Gaming Notebook ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พัฒนาในส่วนของการออกแบบให้มีความล้ำหน้า ความสวยงาม มีความทันสมัย ให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าบรรดาเกมเมอร์มาโดยตลอด รวมไปถึงในแง่ขอสเปคที่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่อัดมาให้แบบเต็มสตรีมเต็มแม็กแบบไม่ยั้งทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างสบายๆ จนทำให้การ Gaming Notebook ที่มีดีไซน์สวย และสเปคสูงๆ มีเต็มตลาดไปหมดจนแยกแยะความแตกต่างไม่ออก
จนมาถึงในปัจจุบันเหล่าแบรนด์ผู้ผลิตเกมมิ่งโน้ตบุ๊ตจึงต้องหาความแตกต่างให้กับตัวเอง และพยายามหาฟีเจอร์ใหม่ๆ ยัดใส่ลงใน Gaming Notebook เพื่อช่วยให้ Gaming ของตนมีความโดดเด่นกว่าเจ้าอื่น รวมถึงต้องการที่จะผลักดันให้การเล่นเกมบน Gaming Notebook ของตนได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น เช่นกันกับ ASUS ROG G752VT ที่ทางทีมงาน NotebookSPEC จะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในบทความนี้ ที่เป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คที่มีความแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วๆ ไป อีกทั้งยังมีจอแสดงผล NVIDIA G-Sync ที่จะช่วยให้การเล่นเกมดี สวยกว่า ลื่นกว่า Gaming Notebook ตัวไหนๆ แถมช่วยไม่ให้ภาพฉีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นที่ 57,990 บาท และ 63,990 บาทสำหรับรุ่นที่นำมารีวิว
Specification
ในด้านของสเปค ASUS ROG G752VT มาพร้อมด้วยหน่วยประมวลผลอย่าง Intel Core i7-6700HQ (2.60 GHz, 6 MB L3 Cache, up to 3.50 GHz) พร้อมแรมขนาด 16GB 1600 MHz DDR4L SDRAM (เพิ่มได้สูงสุด 32GB) พ่วงฮาร์ดไดร์ฟแบบ SSD 256GB(M.2) และ 1TB 7200RPM พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 970M DDR5 3GB รุ่นท็อปสุดตอบสนองการเล่นเกมได้ลื่นไหลในทุกรูปแบบ
สำหรับจอแสดงผลที่เป็นไฮไลท์มาพร้อมด้วยจอแสดงผลแบบด้าน IPS ขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมชิป NVIDIA G-Sync สามารถช่วยให้ภาพจากในเกมต่างๆ ทำออกมาได้อย่างสมจริง ลื่นไหล สวยงาม และไม่เกิดปัญหาภาพขาด หรือภาพตัด รวมไปถึงเฟรมเรทยังไม่ตกอีกด้วย ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน USB 3.0, VGA, Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type-C), HDMI, Blu-ray Writer , 2 -in-1 card reader ( SD/ MMC) , RJ45 พร้อมยังรองรับมาตราฐานการเชื่อมต่อไรสายอย่าง Bluetooth 4.0 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน Wireless 802.11b/g/n/ac (1×1) อีกด้วย
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวนี้มาพร้อมน้ำหนักราวๆ 4.0 kg กิโลกรัม บนมิติตัวเครื่อง 416 x 318 x 20 ~53 mm (WxDxH) ถือว่าใหญ่และหนักตามสไตล์ Gaming Notebook แบบตัวจริงเสียงจริง ซึ่งตอนนี้มีอยู่สองรุ่นด้วยกัน คือ รุ่นที่ได้รับมารีวิวนี้ ราคา 63,990 บาท ส่วนอีกรุ่นจะมีราคา 57,990 บาท กับรุ่น ASUS ROG G752VL หน้าจอแสดงผลแบบ NVIDIA G-Sync พร้อมการ์ดจอ GTX965M ส่วนสเปกอื่นๆ ก็คล้ายกันหมด
ชมสเปก ASUS ROG G752VL และ ASUS ROG G752VT <<<
Hardware / Design
สำหรับ ASUS ROG G752VT ตัวนี้ก็มาพร้อมกับหน้าตาที่ค่อนข้างสวยงามสมกับที่เป็นของ ASUS เพราะที่ผ่านมาทุกคนก็ต่างยอมรับว่า ASUS สามารถออกแบบดีไซน์ผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของโน๊ตบุ๊ค เมนบอร์ด การ์ดจอ รวมไปถึงสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โดย ASUS ROG G752VT ได้รับการออกแบบต่อยอดมาจาก ASUS ROG G Series รุ่นก่อนๆ โดยทำให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็มาพร้อมด้วยขนาดเครื่อง 17.3 นิ้ว มีน้ำหนักของตัวเครื่องราวๆ 4.0 กิโลกรัมเท่านั้น จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่หนักพอตัว ทางด้านของสเปคก็เติมเต็มประสบการณ์การเล่นเกมของเหล่าเกมเมอร์ได้ดีแน่นอน เพราะใช่สเปคที่ค่อนข้างสดใหม่อย่างมากทั้งชิปประมวลผล Core i7 รุ่นล่าสุด และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 970M รุ่นใหม่ พร้อมด้วยเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync
การออกแบบต่างๆ ASUS ROG G752VT ก็เลือกที่จะใช้การออกแบบให้เข้ากับความเป็น ROG ด้วยวัสดุอย่างอะลูมิเนียมให้ผิวสัมผัสที่ดูคงทนแข็งแรง โดยเรื่องสีสันนั้นก็ต้องบอกเลยว่าโดนใจบรรดาเกมเมอร์อย่างที่สุด ด้วยตัวเครื่องเน้นสีสัน Armor Titanium และตัดด้วย Plasma Copper ส่งผลให้ดูดุดันกว่า Gaming Notebook ทั่วไป เรียกได้ว่ามองแวบเดียวก็สามารถสัมผัสได้ถึงความประสิทธิภาพที่ร้อนแรงในตัว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเครื่องมาทดสอบเลยด้วยซ้ำ
อีกทั้งดีไซน์โดยรวมยังมีความเรียบหรู ไม่ว่าจะเป็นด้านในตัวเครื่องจวบจนฝาหลังก็มีไฟสีส้ม ดูเป็นโน๊ตบุ๊ค Gaming Notebook ตัวจริงเสียงจริง ซึ่งวัสดุหลักๆ เกือบตลอดทั้งตัวเครื่องใช้วัสดุอะลูมิเนียม ที่แน่นอนว่าให้ฟีลสัมผัสที่ดีกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ ตัดวัสดุซอฟต์ทัชภายใน พร้อมโลโก้ ASUS และ ROG ที่น่าจะสวยโดนใจเหล่าเกมเมอร์หลายๆ คน
ด้านท้ายของตัวเครื่องจะเห็นครีบสีแดงลักษณะคล้ายๆ ไอพ่นของเครื่องบิน Stealth แบบ F22-Rapter แลดูสวยงามและใช้ประโยชน์ได้อย่างแน่นอน โดยชุดระบายความร้อนทองแดงคู่แบบสองพัดลมขนาดใหญ่ ที่มอบความเย็นให้กับสเปคของระบบระดับเทพๆ ได้อย่างสบายๆ พร้อมทั้งยังมีระบบไร้ฝุ่น อีกทั้งมีไฟทีแดงช่วยเสริมความดุดันในด้านท้ายด้วย ส่วนถ้าใครอยากอัพเกรดฮาร์ดดิสก์หรือแรมก็ทำได้ง่ายๆ เพราะทาง ASUS ออกแบบฝาปิดแยกสำหรับอัพเกรดเอาไว้ให้แล้ว ด้วยการถอดน็อตเพียงตัวเดียวเท่านั้น
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS ROG G752VT ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก
Keyboard / Touchpad
นอกเหนือจากความสวยงามบนหน้าจอแสดงผล และความลื่นไหลในการเล่นเกมแล้ว ในการควบคุมและใช้งานยังเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ ASUS ROG G752VT ตัวนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมาพร้อมด้วยชุดคีย์บอร์ดสำหรับเกมเมอร์ที่มีปุ่มกดที่ค่อนข้างสูง แถมยังมีไฟแสดงผลสีแดงแบบเปิด-ปิดได้อีกด้วย (หรือจะเปิด-ปิดเป็นโซนๆ ไป ก็สามารถทำได้) บอกได้เลยว่าใช้ควบคุมเกมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และกดปุ่มต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ด้วยลักษณะปุ่มที่ใหญ่ ให้อารมณ์ในการสัมผัสที่เหนือชั้น ส่วนปุ่มอื่นๆ ที่นอกเหนือจากปุ่มกดๆ ทั่วไปแล้ว ASUS ROG G752VT ยังมาพร้อมปุ่ม Shortcut ต่างๆ อีกชุดใหญ่ทั้งปุ่ม XSplit Gamecaster โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมี Marcro Key ถึง 5 ปุ่มด้วยกัน ที่สามารถตั้งค่าผ่าน Utility ของ ASUS ได้เลยตามความต้องการ
ทัชแพดเองก็เป็นแบบขนาดใหญ่ โดยแยกปุ่มคลิกซ้าย-ขวาออกมา ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ตัวทัชแพดรองรับฟีเจอร์ Smart Gesture ใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าอยากเล่นเกมแบบจริงจังแนะนำให้ใช้ Gaming Mouse ที่มาพร้อมชุดจำหน่ายมาใช้จะคล่องตัวกว่า
Screen / Speaker
สมกับเป็น Gaming Notebook โดยจริงเลย เพราะมาพร้อมองค์ประกอบสำหรับเล่นเกมได้เป็นอย่างดีกับหน้าจอคุณภาพสูง โดยเมื่อเปิดฝาพับออกมาก็จะพบกับหน้าจอแสดงผลด้านขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD แบบพาเนล IPS ที่มาพร้อมเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ที่ทำให้ภาพมีความลื่นไหลแบบสุด รองรับที่ 75 Hz ส่งผลให้ไม่เกิดอาการภาพแตก รวมไปถึงไม่ไปดึงทรัพยากรเครื่องมากจนเกินไป อีกทั้งยังใช้จอแบบด้านที่ลดแสงสะท้อน และยังสามารถเล่นเกมต่างๆ ได้อย่างไร้ที่ติด้วย
ส่วนระบบเสียงอย่าง Sonic Studio & Sonic Radar พร้อมลำโพง Subwoofer ที่ติดตั้งมาในตัวก็ระดับเสียงที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปอยู่บ้างพอสมควรสามารถใช้ฟังเพลงต่างๆ ได้ค่อนข้างดีกว่าอยู่บ้าง มีเสียงเบสมาเป็นลูกๆ เลยละ แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของเสียงแนะนำให้ปรับแต่งเสียงตามแนวเสียงของตัวเอง สำหรับการเล่นเกม Sonic Studio & Sonic Radar ถือว่าทำได้ดีทีเดียว จากการที่ให้เสียงที่แยกชัดเจน โดยตัวลำโพงติดตั้งอยู่ใต้หน้าจอ และลำโพง Subwoofer จะอยู่ใต้ตัวเครื่อง
Connector / Thin And Weight
