คงต้องบอกว่ากระแสมาแรงจริงๆ สำหรับซีพียูรุ่นใหม่จากอินเทล ที่ออกแบบมาสำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์และนักออกแบบมืออาชีพทั้งหลาย ที่ต้องการศักยภาพที่มากกว่า อย่าง Intel Core i7-6950X ที่หลายค่ายทดสอบกำลังพูดถึงกันอยู่นี้ ซึ่งก็มีเมนบอร์ดจากหลายค่ายขานรับกับการมาของซีพียูรุ่นใหม่ ในรูปแบบของเมนบอร์ดซ็อกเก็ต LGA2011-3 บนชิปเซ็ต X99 ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี และยกให้ว่าเป็นเมนบอร์ดที่ทรงพลังสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพจริงๆ
เช่นเดียวกับเมนบอร์ด ASRock Fatal1ty X99 Professional Gaming i7 ที่นำมาให้ชมกันในวันนี้ ซึ่งหากใครที่ติดตามชมงาน Computex 2015 ที่ผ่านมา จะเห็นเมนบอร์ดคู่กันกับ X99 Taichi ปรากฎตัวในงานคู่กัน ด้วยการออกแบบที่นำเอาฟีเจอร์ใหม่ๆ มาผสมผสานกับการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับนักโอเวอร์คล็อกเข้ามาด้วย เช่นเดียวกับชิ้นส่วนที่นำมาใช้ มีการคัดสรรให้มีความทนทานและเสถียรภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นภาคจ่ายไฟ ชุดระบายความร้อน รวมถึงแผงวงจรและคอนโทรลเลอร์รุ่นใหม่ๆ ก็ตาม โดยที่เมนบอร์ด ASRock Fatal1ty X99 Professional Gaming i7 นี้ ออกแบบมาเพื่อซีพียู Intel Core i7 รุ่นใหม่ในซีรีส์ 5000 และ 6000 series และซีพียู Xeon พร้อมแรม DDR4 3300+ และภาคจ่ายไฟ 12-phase โดยมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย เช่น ระบบเสียง Creative Sound Blaster™ Cinema 3 หรือจะเป็น PCI-Express Steel slot และ Dual band WiFi และ Dual Gigabit กับฟีเจอร์ที่หลายคนคุ้นตากันดีอย่าง ASRock Super Alloy, Gaming Armor และ F-Stream เป็นต้น
Specification:
- ASRock Super Alloy
- Gaming Armor
- Supports Intel® Core™ i7 and Xeon® 18-Core Processors (Socket 2011-3)
- Digi Power, 12 Power Phase design
- Supports Quad Channel DDR4 3300+(OC)
- 3 PCIe 3.0 x16, 2 PCIe 2.0 x1
- Supports AMD 3-Way CrossFireX™, NVIDIA® 3-Way SLI™
- 7.1 CH HD Audio (Realtek ALC1150 Audio Codec), Supports Creative Sound Blaster™ Cinema 3
- 10 SATA3, 1 SATA Express, 2 Ultra M.2 (PCIe Gen3 x4 & SATA3)
- 2 USB 3.1 10Gb/s (1 Type-A + 1 Type-C), 8 USB 3.0 (4 Front, 4 Rear)
- Dual Intel® Gigabit LAN
- 1 M.2(Key E for WiFi), 802.11a/b/g/n/ac
- XSplit 3-Month license bundled
- SLI™ HB Bridge free bundled
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
แกะกล่อง
หน้ากล่องที่สวยงามแปลกตากว่าทุกครั้ง ด้วยโทนสีดำแดง กับตัวเลข X99 ใส่ชื่อรุ่นมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น X99 Gaming Fatality Professional ฟีเจอร์น่าจะยัดใส่ทุกอย่างในแต่ละซีรีส์มาให้ สำหรับเอาใจคนที่ชอบความแรง ไม่ว่าจะเป็นคอเกม โอเวอร์คล็อกและผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ
ด้านหลังยังคงสไตล์ของ ASRock ด้วยรายละเอียดมากมายที่ปรากฏอยู่บนกล่อง ไม่ว่าจะเป็นลูกเล่นหรือฟีเจอร์ สามารถพิจารณาดูตามความต้องการใช้งานได้จากบนกล่องนี้
กล่องด้านในเป็นสีดำสุดหรู ซึ่งพิมพ์โลโก้ ASRock มาแบบเรียบๆ ดูสวยงามและแข็งแรงพอสมควร
