สำหรับคนที่มีปัญหากวนใจในเรื่องของการเก็บข้อมูล เช่นผู้ที่ใช้โน๊ตบุ๊คตัวเล็ก หรือแบบบางเบาที่มาพร้อมฮาร์ดดิสก์ความจุน้อย ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ตามต้องการ ก็ต้องอาศัยฮาร์ดดิสก์ต่อภายนอกมาเป็นตัวช่วยในการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม แต่บางทีฮาร์ดดิสก์จานหมุนทั่วไป ก็อาจไม่ตอบโจทย์ในการใช้งาน เพราะบางเรื่องของความเร็วก็มีส่วนสำคัญในการใช้เก็บหรือโอนถ่ายข้อมูลในชีวิตประจำวันด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลที่น่าสนใจในปัจจุบัน
Trancend ESD400 เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบต่อภายนอก พร้อมการเชื่อมต่อผ่าน USB 3.0 มาในดีไซน์ของบอดี้ขนาดบางและเล็ก ด้วยน้ำหนักเพียง 2 กรัมและกว้างยาวเทียบเท่ากับกระเป๋านามบัตรเท่านั้น จึงสามารถพกพาไปใช้งานในที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลได้ถึง 410MB/s (Read) และ 380MB/s (Write) ซึ่งเทียบเท่ากับ SSD พื้นฐานที่มีอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ Trancend ยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ One Touch Backup เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถสำรองข้อมูล ได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น จัดว่าเป็น SSD แบบต่อภายนอกอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมากทีเดียว
Specifications :
- Size : 92 x 62 x 10.5 mm (3.62″ x 2.44″ x 0.41″)
- Weight : 56g (1.98oz)
- Storage Media : NAND Flash
- Operating Temperature : 0°C(32°F)~70°C(158°F)
- Operating Voltage : DC 5V
- LED Indicator : Power, Data Transfer, USB 2.0 / 3.0
- Connection Bandwidth : USB 3.0: Up to 5Gb/s
- USB 2.0: Up to 480Mb/s
- Performance : Read up to 410MB/s; Write up to 380MB/s
- System Requirements : Desktop or notebook computer with a USB port (A USB 3.0 port is needed for USB 3.0 performance)
Windows XP/Vista/7/8/10 (32bit or 64bit)
Mac OS X 10.5 or later
แกะกล่อง
จากหน้ากล่องของ Trancend ESD400 รุ่นนี้ ค่อนข้างจะให้รายละเอียดมาเยอะ ตั้งแต่หน้ากล่อง ด้านข้างจนถึงด้านหลัง ข้อมูลรายละเอียดการเชื่อมต่อครบครัน
เปิดกล่องออกมา ภายในนอกจากมี Trancend ESD400 แล้ว ก็ยังมาพร้อมคู่มือการใช้งาน ซองใส่และสายดาต้า USB 3.0
ในส่วนของคู่มือ ยังมีข้อมูลของอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามาด้วย บอกให้รู้ว่ามีไลน์โปรดักส์อย่างอื่นอีกเพียบ
การออกแบบโดยรวมและพอร์ตเชื่อมต่อ
มาดูกันที่หน้าตาของ Trancend ESD400 กัน ดูแล้วเป็นไดรฟ์ขนาดเล็กตามสไตล์ของ SSD ที่เป็นแบบต่อภายนอก โดยขนาดเล็กประมาณครึ่งฝ่ามือเท่านั้น น้ำหนักเบามากๆ เรียกว่าพกพากันไปสบายกว่าแบบ HDD External เยอะ แต่คงต้องระวังหล่นหาย เพราะขนาดที่เล็ก หล่นตรงไหนก็อาจจะไม่ทันได้ยินเสียง
จากมุมด้านข้างทั้งแนวกว้าง ยาว จะเห็นได้ว่ามันหนากว่าตัว SSD ที่เป็นแบบ Internal เพียงเล็กน้อย
พอร์ตเชื่อมต่ออยู่ทางด้านล่าง เป็นแบบ USB 3.0 ซึ่งสบายใจได้ว่า SSD + USB 3.0 port แบบนี้ เร็วขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจาก USB 3.0 ก็ยังมีปุ่มสำหรับ Backup file ได้จากการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว แต่นั่นต้องหมายความว่า ติดตั้งโปรแกรมสำหรับลิงก์กับระบบเรียบร้อย
