ยักษ์ใหญ่ Titan X กำลังจะกลับมา หลังจากที่มีการเปิดตัวการ์ดจอ GTX 10 Series มาทำให้ Titan X นั้นเกือบจะถูกลืมออกไปจากสารระบบการ์ดจอเลยทีเดียว ทั้งราคาที่แพง และประสิทธิภาพที่ด้อยกว่าการ์ดจอ GTX 1080 แต่ด้วยสถาปัตยกรรม Pascal ถูกนำไปชุบชีวิต Titan X ให้ตื่นขึ่้นมาอีกครั้ง พร้อมกับประสิทธิภาพความแรง ที่เหมาะสมกับชื่อ TITAN X อย่างแน่นอน
Titan X Pascal เป็นการ์ดจอที่ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของชิป ซิลิกอน GP102 โดยมี CUDA Core 3,840 หน่วย อยู่บน 30 SM (streaming multiprocessors) และ 6 GPCs (graphics processing clusters) จากที่มีการเปิดการทำงาน 3,584 หน่วยบน Titan X Pascal รวมถึงขนาดซิลิกอน GP102 ใหญ่ขึ้น 1.5 เท่าจาก GP104 และแรมแบบ GDDR5X ขนาด 12 GB กว้าง 384-bit 224 TMUs และ 96 ROPs
Titan X Pascal มีหน่วยความจำมาตรฐาน GDDR5X ช่วยให้ข้อมูลอัตราการส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพที่สูงถึง 14 GHz แต่ยังใช้ Bare-Metal เหมือนกันใน GDDR5 รุ่นเก่า ซึ่งจะลดระยะเวลา และต้นทุนการวิจัยและพัฒนาอีกด้วย ส่วนการ Overclock จะมีประสิทธิภาพสูงถึง 10 GHz แบนด์วิดธ์หน่วยความจำ 480 GB/s บนอินเตอร์เฟซหน่วยความจำ 384-bit รวมถึงยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีการบีบอัด lossless Delta Color ให้สูงขึ้นมากกว่า Generation 4 รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยความจำอีก 20% จะทำให้แบนด์วิดธ์สูงขึ้นถึง 576 Gb/s เลยทีเดียว
ส่วนหน้าตาของตัวการ์ดนั้นยังคงความเป็นโทนสีดำตามแบบฉบับของ TITAN X รวมถึงการออกแบบกล่องที่เป็นเอกลักษณ์ตาม Design ของ GTX 10 Series ซึ่งดูมีความหรูหราสวยงามน่าหลงไหลในสเน่ห์ Founder Edition
NVIDIA Titan X Pasca ออกแบบชุดระบายความร้อนมาเหมือนกับ GTX 1080 แต่เพียงเปลี่ยนสีจากสีดำ-เงิน มาเป็นสีดำทั้งตัวการ์ด มาพร้อมกับโลโก้ GEFORCE GTX สีเขียวที่ด้านข้าง รวมถึง Black Plate สีดำที่ด้านหลังเช่นเดียวกับ GTX1080 ขนาดของตัวการ์ดอยู่ที่ 27 x 11 cm พอร์ตการเชื่อมต่อด้านหลัง มี 3 Display Port, 1 DVI-DL และ 1 HDMI
พอร์ตไฟเลี้ยง 6+8 pin PCIe เพื่อรองรับบัสแรมที่ความถี่สูง ด้วยการกินไฟสูงสุดที่ 300W
ชุดระบายความร้อนที่มีแผ่นซิลิโคนแบบแปะติดมาให้อย่างทั่วถึงทุก ๆ ส่วนเพื่อการระบายความร้อนอย่างเต็มประสิทธิภาพ
Back Plate ด้านหลังแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ฝั่งภาคจ่ายไฟ และ ชิป GPU
NVIDIA’s GP102 สถาปัตยกรรม Pascal ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 16nm มีทรานซิสเตอร์ทั้งหมด 12ล้านตัว และ DIE ขนาด 471 mm².
TEST SYSTEM
Assassin’s Creed: Syndicate เกมแรกที่ใช้ในการทดสอบ ด้วยระบบเกมถูกขับเคลื่อนด้วย AnvilNext Engine รองรับ DirectX 11 ซึ่งตัวเกมนั้นสามารถจัดการบริหารทรัพยากรณ์ของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพเกมหนึ่ง
Battlefield 4 เกมสงครามยอดฮิตที่ครองใจผู้เล่นทั่วโลกด้วยระบบ Multiplayer ที่รองรับผู้เล่นได้สูงสุดถึง 64 คน ขับเคลื่อนตัวเกมด้วย Frostbite 3 Engine รองรับ DirectX 11 และ DirectX 11.1 ใน GPU บางรุ่น และเป็นเกมแรกที่รองรับการที่ประมวลผลแบบ 64-bit
Hitman เกมแนวลอบสังหารที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังบู้ล้างผลาญ ซึ่งตัวเกมออกภาคใหม่ออกมาในปี 2016 นี้ โดยใช้ in-House Game Engine รองรับ DirectX 12 ซึ่งใช้ในการทดสอบด้วย
Far Cry Primal เกมที่เรียกได้ว่าเก่าที่สุดในโลก เพราะเนื้อเรื่องนั้นอยู่ในยุคน้ำแข็ง ล่าแมมมอสกันเลยทีเดียว ตัวเกมใช้ Dunia Engine เวอร์ชันล่าสุด ทดสอบบน DirectX 11 ตามมาตรฐานการทดสอบเช่นเดียวกับเกมอื่น ๆ
Rise of the Tomb Raider เกมภาคใหม่ล่าสุดจาก Series TOMB RIDER ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัย PS1 และเป็นเกมที่นิยมนำมา Benmark อีกเกมหนึ่ง ใช้ Crystal Dynamics Engine รองรับ DirectX 11 และ DirectX 12 ซึ่งจะเปิดการใช้ DirectX 12 ในการทดสอบ
ถ้าหากจะพูดถึง Nvidia ในตอนนี้ก็คงเป็นเหมือนปลากระดี่ได้น้ำไร้ซึ่งคู่แข่ง แล้ว AMD ละ ? ซึ่งทางค่ายแดงยังคงมีความสุขกับการอยู่ในตลาดล่าง ปล่อยให้ R9 Fury X และเทคโนโลยี HBM กลายเป็นดาว (ดับ) ค้างฟ้า และยังไม่มีข่าวการผลิตการ์ดจอเรือธงออกมาให้แฟน ๆ ค่ายแดงได้ชื่นใจ ทำให้ Nvidia สามารถกำหนดราคาการ์ดจอระดับ Hi-End อย่างไรก็ได้ ตามที่เราได้เห็นใน GTX 10 Series รวมถึงการ์ดจอ TITAN X PASCAL นี้ตัวนี้อีกด้วย คาดว่าน่าจะมีราคาพอ ๆ กับในรุ่นก่อน ที่ราคาประมาณ 1,200USD หรือ 42,000บาท ซึ่งอีกไม่นานก็คงได้มีการเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ใครอยากได้การ์ดจอที่แรงที่สุดในโลก เตรียมตัวเก็บเงินรอกันได้เลย
ที่มา : techpowerup