การมาของ GeForce GTX 1050 ถือว่าเป็นการสร้างกระแสที่ร้อนแรงให้กับคอเกมทั่วโลก โดยเฉพาะคอเกมที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ในงบที่ประหยัด ซึ่งจากหลายการทดสอบที่ออกมาต้องถือว่าเป็นการ์ดที่สมกับการรอคอย ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและราคา อย่างไรก็ดีคู่แข่งสำคัญอย่าง RX460 ก็เป็นเกมการ์ดรุ่นประหยัดที่เข้ามาในตลาดก่อนหน้านี้ไม่นาน และได้อานิสงเรื่องความแรงอย่างคุ้มค่าจากรุ่นพี่ RX480 อยู่ด้วย ที่สำคัญราคาของการ์ดทั้งคู่ ถือว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันอย่างมาก ต่างกันเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น จึงกลายเป็นเรื่องที่ทำให้การตัดสินใจเลือกไม่ง่ายนัก
ด้วยความสามารถ สเปกและราคาที่เบียดบี้กันอยู่อย่างนี้ ลองมาดูกันว่า หากเราใช้คอมพ์สเปกล่างๆ และจัดการ์ดจอ GTX 1050 และ RX460 เข้ามา เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ประหยัด ลองดูกันว่าประสิทธิภาพในการทำงานของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ใครจะสามารถเรียกเฟรมเรตออกจากเกมมาได้มากที่สุดและคุ้มค่า โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นการทดสอบจาก hardwareunboxed
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบกราฟฟิกการ์ดทั้ง GTX 1050 และ RX460 ประกอบไปด้วย
- CPU : Intel Core i3-6100T 3.2GHz
- Mainboard : Gigabyte GA-Z170N-WiFi
- RAM : Crucial Ballistix Sport LT DDR4 2400 16GB
- SSD : Samsung 850 Pro 2TB
- OS Windows 10 Pro
- Driver : nVIDIA 375.57 WHQL, AMD Crimson 16.10.2 Hotfix
สนนราคาการ์ดจอของทั้งคู่ในบ้านเรา (โดยประมาณ)
AMD RX460
- POWERCOLOR RX 460 2GB ราคา 4,290 บาท
- SAPPHIRE RX 460 2GB ราคา 4,690 บาท
- ASUS ROG STRIX-RX460 4GB ราคา 6,190 บาท
nVIDIA GeForce GTX 1050
- GALAX GTX 1050 OC 2GB ราคา 4,890 บาท
- MSI Red Dragon Radeon RX 460 2GB ราคา 5,690 บาท
ในครั้งนี้มีมีเกมมากมาย ที่นำมาใช้ในการเปรียบเทียบ ด้วยการทดสอบบนความละเอียด 1080p และการปรับค่า Quality ให้เหมาะสม แต่คงไม่ได้โฟกัสไปที่เรื่องของการโอเวอร์คล็อก เน้นไปที่การหาประสิทธิภาพบนคอมพิวเตอร์ชุดประหยัด และดูว่าจะสามารถดึงเฟรมเรตได้มากน้อยเพียงใด สำหรับการ์ดของทั้ง 2 ค่ายนี้
โดยกราฟฟิกการ์ดที่นำมาใช้ในการทดสอบนี้ เป็นการ์ดจากค่าย MSI GTX 1050 2GB OC ซึ่งมีการโอเวอร์คล็อกจากโรงงานเพิ่ม 4.3% ในขณะที่การ์ด XFX RX480 2GB 5D โอเวอร์คล็อกเพิ่มขึ้น 1.6% มันอาจจะดูเหมือนเป็นความได้เปรียบของการ์ดจากทาง nVIDIA อยู่เล็กน้อย แต่เพราะการหาการ์ดที่มีค่าเดิมๆ จากโรงงาน ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นก็คงต้องเลือกใช้การ์ดที่มีความใกล้เคียงมากที่สุด
Assassin’s Creed Syndicate เพื่อให้การเล่นมีประสิทธิภาพที่ จึงต้องลดค่าต่างๆ ลงมาในระดับปานกลาง (medium) และผลที่ได้ออกมาค่อนข้างดีทีเดียว ด้วยเฟรมเรตเฉลี่ย 43fps สำหรับ RX460 ส่วนทาง GTX 1050 นั้นไปแตะอยู่ที่ 56fps ซึ่งเป็นผลให้การ์ดของทาง GeForce ให้ประสิทธิภาพได้มากกว่า 23%
Batman: Arkham Knight ให้ผลการทดสอบที่ดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่ GTX 1050 ก็ยังเร็วกว่า RX460 อยู่ประมาณ 18% ด้วยค่าเฉลี่ย 53fps ส่วนบน RX460 อยู่ที่ 45fps
