Connect with us

Hi, what are you looking for?

Other News

[News] iPhone Error 53 : เหตุผลที่คุณอาจจะอยากเปลี่ยนใช้มาใช้สมาร์ทโฟน Android

ในช่วงที่ผ่านมานั้นมีกระแสข่าวหนึ่งที่เป็นเรื่องไม่ดีอย่างมากเลยของผู้ใช้ iPhone กับเรื่องของความผิดพลาดที่หน้าจอจะแสดงว่า Error 53 เมื่อคุณเชื่อมต่อ iPhone กับ iTuns ใน recovery mode ครับ

ในช่วงที่ผ่านมานั้นมีกระแสข่าวหนึ่งที่เป็นเรื่องไม่ดีอย่างมากเลยของผู้ใช้ iPhone กับเรื่องของความผิดพลาดที่หน้าจอจะแสดงว่า Error 53 เมื่อคุณเชื่อมต่อ iPhone กับ iTuns ใน recovery mode ครับ สาเหตุที่ขึ้น Error 53 นั้นในช่วงแรกๆ มีหลายกระแสเป็นอย่างมากพร้อมได้บอกวิธีแก้ไขออกมาด้วย เพราะว่าหากคุณเจอ Error 53 ดังกล่าวแล้วนั้นให้ยอมรับได้เลยครับว่า iPhone ของคุณได้กลายเป็นเครื่องทับกระดาษไปเป็นที่เรียบร้อยอย่างเป้นทางการแล้วครับ วิธีการใดที่บอกไว้ว่าแก้ได้ในอินเทอร์เน็ตนั้นก็หาได้ยากที่จะเป็นความจริง + ถ้าทำได้ก็ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคในระดับสูงเพื่อแก้ไขครับ

Advertisement

iphone-error-53-600

ปัญหา Error 53 ที่เกิดขึ้นกับ iPhone ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ iOS 9 ล่าสุดที่เป็นปัญหานั้นก็เนื่องมาจากว่าคุณได้มีการนำเครื่องไปซ่อมกับช่างร้านนอกที่ไม่ใช่ศูนย์ของ Apple โดยตรง ซึ่งร้านซ่อมเจ้ากรรมดังกล่าวนั้นได้มีการไปกระทำอะไรเข้าสักอย่างกับปุ่ม Home ของตัวเครื่อง iPhone ที่มาพร้อมกับระบบ Touch ID(ระบบสแกนลายนิ้วมือของทาง Apple) โดยอ้างอิงจาก Kyle Wiens จาก iFixit นั้นบอกเอาไว้ครับว่าช่างที่ซ่อมเครื่องคุณดังกล่าวนั้นได้ไปทำการเปลี่ยนแปลงปุ่ม Home หรือไม่ก็สายเคเบิลที่เชื่อมต่อระหว่างปุ่ม Home กับเมนบอร์ด(มีการเปลี่ยนสายหรือเปลี่ยนปุ่ม Home นั่นแหละครับ) ทำให้ระบบการรักษาความปลอดภัยอันสุดแสนจะปลอดภัยจริงๆ ของ Apple ทำงานขึ้นมาครับ

หมายเหตุ – ทางศูนย์ Apple ได้มีการตั้งราคาการซ่อมปุ่ม Home ของตัวเครื่อง iPhone ที่มาพร้อมกับระบบ Touch ID ไว้ที่ประมาณ $200 หรือประมาณ 7,200 บาท

why-i-switched-to-iphone-600 01

ทีนี้เมื่อคุณนำเครื่อง iPhone ที่เอาไปซ่อมกับช่างนอกศูนย์ที่ทาง Apple ไม่ได้รับรองนั้นมาทำการ Rocovery ใหม่ผ่านทาง iTunes ซึ่งมันต้องเข้า Recovery Mode ในการทำงาน ทีนี้แหละครับคุณก็จะได้พบกับ Error 53 ที่แจ้งขึ้นมาซึ่งหลังจากนั้นคุณจะไม่สามารถทำอะไรกับเครื่อง iPhone ดังกล่าวของคุณได้เลย ไม่ว่ากดเปิดปิดใหม่ ฯลฯ มันก็จะแสดงแต่หน้า Error 53 ซึ่งแน่นอนว่าเครื่อง iPhone ของคุณก็จะกลายเป็นที่ทับกระดาษไปโดยปริยาย และถ้าคุณนำตัวเครื่อง iPhone ดังกล่าวไปเข้าศูนย์ของ Apple คำตอบที่คุณจะได้รับก็คือคุณจะต้องทำการซื้อเครื่องใหม่ โดย Apple ยังคงพอจะใจดีอยู่บ้างที่ให้ผู้ใช้ที่เกิด Error 53 ดังกล่าวสามารถซื้อเครื่องใหม่ได้ในราคา 14,000 บาทครับ

