[Review] Lenovo MIIX 700 สุดยอดแท็บเล็ต 2-in-1 ดีไซน์เรียบหรู ครบเครื่องทุกการใช้งาน

หากจะพูดถึงอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ทได้ และในขณะดียวกันก็สามารถใช้งานในโหมดของโน๊ตบุ๊คได้ด้วยเช่นกัน หลายๆท่านคงกำลังนึกถึง แท็บเล็ต 2 in 1 ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้  ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ชั้นนำที่ได้มีการส่งตัวแท็บเล็ตเหล่านี้เข้าสู่ตลาดไอทีอย่างมากมาย  จนเกิดการแข่งขันกันเป็นวงกว้าง และทำให้ผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ได้ในสิ่งที่แตกต่าง โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมกับน่าใช้งาน

และล่าสุด Lenovo แบนรนด์ชั้นนำของโลกที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด อย่าง Lenovo MIIX 700 ซึ่งเป็นแท็บเล็ต 2 in 1 เข้าสู่ตลาด เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จ และเจาะจงขยายตัวในกลุ่มของผู้ใช้มากขึ้น โดยเน้นความโดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูเรียบหรู พรีเมี่ยม พร้อมอุปกรณ์เสริมอย่างครบครัน ลงตัวทุกการใช้งาน ที่สามารถท้าชนกับรุ่นต่างๆได้ทุกกระบวนท่าเลยทีเดียว

Specification

ในเรื่องของสเปก Lenovo MIIX 700 นั้น จะจัดอยู่ในกลุ่มของแท็บเล็ตพีซีแบบ 2-in-1 สำหรับเครื่องที่ได้มารีวิว เป็นเครื่องที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core m7-6Y75 ความเร็ว 1.2 GHz และสามารถเร่งความเร็วการทำงานได้สูงสุดที่ 3.1 GHz (Turbo Boost) เป็นชิปประมวลผลเน้นการกินพลังงานที่ต่ำมาก แต่ไม่ลดทอนในเรื่องของประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธรด ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR3L ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดนั้นเป็นแบบออนบอร์ด Intel HD Graphics 515 ที่เรียกได้ว่าใหม่กว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ในส่วนของฮาร์ดดิสก์นั้นยังมีความจุถึง 256 GB โดยเป็นแบบ M.2 SSD ที่มีความเร็วสูง และเนื้อที่เพียงพอต่อการใช้งาน  มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 12 นิ้วแบบสัมผัส กันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass และความละเอียดสูงถึง 2160 x 1440 พิกเซล สัดส่วนเป็น 3:2 หรือ พาเนลคุณภาพสูงแบบ IPS ซึ่งให้สีสันที่ดูสมจริง และมุมมองที่กว้าง

ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานที่ใกล้เคียงกับ Ultrabook ที่จัดว่าให้ค่อนข้างครบทั้ง USB 2.0, USB 3.0, Micro HDMI, Micro SD Card และ Micro Sim ที่รองรับมาตรฐาน 4G LTE เลยทีเดียว สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมาให้ด้วย พร้อมกับกล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยกล้องหลังมีการใส่เทคโนโลยี RealSense เข้ามาด้วย และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro 64 บิต ลิขสิทธิ์แท้

สามารถรับชมสเปก เต็มๆของ Lenovo MIIX 700 ได้ที่นี่ครับ (สเปกจะเป็นของเครื่องที่ขายจริงนะครับ)

Lenovo MIIX 700 สเปกและราคาที่จำหน่ายในไทย

Core M5-6Y54/ SSD 128 GB/ RAM 4 GB                   ราคา  39,900 บาท

Core M5-6Y54/ SSD 256 GB/ RAM 8 GB                   ราคา  49,990 บาท

* สำหรับรุ่นที่รีวิวนั้นเป็นเครื่อง Demo เท่านั้น ยังไม่มีวางจำหน่ายครับ

Hardware / Design

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo MIIX 700 นั้น เป็นการออกแบบในลักษณะของแท็บเล็ต 2 in 1 โดยมีลักษณะที่ไม่ได้แตกต่างจาก MIIX รุ่นก่อนอย่างสิ้นเชิงนัก โดยยังมีการคงลักษณะเป็นแบบที่สามารถถอดได้ ซึ่งนับว่าค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว โดยตัวคีย์บอร์ดแบบ Folio Case และตัวของแท็บเล็ตหรือหน้าจอนั้นสามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยแม่เหล็ก ซึ่งมีความไวที่สูงมาก เพราะจากการใช้งานเมื่อผู้ใช้นำตัวคีย์บอร์ดเข้าใกล้กับตัวแท็บเล็ตในจุดเชื่อมต่อ ตัวอุปกรณ์ทั้งสองอย่างก็จะเชื่อมต่อกันทันที และสำหรับใครที่กังวลว่าตัวคีย์บอร์ดที่เชื่อมต่อนั้นจะหลุดง่าย บอกได้เลยครับว่าไม่ต้องกังวล เพราะในเวลาที่จะถอดคีย์บอร์ดออกนั้นต้องใช้แรงพอสมควรเลยทีเดียว ในส่วนของอะแดปเตอร์ที่ชาร์จก็ยังคงทำได้ดีด้วยการชาร์จผ่านพอร์ต USB พร้อมทั้งในเวลาที่ไม่ได้ชาร์จยังสามารถใช้เป็นที่เสียบปากกาได้อีกด้วย ถือว่าทำออกมาได้ดีจริงๆ

