สำหรับทุกท่านที่กำลังมองและสนใจ iPhone SE สมาร์ทโฟนขนาดจอ 4 นิ้วรุ่นล่าสุดตัวใหม่(ในรูปแบบเดิม) ของทาง Apple ที่พึ่งจะเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมานั้น วันนี้ทาง NBS เราขอนำเสนอมุมมองและความรู้สึกของ Walt Mossberg หนึ่งในบรรณาธิการชื่อดังของ TheVerge ที่มีต่อ iPhone SE มาเสนอให้ทุกท่านได้รับรู้กันเพื่อที่จะเอาไว้ใช้เป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำหรับเตรียมตัวที่จะซื้อหรือไม่ซื้อ iPhone SE ครับ ทาง Mossberg จะว่าไว้อย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ
จากงานเปิดตัวที่ผ่านมานั้น Mossberg คิดว่า Apple ได้ทำให้สมาร์ทโฟนหรืออย่างน้อยก็ iPhone ดีกว่าที่เคยเป็นมา … ซึ่ง ณ จุดๆ นี้นั้นเขาขออย่าให้มองเขาผิดว่าไปรับใต้โต๊ะจากทาง Apple ให้มาทำการเขียนเชียร์อะไรแบบนี้นะครับ แต่ว่าเจ้า iPhone SE นั้นทำให้เขารู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น iPhone SE รวมไปถึง iPad Pro 9.7″ ที่พึ่งจะทำการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมานั้นถือว่ามีจุดเฉพาะตัวทางด้านธุรกิจที่ลงตัวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ iPhone SE สมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 4 นิ้วรุ่นใหม่นี่หล่ะครับ
Mossberg คาดว่า iPhone SE นั้นจะทำให้ผู้ใช้ซึ่งถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยมีความสุขขึ้นมาได้ ในที่นี้รวมถึงราคาเปิดตัวของ iPhone SE ที่อยู่ที่ $399 หรือประมาณ 14,370 บาท(อยู่ในช่วงหลายราคาตามแต่ละประเทศ) ซึ่งแน่นอนครับว่าด้วยสเปคที่เหมือนกับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมอย่าง iPhone 6S ที่ราคาเริ่มต้นบนเว็บไซต์อยู่ที่ $650 หรือประมาณ 23,400 บาทนั้น iPhone SE ถือได้ว่าเป็นการเอาใจผู้คนที่อยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำที่ต้องการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้เป็นอย่างดีครับ(น่าจะหมายถึงประเทศจีนและอินเดียจากที่เคยมีการวิเคราะห์ไปก่อนหน้านี้ครับ)
อย่างไรก็ตามแต่ถึงแม้ว่า iPhone SE(และ iPad Pro 9.7″) จะดูดีและเอาใจผู้คนได้มากก็ตาม ทว่าเมื่อมองทางด้านเทคโนโลยีแล้วนั้นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ Apple เปิดตัวมาในงานเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมานั้นไม่ได้มีอะไรที่เป็นพิเศษ, เป็นนวัตกรรมหรือสร้างสิ่งใหม่ๆ ใดให้กับวงการเทคโนโลยีใดๆ เลย สิ่งที่ Apple ทำนั้นเป็นเพียงแค่การนำเอาผลิตภัณฑ์ใหม่มาปรับแต่งให้เหมาะสมกับยุคสมัยเท่านั้น(iPhone SE รับเอาดีไซน์ของ iPhone 5 ที่เปิดตัววางจำหน่ายตั้งแต่ 2012 กับสเปคภายในบางส่วนที่เอามาจาก iPhone 6S ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2015)
ในมุมมองของ Mossberg นั้น iPhone 6S และ 6S Plus ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนในระดับพรีเมียมที่ดีที่สุดในตลาดจนกระทั่งในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้นทาง Apple ก็ถูกกระตุกหนวดเสือด้วยผู้ครองส่วนแบ่งในตลาดอันดับหนึ่งอย่าง Samsung กับการส่ง Galaxy S7 และ S7 Edge ลงตลาดโดยหากจะให้พูดกันแบบตรงไปตรงมาแล้วหล่ะก็ สิ่งที่ทาง Samsung ทำกับ Galaxy S7 และ S7 Edge นั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจาก Apple ที่หยิบเอาดีไซน์เก่า(ของ Galaxy S6) มาใช้ แต่ทว่าในปีนี้นั้น Galaxy S7 และ S7 Edge ได้รับการใส่ใจในทุกๆ ส่วนเป็นอย่างดีพร้อมกับการที่มันเอาใจผู้ใช้มากกว่าเดิมด้วยการปรับปรุงแก้ไขข้อเสียตามที่ผู้ใช้หลายๆ คนต้องการครับ