ปัญหาดังกล่าวนี้ทาง Apple ได้ออกมาบอกว่าสิ่งที่ Apple ทำ(หรือทำให้เกิด Error 53 ขึ้นกับเครื่องที่เอาไปซ่อมปุ่ม Home ที่อื่นซึ่งมีราคาค่อนข้างจะต่ำกว่าที่ Apple ตั้งไว้ค่อนข้างมาก) เนื่องจากว่าเพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าเนื่องจากถ้ามีการเปลี่ยนปุ่ม Home ที่มาพร้อมกับระบบ Touch ID หรือเปลี่ยนสายเคเบิลภายในจากช่างซ่อมที่ไม่สามารถจะเชื่อใจได้นั้น ช่างซ่อมดังกล่าวอาจจะสามารถเข้าถึงข้อมูลบนตัวเครื่องของคุณได้(ขโมยข้อมูลระบบการรักษาระบบความปลอดภัยด้วย Touch ID)

why-i-switched-to-iphone-600 02

หลังจากที่มีปัญหาดังกล่าวออกมานั้นทางกลุ่มผู้ซ่อมตามร้านก็เริ่มมีการรวมกลุ่มกันกับผู้ใช้ที่เผชิญปัญหาครับ กลุ่มผู้ซ่อมได้บอกว่าสิ่งที่ Apple ทำนั้นเหมือนเป็นการปิดกั้นไม่ให้ผู้ซ่อมด้านนอก Apple สามารถที่จะทำการซ่อม iPhone ได้อย่างกลายๆ รวมไปถึงผู้ใช้ก็คิดว่า Error 53 ดังกล่าวนั้นไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด จนในที่สุดการรวมกลุ่มดังกล่าวนั้นก็ใหญ่มากพอและได้มีการฟ้องร้องกับทาง Apple ในเรื่องนี้ว่าเป็นการปิดกั้นทางด้านการค้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ เพราะมีการฟ้องร้องกันแล้ว แต่สำหรับผู้ใช้งาน iPhone ที่ต้องจ่ายเงิน 14,000 บาทเพื่อซื้อเครื่องรุ่นใหม่นั้น ในอนาคตก็ใช่ว่าคุณอาจจะไม่พบเจอปัญหาดังกล่าวนี้อีกครับ(เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าการฟ้องร้องดังกล่าวนั้นจะมีผลเป็นอย่างไร) ทว่าด้วยเงินจำนวน 14,000 บาทนั้นในตลาดสมาร์ทโฟน Android ปัจจุบันคุณสามารถหาซื้อเครื่องในระดับสูง(แต่เป็นยี่ห้อที่ไม่ใช่ผู้นำในตลาดหน่อย) ซึ่งมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือเหมือนกันได้แล้ว … นี่อาจจะเป็นเหตุผลดีๆ ที่คุณอาจจะได้ลองเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Android ที่เปิดกว้างมากกว่าก็เป็นได้นะครับ

ที่มา : androidauthoritymakeuseof

อัพเดท – หลังจากที่ทาง Apple โดนฟ้องร้องไปได้ไม่นานนั้นทาง Apple ก็ได้ทำการรีบออกอัพเดท iOS 9.2.1 เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่อง Error 53 ทันทีทันใดครับ(แต่ก็หลังจากที่โดนฟ้องนะครับ ไม่ใช่หลังจากที่เรื่องแดงออกมา) โดยท่านใดที่ต้องการไฟล์สำหรับการอัพเดท iOS 9.2.1 ก็สามารถที่จะเข้าไปโหลดได้ที่ iClarified โดยรุ่นที่จะได้รับการอัพเกรด iOS 9.2.1 เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่อง Error 53 นั้นจะเป็นเฉพาะรุ่นที่มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID เท่านั้นซึ่งประกอบไปด้วย iPhone 6, 6s, 6 Plus, 6s Plus, iPad mini 3, 4, iPad Air 2 และ iPad Pro ทั้งนี้ใน iOS 9.2.1 นั้นไม่มีการอัพเดทฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติมหรือการแก้ไขข้อผิดพลาดอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาด้วยแต่อย่างใดครับ