สำหรับฐานตั้งหน้าจอของ Lenovo MIIX 700 นั้นทาง Lenovo ยืนยันว่าแข็งแรงและทนทาน ซึ่งในจุดนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นทีเดียว โดยผู้ใช้งานสามารถที่จะทำการตั้งหน้าจอให้ทำมุมมากหรือน้อยได้ตามความต้องการ เพราะตัวบานพับนั้นมีลักษณะเป็นบานพับสายนาฬิกาข้อมือสวิสซึ่งใช้วัสดุเป็นโลหะแมกนีเซียม ซึ่งให้อารมณ์ถึงความเป็นพรีเมี่ยมและดูหรูหรามากทีเดียว เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับการใช้งานด้วยในรูปแบบหรือสไตล์ในการทำงานต่างๆ ซึ่งจะใช้เป็นแท็บเล็ตก็ได้หรือจะต่อกับคีย์บอร์ดเป็นโน๊ตบุ๊คก็ได้เช่นกัน

สำหรับที่ชาร์จของ Lenovo MIIX 700 นั้นจะมีขนาดเล็กพอสมควร เนื่องจากว่าสเปกภายในของตัวเครื่องไม่ค่อยกินพลังงานเท่าไหร่ จะเห็นได้ว่าพอร์ตที่ใช้สำหรับการชาร์จนั้นจะเป็น USB 2.0 และพอร์ตนี้เองก็สามารถใช้เสียบตัว Active Pen ได้อีกด้วย เรียกได้ว่า Lenovo MIIX 700 เป็นแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานอย่างครบครันในระดับนึงเลยทีเดียว และยังสามารถช่วยสร้างความสะดวกสบายอีกขั้นในการใช้งานรูปแบบแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อคนทำงานที่ต้องการความคล่องตัว

Keyboard / Touchpad

สำหรับเรื่องของตัวคีย์บอร์ดนั้น Lenovo ค่อนข้างมีชื่อในเรื่องนี้ที่ดีทีเดียว และสำหรับบน Lenovo MIIX 300 นั้นจะค่อนข้างเล็กและมีการขาดหายไปของตัวปุ่มฟังก์ชัน แต่สำหรับบน Lenovo MIIX 700  ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดแบบ Folio Case นั้นกลับมาด้วยแป้นพิมพ์หกแถวที่มาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชัน  ซึ่งดูเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด เพียงแต่ลักษณะของตัวปุ่มกดอาจไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก แต่ตัวปุ่มก็สามารถรองรับกับนิ้วมือได้เป็นอย่างดี (สำหรับตัวที่ได้มารีวิวนั้นเป็นคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษเท่านั้น) แต่สำหรับรุ่นที่มีวางขายในขณะนี้จะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดภาษาไทย สิ่งหนึ่งที่แอบเสียดายคือ ไม่มีแสงไฟที่คีย์บอร์ด  ซึ่งอาจทำให้เกิดความลำบากเล็กน้อยเมื่อต้องทำงานในที่แสงสว่างน้อย แต่ทั้งนี้แล้วทาง Lenovo คงคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะถ้าต้องใช้งานในพื้นที่แสงสว่างน้อยก็สามารถปรับไปใช้งานในโหมดแท็บเล็ตได้นั่นเอง

ทัชแพตมีขนาดที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไปสำหรับแท็บเล็ต 2 in 1 ขนาด 12 นิ้ว ผิวสัมผัสเป็นแบบยางกึ่งพลาสติกแบบด้านสีดำเข้ากับตัวคีย์บอร์ด รองรับการทำงานแบบมัลติทัช  โดยเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดไม่มีการแยกปุ่มกดคลิกซ้ายและขวา ในการใช้งานในบางครั้งหากผู้ใช้เป็นคนที่มีนิ้วมือที่ใหญ่อาจจะใช้ไม่ค่อยถนัดนัก เพราะตัวทัชแพดไม่ได้กว้างเหมือนกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป สำหรับในเรื่องของกรตอบสนองนั้นสามารถทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการคลิก การดับเบิลคลิก หรือแม้แต่การเลื่อนสกอร์บาร์ต่างๆก็สามารถทำได้ลื่นไหลและไวในระดับที่ควรจะเป็น

Screen / Speaker

ในส่วนของหน้าจอแสดงผลของ Lenovo MIIX 700 ต้องบอกว่ามีความสวยงามสมจริงแบบสุดๆ พร้อมทั้งยังให้มุมมองที่กว้าง บนขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว แบบ IPS พาเนล ที่มีความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล บนสัดส่วน 3:2 ซึ่งเป็นความละเอียดที่สูง ทำให้มีความเรียบเนียนตากว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปโดยเหมาะกับการทำงานแน่นอนที่สุด อีกทั้งหน้าจอยังเป็นแบบทัชกรีน  ป้องกันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกับรองรับการทำงานร่วมกับปากกา Lenovo Active Pen ด้วย  ไม่ต้องกลัวเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย แต่ด้วยความที่เป็นหน้าจอแบบกระจกในบางครั้งที่ต้องใช้ในบริเวณพื้นที่ที่มีแสงสว่างมาก อาจทำให้เกิดการสะท้อนได้ง่าย อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการติดฟิล์มเข้ามาช่วย

ด้านของลำโพงนั้นเป็นแบบสเตอริโอ และถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านซ้าย-ขวาบนขอบของตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียง ด้วยความที่เสียงเป็นของ Dolby Advance Audio certification ซึ่งสามารถไว้ใจได้เลยในระดับนึง ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแล้วครับ

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อของเครื่อง Lenovo MIIX 700 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีการออกมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดเล็ก พร้อมกับขนาดความบางและน้ำหนักที่เบา แต่ก็ยังให้พอร์ตมาเพียงพอต่อการใช้งาน เริ่มตั้งแต่ พอร์ต USB 2.0 เป็นช่องสำหรับจ่ายไฟให้กับตัวเครื่อง, USB 3.0 ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟ หรือแม้กระทั่ง External Harddisk ก็ตาม  นอกจากนี้ยังมี Micro HDMI สำหรับเชื่อมต่อภายนอก, Micro SD Card Reader เป็นมาตรฐานสำหรับการอ่านข้อมูล หรือไว้สำหรับใช้เพิ่มความจุของตัวเครื่องก็สามารถทำได้ รวมไปถึงในรุ่นที่ได้รีวิวนั้นยังมีช่องสำหรับใส่ Micro Sim ที่รองรับมาตรฐาน 4G LTE สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในบริเวณที่ไม่สามารถใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจาก WIFI ได้พร้อมทั้งช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 นิ้ว แบบคอมโมที่ด้านบนข้างตัวแท็บเล็ตอีกด้วย

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ  เมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook ทั่วๆไปถือว่ามีขนาดที่เล็กกว่ามากพอสมควร โดยมีขนาดอยู่ที่ 292 x 8.95 x 210 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักของตัวเครื่องเปล่านั้นจะอยู่ที่ 780 กรัม ส่วนตัวคีย์บอร์ดจะอยู่ที่ 330 กรัม เมื่อรวมกันแล้วน้ำหนักก็จะประมาณ 1 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่ามีน้ำหนักเบามากๆ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นแท็บเล็ตที่เหมาะกับสังคมในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง

Lenovo Active Pen

เนื่องมาจากการที่ Lenovo MIIX 700 เป็นแท็บเล็ตที่มีหน้าจอแสดงผลเป็นแบบทัชสกรีน  ทำให้นอกเหนือจากที่เราสามารถใช้นิ้วหรือเมาส์เป็นตัวสั่งงานได้แล้ว ตัว Lenovo MIIX 700 ยังรองรับ Lenovo Active Pen ซึ่งเป็นปากกาที่มีลักษณะใกล้เคียงกับปากกาของแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ทั่วไป ส่วนที่ตัวของปลายปากกาด้านบน มีการสกรีนโลโก้ของ Lenovo ไว้อย่างชัดเจน ตัวปากกานั้นมีการตอบสนองที่ไวต่อแรงกดในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว ทำเวลาใช้งานจะมีความรู้สึกว่าเหมือนได้ใช้ปากกาจริงๆ  โดยที่ตัวปากกาจะมีปุ่มสำหรับกดเพื่อเป็นยางลบในตัวด้วยเช่นกัน ส่วนน้ำหนักของตัวปากกาจะอยู่ที่ 18.3 กรัม พร้อมกับใช้แบตเตอรี่จากถ่านขนาด AAAA จำนวน 1 ก้อน ต้องยกเครดิตให้กับทาง Lenovo เลยจริงๆ เพราะตัวปากกานี้จะมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่จำเป็นต้องทำงานที่มีความละเอียดสูง หรือในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัดก็ตาม เช่น การวาดภาพที่ต้องการลายเส้น หรือการสเก็ตรูป ตัวปากกาก็สามารถตอบสนองได้เป็นอย่างดี

Performance / Software

Lenovo MIIX 700 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core m7-6Y75 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.10 GHz มีการทำงานป็นแบบ 2 คอร์ 4 เธรด ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้พวกตระกูล Core i ในซีรีย์ U ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8 GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบลื่นๆเลยครับ

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 515 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้ในระดับนึง หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งโดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน เพราะตัวของกราฟฟิกการ์ดเองก็แสดงให้เห็นว่าสามารถรองรับการทำงานกับหน้าจอที่มีความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหาเลยทีเดียว

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส M รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลทั่วไป ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

