อาจเป็นคำถามที่หลายคนกำลังสงสัย ในเรื่องของเคสรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น ทำไมยังต้องมีพอร์ต USB 2.0 อยู่บนพาแนล ทั้งๆ ที่นี่ก็เข้าสู่ USB 3.0 จนจะไป 3.1 และ Type-C กันแล้ว ประเด็นนี้ความจริงแล้ว ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน แต่น่าจะเรียกว่าเผื่อหรือความจำเป็นมากกว่า ด้วยสาเหตุ 2 – 3 ประการ ที่น่าเชื่อว่าจะทำให้ต้องมีพอร์ต USB 2.0 และการใช้งานต่อไปสักระยะ
ประเด็นแรกที่มีการตั้งคำถามมาคือ เวลานี้ต้องการประกอบคอมพิวเตอร์บนเคสใหม่ ทราบดีอยู่แล้วว่า USB 3.0 สามารถ Backward compatibility ซึ่งใช้งานกับ USB 2.0 ได้ แต่ทำไมเคสคอมพิวเตอร์ยังต้องทำพอร์ต USB 2.0 มาบนตัวเคสอีกล่ะ?
สาเหตุที่ 1 : สำหรับคำตอบในเรื่องนี้ มีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่องที่น่าเป็นไปได้ก็คือ USB 3.0 แม้จะมีระบบ Backward ที่ใช้ร่วมกับ USB 2.0 ได้ก็ตาม แต่ถ้าคุณซื้อเมนบอร์ดมา แต่ไม่มีตัวเชื่อมต่อ USB 3.0 header มาบนเมนบอร์ด คุณก็จะไม่สามารถต่อเข้ากับ Front panel บนหน้าเคสได้เลยทั้งหมด ซึ่งการมี USB 2.0 ก็ช่วยให้มีโอกาสใช้ได้มากขึ้น
สาเหตุที่ 2 : สิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงก็คือ พอร์ต USB 3.0 อาจมีผลกระทบต่อการใช้งานร่วมกับมีเดียบางประเภทได้ ตัวอย่างเช่น Windows 7 ที่ต้องมีไดรเวอร์สำหรับ USB 2.0 ในการติดตั้งร่วมด้วย
สาเหตุที่ 3 : พอร์ต USB 2.0 ยังคงเหมาะกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุม เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลอะไรมากมาย ซึ่งทำให้ไม่ต้องเสียทรัพยากรในเครื่องเพิ่มขึ้นบนการใช้งาน USB 3.0
ก็เรียกว่าเป็นเหตุผลพื้นฐาน ที่บางคนน่าจะพอได้สังเกตและเข้าใจได้ว่า ทำไมแม้แต่เคสรุ่นใหม่หลายรุ่น ก็ยังมีพอร์ต USB 2.0 มาให้บนพาแนลของเคสด้วยเช่นกัน
ที่มา : howtogeek