ที่มาอัพเดท : MacRumorsiClarified, และท่านที่ตอบคอมเม้นท์เพื่อให้ข้อมูลเรื่องการอัพเดทแก้ไขดังกล่าวด้วยครับ

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

SOFTWARE

แม้ว่า ChatGPT ของ OpenAI จะซ่อนโมเดล GPT-4 ที่ดีกว่าไว้หลังจากที่คุณจ่ายเงินค่าสมาชิกไปแล้ว แต่ Copilot ของ Microsoft ก็เปิดให้ใช้งาน ChatGPT ได้ฟรี คุณอยากลง ChatGPT ฟรีหรือไม่ ถ้าใช่นี่คือคำตอบ มีการพูดถึง Microsoft Copilot มากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ เนื่องจากบริษัท Microsoft...

CONTENT

iPhone ตกน้ำ เปียกน้ำ โดนฝน 2024 แจ้งว่ามีของเหลวขณะเสียบสายชาร์จ แก้ไขเบื้องต้นใน 4 ขั้นตอน หนึ่งในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ก็คือมือถือเปียกน้ำ แม้มือถือส่วนใหญ่จะกันน้ำได้บ้าง แต่ก็อาจพบปัญหาตอนเสียบสายชาร์จ อย่างใน iPhone เองจะมีข้อความแจ้งว่าตรวจพบของเหลว และตัดการจ่ายไฟ ทำให้ไม่สามารถชาร์จไฟได้เลย โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อนแบบนี้ หลายท่านคงมักหากิจกรรมที่เกี่ยวกับน้ำเพื่อคลายร้อน ไม่ว่าจะลงสระว่ายน้ำ หรือลงไปดำน้ำ เล่นน้ำทะเลเป็นต้น ที่สำคัญคือ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา...

Buyer's Guide

หลายปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะแบรนด์นาฬิกาหรือสมาร์ทโฟนก็หันมาสร้าง Smart Watch กันอย่างต่อเนื่องจนหลายๆ คนคิดว่าจะซื้อ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 นี้ก็มีตัวเลือกจากแบรนด์ต่างๆ มากมาย ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเอกลักษณ์ส่วนตัวแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะใช้งาน Google Wear OS ทำให้นาฬิกาเป็นส่วนเสริมของสมาร์ทโฟนให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น ใช้จ่ายเงิน, ดูแผนที่ระหว่างเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย ไปจนกลุ่มคนที่รักการออกกำลังกายและใช้ชีวิต Extreme ดำน้ำเดินป่าก็มี Smart Watch...

How to

ไอแพดชาร์จไม่เข้าไม่ต้องตกใจ มีวิธีแก้ไขง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเองไม่ต้องส่งช่างให้เปลืองเงินอีกด้วย!! ยุคนี้ไม่ว่าใครก็ยอมรับว่าไอแพดเป็นแท็บเล็ตที่ดี ใช้ทำงานได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้คอมพิวเตอร์แต่บางคนก็อาจเจอปัญหาว่าใช้ไปสักพักแล้วไอแพดชาร์จไม่เข้าเสียอย่างนั้นจนต้องพาเข้าศูนย์ Apple หรือถ้าหมดประกันก็ต้องพึ่งร้านตู้เจ้าต่างๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้ถูกจุดหรือก่อปัญหาอื่นเพิ่มแทนกันแน่? ซึ่งวิธีแก้ปัญหาไอแพดชาร์จไม่เข้านั้นง่ายกว่าที่คิดมากสามารถแก้เองก่อนได้ ถ้าเกินฝีมือแก้เองไม่ได้จะส่งช่างให้เช็คโดยละเอียดก็ไม่เสียดายภายหลังแน่นอน ปัญหาการชาร์จไม่เข้า หลักๆ คือพอร์ต USB-C หรือ Lightning อาจมาจากความสกปรกไม่ว่าจะหน้าคอนแท็คทองเหลืองเกิดคราบออกไซด์หรือมีฝุ่นจากกระเป๋าเข้าไปอุดตันเยอะจนดันหัวสายชาร์จไม่เข้า, สายชาร์จก็ไม่ได้มาตรฐานเลยชาร์จไม่ได้ ไปจนถึงเรื่องง่ายๆ อย่างการเสียบชาร์จเข้าพอร์ต USB ของพีซีหรือโน๊ตบุ๊คแล้วกระแสไฟไม่พอชาร์จก็อาจเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ซึ่งปัจจัยต่างๆ ในตัวอย่างก็แก้ได้ไม่ยาก...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก