จุดเด่นหลักๆที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ก็คือกล้องด้านหลังที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งการแข่งขันด้านการถ่ายภาพนั้นสำคัญมาก จนทุก ๆ บริษัทต้องมีทีมงานวิจัยและพัฒนากล้องสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ในปีที่ผ่านมาดูเหมือน Samsung และบริษัทอื่น ๆ จะมีแต้มต่อเหนือกว่า Apple ในด้านการถ่ายภาพ
ซึ่งขั้นต่อไปของการพัฒนากล้อง iPhone นั้นจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้ AI สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Image Signal Processor (ISP) ได้ด้วยตัวเอง โดยฝ่ายการตลาด Phil Schiller ได้กล่าวว่า AI นี้จะมีพลังในการขับเคลื่อน ISP ด้วยครวามเร็ว 100 ล้านครั้งภายใน 25 milliseconds
การถ่ายภาพให้มีลักษณะเป็นโบเก้หรือลูกไฟกลม ๆ เบลอ ๆ ที่ด้านหลัง ต้องอาศัยเทคนิคการภาพแบบชัดตื้น ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆด้วยกล้อง DSLR หรือ mirrorless โดยการเปิดรูรับแสงให้กว้างมากที่สุด แต่ต้องอาศัยเลนส์ที่มีค่า F น้อยด้วยเช่นกัน เช่น F 1.8 เป็นต้น แต่การถ่ายภาพให้เกิดโบเก้นั้นสามารถทำได้ยาก ถ้าใช้กล้องจากสมาร์ทโฟนที่ไม่มีใบเบลดในการควบคุมขนาดรูรับแสง เหมือนกับเลนส์ในกล้อง DSLR หรือ mirrorless ซึ่งในอณาคตสมาร์ทโฟนจะนำ AI เข้ามาจัดการในเรื่องปรับตำแหน่งภาพ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังให้สัมพันธ์กัน และเกิดอาการหลังเบลอและมีโบเก้ขึ้นมาเช่นเดียวกับที่เกิดในกล้อง DSLR หรือ mirrorless
ซึ่งการถ่ายภาพลักษณ์นี้จะเกิดขึ้นได้ยากมากถ้าเพียงแค่พึ่งพาซอฟแวร์เพียงอย่างเดียว เพราะอัลกอริทึมไม่สามารถจำแนกแยกแยะระหว่างสุนัข แมว หรือก้อนเมฆบนท้องฟ้าได้ ทำให้ AI เข้ามามีบทบาทในการการฝึกอบรมซอฟแวร์เหล่านี้ โดยจะทำให้ซอฟแวร์สามารถทราบถึงต้นไม้ หรือท้องฟ้า ว่าวัตถุทั้งสองแตกต่างกันอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวัตถุทั้งหลายซ้อนทับกัน โดยโปรแกรมเหล่านี้เปรียบได้เป็นดั่งระบบประสาทเพราะมีการทำงานคล้ายกับสมองของมนุษย์
กล้องของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ใช้กล้องแบบ dual จะถูกขับเคลื่อนด้วยซอฟแวร์ที่เข้าใจเนื้อหาของภาพ เมื่อมีการระบบบุคคลและวัตถุพื้นหลัง ซอฟแวร์บนสมาร์ทโฟนจะทำการปรับตั้งค่าการเปิดรับแสงอัตโนมัติ โฟกัสและสมดุลสีขาว ให้โดยอัติโนมัติ
คุณลักษณะที่สูงขึ้นสำหรับ iPhone 7 Plus โดยเฉพาะการเบลอฉากหลัง เพราะการทำงานร่วมกันของเลนส์ทั้งสองเพื่อจับระยะความชัดลึกและสร้างสิ่งที่เรียกว่าแผนภาพความลึก ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้ในปีที่ผ่านมา เมื่อนำ iPhone 7 Plus ถ่ายภาพด้วยด้วยโหมดแนวตั้ง จะได้ภาพเหมือนกับภาพจากกล้อง DSLR ด้วยรูปแบบที่คมชัด และโบเก้ที่กลมสวยภายในครั้งเดียว ราวกับภาพถ่ายจากมืออาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากค่ารูรับแสงที่ f / 1.8 ที่ช่วยรับแสง และมีความชัดตื้นมากขึ้น
ในตอนนี้หลาย ๆ คนได้กล่าวว่ากล้องของ iPhone 7 นั้นดีที่สุดในตลาด ซึ่งถ้าลองมองดูอีกมุมนึงแล้ว อาจจะเป็นกล้องที่ดีที่สุดที่ผู้ใช้คนนั้นเคยเป็นเจ้าของก็ได้ และถึงแม้จะมีภาพที่ออกมาเหมือนกับภาพจากล้อง DSLR แต่กล้อง iPhone 7 ก็ยังไม่สามารถทดแทนกล้อง DSLR ได้
ที่มา : theverge