ASUS ROG G752VT มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันทั้ง USB 3.0 ทุกพอร์ตจำนวน 4 พอร์ต ที่สำคัญยังมี USB 3.1 Type-C สุดล้ำมาให้ 1 พอร์ต แน่นอนว่ามี Audio Combo Jack (headphone and mic) และพอร์ตแสดงผลอย่าง HDMI, Display Port นอกจากนี้ยังมี 2-in-1 (SD / MMC / SDXC) Card Reader, RJ45, SPDIF รวมไปถึงยังมี DVD Drive หรือรุ่นที่สูงกว่าจะเป็นระดับ Blu-ray Drive เลยทีเดียว รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Bluetooth 4.0+HS และ Wireless AC ที่สนับสนุน WiDi เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook ที่มีช่องทางในการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ภายนอกต่างๆ ครบที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว
อย่างไรก็ตามในส่วนของขนาดต้องบอกว่าใหญ่กว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากๆ ด้วยหน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว และเป็นดีไซน์แบบ Gaming Notebook ตัวจริง ทำให้มีความหนาค่อนข้างมาก เพราะช่วยให้ติดตั้งชุดระบายความร้อนแบบมีประสิทธิภาพได้ รวมไปถึงอัพเกรดได้ง่าย อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าส่งผลต่อการพกพา ใครคิดจะพกพาไปใช้งานข้างนอกบ่อยๆ บอกเลยไม่เหมาะแน่นอน เว้นแต่จะใส่รถยนต์ไปแล้วถือไปใช้งาน น่าจะเป็นอะไรที่สะดวกที่สุด
Performance / Software
ASUS ROG G752VT เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-6700HQ ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นประสิทธิภาพ มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.50 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ซึ่งเหมาะกับงานที่ต้องการทรัพยากรที่สูง ที่ว่าจะเป็นการเล่นเกม 3 มิติ การตัดต่อวีดีโอ การแปลงไฟล์ หรือการโปรเซสไฟล์อื่นๆ แต่ถ้าเป็นพวกงานทั่วไปต้องบอกว่ารองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับเรื่องประหยัดพลังงานนั้น คงจะสู้พวกตระกูล U ไม่ได้ (แต่คนที่ซื้อ ASUS ROG G752VT คงไม่เน้นอยู่แล้วล่ะ) มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB ติดตั้งแบบ 8GB x 2 (อัพเกรดได้สูงสุด 64GB คือเหลือว่างอีก 2 แถว) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้รวมถึงซอฟต์แวร์และเกมต่างๆ อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างที่สุด
การ์ดจอเป็นแบบแยกระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 970M ที่มีแรม GDDR5 ขนาด 3GB ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีระดับสูงเทียบเท่าราวๆ กับ NVIDIA GeForce GTX 960 ในส่วนของเครื่องพีซีทีเดียว อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่าสนับสนุนการทำงานได้ในระดับสูง ตอบสนองการเล่นเกม 3 มิติ ได้เป็นอย่างดี หรือถ้าทำงานก็ใช้งานได้แบบลื่นไหล ซึ่งต้องบอกว่า NVIDIA GeForce GTX 970M เป็นรองการ์ดจอตัวท๊อป NVIDIA GeForce GTX 980M เท่านั้น
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนและการ์ดจอระดับรองท๊อป
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ แต่อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตอยู่ว่าในการเขียนนั้นมีผลเทสที่น้อยไปหน่อย
นอกจากนี้ ASUS ROG G752VT ยังได้มีการติดตั้งฮาร์ดดิสก์แบบปกติด้วย เป็นความจุ 1TB เน้นไว้สำหรับเก็บข้อมูลหรือโปรแกรมอื่นๆ ที่มีความสำคัญรองลงมา เรียกได้เป็นการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ทั้งสองแบบในเครื่องเดียว คือได้ทั้งความเร็วการทำงานโดยรวม อีกทั้งยังให้ความจุที่พอเพียงต่อการ Backup ไฟล์อีกด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Resident Evil 6 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด Full HD โดยกราฟิกปรับระดับที่ High ภาพก็สวยจนน่าประทับใจ อยู่ในระดับ Rank S นับว่าใช้ได้ทีเดียว ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วรองรับสูงสุดที่ 75 fps ได้อย่างสบายๆ
และจากเกมส์ที่ทดสอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Need for Speed : Most Wanted และ Mortal Kombat X จะเห็นว่า ASUS ROG G752VT มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบันทีเดียว เพราะส่วนใหญ่จะไปวัดกันตรงกราฟิกการ์ดเป็นส่วนมาก ด้วยการปรับกราฟิกสูงสุดที่ความละเอียด Full HD ก็ตอบสนองเฟรมเรทได้ที่ 60 fps ตามมาตรฐานของ NVIDIA G-Sync (บางเกมจะรองรับสูงสุดที่ 75 fps)
ปิดด้วยเกมหนึ่งที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ Full HD ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้แน่นอน ซึ่งผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 110 – 120 fps แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 fps ขึ้นไปตลอด (อันนี้ทดสอบเลยทะลุไปได้เกิน 75 fps)
สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ซึ่งในการทดลองเล่นเกม DOTA 2 ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง ยิ่งมีเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ต้องบอกว่าทุกเกมนั้นให้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลแบบสุดๆ อย่างที่ Gaming Notebook ปกติที่ไม่มี NVIDIA G-Sync มาให้
นอกเหนือจากนี้ทาง ASUS ยังมีซอฟต์แวร์ Utility โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อาทิเช่น Gaming Center, MacroKey, GameFirst และ Splendid อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Gaming Notebook ระดับสูงของทาง ASUS ROG เท่านั้น
G-SYNC Technology
ขายความกันเสียหน่อย สำหรับเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ก็ได้รับการพัฒนา เพื่อลดอาการภาพแสดงผลไม่ต่อเนื่อง อย่างภาพขาด ภาพฉีก หรือเหลื่อมๆ ไม่ต่อเนื่อง โดยเทคโนโลยี G-Sync จะเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อมาจาก V-Sync ครับ ซึ่งถึงแม้ V-Sync จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดภาพ ขาดไม่ต่อเนื่องในการเล่นเกมได้ก็จริง แต่เทคโนโลยีนี้จะกินทรัพยากรของเครื่องมากขึ้นจึงมักจะทำให้เกิดอาการหน่วงขณะเล่น ทำให้บางครั้งจะเสียอรรถสอย่างมากขณะเล่นเกมจนเกมเมอร์หลายคนต้องปิด V-Sync กันเลยทีเดียว
NVIDIA จึงออกเทคโนโลยี G-Sync ออกมาแก้ซึ่งแก้ปัญหาที่ตรงจุด ก็คือแก้ที่หน้าจอแสดงผล (Hardware) เสียเลย โดยจับชิป G-Sync ติดตั้งไว้ในหน้าจอ ไว้ประมวลผลต่างหาก ทำให้เล่นเกมลื่นและไม่เกิดอาการหน่วง แถมภาพก็ต่อเนื่องไม่ขาดๆ หายๆ อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นหน้าจอมอนิเตอร์ของพีซีมีเทคโนโลยี G-Sync อยู่เท่านั้น จนล่าสุดเทคโนโลยีนี้ก็เข้ามาถึงหน้าจอของ Gaming Notebook กันแล้ว โดย Gaming Notebook ที่รองรับจะต้องเป็นรุ่นพิเศษที่ใส่ชิป G-Sync เอาไว้ที่จอแสดงผล ซึ่งข้อดีก็คือจะช่วยให้เพื่อนๆ เล่นเกมลื่นขึ้น (เพราะไม่จำเป็นต้องเปิด V-Sync) และภาพจะต่อเนื่องไม่ขาดๆ หายๆ ขณะเล่นเกม (ด้วยเทคโนโลยี G-Sync) นั่นเอง โดยปัจจุบัน Gaming Notebook ระดับสูงของ ASUS ได้เลือกใช้เทคโนโลยีนี้อยู่ อย่าง ASUS ROG G752VT เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่สุดยอดที่สุด เท่าที่ Gaming Notebook จะให้ได้
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG G752VT เครื่องนี้เป็นขนาด 6,000 mAh แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลและการ์ดจอที่แบบเน้นประสิทธิภาพจึงมีการใช้พลังงานที่ค่อนข้างมาก ซึ่งการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 2:30 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเงื่อนไขการทดสอบของทางทีมงานนั้นเป็นกรณีที่ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานที่สุดนั่นเอง เรียกได้ว่าถ้าหากเน้นใช้งานหลักๆ มีความเป็นไปได้ว่าแบตเตอรี่อาจจะอยู่ได้ประมาณชั่วโมงหนึ่งเท่านั้น แต่ก็เข้าใจว่าจากสเปกที่แรงขนาดนี้ รวมกับหน้าจอขนาดใหญ่ด้วย ซึ่งจะว่าไปก็เป็นปกติของ Gaming Notebook ลักษณะนี้อยู่แล้ว
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 54 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 91 องศาเซลเซียส และเสียงพัดลมก็ไม่ได้ดังรบกวนมากนัก แถมยังสามารถระบายความร้อนออกไปค่อนข้างรวดเร็วด้วย สมแล้วล่ะที่เป็น Gaming Notebook ที่ดีไซน์มาลักษณะนี้
Conclusion / Award
มั่นใจเลยว่าถ้าเพื่อนๆ ที่เป็นเกมเมอร์อยู่ในสายเลือดหรือชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว ได้ลองสัมผัสตัวจริงของกับ ASUS ROG G752VT จะต้องหลงรักมันเป็นแน่ (ถ้ารับกับขนาดและน้ำหนักของมันได้) ด้วยการออกแบบและดีไซน์ตามสไตล์เรียบแต่หรูจาก ASUS รวมไปถึงฟีเจอร์ที่จัดมาให้อย่างครบครันและเทียบเท่า Gaming Notebook ระดับ Hi-End จากแบรนด์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ NVIDIA G-Sync ที่ให้การ์ดจอคุยกับหน้าจอรู้เรื่อง เพื่อภาพลื่นไหล, ความละเอียด Full HD คุณภาพสูงให้มุมมองกว้าง สีสันสมจริง, ระบบเสียง Sonic Studio & Sonic Radar ที่ให้เสียงสุดพลังสมจริงแบบแยกชิ้น และคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเหล่าเกมเมอร์ต้องถูกอกถูกใจอย่างแน่นอน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 57,990 บาท จนไปถึง 63,990 บาท
ที่สำคัญยังมาพร้อมสเปคที่จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook ไม่ว่าจะเป็น Intel Core i7-6700HQ และการ์ดจอตัวเทพอย่าง NVIDIA GeForce GTX 970M ซึ่งแม้จะเป็นตัวรองท็อปของตระกูล GTX แต่ก็สามารถตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างน่าประทับใจ ที่สำคัญยังมาพร้อมการระบายความร้อนที่ดี จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่มีความร้อนและเสียงรบกวนที่ค่อนข้างต่ำทีเดียว รวมถึงมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ พอร์ตการเชื่อมต่อสุดล้ำ USB 3.1 Type-C รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งานที่ต้องบอกว่าหาได้ยากในโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป
สำหรับเพื่อนๆ ท่านใดที่สนใจ ASUS ROG G752VT กับ Gaming Notebook หน้าจอ 17″ สายพันธุ์แท้ ก็สามารถที่จับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย เพราะว่าทาง ASUS พร้อมจำหน่ายผ่านทางร้านค้าห้างร้านไอทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอย่างที่บอกไปแล้วตรงส่วนสเปกว่า ASUS ROG G752VT มีอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน พร้อมด้วยของบันเดิลสุดพีเมียมอย่าง Gaming Mouse ROG Asus และ Handset Cerberus ROG รวมถึงกระเป๋า ROG ซึ่งยังไงแนะนำว่าเป็นไปได้ก็ซื้อตัวท็อปรุ่นราคา 63,990 บาทจะดีกว่า เรียกได้ว่าไปให้สุดไปเลย
จุดเด่น
- ตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม สมกับเป็น ASUS ROG
- ประสิทธิภาพสูงตามมาตรฐานของ Gaming Notebook
- ระบบระบายความร้อนจัดว่าน่าประทับใจ
- มีระบบไล่ฝุ่น ป้องกันความร้อนสะสมในอนาคต
- ระบบเสียงคุณภาพ ฟีเจอร์อัดแน่น
- พอร์ตเชื่อมต่อเยอะและครบครันสุดๆ
- จอความละเอียด Full HD สีสันสวยสมจริง
- อัพเกรดเพิ่มแรมและใส่ฮาร์ดดิสก์ได้ง่ายมากๆ
- พอร์ตการใช้งานครบครัน มี Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type-C)
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- ในชุดจัดจำหน่ายมี Gaming Mouse, Handset และกระเป๋า ROG มาให้
ข้อสังเกต
- การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX ตัวรองท็อป
- ตัวเครื่องใหญ่มากและน้ำหนักมากไม่เหมาะแก่การพกพา
- หน้าจอเป็นความละเอียด Full HD เท่านั้น
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้ว ซึ่ง ASUS ROG G752VT ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน ASUS ROG G752VT ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรู ประกอบการงานการประกอบระดับคุณภาพ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้วสำหรับซีรีส์ ROG ซึ่งมีความดุดันและเน้นประสิทธิภาพของตัวเครื่องก็ถือว่าทำได้ดีกว่า Gaming Notebook ทั้งหมดอีกด้วย
Best Performance
สเปคของระบบภายในตัวเครื่อง ASUS ROG G752VT ที่ครบครันทั้งชิปประมวลผล Intel Core i7-6700HQ และการ์ดจอ GeForece GTX 970M ที่เป็นการ์ดจอประสิทธิภาพสูง ถือว่าเป็นการจับคู่ที่ทรงประสิทธิภาพ รองรับการทำงานได้รอบด้าน ไม่ว่าจะใช้ทำงานกราฟิกหรือว่าจะเล่นเกมก็ตาม ฉะนั้นก็ไม่น่าพลาดกับรางวัล Best Performance อย่างแน่นอน
Best Technology
ASUS ROG G752VT นอกเหนือจากความแรงที่ครบครันจากสเปกภายในแล้ว ยังมีในส่วนของเทคโนโลยีที่น่าสนใจและใช้งานได้จริงอย่าง เทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ก็ได้รับการพัฒนา เพื่อลดอาการภาพแสดงผลไม่ต่อเนื่อง อย่างภาพขาด ภาพฉีก หรือเหลื่อมๆ ไม่ต่อเนื่อง โดยเทคโนโลยี G-Sync จะเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อมาจาก V-Sync ซึ่งถึงแม้ V-Sync จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดภาพ ขาดไม่ต่อเนื่องในการเล่นเกมได้ก็จริง แต่เทคโนโลยี NVIDIA G-Sync เพราะมีชิปเฉพาะ ไม่กินทรัพยากรเครื่อง
Best Multimedia
ลำโพงและซอฟแวร์เสียงจาก Sonic Studio & Sonic Radar ให้ประสบการณ์ด้านเสียงที่น่าประทับใจ ส่วนหน้าจอแสดงผล 17.3 นิ้ว Full HD ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเป็นเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็รองรับได้เป็นอย่างดีทำให้ ASUS ROG G752VT นี่ได้รับรางวัล Best Multimedia ไปเลย
Specification
ในด้านของสเปค ASUS ROG G752VT มาพร้อมด้วยหน่วยประมวลผลอย่าง Intel Core i7-6700HQ (2.60 GHz, 6 MB L3 Cache, up to 3.50 GHz) พร้อมแรมขนาด 16GB 1600 MHz DDR4L SDRAM (เพิ่มได้สูงสุด 32GB) พ่วงฮาร์ดไดร์ฟแบบ SSD 256GB(M.2) และ 1TB 7200RPM พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 970M DDR5 3GB รุ่นท็อปสุดตอบสนองการเล่นเกมได้ลื่นไหลในทุกรูปแบบ
สำหรับจอแสดงผลที่เป็นไฮไลท์มาพร้อมด้วยจอแสดงผลแบบด้าน IPS ขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมชิป NVIDIA G-Sync สามารถช่วยให้ภาพจากในเกมต่างๆ ทำออกมาได้อย่างสมจริง ลื่นไหล สวยงาม และไม่เกิดปัญหาภาพขาด หรือภาพตัด รวมไปถึงเฟรมเรทยังไม่ตกอีกด้วย ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน USB 3.0, VGA, Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type-C), HDMI, Blu-ray Writer , 2 -in-1 card reader ( SD/ MMC) , RJ45 พร้อมยังรองรับมาตราฐานการเชื่อมต่อไรสายอย่าง Bluetooth 4.0 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน Wireless 802.11b/g/n/ac (1×1) อีกด้วย
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวนี้มาพร้อมน้ำหนักราวๆ 4.0 kg กิโลกรัม บนมิติตัวเครื่อง 416 x 318 x 20 ~53 mm (WxDxH) ถือว่าใหญ่และหนักตามสไตล์ Gaming Notebook แบบตัวจริงเสียงจริง ซึ่งตอนนี้มีอยู่สองรุ่นด้วยกัน คือ รุ่นที่ได้รับมารีวิวนี้ ราคา 63,990 บาท ส่วนอีกรุ่นจะมีราคา 57,990 บาท กับรุ่น ASUS ROG G752VL หน้าจอแสดงผลแบบ NVIDIA G-Sync พร้อมการ์ดจอ GTX965M ส่วนสเปกอื่นๆ ก็คล้ายกันหมด
ชมสเปก ASUS ROG G752VL และ ASUS ROG G752VT <<<
Hardware / Design
สำหรับ ASUS ROG G752VT ตัวนี้ก็มาพร้อมกับหน้าตาที่ค่อนข้างสวยงามสมกับที่เป็นของ ASUS เพราะที่ผ่านมาทุกคนก็ต่างยอมรับว่า ASUS สามารถออกแบบดีไซน์ผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของโน๊ตบุ๊ค เมนบอร์ด การ์ดจอ รวมไปถึงสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โดย ASUS ROG G752VT ได้รับการออกแบบต่อยอดมาจาก ASUS ROG G Series รุ่นก่อนๆ โดยทำให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็มาพร้อมด้วยขนาดเครื่อง 17.3 นิ้ว มีน้ำหนักของตัวเครื่องราวๆ 4.0 กิโลกรัมเท่านั้น จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่หนักพอตัว ทางด้านของสเปคก็เติมเต็มประสบการณ์การเล่นเกมของเหล่าเกมเมอร์ได้ดีแน่นอน เพราะใช่สเปคที่ค่อนข้างสดใหม่อย่างมากทั้งชิปประมวลผล Core i7 รุ่นล่าสุด และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 970M รุ่นใหม่ พร้อมด้วยเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync
การออกแบบต่างๆ ASUS ROG G752VT ก็เลือกที่จะใช้การออกแบบให้เข้ากับความเป็น ROG ด้วยวัสดุอย่างอะลูมิเนียมให้ผิวสัมผัสที่ดูคงทนแข็งแรง โดยเรื่องสีสันนั้นก็ต้องบอกเลยว่าโดนใจบรรดาเกมเมอร์อย่างที่สุด ด้วยตัวเครื่องเน้นสีสัน Armor Titanium และตัดด้วย Plasma Copper ส่งผลให้ดูดุดันกว่า Gaming Notebook ทั่วไป เรียกได้ว่ามองแวบเดียวก็สามารถสัมผัสได้ถึงความประสิทธิภาพที่ร้อนแรงในตัว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเครื่องมาทดสอบเลยด้วยซ้ำ
อีกทั้งดีไซน์โดยรวมยังมีความเรียบหรู ไม่ว่าจะเป็นด้านในตัวเครื่องจวบจนฝาหลังก็มีไฟสีส้ม ดูเป็นโน๊ตบุ๊ค Gaming Notebook ตัวจริงเสียงจริง ซึ่งวัสดุหลักๆ เกือบตลอดทั้งตัวเครื่องใช้วัสดุอะลูมิเนียม ที่แน่นอนว่าให้ฟีลสัมผัสที่ดีกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ ตัดวัสดุซอฟต์ทัชภายใน พร้อมโลโก้ ASUS และ ROG ที่น่าจะสวยโดนใจเหล่าเกมเมอร์หลายๆ คน
ด้านท้ายของตัวเครื่องจะเห็นครีบสีแดงลักษณะคล้ายๆ ไอพ่นของเครื่องบิน Stealth แบบ F22-Rapter แลดูสวยงามและใช้ประโยชน์ได้อย่างแน่นอน โดยชุดระบายความร้อนทองแดงคู่แบบสองพัดลมขนาดใหญ่ ที่มอบความเย็นให้กับสเปคของระบบระดับเทพๆ ได้อย่างสบายๆ พร้อมทั้งยังมีระบบไร้ฝุ่น อีกทั้งมีไฟทีแดงช่วยเสริมความดุดันในด้านท้ายด้วย ส่วนถ้าใครอยากอัพเกรดฮาร์ดดิสก์หรือแรมก็ทำได้ง่ายๆ เพราะทาง ASUS ออกแบบฝาปิดแยกสำหรับอัพเกรดเอาไว้ให้แล้ว ด้วยการถอดน็อตเพียงตัวเดียวเท่านั้น
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS ROG G752VT ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก
Keyboard / Touchpad
นอกเหนือจากความสวยงามบนหน้าจอแสดงผล และความลื่นไหลในการเล่นเกมแล้ว ในการควบคุมและใช้งานยังเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ ASUS ROG G752VT ตัวนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมาพร้อมด้วยชุดคีย์บอร์ดสำหรับเกมเมอร์ที่มีปุ่มกดที่ค่อนข้างสูง แถมยังมีไฟแสดงผลสีแดงแบบเปิด-ปิดได้อีกด้วย (หรือจะเปิด-ปิดเป็นโซนๆ ไป ก็สามารถทำได้) บอกได้เลยว่าใช้ควบคุมเกมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และกดปุ่มต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ด้วยลักษณะปุ่มที่ใหญ่ ให้อารมณ์ในการสัมผัสที่เหนือชั้น ส่วนปุ่มอื่นๆ ที่นอกเหนือจากปุ่มกดๆ ทั่วไปแล้ว ASUS ROG G752VT ยังมาพร้อมปุ่ม Shortcut ต่างๆ อีกชุดใหญ่ทั้งปุ่ม XSplit Gamecaster โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมี Marcro Key ถึง 5 ปุ่มด้วยกัน ที่สามารถตั้งค่าผ่าน Utility ของ ASUS ได้เลยตามความต้องการ
ทัชแพดเองก็เป็นแบบขนาดใหญ่ โดยแยกปุ่มคลิกซ้าย-ขวาออกมา ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ตัวทัชแพดรองรับฟีเจอร์ Smart Gesture ใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าอยากเล่นเกมแบบจริงจังแนะนำให้ใช้ Gaming Mouse ที่มาพร้อมชุดจำหน่ายมาใช้จะคล่องตัวกว่า
Screen / Speaker
สมกับเป็น Gaming Notebook โดยจริงเลย เพราะมาพร้อมองค์ประกอบสำหรับเล่นเกมได้เป็นอย่างดีกับหน้าจอคุณภาพสูง โดยเมื่อเปิดฝาพับออกมาก็จะพบกับหน้าจอแสดงผลด้านขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD แบบพาเนล IPS ที่มาพร้อมเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ที่ทำให้ภาพมีความลื่นไหลแบบสุด รองรับที่ 75 Hz ส่งผลให้ไม่เกิดอาการภาพแตก รวมไปถึงไม่ไปดึงทรัพยากรเครื่องมากจนเกินไป อีกทั้งยังใช้จอแบบด้านที่ลดแสงสะท้อน และยังสามารถเล่นเกมต่างๆ ได้อย่างไร้ที่ติด้วย
ส่วนระบบเสียงอย่าง Sonic Studio & Sonic Radar พร้อมลำโพง Subwoofer ที่ติดตั้งมาในตัวก็ระดับเสียงที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปอยู่บ้างพอสมควรสามารถใช้ฟังเพลงต่างๆ ได้ค่อนข้างดีกว่าอยู่บ้าง มีเสียงเบสมาเป็นลูกๆ เลยละ แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของเสียงแนะนำให้ปรับแต่งเสียงตามแนวเสียงของตัวเอง สำหรับการเล่นเกม Sonic Studio & Sonic Radar ถือว่าทำได้ดีทีเดียว จากการที่ให้เสียงที่แยกชัดเจน โดยตัวลำโพงติดตั้งอยู่ใต้หน้าจอ และลำโพง Subwoofer จะอยู่ใต้ตัวเครื่อง
Connector / Thin And Weight
ASUS ROG G752VT มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันทั้ง USB 3.0 ทุกพอร์ตจำนวน 4 พอร์ต ที่สำคัญยังมี USB 3.1 Type-C สุดล้ำมาให้ 1 พอร์ต แน่นอนว่ามี Audio Combo Jack (headphone and mic) และพอร์ตแสดงผลอย่าง HDMI, Display Port นอกจากนี้ยังมี 2-in-1 (SD / MMC / SDXC) Card Reader, RJ45, SPDIF รวมไปถึงยังมี DVD Drive หรือรุ่นที่สูงกว่าจะเป็นระดับ Blu-ray Drive เลยทีเดียว รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Bluetooth 4.0+HS และ Wireless AC ที่สนับสนุน WiDi เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook ที่มีช่องทางในการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ภายนอกต่างๆ ครบที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว
อย่างไรก็ตามในส่วนของขนาดต้องบอกว่าใหญ่กว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากๆ ด้วยหน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว และเป็นดีไซน์แบบ Gaming Notebook ตัวจริง ทำให้มีความหนาค่อนข้างมาก เพราะช่วยให้ติดตั้งชุดระบายความร้อนแบบมีประสิทธิภาพได้ รวมไปถึงอัพเกรดได้ง่าย อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าส่งผลต่อการพกพา ใครคิดจะพกพาไปใช้งานข้างนอกบ่อยๆ บอกเลยไม่เหมาะแน่นอน เว้นแต่จะใส่รถยนต์ไปแล้วถือไปใช้งาน น่าจะเป็นอะไรที่สะดวกที่สุด