หมายเหตุ – และจากการเทสของทาง The Verge เองยังพบด้วยอีกว่ากล้องของ Galaxy S7 นั้นถือว่าเป็นกล้องที่ดีที่สุดแต่ด้วยซอฟต์แวร์บน Galaxy S7 ทั้ง 2 รุ่นนั้นยังคงเป็นตัวรั้งที่ทำให้ Galaxy S7 ไม่สามารถจะสู้กับ iPhone ในเรื่องของความเร็วได้ แต่โดยรวมแล้วหาก Apple ต้องการที่จะสร้างกระแสกลับไปที่ตัวเองอีกครั้งแล้วหล่ะก็ในช่วงของการเปิดตัว iPhone ระดับเรือธงรุ่นถัดไป Apple จะต้องทำงานหนักกว่าเดิมหน่อยหล่ะครับ
เอาหล่ะครับก่อนที่ Mossberg จะกล่าวถึงอะไรต่อไปเขาได้บอกเอาไว้ว่านอกเหนือไปจากข่าวลือที่ได้รู้ในเว็บไซต์ต่างๆ เกี่ยวกับ iPhone ระดับเรือธงรุ่นถัดไปที่บอกว่าจะมาพร้อมกับอุปกรณ์หูฟังไร้สายแทนแบบมีสาย, ตัวเครื่องที่บางลงกว่าเดิมเพราะตัดช่องเชื่อมต่อเสียงแบบ 3.5 mm ทิ้งไป … เขาไม่รู้อะไรอย่างอื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือธงของ Apple รุ่นถัดไปเลย ตัวเขาเองนั้นไม่มีแหล่งข้อมูลภายใน Apple และก็ไม่ได้ถือหุ้นของ Apple รวมถึงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ อะไรก็ตามกับทาง Apple เลยเด็ดขาด แต่ 7 สิ่งที่เขากำลังจะแนะนำต่อไปจากนี้คือสิ่งที่ตัวเขาค้นออกมาจากใจและอยากจะเห็นบนผลิตภัณฑ์ของ Apple ครับ
7 สิ่งที่ทาง Mossberg อยากจะเห็น Apple ทำนั้นมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลยครับ
- เรื่องแรกสุด(และเป็นเรื่องที่ Mossberg เห็นว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งมากที่สุด) ก็คือ Apple ควรที่จะปรับปรุงเรื่องของอายุการใช้งานแบตเตอรี่บน iPhone ให้่มากขึ้นแบบก้าวกระโดดสักที ที่ผ่านมานั้น Apple ได้ทำในสิ่งที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน iPhone ในระดับปานกลาง(หมายถึงใช้งานเครื่องไม่หนักมากและก็ไม่น้อยจนเกินไปต่อวัน) ได้แล้วที่เหลือก็คือการใส่ใจกับผู้ใช้ที่ใช้ iPhone ในระดับบ่อยๆ ซึ่งจำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่หลายๆ ครั้งต่อวันให้มากขึ้น โดยในจุดนี้นั้นทาง Apple อาจจะเลือกนำเอางานวิจัยที่เริ่มมีคนเปิดออกมาเรื่อยๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่มาใช้งานกับของตัวเองเป็นต้นครับ(ถ้า Apple แก้ไขปัญหาเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ก่อนเพื่อ งานนี้ Apple ก็ถือว่าเป็นผู้ชนะแบบเห็นๆ หล่ะครับ
หมายเหตุ – ในเรื่องนี้นั้น Apple คงจะต้องเลือกเอาสักอย่างหนึ่งว่าจะทำให้ iPhone ระดับเรือธงรุ่นถัดไปบางลง หรือยังยอมที่จะให้มีความบางในระดับเดิมแต่เพิ่มความอึดของแบตเตอรี่เข้าไปแทน อารมณ์ว่าได่อย่างก็ต้องเสียอย่างหล่ะครับงานนี้
- เรื่องต่อมานั้นเป็นเรื่องที่ใกล้กันกับเรื่องแรกซึ่งนั่นก็คือเรื่องของการชาร์จ ซึ่งหากจะว่าไปแล้วนั้น iPhone ในปัจจุบันก็ไม่ได้ถือว่าจะชาร์จช้าสักเท่าไรนัก แต่ถ้าเอาไปเทียบกับคู่แข่งในตลาดในปัจจุบันนั้นไม่ว่าจะ Samsung, LG, Oppo ฯลฯ Apple ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีอัตราในการชาร์จช้ามากครับ แถมอีกอย่างหนึ่งก็คือ Apple ควรที่จะทำการพิจารณาเรื่องของการชาร์จแบบไร้สายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกได้แล้วครับ