ตัวเก็บข้อมูลของ Lenovo MIIX 700 ได้เลือกใช้ตัวเก็บข้อมูลแบบ SSD ซึ่งก็สามารถทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256 GB ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงความแตกต่างของประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านของการใช้งานจริงได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

สำหรับ Street Fighter 4 ที่ตั้งค่าเป็น Default บนความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ก็สามารถพอที่จะเล่นได้ในระดับนึง  โดยได้คะแนนอยู่ที่ 8559 คะแนนด้วยกัน มีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 43.25 FPS ด้วยกัน ทำให้ได้ระดับ Rank C ทั้งนี้ผลคะแนนอาจดูต่ำไปบ้าง  อาจเป็นเพราะตัวเครื่องที่ใช้ในการรีวิวนั้นเป็นเพียงเครื่อง Demo ซึ่งจากการทดสอบสำหรับเกมที่ไม่ได้กินทรัพยากรมากมายอะไร ถือได้ว่าพอจะเล่นได้ ดังนั้น Lenovo MIIX 700 เครื่องนี้ก็พร้อมตอบสนองความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี

Battery / Heat / Noise

สำหรับแบตเตอรี่ของ Lenovo MIIX 700 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับ Ultrabook ทั่วๆไป ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 4 Cells 40 WHr ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 9 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน

อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และเมื่อรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดประมาณ 60 องศาเซลเซียสซึ่งสูงพอสมควร อาจเป็นเพราะตัวบอดี้นั้นทำมาจากวัสดุคล้ายกับโลหะ แต่จากการทดลองใช้งานจริง ถึงแม้ว่าเมื่อเครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพจะมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่มีอาการค้าง หรือกระตุกเวลาทำงานแต่อย่างใด  แสดงให้เห็นว่าทาง  Lenovo  ได้ทำการออกแบบมาได้เป็นอย่างดีแล้ว    เพราะสำหรับเครื่องที่ใช้ชิปประมวลผล  Core M ส่วนมากก็จะไม่มีการใส่พัดลมในระบบระบายความร้อนมาเช่นกัน จึงไม่มีอะไรที่น่ากังวลสำหรับในเรื่องของอุณหภูมิของเครื่อง

Conclusion / Award

จากการที่ได้สัมผัสและทดลองใช้งานตัวจริงของ Lenovo MIIX 700 จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนามาจาก Lenovo ตระกูล MIIX รุ่นก่อนหน้าอยู่มากพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จมาแล้วพอตัว โดยจุดเด่นที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาในครั้งนี้คงเป็นในเรื่องของตัวฐานตั้งซึ่งมีการออกแบบให้ดูสวยงาม หรูหรา และพรีเมี่ยมขึ้น พร้อมทั้งเมื่อใช้งานจริงก็ยังสามารถให้ได้ถึงความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งในส่วนของปากา Active Pen ที่สามารถเขียนและลบได้ในหัวเดียวกัน  และที่สำคัญไม่แพ้กันคือการใช้หน้าจอที่มีความละเอียดสูงซึ่งทำให้มีมุมมองการใช้งานที่กว้างมากขึ้นอย่างชัดเจน รวมไปถึงการใส่กล้องที่มีระบบออโต้โฟกัสเข้ามา ยิ่งเป็นย้ำชัดตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบในปัจจุบันได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าทุกอย่างสามารถเสร็จได้ภายในเครื่องเดียวประมาณนั้น

Lenovo MIIX 700 ถือเป็นแท็บเล็ตที่กำลังมาแรงในยุคของแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ยิ่งด้วยเป็นแบรนด์ของ Lenovo ซึ่งโลดแล่นอยู่ในแวดวงไอทีมาเป็นเวลานาน ยิ่งทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า Lenovo MIIX 700 จะสามารถตอบโจทย์การทำงานได้สมคำร่ำลืออย่างแน่นอนทีเดียว โดยสำหรับ Lenovo MIIX 700 นั้น ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ซึ่งราคาก็อาจแตกต่างกันไปตามสเปกของตัวเครื่อง สนนราคาเริ่มต้นที่ 33,990 บาท พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ตามร้านตัวแทนจำหน่ายอย่าง BaNANA IT, IT City, Advice และ Blue Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ (บางสาขาอาจจะต้องสั่ง แล้วรอสินค้าอีกที)

 

เอาเป็นว่าใครอยากได้แท็บเล็ตที่แปลงเป็นโน๊ตบุ๊คได้อย่างสมบูรณ์แล้วล่ะก็ Lenovo MIIX 700 อาจเป็นตัวเลือกแรกๆ ของทุกคนอย่างแน่นอน

