ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้านจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คจากทาง HP Pavilion Series ปี 2016 นี้กับในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามดูล้ำกว่าโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่น โดย HP Pavilion x360 เป็น 2-in-1 Notebook รุ่นใหม่ ที่แน่นอนว่ามาพร้อมกับคุณสมบัติและการใช้งานเหนือกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ด้วยความที่ว่าเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย เพราะบานพับได้ออกแบบให้พับได้ 360 องศาตรงตามชื่อรุ่น ส่วนชิปประมวลผลก็เป็น Intel Core i5 รุ่นล่าสุด และ SSD ความจุ 120GB สนนราคาอยู่ที่ 26,990 บาทเท่านั้น
เรียกได้ว่า HP Pavilion x360 มาพร้อมสีสันที่สวยงาม ที่คล้ายๆ กับ HP Pavilion ปี 2016 โดยมีขนาดหน้าจอ 13.3″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ดูแล้วสวยสมจริงสุดๆ แถมทัชกรีนได้ด้วย แน่นอนว่ามาพร้อมกับการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
VDO Review
Specification
ในส่วนของสเปก HP Pavilion x360 ทีหลากหลายรุ่นด้วยกัน โดยรุ่นที่เราได้รับมารีวิวนั้นจะเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ LED ที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 13.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.58 กิโลกรัม ทำให้การพกพาทำได้โดยง่าย
HP Pavilion x360 ยังใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-6200u ที่เป็นการทำงานแบบ 2 Core 2 Thread ความเร็ว 2.30GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 2.80GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel HD Graphics 520 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความเร็วสูงที่ความจุ 128GB
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Pavilion x360 ได้มีการติดตั้ง USB 3.0 และ USB 2.0 อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ ในส่วนของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 26,990 บาท โดยมีรุ่นเริ่มต้นมีราคาเพียง 15,990 บาทเท่านั้น
ชมรายละเอียดและส่งซื้อได้ผ่านทาง HP Store Thailand
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบใหม่ HP Pavilion x360 เป็นการต่อยอดมาจากรุ่นก่อหน้า ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คยุคปัจจุบันที่มาพร้อมสีสันที่สวยงามลงตัว อีกทั้งเชื่อได้ว่ายังโดนใจวัยรุ่นเพราะมีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ สำหรับ HP Pavilion x360 นั้นมีหน้าตาออกไปทางเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยการเล่นกับการออกแบบที่มีความโค้งเว้ามีมิติในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่าสาวๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบ เพราะตัวแอดมินโป้ง ก็ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นในรูปลักษณ์ที่ดูแล้วน่าจะดูมีค่าตัวที่แพงกว่านี้
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ในบริเวณฝาหลังของเครื่องจะเป็นพลาสติกเกรดสูงตัดด้วยโลโก้ของ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอเป็นกระจกทั้งบาน เล่นสีขอบจอด้านในเป็นสีดำพร้อมด้วยยางรองขอบรอบตัวจอ สำหรับตัวเครื่องด้านในบริเวณรอบๆ แป้นพิมพ์ ที่พักมือ ใช้วัสดุพลาสติกเกรดสูงเช่นกัน โดยเข้ากับแป้นคีย์บอร์ดสีดำ ให้อารมณ์เรียบง่ายแต่ดูดี
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับ Ultrabook รุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ จากการที่มันเป็น 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศานั่นเอง ส่วนความบางก็บางเพียง 20.8 มิลลิเมตรและเบาเพียง 1.58 กิโลกรัมเท่านั้น
HP Pavilion x360 สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ส่งผลให้มีรูปแบบการใช้งานถึง 4 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Notebook / Stand / Tent / Tablet ส่งผลให้เป็นได้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เรื่องของการระายความร้อนนั้นก็ออกแบบมาเป็นอย่างดีกับด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลมร้อนออกอยู่ ทำให้ไม่รบกวนเราเวลาที่ใช้งานเครื่อง
ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นั้น ให้ความสวยงามลงตัวมากกว่าเดิมจากบางพับที่ดูแล้วกระชับกว่าเดิม อีกทั้งมิติตัวเครื่องก็ดูเล็กลงด้วยเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2015
Keyboard / Touchpad
สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP Pavilion x360 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการใช้งานในโน๊ตบุ๊คทั่วไป ด้วยขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อว ด้วยคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี
ทัชแพดยังคงมีลักษณะรูปแบบหน้าตาเหมือนกับโน๊ตบุ๊คของทาง HP หลายๆ รุ่น ทั้งในเรื่องของสัดส่วนขนาด ที่เป็นวัสดุที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ ซึ่งจากการใช้งานจริง พบว่าสามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture จริงๆ ที่มีและพร้อมใช้งานใน Windows 10 อย่างเต็มที่
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP Pavilion x360 นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพดีเหนือกว่า HP Pavilion รุ่นทั่วไป โดยในส่วนของการใช้งานต่างๆ ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกับความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล เมื่อใช้งานการสัมผัสหน้าจอก็มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมหรือทำงานก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้องสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอเป็นกระจกทำให้สะท้อนแสงพอสมควร
สำหรับระบบเสียงเป็น B&O Play และลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบแป้นคีย์บอร์ดด้านบนแบบสเตอริโอ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงที่ได้จากโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่ามีความประทับใจในเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควรเลยทีเดียว จากการที่มี HP Audio Boost ช่วยยกระดับประสบการณ์ระบบเสียง ด้วยเทคโนโลยีขยายสัญญาณอัจฉริยะ ที่ให้เสียงดัง คมชัด ในทุกมิติ
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวนสองพอร์ต และพอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอก ไว้ถ่ายโอนข้อมูล รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน นอกเหนือจากนี้ก็มีช่องเสียบหูฟังหรือการ์ดรีดเดอร์ก็มีครบครัน ส่วน LAN นั้นถ้าหากจำเป็นต้องใช้งานคงต้องอาศัยตัวแปลงจาก USB > LAN อีกทีหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาอยู่แล้ว
สำหรับที่ดูแล้วแปลกตาหน่อยก็จะเป็นส่วนของปุ่ม Windows ที่ติดตั้งไว้ขอบด้านข้างตัวเครื่อง รวมไปถึงยังมีปุ่มเปิดปิดและปุ่มเพิ่มลดเสียด้วย เรียกได้ว่ามีการออกแบบให้เราสามารถใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น จากการที่ HP Pavilion x360 สามารถใช้งานได้หลากหลายโหมด ส่วนเรื่องความบางเบาก็จัดอยู่ในมาตรฐานของ Ultrabook ได้ ที่ความบาง 20.8 มิลลิเมตรและมีน้ำหลักเพียง 1.58 กิโลกรัม ทำให้พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบาย
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP Pavilion x360 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ HP Pavilion x360 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับใหม่ที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง บานพับสแตนเลสนี้ยังผ่านบททดสอบสุดทรหดด้วยการเปิดปิดกว่า 25,000 ครั้ง และการหมุนรอบ 360 องศา อีกกว่า 7,000 ครั้ง อีกทั้งกลไกการทำงานเของฟันเฟืองเปิดปิดบานพับเหล็กกล้ายังช่วยป้องกันฝุ่นละออง ทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ
บอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาไฮบริดโน๊ตบุ๊คซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าไม่แรงมากด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core i5 แต่ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก HP Pavilion x360 เป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่จะตัดสินใจได้เลย
Performance / Software
HP Envy 13 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i5-6200U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.30 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.80 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i5 HQ ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 4GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 520 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 5300 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน (แต่เอาไว้ใช้งานทั่วไปน่ะดีแล้ว)
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น Intel Core m ซึ่งใช้กับรุ่นก่อนหน้านี้เแล้ว ก็ทำได้ดีกว่า ที่ถึงแม้จะไม่มากมายอะไร แต่ก็ถือว่ามีการพัฒนาขึ้น
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊ม
สำหรับ Street Fighter 4 ที่ตั้งค่าเป็น Default บนความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ผลคะแนนก็ได้มากกว่าชิปประมวลผล Intel Core i รุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยได้คะแนนอยู่ที่ 12102 คะแนนด้วยกัน มีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 85.98 FPS ด้วยกัน ทำให้ได้ระดับ Rank A ทีเดียว ซึ่งสำหรับเกมที่ไม่ได้กินทรัพยากรมากมายอะไร ถือได้ว่าพอจะเล่นได้แบบสบายๆ HP Pavilion x360 เครื่องนี้ก็พร้อมตอบสนองความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion x360 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ HP Pavilion x360 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับ Ultrabook หลายๆ เครื่อง ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3190 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 4:30 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร ส่วนช่องระบายความร้อนของ HP Pavilion x360 จะอยู่ด้านล่างติดกับด้านท้ายของตัวเครื่อง ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 85 องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP Pavilion x360 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีพอควร เพราะความร้อนทั่วไปจะอยู่ที่เพียง 43 องศาเซลเซียสตอนทำงานเต็มที่แล้ว นับว่า HP Pavilion x360 เครื่องนี้จัดการระบบระบายความร้อนออกมาได้ดีมากทีเดียว ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก HP ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง
Conclusion / Award
HP Pavilion x360 รุ่นใหม่ชิปประมวลผล Intel Core i5 กับสเปกท๊อปสุด จัดเป็น 2-in-i Notebook อีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ ซึ่งเป็นผลจากการมาของระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งรองรับระบบหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ผลิตต่างๆ ได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ซึ่ง HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นี้ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งสินค้าที่พิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป หรือจะกล่าวว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายขึ้นของคนยุคนี้ก็ว่าได้
ที่มาพร้อมกับระบบเสียง B&O Play ที่จัดได้ว่าให้อรรถรสของเสียงได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป รวมไปถึงการออกแบบดีไซน์ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพอย่างพลาสติกเกรดสูงรวมไปถึงมีประกันถึง 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ทำให้ HP Pavilion x360 เป็น 2-in-i Notebook ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด แถมสนนราคายังไม่แพงจนเกินไปด้วย เพียง 26,990 บาทเท่านั้น
ซึ่งใครที่กำลังมองหา 2-in-i Notebook ซักตัวที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานจริงจังหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าเลือกสรรค์ได้ตามต้องการ แต่รับรองว่าถ้าเป็นรุ่น Core i5 + SSD ก็จะใช้งานได้อย่างลื่นไหลแน่นอน (แรม 4GB อาจจะน้อยไปหน่อย ควรอัพเกรดเป็น 8GB ได้ก็ดี) ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจากการทดสอบทำให้ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องได้นานประมาณเกือบ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม HP Pavilion x360 ที่แม้ว่าดูราคาแล้วอาจจะสูงซักหน่อยถ้าเทียบกับสเปกที่ได้ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่หลากหลายแบบในหนึ่งเดียว ที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊ค และเป็นแท็บเล็ตได้เต็มรูปแบบ พร้อมที่จะ Work, Play & Sharing ได้ในทุกที่ทุกเวลา สนนราคามีตั้งแต่ 15,990 บาท ไปจนถึง 26,990 บาท ตามแต่กำลังทรัพย์และความจริงจังในการใช้งาน
จุดเด่น :
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- สเปกภายในเป็น Intel Core i5 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
- หน้าจอทัชกรีนขนาด 13.3″ Full HD ให้ภาพสวยงามสมจริง
- ติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ช่วยสนับสนุนในการใช้งานมาให้
- วัสดุและงานประกอบถืออว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน๊ตบุ๊คระดับสูงจาก HP
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สนับสนุนการใช้งานทัชกรีนอย่างเต็มที่
- มาพร้อมระบบเสียงและลำโพง B&O Play
- รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
- HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP
ข้อสังเกตุ :
- กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
- แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้
- แรมน้อยไปหน่อย ควรเพิ่มเป็น 8GB แต่ต้องถอด 4GB เดิมออก
Best Design
HP Pavilion x360 ตัวเครื่องออกแบบได้อย่างสวยงามตามมาตรฐานการดีไซน์ของ HP รวมทั้งวัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมทั้งชิ้นที่ให้ทั้งความหรูหราและความแข็งแรงทนทานไปพร้อมๆ กัน ให้ความรู้สึกเมื่อจับถือแล้วเหมือนกันกับ โน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญยังเป็นเสริมภาพลักษณ์ผู้ใช้ให้ดูดีไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน โดยการพับหน้าจอ 360 องศา
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบา ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะระบบไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
VDO Review
Specification
ในส่วนของสเปก HP Pavilion x360 ทีหลากหลายรุ่นด้วยกัน โดยรุ่นที่เราได้รับมารีวิวนั้นจะเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ LED ที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 13.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.58 กิโลกรัม ทำให้การพกพาทำได้โดยง่าย
HP Pavilion x360 ยังใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-6200u ที่เป็นการทำงานแบบ 2 Core 2 Thread ความเร็ว 2.30GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 2.80GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel HD Graphics 520 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความเร็วสูงที่ความจุ 128GB
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Pavilion x360 ได้มีการติดตั้ง USB 3.0 และ USB 2.0 อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ ในส่วนของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 26,990 บาท โดยมีรุ่นเริ่มต้นมีราคาเพียง 15,990 บาทเท่านั้น
ชมรายละเอียดและส่งซื้อได้ผ่านทาง HP Store Thailand
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบใหม่ HP Pavilion x360 เป็นการต่อยอดมาจากรุ่นก่อหน้า ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คยุคปัจจุบันที่มาพร้อมสีสันที่สวยงามลงตัว อีกทั้งเชื่อได้ว่ายังโดนใจวัยรุ่นเพราะมีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ สำหรับ HP Pavilion x360 นั้นมีหน้าตาออกไปทางเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยการเล่นกับการออกแบบที่มีความโค้งเว้ามีมิติในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่าสาวๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบ เพราะตัวแอดมินโป้ง ก็ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นในรูปลักษณ์ที่ดูแล้วน่าจะดูมีค่าตัวที่แพงกว่านี้
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ในบริเวณฝาหลังของเครื่องจะเป็นพลาสติกเกรดสูงตัดด้วยโลโก้ของ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอเป็นกระจกทั้งบาน เล่นสีขอบจอด้านในเป็นสีดำพร้อมด้วยยางรองขอบรอบตัวจอ สำหรับตัวเครื่องด้านในบริเวณรอบๆ แป้นพิมพ์ ที่พักมือ ใช้วัสดุพลาสติกเกรดสูงเช่นกัน โดยเข้ากับแป้นคีย์บอร์ดสีดำ ให้อารมณ์เรียบง่ายแต่ดูดี
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับ Ultrabook รุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ จากการที่มันเป็น 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศานั่นเอง ส่วนความบางก็บางเพียง 20.8 มิลลิเมตรและเบาเพียง 1.58 กิโลกรัมเท่านั้น
HP Pavilion x360 สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ส่งผลให้มีรูปแบบการใช้งานถึง 4 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Notebook / Stand / Tent / Tablet ส่งผลให้เป็นได้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เรื่องของการระายความร้อนนั้นก็ออกแบบมาเป็นอย่างดีกับด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลมร้อนออกอยู่ ทำให้ไม่รบกวนเราเวลาที่ใช้งานเครื่อง
ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นั้น ให้ความสวยงามลงตัวมากกว่าเดิมจากบางพับที่ดูแล้วกระชับกว่าเดิม อีกทั้งมิติตัวเครื่องก็ดูเล็กลงด้วยเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2015
Keyboard / Touchpad
สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP Pavilion x360 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการใช้งานในโน๊ตบุ๊คทั่วไป ด้วยขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อว ด้วยคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี
ทัชแพดยังคงมีลักษณะรูปแบบหน้าตาเหมือนกับโน๊ตบุ๊คของทาง HP หลายๆ รุ่น ทั้งในเรื่องของสัดส่วนขนาด ที่เป็นวัสดุที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ ซึ่งจากการใช้งานจริง พบว่าสามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture จริงๆ ที่มีและพร้อมใช้งานใน Windows 10 อย่างเต็มที่