- เรื่องที่สามนั้นก็คือการปรับดีไซน์ในเรื่องของขอบบนและล่างที่ iPhone รุ่นบนนั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าขอบจากจอไปยังกรอบเครื่องทั้งส่วนข้างบนและข้างล่างนั้นต่างก็ใหญ่ทั้งนั้น แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Galaxy S7 แล้วนั้นทาง Samsung กลับทำออกมาได้ดีกว่าในเรื่องนี้ โดยเฉพาะกับ S7 Edge อย่างไรก็ตามบน iPhone SE ที่มีขนาดหน้าจอ 4 นิ้วนั้นการมีขอบบนและล่างที่ใหญ่หน่อยอาจจะทำให้มันสามารถที่จะทำการถือได้อย่างสบายมือ แต่กับ iPhone ในรุ่นพรีเมียมที่มีหน้าจอใหญ่อยู่แล้วนั้นมันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นครับ
- ความหวังอย่างที่สี่ของ Mossberg ก็คือเรื่องของกล้องที่ Apple ควรจะพัฒนาในเรื่องของ optical zoom ให้ดีมากยิ่งขึ้นซึ่งต้องไม่ใช้เลนส์แบบหนาๆ เหมือนกับที่สมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นใช้กัน ทางออกที่ดีอย่างหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีตามข่าวลือก็คือการปรับไปใช้เลนส์แบบ dual-lens camera ครับ
- ต่อกับเรื่องที่ห้ากับความหวังที่อยากให้ Apple พัฒนา iPhone ออกมาให้มีความแข็งแรงอดทนต่อการใช้งานแบบจริงๆ จังๆ สักที โดยถึงแม้ว่าในเรื่องของการเลือกวัสดุที่นำมาใช้ทำ iPhone นั้นจะได้ชื่อว่าเด็ดกว่าใครแต่ทว่าในเรื่องของความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นต่างๆ ที่มีมาตรฐานนั้นทาง Apple ไม่เคยที่จะทำออกมาอย่างเป็นทางการสักทีไม่เหมือนกับคู่แข่งที่ในเรื่องนี้นั้นก้าวไปไกลกว่ากันเยอะแล้วครับ
- เรื่องที่หกนั้นเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องที่หลายๆ คนคาดหวังเหมือนกันซึ่งนั่นก็คือการที่ Apple ควรจะให้แหล่งเก็บข้อมูลบน iPhone รุ่นเริ่มต้นที่ความจุเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันมาได้แล้วซะทีจริงๆ โดยตามความคิดเห็นของ Mossberg(และใครอีกหลายๆ คน) คิดว่าความจุเริ่มต้นของแหล่งเก็บข้อมูลที่เพียงพอนั้นคือ 32 GB ครับ(จริงๆ แล้วสำหรับตัวผมเองนั้นเห็นว่าในปัจจุบันนั้นขนาด 32 GB ก็ไม่น่าจะเพียงพอแล้วหล่ะครับ สิ่งสำคัญหนึ่งต้องไม่ลืมนะครับว่า iPhone ไม่สามารถเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลแบบ microSD Card ได้)
- ท้ายที่สุดเลยก็คือเรื่องของแอปพลิเคชันจากทาง Apple เองที่ควรจะมีการพัฒนาให้มาพร้อมกับความสามารถที่มากขึ้นกว่าเดิมได้แล้ว(ไม่เฉพาะ iOS เท่านั้นแต่นี่รวมไปถึงซอฟต์แวร์บน Mac ด้วย) ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือในส่วนของแอปพลิเคชัน Mail ที่ทำยังไงก็ไม่สามารถจะสู้กับ Gmail ของฝั่ง Google ได้สักทีเป็นต้น
เชื่อว่าจริงแล้วนั้นทุกท่านน่าจะมีความคิดอยู่ในใจลึกๆ แล้วหล่ะครับว่า iPhone SE นั้นจะเหมาะสมกับคุณหรือไม่ ทว่าอย่างไรก็ตามแต่แล้ว 7 สิ่งที่ Walt Mossberg เสนอออกมานั้นก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ชวนให้คิดก่อนที่จะซื้อ iPhone ได้ดีจริงๆ งานนี้คงต้องรอดูกันต่อไปหล่ะครับว่า Apple จะทำอย่างไรกับ iPhone ระดับเรือธงรุ่นถัดไปและในส่วนของ iPhone SE นั้นจะสามารถที่จะทำเป้าได้ตามที่ Apple หวังไว้หรือไม่
หมายเหตุ – Walt Mossberg นอกจากจะเป็นบรรณาธิการระดับสูงของ The Verge แล้วเขายังเป็นนักเขียนของเว็บข่าวชื่อดังอย่าง Re/code ซึ่งงานเขียนของเขานั้นถือว่ามีอิทธิพลในวงการเทคโนโลยีพอตัวเลยทีเดียวครับ
ที่มา : theverge