วันที่ 30 พฤษภาคมที่ทาง ASUS จัดงานเปิดตัวเป็นของตัวเองก่อนที่จะมีงาน Computex 2016 นั้นเรียกได้ว่า ASUS จัดหนักจริงๆ ครับ นอกจากจะมี ZenFone 3 และ ZenBook 3 แล้ว ทาง ASUS ยังได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊ตแบบ 2-in-1 ในซีรีส์ Transformers ออกมาด้วยซึ่งผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Transformers ที่ได้รับการเปิดตัวออกมาในครั้งนี้นั้นมีรูปลักษณ์หน้าตาเหมือน Surface มากขึ้นกว่าเดิม คือเป็นโน๊ตบุ๊คที่สามารถใช้งานได้ 2 แบบคือสามารถใช้งานถอดหน้าจอมาเป็นแท็บเล็ตได้หรือจะเชื่อมกับฐานคีย์บอร์ดเพื่อใช้เป็นโน๊ตบุ๊คก็ได้เช่นเดียวกันครับ
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Transformers ที่ถูกเปิดตัวออกมานั้นประกอบไปด้วย 3 รุ่น 3 สไตล์อันได้แก่ ASUS Transformer 3 Pro, ASUS Transformer 3, ASUS Transformer Mini โดยทุกผลิตภัณฑ์นั้นจะมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10 เหมือนกันหมดแต่สิ่งที่แตกต่างกันไปนั้นก็คือสเปคและรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเครื่องครับ แต่ละรุ่นจะมีสเปคและรูปลักษณ์ดีไซน์เป็นอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ
ASUS Transformer 3 Pro
เริ่มกันที่รุ่นใหญ่ก่อนอย่าง ASUS Transformer 3 Pro ที่ตัวเครื่องนั้นเห็นแล้วเหมือนกับจะเอามาต่อกรกับ Surface Pro 4 โดยเฉพาะ สำหรับสเปคจะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันเลยครับ
- หน้าจอขนาด 12.6 นิ้วรองรับความละเอียดที่ระดับ 2880 x 1920 pixels ความหนาแน่นของจุด pixels อยู่ที่ 275 PPI รองรับมุมมองแบบกว้าง
- หน่วยประมวลผลสูงสุดที่สามารถเลือกได้คือรุ่น Intel Core i7 สถาปัตยกรรม Skylake
- หน่วยความจำ(RAM) ขนาด 16 GB ความเร็ว 2,133 MHz
- แหล่งเก็บข้อมูลภายในแบบ PCIe x4 SSD ความจุสูงสุดที่เลือกได้คือ 1 TB
- กล้องหลังความละเอียด 13 MP
- กล้องหน้าไม่ได้บอกความละเอียดเอาไว้ทว่าสำหรับบน Transformer 3 Pro นั้นจะรองรับการใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Windows Hello ของ Windows 10
- ส่วนของ Cover Keyboard จะมีตัวเลือกที่มาพร้อมกับไฟ backlit ให้ผู้ใช้สามารถที่จะทำการเลือกซื้อได้ด้วย(และแต่ละปุ่มนั้นจะมีระยะจากแป้นลงไปถึงพื้นสัมผัสที่ 1.4 mm ซึ่งถือว่าพอๆ กับโน๊ตบุ๊คขนาดปกติ)
- พอร์ทการเชื่อมต่อมาพร้อมกับ USB Type-C, Thunderbolt 3, USB 3.0 และ HDMI
- ลำโพงเป็นของ Harmon Kardon
- รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ASUS Pen, Universal Dock, AudioPod และ ROG XG Station 2
- ตัวเครื่องหนา 8.35 mm(เฉพาะส่วนที่เป็นหน้าจอ)
- ฐานตั้งมาพร้อมกับบานพับที่เรียกว่า “stepless hinge” ซึ่งสามารถทำให้ปรับตั้งส่วนหน้าจอได้มากสุดถึง 170 องศา
- วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะแบบทั้งตัวทำให้มีความแข่งแกร่งและดูหรูหรา
ทั้งนี้ ASUS Transformer 3 Pro จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ $999 หรือประมาณ 35,970 บาทครับ
ASUS Transformer 3
สำหรับ ASUS Transformer 3 จะบอกว่าเป็นรุ่นลดสเปคของ ASUS Transformer 3 Pro ก็ว่าได้ครับ ทว่าถึงแม้ว่าจะมีการลดสเปคลงไปบ้างแต่อะไรหลายๆ อย่างนั้นก็ได้รับการสืบถอดมาจากรุ่น Pro ด้วยเหมือนกัน สเปคของ ASUS Transformer 3 จะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ
- หน้าจอขนาด 12.6 นิ้วรองรับความละเอียดที่ระดับ 2880 x 1920 pixels ความหนาแน่นของจุด pixels อยู่ที่ 275 PPI รองรับมุมมองแบบกว้าง
- หน่วยประมวลผลสูงสุดที่สามารถเลือกได้คือรุ่น Intel Core i7 สถาปัตยกรรม Skylake
- หน่วยความจำ(RAM) ขนาดสูงสุด 8 GB ความเร็ว 2,133 MHz
- แหล่งเก็บข้อมูลภายในแบบ SSD ความจุสูงสุดที่เลือกได้คือ 512 GB
- กล้องหลังและหน้าไม่ได้บอกความละเอียดเอาไว้ทว่าสำหรับบน Transformer 3 นั้นจะรองรับการใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Windows Hello ของ Windows 10
- ส่วนของคีย์บอร์ดจะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่มีขื่อว่า Sleeve Keyboard ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นขาตั้งส่วนของหน้าจอให้กับ Transformer 3 ด้วย(และแต่ละปุ่มนั้นจะมีระยะจากแป้นลงไปถึงพื้นสัมผัสที่ 1.4 mm ซึ่งถือว่าพอๆ กับโน๊ตบุ๊คขนาดปกติ)
- พอร์ทการเชื่อมต่อมาพร้อมกับ USB Type-C, Thunderbolt 3, USB 3.0 และ HDMI
- ลำโพงเป็นของ Harmon Kardon
- รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ASUS Pen, Universal Dock, AudioPod และ ROG XG Station 2
- ตัวเครื่องหนา 6.9 mm และน้ำหนักอยู่ที่ 695 g(เฉพาะส่วนที่เป็นหน้าจอซึ่งเบาและบางกว่ารุ่น Pro มาก)
- วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะแบบทั้งตัวทำให้มีความแข่งแกร่งและดูหรูหรา
ทั้งนี้ ASUS Transformer 3 จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ $799 หรือประมาณ 28,770 บาทครับ
ASUS Transformer Mini
ถ้า ASUS Transformer Pro 3 และ Transformer 3 มีขนาดใหญ่มากเกินไปหล่ะก็ขอแนะนำให้คุณพบกับรุ่นน้องเล็กสุดอย่าง ASUS Transformer Mini ที่ขนาดของหน้าจอนั้นจะลดลงมาเหลืออยู่ที่ 10.1 นิ้วเท่านั้นทำให้ในส่วนของความหนาและความเบานั้นลดลงกว่าเดิมมาเกเลยทีเดียวครับ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเสียดายของ Transformer Mini นั้นก็คือสเปคของมันโดนลดลงไปด้วยโดยจะมีสเปคดังต่อไปนี้ครับ
- หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว(รายละเอียส่วนอื่นยังไม่มีการเปิดเผย)
- หน่วยประมวลผลจะเป็น quad-core Intel Atom X5
- หน่วยความจำ(RAM) ยังไม่มีการเผยข้อมูลแต่คาดว่าน่าจะเลือกได้สูงสุดที่ 8 GB
- แหล่งเก็บข้อมูลภายในยังไม่มีการเผยข้อมูลแต่คาดว่าน่าจะเลือกได้สูงสุดที่ 256 GB หรือไม่ก็ 512 GB
- ไม่ได้ระบุรายละเอียดของกล้องเอาไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ส่วนของคีย์บอร์ดจะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่แต่ละปุ่มนั้นจะมีระยะจากแป้นลงไปถึงพื้นสัมผัสที่ 1.5 mm ซึ่งถือว่าพอๆ กับโน๊ตบุ๊คขนาดปกติ แต่ในส่วนของขนาดคีย์บอร์ดนั้นพบว่ามีขนาดเล็กพอควรทำให้เวลาพิมพ์เพื่อใช้งานจริงๆ นั้นจะยากกว่าปกติพอควร(เนื่องด้วยต้องทำให้ส่วนของคีย์บอร์ดเท่ากับหน้าจอพอดีนั่นเอง)
- มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ(แต่ทว่าจะวางตัวอยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่องไม่ได้อยู่ทางด้านหน้าเลยทำให้เวลาใช้งานจริงอาจจะใช้งานลำบากเล็กน้อย)
- ตัวเครื่องหนา 8.2 mm และน้ำหนักอยู่ที่ 790 g(รวมทั้งส่วนหน้าจอและคีย์บอร์ดแล้ว หากคิดน้ำหนักเฉพาะส่วนของหน้าจออย่างเดียวจะอยู่ที่ 530 g เท่านั้น)
- ฐานตั้งมาพร้อมกับบานพับที่เรียกว่า “stepless hinge” ซึ่งสามารถทำให้ปรับตั้งส่วนหน้าจอได้มากสุดถึง 170 องศา
- มาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษอย่าง ZenSync ที่ช่วยให้คุณสามารถซิงค์ข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเพื่อไปแสดงผลบนหน้าจอได้
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 11 ชั่วโมง
- มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 4 สีได้แก่ Quartz Gray, Pearl White, Amber, Mint Green และ Icicle Gold
ทั้งนี้ ASUS Transformer Mini จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ $349 หรือประมาณ 12,570 บาทครับ
ที่มา : engadget