Lenovo MIIX 700 สเปกและราคาที่จำหน่ายในไทย

Core M5-6Y54/ SSD 128 GB/ RAM 4 GB                   ราคา  39,900 บาท

Core M5-6Y54/ SSD 256 GB/ RAM 8 GB                   ราคา  49,990 บาท

จุดเด่น

• ตัวเครื่องที่มีความบางและเบามาก
• หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ 2160 x 1440 พิกเซล (2K)
• พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง มีความสวยงามสมจริง และให้มุมมองที่กว้าง
• วัสดุแข็งแรงทนทาน ดูสสวยหรู
• ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel Core M รุ่นล่าสุด และ SSD ความเร็วสูง
• พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่าง USB 3.0 ตัวเต็ม
• มาพร้อม Windows 10 Pro  ลิขสิทธิ์ ใช้งานได้ทันที
• เป็นแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คได้ในหนึ่งเดียว
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 9 ชั่วโมง
• Docking Keyboard ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร

ข้อสังเกตุ

• ราคาสูงกว่า Ultrabook และแท็บเล็ต Windows 10 ทั่วไป
• ตัวคีย์บอร์ด ไม่มีไฟแสดงผล

Specification

ในเรื่องของสเปก Lenovo MIIX 700 นั้น จะจัดอยู่ในกลุ่มของแท็บเล็ตพีซีแบบ 2-in-1 สำหรับเครื่องที่ได้มารีวิว เป็นเครื่องที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core m7-6Y75 ความเร็ว 1.2 GHz และสามารถเร่งความเร็วการทำงานได้สูงสุดที่ 3.1 GHz (Turbo Boost) เป็นชิปประมวลผลเน้นการกินพลังงานที่ต่ำมาก แต่ไม่ลดทอนในเรื่องของประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธรด ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR3L ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดนั้นเป็นแบบออนบอร์ด Intel HD Graphics 515 ที่เรียกได้ว่าใหม่กว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ในส่วนของฮาร์ดดิสก์นั้นยังมีความจุถึง 256 GB โดยเป็นแบบ M.2 SSD ที่มีความเร็วสูง และเนื้อที่เพียงพอต่อการใช้งาน  มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 12 นิ้วแบบสัมผัส กันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass และความละเอียดสูงถึง 2160 x 1440 พิกเซล สัดส่วนเป็น 3:2 หรือ พาเนลคุณภาพสูงแบบ IPS ซึ่งให้สีสันที่ดูสมจริง และมุมมองที่กว้าง

ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานที่ใกล้เคียงกับ Ultrabook ที่จัดว่าให้ค่อนข้างครบทั้ง USB 2.0, USB 3.0, Micro HDMI, Micro SD Card และ Micro Sim ที่รองรับมาตรฐาน 4G LTE เลยทีเดียว สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมาให้ด้วย พร้อมกับกล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยกล้องหลังมีการใส่เทคโนโลยี RealSense เข้ามาด้วย และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro 64 บิต ลิขสิทธิ์แท้

สามารถรับชมสเปก เต็มๆของ Lenovo MIIX 700 ได้ที่นี่ครับ (สเปกจะเป็นของเครื่องที่ขายจริงนะครับ)

Lenovo MIIX 700 สเปกและราคาที่จำหน่ายในไทย

Core M5-6Y54/ SSD 128 GB/ RAM 4 GB                   ราคา  39,900 บาท

Core M5-6Y54/ SSD 256 GB/ RAM 8 GB                   ราคา  49,990 บาท

* สำหรับรุ่นที่รีวิวนั้นเป็นเครื่อง Demo เท่านั้น ยังไม่มีวางจำหน่ายครับ

Hardware / Design

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo MIIX 700 นั้น เป็นการออกแบบในลักษณะของแท็บเล็ต 2 in 1 โดยมีลักษณะที่ไม่ได้แตกต่างจาก MIIX รุ่นก่อนอย่างสิ้นเชิงนัก โดยยังมีการคงลักษณะเป็นแบบที่สามารถถอดได้ ซึ่งนับว่าค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว โดยตัวคีย์บอร์ดแบบ Folio Case และตัวของแท็บเล็ตหรือหน้าจอนั้นสามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยแม่เหล็ก ซึ่งมีความไวที่สูงมาก เพราะจากการใช้งานเมื่อผู้ใช้นำตัวคีย์บอร์ดเข้าใกล้กับตัวแท็บเล็ตในจุดเชื่อมต่อ ตัวอุปกรณ์ทั้งสองอย่างก็จะเชื่อมต่อกันทันที และสำหรับใครที่กังวลว่าตัวคีย์บอร์ดที่เชื่อมต่อนั้นจะหลุดง่าย บอกได้เลยครับว่าไม่ต้องกังวล เพราะในเวลาที่จะถอดคีย์บอร์ดออกนั้นต้องใช้แรงพอสมควรเลยทีเดียว ในส่วนของอะแดปเตอร์ที่ชาร์จก็ยังคงทำได้ดีด้วยการชาร์จผ่านพอร์ต USB พร้อมทั้งในเวลาที่ไม่ได้ชาร์จยังสามารถใช้เป็นที่เสียบปากกาได้อีกด้วย ถือว่าทำออกมาได้ดีจริงๆ

