คีย์บอร์ดเกมมิ่งหรือคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับนักเล่นเกมตัวยงเนื่องจากคุณสมบัติของมันทำงานได้ดีกว่าคีย์บอร์ดธรรมดาหลายเท่าแถมการใช้คีย์บอร์ดประเภทนี้ยังช่วยเพิ่มอัตราการชนะได้ด้วย (ถึงแม้จะส่งผลไม่มากก็เถอะ) รวมถึงการรองรับการเล่นเกมหลายประเภทมันจึงเริ่มนิยมขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
จากที่เกริ่นมานี้ก็ไม่ได้จะมาเล่าประวัติท้าวความแต่อย่างใดครับแต่วันนี้เราจะมาดูกันว่าคีย์บอร์ดเล่นเกมที่จัดว่าเป็นสุดยอดของที่สุดในแต่ละแบบมีอะไรบ้างเผื่อว่าเป็นแนวทางในการเลือกซื้อสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดดี ๆ สักอันโดยทาง PCGAMER เป็นผู้รวบรวมมาจำนวน 4 ชิ้นมาให้พิจารณากันครับ
คีย์บอร์ดเล่นเกมระดับ High-End
Corsair Vengeance K95 RGB
ข้อดี
- มีไฟ RGB
- มีปุ่มมาโครจำนวนมาก
- ปุ่มควบคุมมัลติมีเดียครบครัน
- วัสดุที่ใช้มีคุณภาพดีมาก
ข้อเสีย
- มีราคาแพงมาก
- ไม่มี USB Pass-through
ถ้าพูดถึงคีย์บอร์ดระดับพรีเมี่ยม High-End แล้วก็ต้องยกให้ Vengence K95 จาก Corsair ล่ะครับที่มาพร้อมกับความอลังการแต่ครบครันด้วยที่พักข้อมือด้านล่าง ปุ่มมาโครสามารถโปรแกรมได้ 18 ปุ่มจุใจเหมาะสำหรับผู้เล่นสาย MMO อย่างมากมีปุ่มลัดสำหรับมัลติมีเดียครบใช้วัสดุจากอลูมิเนียมแต่สำหรับปุ่มปรับเสียงจะเป็นเหล็กครับ
ส่วนปุ่มกดก็เป็น Mechanical Switch ตามธรรมเนียม Keycaps จะใช้วัสดุเป็นพลาสติก ABS ให้การยึดเกาะที่ดีโดยเฉพาะปุ่ม WASD พร้อมทั้งมีไฟ RGB 16.8 ล้านสีส่องสว่างเพิ่มความสวยงามเวลาเล่นตอนกลางคืนหรือเล่นอวดเพื่อนก็ดูโก้หรูเหมือนกันแต่จะไม่มี USB Pass-through ให้นะครับ
ทางด้านราคาของมันนั้นก็จัดว่า High-End เหมือนกันใรคาคา $179.99 หรือ 6,250 บาท (อิงราคาจาก Amazon) ซึ่งถือว่าแพงมาก ๆ ไม่เหมาะสำหรับคนงบน้อยแต่สำหรับใครที่กระเป๋าตุงขนหน้าแข้งไม่ร่วง Corsair Vengeance K95 RGB เป็นตัวเลือกอันดับ 1 แน่นอนครับ
คีย์บอร์ดเล่นเกมที่ครบเครื่องที่สุด
Razer BlackWidow Chroma
ข้อดี
- ประสิทธิภาพการทำงานดีเยี่ยมทุกด้าน
- มีฟีเจอร์ที่จำเป็นกับการเล่นเกมครบถ้วน
- ใช้ร่วมกันกับอุปกรณ์ Razer Chroma ได้
ข้อเสีย
- ไม่มีปุ่มควบคุมเกี่ยวกับความบันเทิงบนคีย์บอร์ด
มาดูคีย์บอร์ดประเภทครบเครื่องทุกอย่างกันบ้าง Razer BlackWidow Chroma จัดว่าเป็นคีย์บอร์ดในประเภทนั้นที่มาพร้อมกับปุ่มมาโครที่เรียงเป็นแถวด้านซ้ายมือ , USB passthroughs , ไฟ RGB และวัสดุที่ทำจากเหล็ก ส่วนสวิทช์ปุ่มกดก็จะใช้ของ Razer เองครับโดยจะมีสีเขียวซึ่งถ้าหกาเทียบกับ Cherry MX แล้วของ Razer จะให้การกดง่ายกว่าครับ
คุณสมบัติของสวิทช์สีเขียวนี้ก็จะทำให้ผู้ใช้กดได้แน่นมันส์มือสามารถนำไปเล่นเกมก็ได้หรือจะนำไปใช้พิมพ์งานก็ตามสะดวกครับแต่ไฮไลท์เด็ดของคีย์บอร์ดตัวนี้จะอยู่ที่แสงไฟ RGB 16 ล้านสีสามารถปรับแต่งเอ็ฟเฟ็กต์ได้หลายแบบจะกระพริบหรือกระจายหรือกดปุ่มแล้วมีแสงออกมาก็ทำได้หมดแต่จะติดอยู่ที่ไม่มีปุ่มสำหรับมัลติมีเดียครับ
ในส่วนของราคาจะตกอยู่ที่ $134.99 หรือ 4,684 บาท (อิงราคาจาก Amazon) ก็ถือว่าไม่แพงเท่าไหร่และประสิทธิภาพขงมันก็ทำได้ทั้งเล่นเกมหรือพิมพ์งานก็ได้เหมาะกับวัยทำงานหัวใจเกมเมอร์ที่สุดครับ
