ปัจจุบันนี้นั้นการใช้เทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ต่างๆ เข้ามาช่วยในการผลิตรองเท้านั้นเริ่มมีให้เราเห็นมากขึ้นกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว หนึ่งในตัวอย่างของบริษัทผู้ผลิตรองเท้าชื่อดังที่เริ่มใช้เทคโนโลยี motion capture หรือการจับภาพเคลื่อนไหวก็ได้แก่ Adidas
ที่ในวันนี้เราจะขอนำมาเสนอให้ทุกท่านได้ทราบกันครับว่า Adidas นั้นใช้เทคโนโลยี motion capture เข้ามาร่วมในการพัฒนารองเท้าอย่างไรเพื่อให้ได้รองเท้าที่โดยรวมออกมามีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้านครับ(โดยเฉพาะรองเท้าสำหรับใช้งานเพื่อแข่งขันกีฬาต่างๆ)
จุดเริ่มต้นของการใช้งานเทคโนโลยี motion capture ของทาง Adidas นั้นก็เกิดขึ้นมาจากการที่ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอย่าง Adi Dassler ใช้เทคโนโลยี motion capture กับผลิตภัณฑ์ในรุ่น Ultra Boost ที่ในครั้งแรกนั้นต้องการที่จะให้เป็นรองเท้าที่เจาะตลาดสำหรับนักกีฬาเท่านั้น ทว่า Ultra Boost นั้นกลับทำได้ดีกว่าที่ทาง Adidas คาดเอาไว้มากเนื่องจากว่ามันได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคในการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ดังนั้นแล้วทาง Adidas เองจึงได้มีความตั้งใจในการที่จะใช้เทคโนโลยี motion capture ในการผลิตรองเท้าต่อไปครับ
เทคโนโลยี motion capture ที่ทาง Adidas ใช้นั้นมีชื่อว่า ARAMIS ที่พัฒนาขึ้นมาจากบริษัทชื่อ AlphaBounce ครับ(ซึ่งจริงๆ แล้วเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ทาง NASA เองก็เคนใช้ด้วยเช่นเดียวกัน) ARAMIS ถูกประกอบรวมขึ้นมาจากการใช้กล้องความเร็วสูงที่มาพร้อมกับ flexion sensors สำหรับการเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวในระดับ 500 FPS
ตัวซอฟต์แวร์ ARAMIS นั้นสามารถที่จะจับการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง, กระดูกไปจนถึงกล้ามเนื้อ ซึ่งด้วยข้อมูลดังกล่าวนั้นทำให้วิศวกรของ Adidas สามารถที่จะนำเอาข้อมูลมาประมวลผลเพื่อที่จะดีไซน์รองเท้าสำหรับการวิ่งที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายต่อผู้ใช้งานได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ จริงๆ แล้วนั้น ARAMIS สามารถที่จะปรับทัศนภาพได้ในระดับที่เรียกว่าทุกส่วนของรองเท้าเพื่อความสะดวกสบายในการสวมใส่ ทั้งนี้การปรับแต่งดังกล่าวนั้นหมายรวมถึงอวัยวะตั้งแต่หัวแม่เท้าเท้าไปถึงส้นเท้าพร้อมทั้งยังสามารถที่จะระบุประสิทธิภาพของผ้าที่ใช้ในการสร้างร้องเท้าในแบบนั้นๆ ได้ด้วยครับ
การออกแบบรองเท้ารุ่น Ultra Boost ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างแฟชันและเทคโนโลยียุคใหม่ได้อย่างลงตัวครับ ทั้งนี้จากความสำเร็จของรองเท้ารุ่น Ultra Boost นั้นทำให้เห็นได้ครับว่าเทคโนโลยี ARAMIS ของทาง AlphaBounce มีประโยชน์อย่างมากและไม่ได้อยู่เพียงแค่ในวงการเทคโนโลยีเท่านั้นเพียงอย่างเดียวทว่ามันยังแสดงให้เห็นอีกด้วยครับว่าในปัจจุบันนี้เราได้อยู่ในยุคที่เทคโนโลยีต่างๆ นั้นก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราแล้วแม้กระทั่งเครื่องนุ่งห่มอย่างรองเท้าที่เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะคิดไม่ถึงว่าการออกแบบรองเท้าที่ดีรุ่นหนึ่งนั้นจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขนาดนี้
เมื่อถามถึงอนาคตของทาง Adidas เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ร่วมกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตัวเองนั้น ทาง Adidas ให้ความเห็นครับว่าจากเสียงตอบรับของผลิตภัณฑ์ในรุ่น Ultra Boost ที่มากเกินคาดหวังไว้นั้นทาง Adidas เลยมีแนวทางที่จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ต่อไป ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อทาง Adidas เองเท่านั้นแต่ทว่าทาง Adidas ได้คิดถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญว่าควรจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจากการผลิตที่ทันสมัยที่รวมเอาแฟนชันและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันครับ
ทั้งนี้ในส่วนของ AlphaBounce ผู้ที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี ARAMIS เองนั้นก็ได้ให้ความเห็นครับว่าตัวซอฟต์แวร์ ARAMIS ยังสามารถที่จะทำการพัฒนาให้มีความสามารถสูงขึ้นไปได้อีก ที่สำคัญที่สุดแล้วมันไม่ได้จำกัดเฉพาะการใช้งานเพื่อที่จะทำการออกแบบรองเท้าเท่านั้นแต่มันยังสามารถประยุกต์ให้นำไปใช้ในการออกแบบเครื่องนุ่งห่มประเภทอื่นๆ สำหรับการกีฬาได้อีกอย่างเช่นยกทรงสำหรับการเล่นกีฬา ฯลฯ
อย่างไรก็ดีครับ Adidas ไม่ใช่บริษัทเดียวเท่านั้นที่เริ่มนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ร่วมกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองเนื่องจากว่าคู่แข่งของ Adidas เองอย่าง Nike ที่มีผลิตภัณฑ์ชื่อ Free RN ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเช่นเดียวกันนั้นก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่ากลัวในการออกแบบผลิตภัณฑ์ผสมผสานระหว่างแฟชันและเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน ไม่แน่ว่าในอนาคตนั้นเราอาจจะได้เห็นอะไรแปลกๆ กันและมีการเปลี่ยนรูปแบบของเครื่องนุ่งห่มไปจากเดิมที่เคยเป็นมาก็เป็นได้ครับ
ที่มา : engadget