อุปกรณ์ในกล่องมีมาให้มากมายเลยทีเดียว เรียกว่ายัดมาล้นกล่อง หากเทียบกับเมนบอร์ดในรุ่นก่อนหน้านี้แล้ว ดูจะจัดมาให้เป็นพิเศษสำหรับเมนบอร์ดรุ่นใหม่นี้
เริ่มตั้งแต่คู่มือที่บอกการใช้งานและการติดตั้ง รวมถึงการใช้ซอฟต์แวร์ร่วมกับเมนบอร์ด ที่ให้รายละเอียดครบถ้วน
แผ่นไดรเวอร์และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่มีมาให้ โดยพื่้นฐานช่วยให้การติดตั้งใช้งานในเบื้องต้นได้ แล้วค่อยไปอัพเดตบนเว็บไซต์อีกครั้ง
สาย SATA3 ที่มีมาให้จำนวน 4 เส้น
Bridge สำหรับ SLI ที่มีให้ทั้งแบบที่เป็น HB Bridge และแบบ 3-Way SLI
เสาสัญญาณ WiFi ที่นำมาใช้กับช่องด้านหลังของเมนบอร์ด ที่เมนบอร์ดรุ่นนี้มาในแบบ Dual WiFi + BT ในตัว
ฝาปิดพาแนลด้านหลัง ก็ยังดีไซน์ให้สวยงาม เข้ากับเมนบอร์ดได้ดีทีเดียว
น็อตสำหรับยึด SSD M.2 เข้ากับเมนบอร์ด ตัวเล็กๆ ขนาดนี้ สำคัญมาก อย่าทำหายเลยเชียว
รูปลักษณ์และการออกแบบ
มาดูที่ตัวเมนบอร์ด ASRock Fatal1ty X99 Professional Gaming i7 รุ่นนี้ กับหน้าตาที่ดูดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่ลงตัวในเรื่องโทนสีและชิ้นส่วนที่นำมาประกอบ ซึ่งดูแล้วน่าจะทำให้หลายๆ คนหันมาชื่นชอบ โดยเฉพาะนักโมดิฟายที่ชอบโชว์เคสและเมนบอร์ด
รุ่นของเมนบอร์ดรุ่นนี้ ที่ถูกสกรีนมาอย่างสวยงามตรงกลางบอร์ด
ASRock Steel Slot ให้ความสวยงามและแข็งแรง มาพร้อมกับหน้าสัมผัสเคลือบทอง 15μ เพื่อการจ่ายไฟที่นิ่งขึ้น
เมนบอร์ดรองรับแรม DDR4 3300+(OC)*/2933(OC)/2800(OC)/2400(OC)/2133 ติดตั้งได้สูงสุดที่ 128GB พร้อมเทคโนโลยี Quad-channel ซึ่งเชื่อว่า ณ เวลานี้ หลายคนใช้งาน 16GB เป็นพื้นฐานแล้ว ถ้าอยากแรงก็จัดไปเต็มๆ ได้ กับสนนราคาของแรมที่ถูกลงมาก
LED Debug ที่ชื่นชอบของนักโอเวอร์คล็อกที่นิยมใช้กันไม่เสื่อมคลาย ก็ถูกใส่มาบนเมนบอร์ดนี้ด้วยเช่นกัน กับตัวเลขในการบอกรหัสการทำงานของเมนบอร์ด ซึ่งก็ทำให้การแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ แต่ติดอยู่ตรงวางไว้ใกล้มุมเมนบอร์ดมากไปหน่อย เมื่อตั้งเคสแล้วอาจจะมองยากไปนิดนึง
ต้องเรียกว่าจัดมาเต็มจริงๆ สำหรับเมนบอร์ดรุ่นนี้ กับการสนับสนุน SATA3 6.0 Gb/s มากถึง 10 ชุดด้วยกัน โดยรองรับ SATA Express อีกด้วย โดยพอร์ตด้านข้างจำนวน 8 ชุดและที่อยู่ระหว่างสล็อตแรมและชิปเซ็ตอีก 2 ชุด
สวิทช์เพาเวอร์และรีเซ็ตสำหรับบูตเครื่องใหม่ เอาใจนักโอเวอร์คล็อก ที่ชอบปรับแต่งให้เรียบร้อย ก่อนส่งเมนบอร์ดลงเคส เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ซิงก์ระบายความร้อนให้กับภาคจ่ายไฟขนาดใหญ่ ซึ่งมีให้ถึง 12-phase สำหรับการโอเวอร์คล็อกที่นิ่งและโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า แบบที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนมากนัก
ชุดคอนโทรลเลอร์ระบบเสียง Realtek ALC1150 Audio Codec ที่รองรับ Creative Sound Blaster™ Cinema 3 กับประสบการณ์ในการดูหนังและเล่นเกมได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น
พอร์ตต่อพ่วงอุปกรณ์ด้านหลัง ที่มาพร้อมสำหรับการใช้งานในแบบต่างๆ ทั้ง USB 3.0 และ USB Type-C รวมถึงพอร์ต Dual LAN และ Dual WiFi เช่นเดียวกับ PS/2 ยังมีให้ใช้ เพื่อคนที่ต้องการใช้ร่วมกับอุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์บางอย่าง