คีย์บอร์ดที่คุ้มค่ากับราคามากที่สุด
Thermaltake Poseidon Z
ข้อดี
- เป็นคีย์บอร์ดที่มีราคาถูก
- ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพ
- มีสวิตช์ที่มีความสามารถเทียบเท่า Cherry MX ใช้ได้ทั้งเล่นเกมหรือทำงาน
ข้อเสีย
- ตัว Keycap มีความบอบบาง
หากใครเป็นนักเล่นเกมงบน้อยอยากหาคีย์บอร์ดสักอันที่ซื้อมาแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับราคามากที่สุดก็ต้องยกให้ Thermaltake Poseidon Z เลยครับเพราะมันมาในราคาเพียง £71.10 หรือ 3,200 บาท (อิงราคาใน Amazon) พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เกมเมอร์อย่างสวิตช์ของ Kailh มีสีน้ำเงินกับสีน้ำตาลให้เลือกโดยมีคุณภาพเทียบเท่า Cheery MX เลยทีเดียว
แม้ว่า Kailh จะเป็นสวิตช์จากจีนแต่ก็อย่าได้ดูถูกมันเชียวครับเพราะสัมผัสการกดของมันถือว่าใช้ได้กดสนุกมือพอสมควรเลยล่ะอย่างสีน้ำเงินจะเป็นสวิตช์แบบ Clicky ให้เสียงดังหน่อยแต่กดสนุกมากแถมยังเร็วด้วยส่วนสีน้ำตาลจะเป็น Tactile ให้ความเงียบเหมาะสำหรับเล่นเกมหรือพิมพ์งานก็ได้
นอกจากนี้การออกแบบก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคีย์บอร์ดยี่ห้อดัง ๆ โดยจะมาในโทนสีดำมีลักษณะโครงสร้างที่ดุดันพร้อมกับไฟใต้ปุ่นสีน้ำเงินเข้มให้ความรู้สึกสุขุมนุ่มลึกและด้วยราคาที่เอ่ยไปข้างต้นกับคุณสมบัติที่ว่ามาบอกเลยครับคุ้ม!!
คีย์บอร์ดที่เน้นกดปุ่มได้รวดเร็ว
Das Keyboard 4 Professional
ข้อดี
- มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ถูกผลิตด้วยวัสดุอัลลอย
- มีช่อง USB pass-through
- ปุ่มปรับเสียงเป็นจานหมุน
- มีปุ่มสำหรับความบัยเทิงครบถ้วน
ข้อเสีย
- ใช้ได้แค่สวิตช์ของ Cherry MX สีฟ้ากับสีน้ำตาลเท่านั้น
- ไม่มีไฟ Backlight และไม่มีปุ่มมาโคร
- แม่เหล็กสำหรับยึดเกาะด้านล่างแกะออกยากเล็กน้อย
แม้จะเป็นคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมแต่ถ้าหากนำมันไปพิมพ์งานหรือเล่นเกมที่เน้นการกดปุ่มรัว ๆ Das Keyboard 4 Professional ก็น่าจะตอบโจทย์ให้ได้ครับเพราะสวิตช์ของมันได้ออกแบบเพื่อการนี้โดยเฉพาะและแน่นอนมันต้องเป็นสวิตช์ Cherry MX สีฟ้ากับสีน้ำตาลครับซึ่งทั้งสองสีนี้จะให้การกดที่รวดเร็วแต่ต่างกันที่เสียงการกด (ฟ้า=ดัง , น้ำตาล=เงียบ)
สวิตช์ปุ่มที่ช่วยเพิ่มความเร็วการพิมพ์/กดแล้วตัวคีย์บอร์ดก็ยังมีการใช้วัสดุอัลลอยเป็นส่วนประกอบหลักพร้อมกับการออกแบบปุ่มกดเกี่ยวกับความบันเทิงมัลติมีเดียด้านขวามือที่เป็นเอกลักษณ์กับปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงเป็นแผ่นวงกลมเหนือปุ่ม Numpad มี USB pass-through 2 ช่องและการออกแบบฟ้อนท์ตัวหนังสือบนปุ่มกดที่อ่านง่าย
ราคาของมันก็ไม่มากไม่น้อยไปที่ $160.99 หรือ 5,587 บาท (อิงราคาจาก NewEgg) แต่คีย์บอร์ดตัวนี้ต้องเน้นอีกครั้งว่าเน้นที่การพิมพ์หรือกดอย่างรวดเร็วแต่ใครที่ต้องการให้มันส่องแสงด้วยไฟ Backlight RGB หรือมีปุ่มมาโครคงต้องผิดหวังไปเพราะสิ่งที่ว่ามันไม่มีให้ใน Das Keyboard 4 Professional ครับ
จากคีย์บอร์ดทั้ง 4 แบบ 4 สไตล์ที่แนะนำมาก็หวังว่าจะถูกใจเพื่อน ๆ กันนะครับใครเล็งตัวไหนก็ไปจับจองกันได้เลย
ที่มา: PCGAMER