Smart Connector ของทาง Apple นั้นเปิดตัวออกมาพร้อมกับ iPad Pro 12.9″ เมื่อปีที่แล้วครับ และดูจากท่าทางของทาง Apple ที่นำเอา Smart Connector มาใช่บน iPad Pro 9.7″ ด้วยนั้นสงสัยเหลือเกินครับว่าทาง Apple น่าจะเอาดีกับ Smart Connector เป็นแน่แท้อย่างแน่นอน ล่าสุดนั้นทาง Apple ได้รับสิทธิ์ในสิทธิบัตรเกี่ยวกับ Smart Connector ที่ยื่นจดไปเมื่อไม่นานมานี้อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วครับ ตามสิทธิบัตรดังกล่าวนี้ดูๆ ไปแล้ว Smart Connector นั้นน่าสนใจและน่าใช้งานมากขึ้นเยอะเลยครับเพราะตามรู้นั้นเผยให้เห็นครับว่า Smart Connector จะสามารถต่อปลั๊กซ้อนกันเป็นชั้นๆ โดยสายเชื่อมต่อแต่ละตัวจะเชื่อมไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้ดังรูปต่อไปนี้ครับ
สิ่งที่น่าสนใจก็คือคำอธิบายในเรื่องของการนำเอาปลั๊กแต่ละตัวมาเชื่อมต่อกันเป็นชั้นๆ ผ่านทาง Smart Connector ในสิทธิบัตรของ Apple นั้น ทาง Apple ได้บอกเอาไว้ว่าวิธีการที่จะใช้ในการเชื่อมต่อนั้นจะเป็นการเชื่อมต่อปลั๊กด้วย magnetic retention หรือง่ายๆ ก็คือหลักการเดียวกับที่ใช้บน MagSafe ที่ทาง Apple โยนทิ้งไปตอนที่ได้ทำการเปิดตัว MacBook 12″ early 2015 ออกมาครับ(ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เทคโนโลยีเดียวกันโดยตรงแต่ว่ามันก็เป็นไอเดียแบบเดียวกันหล่ะครับ)
ด้วยแม่เหล็กที่ยึดติดตัวปลั๊กของอุปกรณ์แต่ละตัวที่เชื่อมต่อกับ Smart Connector เอาไว้จะทำให้แต่ละอุปกรณ์สามารถที่จะรับกระแสไฟฟ้ารวมไปถึงส่งผ่านข้อมูล(ซึ่งอยู่ในรูปแบบของกระแสไฟฟ้าที่เป็น 0 กับ 1 หรือข้อมูลแบบดิจิทัล) ได้ไปพร้อมๆ กันแต่ละปลั๊กเชื่อมต่อที่นำมาเชื่อมต่อกันเป็นชั้นๆ นั้นอาจจะมีการเพิ่มในส่วนของ magnetic elements เข้าไปเพื่อเป็นการเพิ่มแรงแม่เหล็กให้สามารถที่จะทำการเชื่อมต่อปลั๊กของแต่ละอุปกรณ์เข้ากับช่องเชื่อมต่อแบบ Smart Connector เพิ่มเข้าไปอีกเรื่อยๆ ครับ
สำหรับภาพประกอบสิทธิบัตรนี้อีกอันหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบของตัวเชื่อมต่ออีกรูปแบบนั้นดูไปดูมาแล้วค่อนข้างที่จะมี form-factor เหมือนกันกับปลั๊กสำหรับใช้ในการชาร์จ Apple Watch มากๆ ครับ(ตามรูปด้านบน) ซึ่งในสิทธิบัตรนั้นได้อธิบายถึงในส่วนของอุปกรณ์ที่จะใช้รูปแบบการเชื่อมต่อแบบนี้ผ่านทาง Smart Connector ไว้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น dock, battery pack, external storage และ keyboard ทว่างานนี้คงต้องรอดูกันยาวหล่ะครับว่า Apple จะนำเอาสิทธิบัตรนี้ออกมาทำเป็นผลิตภัณฑ์จริงๆ หรือไม่เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า Apple นั้นยื่นจดสิทธิบัตรที่ข้อมูลบนสิทธิบัตรนั้นดีๆ น่าใช้เยอะมากแต่น้อยมากนักที่จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายจริงๆ ครับ
ที่มา : 9to5mac