เปรียบเทียบขนาดจะเห็นได้ว่าไซส์ขนาดประมาณครึ่งเดียวของสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5 นิ้วเท่านั้น จึงง่ายต่อการพกพาและการเดินทาง
บอดี้ด้านหลังเป็นพลาสติก ทนแรงต่อการขูดขีดได้ดีในระดับหนึ่ง เพียงแต่เรื่องแรงกระแทก ก็คงจะไม่ได้ซัพพอร์ตมากมายนัก ทางที่ดีระมัดระวังในการจัดเก็บคงดีที่สุด
สายสัญญาณเป็นแบบ USB 3.0 ยาวประมาณ 30cm ม้วนเก็บและพกพาได้ง่าย ดูแข็งแรงดี บนบอดี้ของ Trancend ESD400 เมื่อเริ่มทำงานจะมีไฟสถานะสีฟ้าปรากฏขึ้นบนตัวอุปกรณ์ เพื่อบอกการทำงาน
ทดสอบใช้งาน
พื้นที่สำหรับการทำงานจริง ของ Trancend ESD400 อยู่ที่ 238GB
ผลการทดสอบ Anvil’s Storage ที่ได้จาก Trancend ESD400
ผลการทดสอบ Anvil’s Storage ที่ได้จาก External HDD ความจุ 2TB
ผลทดสอบจาก AS SSD ให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลที่ประมาณ 417MB.s และ เขียน 234MB/s
ผลการทดสอบที่ได้จาก Trancend ESD400 (ซ้าย) และ External HDD ความจุ 2TB (ขวา) จะเห็นได้ชัดว่าต่างกันมากเลยทีเดียวระหว่าง SSD และ HDD
Conclusion
เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมากในท้องตลาด และน่าจะมีตัวเลือกไม่มากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะมีขนาดที่เล็กกระทัดรัดและเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี เพราะคุณสามารถพกพาไปใช้ยังที่ต่างๆ หรือระหว่างการเดินทางบนรถโดยสารก็ยังใช้งานได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นฮาร์ดดิสก์แบบที่มีกลไก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องของการกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนที่จะมีผลต่อการใช้งาน ดังนั้นสบายใจได้ในระดับหนึ่งสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ ซึ่งหากไม่มีสภาพที่เลวร้ายเกินไป นอกจากนี้ยังประยุกต์ใช้ได้กับการต่อพ่วงในแบบต่างๆ อีกด้วย ที่สำคัญคือ ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อข้อมูล ทั้งในการอ่านและเขียนข้อมูลที่ไวกว่า HDD อยู่มากทีเดียว ดังที่เห็นบนผลการทดสอบหลายๆ ตัว ทั้งนี้คือผลจากการทดสอบ ซึ่งในการใช้งานจริงที่ไม่ได้โหดเช่นนี้ ก็น่าจะแสดงศักยภาพได้ดี
ส่วนในเรื่องของการใช้งานก็จะมีเพียงขนาดที่กระทัดรัดและเล็ก บางทีก็ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ในบางกรณีที่หล่น อาจจะไม่ทันได้ทราบเลยว่า หล่นหายไปตอนไหน หรือไม่ได้เก็บไว้เป็นที่ก็อาจจะแทรกอยู่ตามซอกหลีบต่างๆ ได้ง่าย อีกเรื่องหนึ่งคือ ใครที่เคยใช้ฮาร์ดดิสก์ความจุสูงระดับ Terabyte อาจจะอึดอัดเล็กน้อยเวลาที่ใช้ จึงควรจะต้องบริหารจัดการให้มีพื้นที่เพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละครั้ง น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน Trancend ESD400 รุ่นนี้
จุดเด่น
- มีความเร็วในการเชื่อมต่อสูง โอนถ่ายข้อมูลได้ไว
- ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
- มีซอฟต์แวร์ช่วยในการสำรองไฟล์ได้เพียงปุ่มเดียว
ข้อสังเกต
- ความจุไม่สูงมาก ต้องปรับตัวและบริหารพื้นที่ในการจัดเก็บ