คาปาซิเตอร์คุณภาพสูง ที่จัดมาไว้บนเมนบอร์ดรุ่นนี้ Premium Power choke 60A ที่คัดสรรมาไว้บนเมนบอร์ดนี่้ ให้ผู้ใช้ได้ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ
Conclusion
โดยทั่วไปอาจจะมองว่าซ็อกเก็ต LGA1151 ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือใช้งานด้านมัลติมีเดียก็ตาม แต่สำหรับ X99 ต้องถือว่าเป็นความพิเศษ ที่มีให้ผู้ใช้ได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของโครงสร้างทั่วไป ที่รองรับการใช้งานในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะฮาร์ดคอร์เกมเมอร์และผู้ใช้ระดับมืออาชีพที่จะได้รับ เนื่องจากซีพียูที่มีประสิทธิภาพสูงและแบนด์วิทธ์ต่างๆ ที่มากกว่าเดิม จากพื้นฐานของชิปเซ็ต รวมถึงการรองรับแรมประสิทธิภาพสูง ย่อมทำให้ศักยภาพโดยรวมมีมากกว่า
เช่นเดียวกับเมนบอร์ด ASRock Fatal1ty X99 Professional Gaming i7 ที่ค่อนข้างชัดเจน ทั้งในเรื่องของคุณสมบัติต่างๆ และฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาในตัว ซึ่งทำให้ผู้ใช้ในกลุ่มต่างๆ ที่ต้องการความสามารถที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านของงาน ที่มีทั้งแรม DDR4 Quad channel ความเร็วสูงกว่า 3300+ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกอยู่หลายรุ่น อีกทั้งนักโอเวอร์คล็อกก็ได้ประโยชน์ตรงจุดนี้ด้วยเช่นกัน และรองรับกราฟฟิกการ์ด AMD 3-Way CrossFireX™, NVIDIA® 3-Way SLI™ ที่เลือกอัพเกรดได้ตามสะดวก นอกจากนี้ด้วยภาคจ่ายไฟถึง 12-phase ก็ช่วยเติมความมั่นใจในการโอเวอร์คล็อกด้วยเช่นกัน ยิ่งหากคุณจะต้องเพิ่มแรงดันไฟ เพื่อไปให้ถึงจุดที่คุณต้องการ และกับการใช้งานด้านมัลติมีเดีย ด้วย SATA ที่มีให้ถึง 10 ช่องหรือจะเพิ่มเติมการใช้สล็อต M.2 เข้าไปบนเมนบอร์ด ก็ยิ่งตอบโจทย์ทัั้งความเร็วและพื้นที่จัดเก็บได้เป็นอย่างดี
รวมไปถึงแง่ของการเชื่อมต่อหรือทำเป็น Media Center การสนับสนุน Dual Gigabit และ Dual WiFi ก็ช่วยให้การทำงานและตั้งค่าต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น อาจจะเป็น Workstation ที่คอยตอบรับการใช้งานให้กับเครื่องลูกข่ายได้ไม่ยาก หากคุณจำเป็นจะต้องมีเครื่องส่วนกลางสำหรับประมวลผลงานที่จำเป็น เช่นเดียวกับคอเกมก็จะได้อานิสงกับฟีเจอร์ที่รายรอบเมนบอร์ดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ยังไม่รวมถึงระบบเสียงใหม่ ที่ให้ผู้ใช้ได้สนุกมากว่าเดิม โดยภาพรวมต้องถือว่าเป็นเมนบอร์ดที่น่าจะเข้าไปลุยกับตลาดบนสำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ได้สบา่ย กับฟีเจอร์ที่มากมายเหล่านี้ รวมถึงการออกแบบที่แทบจะไม่ต้องเติมอะไรลงไป เพราะวางสิ่งที่สำคัญมาให้ทั้งหมดแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะดึงเอาส่วนไหนไปใช้ได้อย่างเต็มที่
จุดเด่น
- รองรับแรม DDR4 3300+ ความเร็วสูงและทำงานแบบ Quad channel
- มาพร้อม Dual WiFi และ Dual Gigabit LAN
- มีพอร์ต USB Type-C
- ภาคจ่ายไฟมากถึง 12-phase
- Steel slot ให้ความแข็งแรงในการติดตั้งกราฟฟิกการ์ด
ข้อสังเกต
- พื้นที่จัดวาง M.2 ค่อนข้างแคบไปเล็กน้อย
- พอร์ตสำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงด้านหลังน้อยไป