สำหรับฐานตั้งหน้าจอของ Lenovo MIIX 700 นั้นทาง Lenovo ยืนยันว่าแข็งแรงและทนทาน ซึ่งในจุดนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นทีเดียว โดยผู้ใช้งานสามารถที่จะทำการตั้งหน้าจอให้ทำมุมมากหรือน้อยได้ตามความต้องการ เพราะตัวบานพับนั้นมีลักษณะเป็นบานพับสายนาฬิกาข้อมือสวิสซึ่งใช้วัสดุเป็นโลหะแมกนีเซียม ซึ่งให้อารมณ์ถึงความเป็นพรีเมี่ยมและดูหรูหรามากทีเดียว เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับการใช้งานด้วยในรูปแบบหรือสไตล์ในการทำงานต่างๆ ซึ่งจะใช้เป็นแท็บเล็ตก็ได้หรือจะต่อกับคีย์บอร์ดเป็นโน๊ตบุ๊คก็ได้เช่นกัน

สำหรับที่ชาร์จของ Lenovo MIIX 700 นั้นจะมีขนาดเล็กพอสมควร เนื่องจากว่าสเปกภายในของตัวเครื่องไม่ค่อยกินพลังงานเท่าไหร่ จะเห็นได้ว่าพอร์ตที่ใช้สำหรับการชาร์จนั้นจะเป็น USB 2.0 และพอร์ตนี้เองก็สามารถใช้เสียบตัว Active Pen ได้อีกด้วย เรียกได้ว่า Lenovo MIIX 700 เป็นแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานอย่างครบครันในระดับนึงเลยทีเดียว และยังสามารถช่วยสร้างความสะดวกสบายอีกขั้นในการใช้งานรูปแบบแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อคนทำงานที่ต้องการความคล่องตัว

Keyboard / Touchpad

สำหรับเรื่องของตัวคีย์บอร์ดนั้น Lenovo ค่อนข้างมีชื่อในเรื่องนี้ที่ดีทีเดียว และสำหรับบน Lenovo MIIX 300 นั้นจะค่อนข้างเล็กและมีการขาดหายไปของตัวปุ่มฟังก์ชัน แต่สำหรับบน Lenovo MIIX 700  ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดแบบ Folio Case นั้นกลับมาด้วยแป้นพิมพ์หกแถวที่มาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชัน  ซึ่งดูเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด เพียงแต่ลักษณะของตัวปุ่มกดอาจไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก แต่ตัวปุ่มก็สามารถรองรับกับนิ้วมือได้เป็นอย่างดี (สำหรับตัวที่ได้มารีวิวนั้นเป็นคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษเท่านั้น) แต่สำหรับรุ่นที่มีวางขายในขณะนี้จะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดภาษาไทย สิ่งหนึ่งที่แอบเสียดายคือ ไม่มีแสงไฟที่คีย์บอร์ด  ซึ่งอาจทำให้เกิดความลำบากเล็กน้อยเมื่อต้องทำงานในที่แสงสว่างน้อย แต่ทั้งนี้แล้วทาง Lenovo คงคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะถ้าต้องใช้งานในพื้นที่แสงสว่างน้อยก็สามารถปรับไปใช้งานในโหมดแท็บเล็ตได้นั่นเอง

ทัชแพตมีขนาดที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไปสำหรับแท็บเล็ต 2 in 1 ขนาด 12 นิ้ว ผิวสัมผัสเป็นแบบยางกึ่งพลาสติกแบบด้านสีดำเข้ากับตัวคีย์บอร์ด รองรับการทำงานแบบมัลติทัช  โดยเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดไม่มีการแยกปุ่มกดคลิกซ้ายและขวา ในการใช้งานในบางครั้งหากผู้ใช้เป็นคนที่มีนิ้วมือที่ใหญ่อาจจะใช้ไม่ค่อยถนัดนัก เพราะตัวทัชแพดไม่ได้กว้างเหมือนกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป สำหรับในเรื่องของกรตอบสนองนั้นสามารถทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการคลิก การดับเบิลคลิก หรือแม้แต่การเลื่อนสกอร์บาร์ต่างๆก็สามารถทำได้ลื่นไหลและไวในระดับที่ควรจะเป็น

Screen / Speaker

ในส่วนของหน้าจอแสดงผลของ Lenovo MIIX 700 ต้องบอกว่ามีความสวยงามสมจริงแบบสุดๆ พร้อมทั้งยังให้มุมมองที่กว้าง บนขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว แบบ IPS พาเนล ที่มีความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล บนสัดส่วน 3:2 ซึ่งเป็นความละเอียดที่สูง ทำให้มีความเรียบเนียนตากว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปโดยเหมาะกับการทำงานแน่นอนที่สุด อีกทั้งหน้าจอยังเป็นแบบทัชกรีน  ป้องกันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกับรองรับการทำงานร่วมกับปากกา Lenovo Active Pen ด้วย  ไม่ต้องกลัวเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย แต่ด้วยความที่เป็นหน้าจอแบบกระจกในบางครั้งที่ต้องใช้ในบริเวณพื้นที่ที่มีแสงสว่างมาก อาจทำให้เกิดการสะท้อนได้ง่าย อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการติดฟิล์มเข้ามาช่วย