Battlefield 1 ที่ใช้ API DirectX11 บนการ์ดของทาง AMD และ nVIDIA ยังเป็นการทดสอบเปรียบเทียบด้วยการใช้ API ในระดับเดียวกัน เพื่อความเป็นธรรมกับการ์ดทั้งคู่ ซึ่งการทดสอบใช้การตั้งค่า Ultra ซึ่งผลที่ได้จาก GTX 1050 ให้ได้ถึง 49fps ส่วนของ RX460 จะดรอปลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 35fps ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า GeForce ให้ประสิทธิภาพได้สูงกว่า 40%
ส่วนในการทดสอบบน Dirext X12 กลับกลายเป็นว่า RX460 สามารถให้ประสิทธิภาพได้เหนือกว่า GeForce อยู่ถึง 22% โดยผลที่ได้จาก RX460 ดีขึ้น 9% เพียงแต่เฟรมเรตที่ได้นั้น อาจไม่ได้ห่างกันมากมายนัก
Crysis 3 ในการทดสอบมีความต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น บนการทดสอบแบบ Very High Quality โดยที่ GTX 1050 ให้ค่าเฉลี่ยที่ 35fps ซึ่งเร็วกว่า RX460 อยู่ประมาณ 21%
Deus Mankind Divided ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นสำหรับ AMD กับตัวเลขเฟรมเรต 36fps เหนือกว่าคู่แข่ง GTX 1050 อยู่เล็กน้อย ซึ่งค่าเฉลี่ยจะต่างออกไป ถ้าใช้การตั้งค่าแบบ Medium
DiRT Rally benchmark ให้เฟรมเรตเฉลี่ยบน GTX 1050 อยู่ที่ 76fps และเฟรมเรตต่ำสุดที่ 62fps โดยค่าจริงที่เกิดขึ้นนี้ ยังถือว่าเฟรมเรตที่น้อยสุด ยังมากกว่าค่าเฟรมเรตเฉลี่ยที่ได้บน RX460 ในเกมนี้ ทำให้ GTX 1050 เร็วกว่าถึง 36%
Doom Vulkan เกมนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะพบว่ากราฟฟิกการ์ดก่อนหน้านี้ ข้อจำกัดบนบัฟเฟอร์ 2GB ทำให้เฟรมเรตที่ได้น้อยลงกว่ารุ่นบัฟเฟอร์ 4GB อยู่มากทีเดียว อย่างไรก็ดี AMD ยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ในการบีบอัดข้อมูลที่ดี ด้วยการทำเฟรมเรตเฉลี่ยได้ถึง 51fps แต่ก็ยังไม่ดีพอ เมื่อเทียบกับตัวเลข 70fps ที่ได้บน GTX 1050 ซึ่งเหนือกว่า 40%
Fallout 4 งานนี้การ์ดทั้งคู่ดันเฟรมเรตขึ้นไปได้ขีดสุดบนความละเอียด 1080p High Quality ด้วยเฟรมเรตเฉลี่ยที่ 51fps ทั้งคู่ โดยที่ RX460 ทำเฟรมเรตต่ำสุดได้มากกว่า GTX 1050 เล็กน้อย
Grand Theft Auto V เกมนี้ GTX 1050 จัดหนัก ด้วยเฟรมเรตเฉลี่ยถึง 61fps บนความละเอียด High Quality ซึ่งเหนือกว่า RX460 ซึ่งทำได้ราวๆ 49fps เท่านั้น บนเกมขโมยรถนี้
Overwatch เกมนี้ GTX 1050 ยังเอาใจแฟนเกม ด้วยการรีดเฟรมเรตได้ได้เกือบ 100fps สำหรับความละเอียด Ultra แม้จะใช้ซีพียู Core i3 ก็ตาม และเหนือกว่า RX460 อยู่ถึง 34%
The Witcher 3 : Wild Hunt High Quakity ค่อนข้างจะเบียดกันอย่างสูสี ซึ่ง RX460 ให้ค่าเฉลี่ยที่ 40fps และ GTX1050 อยู่ที่ 46fps จากตัวเลขดังกล่าวก็แสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่ได้จาก GeForce มากกว่า 15%
[onlineicon type=”advice-icon-dark”]
สำหรับผลที่ได้จากการทดสอบเกม บนกราฟฟิกการ์ดทั้ง GTX1050 โดยส่วนใหญ่ยังคงทำผลงานได้ดีกว่า ซึ่งจะมีอยู่เพียงไม่กี่เกมเท่านั้นที่เฟรมเรตน้อยกว่า RX460 อย่างไรก็ดีการมาของเกม DX12 ก็น่าจะมีผลอย่างมากสำหรับเกมใหม่ๆ และการ์ดของทาง AMD เพียงแต่ความต่างที่เกิดขึ้น อาจไม่ได้เป็นตัวเลขที่หวือหวา แต่ก็เป็นแนวโน้มที่ดีในการใช้งานในอนาคต ซึ่งก็ต้องมามองกันต่อไปว่าความต่างของเฟรมเรตในแต่เกม กับค่าใช้จ่ายของการ์ดทั้งสอง จะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ที่มา : hardwareunboxed