยใช้เป็นเทคโนโลยี PCIe SSD ตัวเครื่องพร้อมวางจำหน่ายเฉพาะสีเงินในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1099 หรือประมาณ 39,380 บาท
ThinkPad T470p
ยังคงต่อกันกับซีรีส์ T ที่เป็นโมเดล p ตามท้าย โดยโมเดลนี้นั้นจะมาพร้อมกับการเน้นประสิทธิภาพเป็นหลัก(p = performance) ด้วยหน่วยประมวลผลที่อัตราการคายความร้อนอยู่ที่ 45 W TDP(สูงกว่าหน่วยประมวลผลรหัส U อยู่ถึง 30 W) พร้อมกราฟิกชิปแยกในรุ่น GeForce 940MX พร้อมความสามารถในการเพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 32 GB แบบ DDR4 แถมด้วย cache drive เทคโนโลยีใหม่กับ Intel Optane ขนาด 16 GB ที่เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มความแรงให้เพิ่มขึ้น
ตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 72 Wh ที่ทาง Lenovo ยืนยันว่าสามารถใช้งานยาวนานต่อเนื่องได้ถึง 12 ชั่วโมง ทั้งนี้ ThinkPad T470p จะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1049 หรือประมาณ 37,590 บาท
ThinkPad 13
เปลี่ยนมาดูรุ่นที่คุ้มค่ากับราคาบ้างครับอย่าง ThinkPad 13 ที่จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Kaby Lake ใหม่ สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 32 GB แบบ DDR4(โดยบนตัวเครื่องจะมี slot DIMM มาให้ 2 slots) แหล่งเก็บข้อมูลสามารถเลือกได้สูงสุดที่ 512 GB แบบ PCIe SSD หน้าจอขนาด 13.3 นิ้วรองรับความละเอียด FullHD หรือ 1920 x 1080 pixels โดยจะมีตัวเลือกหน้าจอที่รองรับการสัมผัสมาให้เลือกด้วยครับ
ในส่วนของพอร์ตนั้นก็จัดเต็มไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต, USB Type-C ที่รองรับการชาร์จในตัว, dTPM 2.0 และ SD card reader ตัวเครื่องมีความหนาอยู่ที่ 19.1 mm และน้ำหนักอยู่ที่ 1.438 kg พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมกราคมนี้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $674 หรือประมาณ 24,130 บาทเท่านั้นครับ
ThinkPad L470
ดูรุ่นเล็กๆ ไปกันแล้วมาเริ่มดูรุ่นใหญ่ๆ กันบ้างครับโดยเริ่มต้นกันที่ ThinkPad L470 ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับนักธุรกิจโดยเฉพาะ ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าขอขนาด 14 นิ้วรองรับความละเอียดที่ระดับ FullHD IPS และแน่นอนว่ามีฟีเจอร์ Intel Optane caching มาเป้นตัวเลือกด้วยอีกต่างหาก ในรุ่นนี้นั้นมาพร้อม DIMMs slots จำนวน 2 ช่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 32 GB กราฟิกชิปแบบแยกรุ่น Radeon R5 M430 ภายใต้แบตเตอรี่ความจุ 95.5 Wh พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $799 หรือประมาณ 28,620 บาท
ThinkPad L570
ดูรุ่นเล็กในซีรีส์ L ไปแล้ว ขยับมาดูรุ่นใหญ่อย่าง ThinkPad L570 ที่ถึงจะเป็นรุ่นใหญ่แต่อะไรหลายๆ อย่างกลับเล็กว่าไปซะงั้น เริ่มกันที่ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้วโดยความละเอียดเริ่มต้นจะอยู่ที่แค่ 1366 x 768 pixels บนพาเนลแบบ TN เท่านั้น(แต่ก็ยังมี FullHD IPS มาให้เป็นตัวเลือก) ยังดีที่ตัวเครื่องยังมีฟีเจอร์ Intel Optane caching มาให้ผู้ซื้อได้เลือกซื้ออยู่พร้อมกับแหล่งเก็บข้อมูลก็ยังคงมีแบบ SSD มาให้เลือก แต่ที่เลือกไม่ได้นั้นก็คือความจุของแบตเตอรี่ที่อยู่ที่ 48 Wh เท่านั้นครับ
จุดเด่นของ L570 นั้นคงอยู่ที่ตัวคีย์บอร์ดนั้นมาพร้อมแป้น number pad แยกต่างหากเหมือนกับคีย์บอร์ดของ PC Desktop ทำให้น่าจะรองรับการใช้งานได้ดีกว่า ตัวเครื่องจะสามารถใส่หน่วยความจำได้มากสุด 32 GB โดยยังคงมี slot DIMM จำนวน 2 slots เช่นเดิม ทั้งนี้ ThinkPad L570 จะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $809 หรือประมาณ 28,970 บาท ที่น่าเสียดายก็คือให้จอใหญ่มาแล้วแต่บน L570 นั้นดันไม่มีตัวเลือกกราฟิกชิปแยกมาให้ครับ
ThinkPad X270
ปิดท้ายกับซีรีส์ X อย่าง X270 ซึ่งเป็นรุ่นเล็กที่สุดในบรรดา 9 รุ่นที่เปิดตัวออกมาด้วยขนาดหน้าจอที่ 12.5 นิ้ว พร้อมรองรับหน่วยความจำสูงสุด 16 GB และแหล่งเก็บข้อมูลสูงสุดที่เลือกได้มี 2 แบบคือ 2 TB แบบ HDD กับ 512 ฌฺ แบบ SDD ตัวเครื่องนั้นเน้นความบางเป็นพิเศษดังนั้นมันจึงมาพร้อมพอร์ตสุดฮิตบนเครื่องเบางบางอย่าง USB Type-C ที่พอร์ตนี้จะถูกใช้งานเป็นพอร์ตสำหรับการชาร์จไฟด้วย โดยตัวเครื่องนั้นจะหนักที่ 1.315 kg เท่านั้นครับ
จุดเด่นของรุ่นนี้คงเป็นการที่มันมาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบแยกโดยจะมีแบตเตอรี่ความจุ 23 Wh อยู่ที่ส่วนของหน้าจอและที่ฐานซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนได้นั้นผู้ใช้สามารถเลือกได้ 2 ความจุคือ 48 Wh และ 72 Wh ซึ่งทาง Lenovo ได้ยืนยันว่าหากคุณเลือกความจุของแบตเตอรี่มากสุดแล้วนั้น(23 + 72) จะสามารถใช้งานเครื่องได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 21.4 hr ทั้งนี้ตัวเครื่องพร้อมบางจำหน่ายในเดือนมีนาคม สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $909 หรือประมาณ 32,540 บาทครับ
ที่มา : anandtech