ด้านของลำโพงนั้นเป็นแบบสเตอริโอ และถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านซ้าย-ขวาบนขอบของตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียง ด้วยความที่เสียงเป็นของ Dolby Advance Audio certification ซึ่งสามารถไว้ใจได้เลยในระดับนึง ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแล้วครับ

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อของเครื่อง Lenovo MIIX 700 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีการออกมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดเล็ก พร้อมกับขนาดความบางและน้ำหนักที่เบา แต่ก็ยังให้พอร์ตมาเพียงพอต่อการใช้งาน เริ่มตั้งแต่ พอร์ต USB 2.0 เป็นช่องสำหรับจ่ายไฟให้กับตัวเครื่อง, USB 3.0 ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟ หรือแม้กระทั่ง External Harddisk ก็ตาม  นอกจากนี้ยังมี Micro HDMI สำหรับเชื่อมต่อภายนอก, Micro SD Card Reader เป็นมาตรฐานสำหรับการอ่านข้อมูล หรือไว้สำหรับใช้เพิ่มความจุของตัวเครื่องก็สามารถทำได้ รวมไปถึงในรุ่นที่ได้รีวิวนั้นยังมีช่องสำหรับใส่ Micro Sim ที่รองรับมาตรฐาน 4G LTE สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในบริเวณที่ไม่สามารถใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจาก WIFI ได้พร้อมทั้งช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 นิ้ว แบบคอมโมที่ด้านบนข้างตัวแท็บเล็ตอีกด้วย

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ  เมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook ทั่วๆไปถือว่ามีขนาดที่เล็กกว่ามากพอสมควร โดยมีขนาดอยู่ที่ 292 x 8.95 x 210 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักของตัวเครื่องเปล่านั้นจะอยู่ที่ 780 กรัม ส่วนตัวคีย์บอร์ดจะอยู่ที่ 330 กรัม เมื่อรวมกันแล้วน้ำหนักก็จะประมาณ 1 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่ามีน้ำหนักเบามากๆ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นแท็บเล็ตที่เหมาะกับสังคมในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง

Lenovo Active Pen

เนื่องมาจากการที่ Lenovo MIIX 700 เป็นแท็บเล็ตที่มีหน้าจอแสดงผลเป็นแบบทัชสกรีน  ทำให้นอกเหนือจากที่เราสามารถใช้นิ้วหรือเมาส์เป็นตัวสั่งงานได้แล้ว ตัว Lenovo MIIX 700 ยังรองรับ Lenovo Active Pen ซึ่งเป็นปากกาที่มีลักษณะใกล้เคียงกับปากกาของแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ทั่วไป ส่วนที่ตัวของปลายปากกาด้านบน มีการสกรีนโลโก้ของ Lenovo ไว้อย่างชัดเจน ตัวปากกานั้นมีการตอบสนองที่ไวต่อแรงกดในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว ทำเวลาใช้งานจะมีความรู้สึกว่าเหมือนได้ใช้ปากกาจริงๆ  โดยที่ตัวปากกาจะมีปุ่มสำหรับกดเพื่อเป็นยางลบในตัวด้วยเช่นกัน ส่วนน้ำหนักของตัวปากกาจะอยู่ที่ 18.3 กรัม พร้อมกับใช้แบตเตอรี่จากถ่านขนาด AAAA จำนวน 1 ก้อน ต้องยกเครดิตให้กับทาง Lenovo เลยจริงๆ เพราะตัวปากกานี้จะมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่จำเป็นต้องทำงานที่มีความละเอียดสูง หรือในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัดก็ตาม เช่น การวาดภาพที่ต้องการลายเส้น หรือการสเก็ตรูป ตัวปากกาก็สามารถตอบสนองได้เป็นอย่างดี

Performance / Software

Lenovo MIIX 700 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core m7-6Y75 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.10 GHz มีการทำงานป็นแบบ 2 คอร์ 4 เธรด ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้พวกตระกูล Core i ในซีรีย์ U ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8 GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบลื่นๆเลยครับ

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 515 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้ในระดับนึง หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งโดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน เพราะตัวของกราฟฟิกการ์ดเองก็แสดงให้เห็นว่าสามารถรองรับการทำงานกับหน้าจอที่มีความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหาเลยทีเดียว

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส M รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลทั่วไป ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

ตัวเก็บข้อมูลของ Lenovo MIIX 700 ได้เลือกใช้ตัวเก็บข้อมูลแบบ SSD ซึ่งก็สามารถทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256 GB ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงความแตกต่างของประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านของการใช้งานจริงได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

สำหรับ Street Fighter 4 ที่ตั้งค่าเป็น Default บนความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ก็สามารถพอที่จะเล่นได้ในระดับนึง  โดยได้คะแนนอยู่ที่ 8559 คะแนนด้วยกัน มีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 43.25 FPS ด้วยกัน ทำให้ได้ระดับ Rank C ทั้งนี้ผลคะแนนอาจดูต่ำไปบ้าง  อาจเป็นเพราะตัวเครื่องที่ใช้ในการรีวิวนั้นเป็นเพียงเครื่อง Demo ซึ่งจากการทดสอบสำหรับเกมที่ไม่ได้กินทรัพยากรมากมายอะไร ถือได้ว่าพอจะเล่นได้ ดังนั้น Lenovo MIIX 700 เครื่องนี้ก็พร้อมตอบสนองความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี

Battery / Heat / Noise

สำหรับแบตเตอรี่ของ Lenovo MIIX 700 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับ Ultrabook ทั่วๆไป ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 4 Cells 40 WHr ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 9 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน

อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และเมื่อรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดประมาณ 60 องศาเซลเซียสซึ่งสูงพอสมควร อาจเป็นเพราะตัวบอดี้นั้นทำมาจากวัสดุคล้ายกับโลหะ แต่จากการทดลองใช้งานจริง ถึงแม้ว่าเมื่อเครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพจะมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่มีอาการค้าง หรือกระตุกเวลาทำงานแต่อย่างใด  แสดงให้เห็นว่าทาง  Lenovo  ได้ทำการออกแบบมาได้เป็นอย่างดีแล้ว    เพราะสำหรับเครื่องที่ใช้ชิปประมวลผล  Core M ส่วนมากก็จะไม่มีการใส่พัดลมในระบบระบายความร้อนมาเช่นกัน จึงไม่มีอะไรที่น่ากังวลสำหรับในเรื่องของอุณหภูมิของเครื่อง

Conclusion / Award

จากการที่ได้สัมผัสและทดลองใช้งานตัวจริงของ Lenovo MIIX 700 จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนามาจาก Lenovo ตระกูล MIIX รุ่นก่อนหน้าอยู่มากพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จมาแล้วพอตัว โดยจุดเด่นที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาในครั้งนี้คงเป็นในเรื่องของตัวฐานตั้งซึ่งมีการออกแบบให้ดูสวยงาม หรูหรา และพรีเมี่ยมขึ้น พร้อมทั้งเมื่อใช้งานจริงก็ยังสามารถให้ได้ถึงความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งในส่วนของปากา Active Pen ที่สามารถเขียนและลบได้ในหัวเดียวกัน  และที่สำคัญไม่แพ้กันคือการใช้หน้าจอที่มีความละเอียดสูงซึ่งทำให้มีมุมมองการใช้งานที่กว้างมากขึ้นอย่างชัดเจน รวมไปถึงการใส่กล้องที่มีระบบออโต้โฟกัสเข้ามา ยิ่งเป็นย้ำชัดตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบในปัจจุบันได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าทุกอย่างสามารถเสร็จได้ภายในเครื่องเดียวประมาณนั้น

Lenovo MIIX 700 ถือเป็นแท็บเล็ตที่กำลังมาแรงในยุคของแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ยิ่งด้วยเป็นแบรนด์ของ Lenovo ซึ่งโลดแล่นอยู่ในแวดวงไอทีมาเป็นเวลานาน ยิ่งทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า Lenovo MIIX 700 จะสามารถตอบโจทย์การทำงานได้สมคำร่ำลืออย่างแน่นอนทีเดียว โดยสำหรับ Lenovo MIIX 700 นั้น ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ซึ่งราคาก็อาจแตกต่างกันไปตามสเปกของตัวเครื่อง สนนราคาเริ่มต้นที่ 33,990 บาท พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ตามร้านตัวแทนจำหน่ายอย่าง BaNANA IT, IT City, Advice และ Blue Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ (บางสาขาอาจจะต้องสั่ง แล้วรอสินค้าอีกที)

 

เอาเป็นว่าใครอยากได้แท็บเล็ตที่แปลงเป็นโน๊ตบุ๊คได้อย่างสมบูรณ์แล้วล่ะก็ Lenovo MIIX 700 อาจเป็นตัวเลือกแรกๆ ของทุกคนอย่างแน่นอน

Lenovo MIIX 700 สเปกและราคาที่จำหน่ายในไทย

Core M5-6Y54/ SSD 128 GB/ RAM 4 GB                   ราคา  39,900 บาท

Core M5-6Y54/ SSD 256 GB/ RAM 8 GB                   ราคา  49,990 บาท

จุดเด่น

• ตัวเครื่องที่มีความบางและเบามาก
• หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ 2160 x 1440 พิกเซล (2K)
• พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง มีความสวยงามสมจริง และให้มุมมองที่กว้าง
• วัสดุแข็งแรงทนทาน ดูสสวยหรู
• ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel Core M รุ่นล่าสุด และ SSD ความเร็วสูง
• พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่าง USB 3.0 ตัวเต็ม
• มาพร้อม Windows 10 Pro  ลิขสิทธิ์ ใช้งานได้ทันที
• เป็นแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คได้ในหนึ่งเดียว
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 9 ชั่วโมง
• Docking Keyboard ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร

ข้อสังเกตุ

• ราคาสูงกว่า Ultrabook และแท็บเล็ต Windows 10 ทั่วไป
• ตัวคีย์บอร์ด ไม่มีไฟแสดงผล