ในปัจจุบันนี้เราได้เห็นเทคโนโลยีการชาร์จสมาร์ทโฟนให้เร็วขึ้นแต่ทว่าเทคโนโลยีโดยทั่วไปที่เราๆ ท่านๆ ได้เห็นในปัจจุบันบนสมาร์ทโฟนนั้นมักจะเป็นการชาร์จเร็วในช่วงแรกอย่างเช่นชาร์จเป็น 50% หรือชาร์จไปเป็น 60% ภายในเวลา 15 – 30 นาทีหลังจากนั้นก็จะต้องใช้เวลาในการชาร์จต่อให้เต็ม 100% นานครับ อย่างไรก็ตามในงาน Mobile World Congress 2016 ที่ผ่านมานั้นทางบริษัท Oppo ได้ทำการแสดงเทคโนโลยีการชาร์จเร็วใหม่ที่ทางบริษัทคิดค้นขึ้นมาเองในชื่อว่า SuperVOOC quick-charging technology และหากผลการใช้งานในโลกของความจริงเป็นเหมือนกับที่ทาง Oppo โฆษณาไว้หล่ะก็เราจะได้เห็นสมาร์ทโฟน(ซึ่งในตอนแรกน่าจะเป็นของ Oppo เองก่อน) สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ภายในเวลา 15 นาทีเท่านั้นครับ
จากที่ Oppo พูดไว้ในงานนั้น SuperVOOC quick-charging technology จะสามารถใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 2,500 mAh จากที่ไม่เหลือเลยสักนิดให้เต็ม 100% ได้ภายใน 15 นาทีเท่านั้น แถมเทคโนโลยีดังกล่าวก็ไม่จำเป็นต้องใช้พอร์ทการเชื่อมต่อแบบใหม่รวมไปถึงสายชาร์จแบบใหม่แต่อย่างใดเพราะคุณสามารถที่จะใช้มันผ่านพอร์ทและสายธรรมดาในปัจจุบันอย่าง micro-USB และ USB Type-C ได้อย่างสบายๆ ซึ่งถ้านี่เป็นความจริงหล่ะก็ตัวเทคโนโลยี SuperVOOC นั้นจะชาร์จได้เร็วกว่าเทคโนโลยี Quick Charge 3.0 ที่อยู่บนชิปเซ็ท Snapdragon 820 หลายนาทีเลยทีเดียวครับ
หมายเหตุ – เทคโนโลยี Quick Charge 3.0 ที่อยู่บนชิปเซ็ท Snapdragon 820 สามารถที่จะชาร์จจากแบตเตอรี่ 0% ให้ขึ้นไปอยู่ที่ 80% ได้ภายในเวลา 30 นาที
ทั้งนี้เรื่องเทคโนโลยี SuperVOOC ของทาง Oppo นั้นก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไรครับ เพราะตามที่ Oppo ประกาศออกมานั้นพบว่าตั้งแต่การผลิตในส่วนของแบตเตอรี่, แผงวงจรทางด้านการชาร์จแบตเตอรี่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้งานในการชาร์จแบตเตอรี่นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของทาง Oppo ทั้งหมด ซึ่งนั่นทำให้ Oppo สามารถที่จะทำการควบคุมมาตรฐานการผลิตและเทคโนโลยีได้ด้วยตัวเองได้(คล้ายๆ กับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วของทาง Huawei ที่มีการเผยออกมาก่อนหน้านี้ซึ่งทาง Huawei ก็มีการควบคุมลักษณะของอุปกรณ์ให้เป็นของตัวเองทั้งหมดครับ)
งานนี้คงต้องรอดูกันในโลกของความเป็นจริงครับว่าสมาร์ทโฟน Oppo รุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี SuperVOOC รุ่นแรกนั้นจะสามารถทำไว้ได้อย่างที่ Oppo โฆษณาเอาไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตามน่าสงสัยอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ตามหลักการในการชาร์จประจุไฟฟ้าหรือการเร่งอิเล็กตรอนให้เข้าไปยังแบตเตอรี่ให้เร็วขึ้นนั้นน่าจะเกิดความร้อนขึ้นมาและความร้อนนั้นก็น่าจะสะสมอยู่ที่ตัวเครื่องพอสมควร เรายังคงไม่รู้ครับว่าทาง Oppo มีวิธีการจัดการกับเรื่องดังกล่าวด้วยวิธีไหน เพราะอย่างที่เห็นในงานที่ทาง Oppo ทำการสาธิตนั้น(ตามภาพด้านบน) ผู้สาธิตก็ถือสมาร์ทโฟนเฉพาะส่วนหัวด้านบนเท่านั้นและพอให้ทุกคนเห็นว่าเครื่องชาร์จจนเต็มแล้วก็วางเครื่องทันทีครับ
หมายเหตุ – อีกเรื่องที่น่าคิดก็คือเมื่อเราเร่งให้ประจุไฟฟ้าเข้าไปอยู่ในแบตเตอรี่เร็วขึ้นแล้วมันจะสามารถอยู่ได้นานตามปกติหรือไม่ หรือจะเรียกว่าประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่หลังจากชาร์จเต็ม 100% แล้วจะเป็นอย่างไร อยู่ได้นานตามปกติหรือไม่นั่นเองครับ
ที่มา : engadget