ถือว่าพูดถึงเรื่องรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติที่น่าตกใจพอควรครับกับนักศีลธรรมชาวแคนาดาที่ห่วงในเรื่องของศีลธรรมอันดีของโลก(ซึ่งผมคิดว่าน่าจะมีแค่ประเทศเท่าเท่านั้นซะอีกนะเนี่ย) ว่าถ้าเกิดโลกเราเริ่มมีการนำรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติมาใช้งานกันเรื่อยๆ มากขึ้นในอนาคตแล้วหล่ะก็ แทนที่ผู้คนจะต้องคอยห่วงกับการขับขี่รถยนต์ให้ปลอดภัยทว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นจะ จะ จะ …. “มีเพศสัมพันธ์” กันบนรถมากกว่าเดิมและขณะที่รถกำลังขับเคลื่อนด้วย(เพราะเป็นการสร้างประสบการณ์อันแปลกใหม่) ครับ
ตัวอย่างรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติของทาง Google
ความห่วงใยดังกล่าวนี้ออกมาจากปากของผู้อำนวยการบริหารประจำ Canadian Automated Vehicles Center of Excellence นาม Barrie Kirk ซึ่งได้พูดออกสื่อผ่านทาง Canadian Broadcasting Corporation ว่าตัวเขาเองนั้นคาดไว้เลยหล่ะครับว่าถ้ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติเริ่มมีใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ผู้คนที่อยู่ในรถจะมีเซ็กส์กันไปแทนที่จะห่วงใยดูท้องถนน
แถมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่งของแคนาดาอย่าง Marc Garneau ยังได้ออกมาตอบรับกับแนวคิดเรื่องดังกล่าวด้วยอีกต่างหากว่าการที่ผู้ขับรถอยู่บนรถยนต์นั้นก็ควรที่จะต้องสนใจท้องถนน ไม่ใช่สนใจในการแสดงความรักต่อกันซึ่งหากจะว่าไปแล้วในปัจจุบันนั้นในต่างประเทศ(ที่ค่อนข้างเปิดเผยเรื่องนี้กว่าไทย) ก็มีการแสดงความรักกันบนรถให้เห็นบ่อยๆ แต่ไม่ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กันบนรถขณะที่กำลังขับรถครับ
อีกหนึ่งในดีไซน์ของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติของทาง Google
ในกรณีดังกล่าวนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้เลยครับกับขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติ(โดยเฉพาะดีไซน์จากทาง Google) ซึ่งรถยนต์ต้นแบบนั้นมีขนาดเล็กไม่ได้ใหญ่มากนักทำให้ยังไงก็คงจะไม่มีพื้นที่พอที่จะให้ผู้โดยสารที่อยู่ภายในมีเพศสัมพันธ์กันได้อย่างแน่นอนแต่ทว่าถ้าในอนาคตมีดีไซน์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติแบบทางข้างล่างนี่ก็ไม่แน่ครับ
เอาเป็นว่าเรื่องดังกล่าวนี้คงจะต้องติดตามดูกันต่อไปครับเพราะทาง CBC เองก็ได้เสนอออกมาว่าผู้ผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติไม่ว่าจะค่ายไหนก็ตามควรที่จะต้องมีการติดตั้งติดตั้งกล่อง “Black Box” เอาไว้ด้วย …. ให้บันทึกทุกเสียงสนทนาเหมือนกับบนเครื่องบินเพราะจากการตรวจสอบนั้นรถยนต์ที่มาพร้อมระบบ autopilot บางรุ่น อย่าง Tesla, the Mercedes C-Class และ Infiniti Q50 นั้นก็มีผู้ขับขี่บางคนใช้ระบบดังกล่าวแล้วทำอะไรกันบนรถยนต์ด้วยครับ
ที่มา : theregister