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP Pavilion x360 นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพดีเหนือกว่า HP Pavilion รุ่นทั่วไป โดยในส่วนของการใช้งานต่างๆ ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกับความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล เมื่อใช้งานการสัมผัสหน้าจอก็มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมหรือทำงานก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้องสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอเป็นกระจกทำให้สะท้อนแสงพอสมควร
สำหรับระบบเสียงเป็น B&O Play และลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบแป้นคีย์บอร์ดด้านบนแบบสเตอริโอ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงที่ได้จากโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่ามีความประทับใจในเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควรเลยทีเดียว จากการที่มี HP Audio Boost ช่วยยกระดับประสบการณ์ระบบเสียง ด้วยเทคโนโลยีขยายสัญญาณอัจฉริยะ ที่ให้เสียงดัง คมชัด ในทุกมิติ
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวนสองพอร์ต และพอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอก ไว้ถ่ายโอนข้อมูล รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน นอกเหนือจากนี้ก็มีช่องเสียบหูฟังหรือการ์ดรีดเดอร์ก็มีครบครัน ส่วน LAN นั้นถ้าหากจำเป็นต้องใช้งานคงต้องอาศัยตัวแปลงจาก USB > LAN อีกทีหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาอยู่แล้ว
สำหรับที่ดูแล้วแปลกตาหน่อยก็จะเป็นส่วนของปุ่ม Windows ที่ติดตั้งไว้ขอบด้านข้างตัวเครื่อง รวมไปถึงยังมีปุ่มเปิดปิดและปุ่มเพิ่มลดเสียด้วย เรียกได้ว่ามีการออกแบบให้เราสามารถใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น จากการที่ HP Pavilion x360 สามารถใช้งานได้หลากหลายโหมด ส่วนเรื่องความบางเบาก็จัดอยู่ในมาตรฐานของ Ultrabook ได้ ที่ความบาง 20.8 มิลลิเมตรและมีน้ำหลักเพียง 1.58 กิโลกรัม ทำให้พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบาย
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP Pavilion x360 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ HP Pavilion x360 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับใหม่ที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง บานพับสแตนเลสนี้ยังผ่านบททดสอบสุดทรหดด้วยการเปิดปิดกว่า 25,000 ครั้ง และการหมุนรอบ 360 องศา อีกกว่า 7,000 ครั้ง อีกทั้งกลไกการทำงานเของฟันเฟืองเปิดปิดบานพับเหล็กกล้ายังช่วยป้องกันฝุ่นละออง ทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ
บอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาไฮบริดโน๊ตบุ๊คซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าไม่แรงมากด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core i5 แต่ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก HP Pavilion x360 เป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่จะตัดสินใจได้เลย
Performance / Software
HP Envy 13 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i5-6200U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.30 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.80 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i5 HQ ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 4GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 520 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 5300 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน (แต่เอาไว้ใช้งานทั่วไปน่ะดีแล้ว)
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น Intel Core m ซึ่งใช้กับรุ่นก่อนหน้านี้เแล้ว ก็ทำได้ดีกว่า ที่ถึงแม้จะไม่มากมายอะไร แต่ก็ถือว่ามีการพัฒนาขึ้น
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊ม
สำหรับ Street Fighter 4 ที่ตั้งค่าเป็น Default บนความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ผลคะแนนก็ได้มากกว่าชิปประมวลผล Intel Core i รุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยได้คะแนนอยู่ที่ 12102 คะแนนด้วยกัน มีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 85.98 FPS ด้วยกัน ทำให้ได้ระดับ Rank A ทีเดียว ซึ่งสำหรับเกมที่ไม่ได้กินทรัพยากรมากมายอะไร ถือได้ว่าพอจะเล่นได้แบบสบายๆ HP Pavilion x360 เครื่องนี้ก็พร้อมตอบสนองความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion x360 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ HP Pavilion x360 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับ Ultrabook หลายๆ เครื่อง ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3190 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 4:30 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร ส่วนช่องระบายความร้อนของ HP Pavilion x360 จะอยู่ด้านล่างติดกับด้านท้ายของตัวเครื่อง ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 85 องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP Pavilion x360 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีพอควร เพราะความร้อนทั่วไปจะอยู่ที่เพียง 43 องศาเซลเซียสตอนทำงานเต็มที่แล้ว นับว่า HP Pavilion x360 เครื่องนี้จัดการระบบระบายความร้อนออกมาได้ดีมากทีเดียว ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก HP ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง
Conclusion / Award
HP Pavilion x360 รุ่นใหม่ชิปประมวลผล Intel Core i5 กับสเปกท๊อปสุด จัดเป็น 2-in-i Notebook อีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ ซึ่งเป็นผลจากการมาของระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งรองรับระบบหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ผลิตต่างๆ ได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ซึ่ง HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นี้ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งสินค้าที่พิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป หรือจะกล่าวว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายขึ้นของคนยุคนี้ก็ว่าได้
ที่มาพร้อมกับระบบเสียง B&O Play ที่จัดได้ว่าให้อรรถรสของเสียงได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป รวมไปถึงการออกแบบดีไซน์ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพอย่างพลาสติกเกรดสูงรวมไปถึงมีประกันถึง 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ทำให้ HP Pavilion x360 เป็น 2-in-i Notebook ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด แถมสนนราคายังไม่แพงจนเกินไปด้วย เพียง 26,990 บาทเท่านั้น
ซึ่งใครที่กำลังมองหา 2-in-i Notebook ซักตัวที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานจริงจังหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าเลือกสรรค์ได้ตามต้องการ แต่รับรองว่าถ้าเป็นรุ่น Core i5 + SSD ก็จะใช้งานได้อย่างลื่นไหลแน่นอน (แรม 4GB อาจจะน้อยไปหน่อย ควรอัพเกรดเป็น 8GB ได้ก็ดี) ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจากการทดสอบทำให้ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องได้นานประมาณเกือบ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม HP Pavilion x360 ที่แม้ว่าดูราคาแล้วอาจจะสูงซักหน่อยถ้าเทียบกับสเปกที่ได้ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่หลากหลายแบบในหนึ่งเดียว ที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊ค และเป็นแท็บเล็ตได้เต็มรูปแบบ พร้อมที่จะ Work, Play & Sharing ได้ในทุกที่ทุกเวลา สนนราคามีตั้งแต่ 15,990 บาท ไปจนถึง 26,990 บาท ตามแต่กำลังทรัพย์และความจริงจังในการใช้งาน
จุดเด่น :
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- สเปกภายในเป็น Intel Core i5 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
- หน้าจอทัชกรีนขนาด 13.3″ Full HD ให้ภาพสวยงามสมจริง
- ติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ช่วยสนับสนุนในการใช้งานมาให้
- วัสดุและงานประกอบถืออว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน๊ตบุ๊คระดับสูงจาก HP
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สนับสนุนการใช้งานทัชกรีนอย่างเต็มที่
- มาพร้อมระบบเสียงและลำโพง B&O Play
- รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
- HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP
ข้อสังเกตุ :
- กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
- แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้
- แรมน้อยไปหน่อย ควรเพิ่มเป็น 8GB แต่ต้องถอด 4GB เดิมออก
Best Design
HP Pavilion x360 ตัวเครื่องออกแบบได้อย่างสวยงามตามมาตรฐานการดีไซน์ของ HP รวมทั้งวัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมทั้งชิ้นที่ให้ทั้งความหรูหราและความแข็งแรงทนทานไปพร้อมๆ กัน ให้ความรู้สึกเมื่อจับถือแล้วเหมือนกันกับ โน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญยังเป็นเสริมภาพลักษณ์ผู้ใช้ให้ดูดีไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน โดยการพับหน้าจอ 360 องศา
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบา ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะระบบไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