Performance / Software
ASUS ROG G752VT เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-6700HQ ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นประสิทธิภาพ มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.50 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ซึ่งเหมาะกับงานที่ต้องการทรัพยากรที่สูง ที่ว่าจะเป็นการเล่นเกม 3 มิติ การตัดต่อวีดีโอ การแปลงไฟล์ หรือการโปรเซสไฟล์อื่นๆ แต่ถ้าเป็นพวกงานทั่วไปต้องบอกว่ารองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับเรื่องประหยัดพลังงานนั้น คงจะสู้พวกตระกูล U ไม่ได้ (แต่คนที่ซื้อ ASUS ROG G752VT คงไม่เน้นอยู่แล้วล่ะ) มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB ติดตั้งแบบ 8GB x 2 (อัพเกรดได้สูงสุด 64GB คือเหลือว่างอีก 2 แถว) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้รวมถึงซอฟต์แวร์และเกมต่างๆ อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างที่สุด
การ์ดจอเป็นแบบแยกระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 970M ที่มีแรม GDDR5 ขนาด 3GB ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีระดับสูงเทียบเท่าราวๆ กับ NVIDIA GeForce GTX 960 ในส่วนของเครื่องพีซีทีเดียว อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่าสนับสนุนการทำงานได้ในระดับสูง ตอบสนองการเล่นเกม 3 มิติ ได้เป็นอย่างดี หรือถ้าทำงานก็ใช้งานได้แบบลื่นไหล ซึ่งต้องบอกว่า NVIDIA GeForce GTX 970M เป็นรองการ์ดจอตัวท๊อป NVIDIA GeForce GTX 980M เท่านั้น
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนและการ์ดจอระดับรองท๊อป
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ แต่อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตอยู่ว่าในการเขียนนั้นมีผลเทสที่น้อยไปหน่อย
นอกจากนี้ ASUS ROG G752VT ยังได้มีการติดตั้งฮาร์ดดิสก์แบบปกติด้วย เป็นความจุ 1TB เน้นไว้สำหรับเก็บข้อมูลหรือโปรแกรมอื่นๆ ที่มีความสำคัญรองลงมา เรียกได้เป็นการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ทั้งสองแบบในเครื่องเดียว คือได้ทั้งความเร็วการทำงานโดยรวม อีกทั้งยังให้ความจุที่พอเพียงต่อการ Backup ไฟล์อีกด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Resident Evil 6 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด Full HD โดยกราฟิกปรับระดับที่ High ภาพก็สวยจนน่าประทับใจ อยู่ในระดับ Rank S นับว่าใช้ได้ทีเดียว ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วรองรับสูงสุดที่ 75 fps ได้อย่างสบายๆ
และจากเกมส์ที่ทดสอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Need for Speed : Most Wanted และ Mortal Kombat X จะเห็นว่า ASUS ROG G752VT มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบันทีเดียว เพราะส่วนใหญ่จะไปวัดกันตรงกราฟิกการ์ดเป็นส่วนมาก ด้วยการปรับกราฟิกสูงสุดที่ความละเอียด Full HD ก็ตอบสนองเฟรมเรทได้ที่ 60 fps ตามมาตรฐานของ NVIDIA G-Sync (บางเกมจะรองรับสูงสุดที่ 75 fps)
ปิดด้วยเกมหนึ่งที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ Full HD ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้แน่นอน ซึ่งผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 110 – 120 fps แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 fps ขึ้นไปตลอด (อันนี้ทดสอบเลยทะลุไปได้เกิน 75 fps)
สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ซึ่งในการทดลองเล่นเกม DOTA 2 ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง ยิ่งมีเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ต้องบอกว่าทุกเกมนั้นให้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลแบบสุดๆ อย่างที่ Gaming Notebook ปกติที่ไม่มี NVIDIA G-Sync มาให้
นอกเหนือจากนี้ทาง ASUS ยังมีซอฟต์แวร์ Utility โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อาทิเช่น Gaming Center, MacroKey, GameFirst และ Splendid อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Gaming Notebook ระดับสูงของทาง ASUS ROG เท่านั้น
G-SYNC Technology
ขายความกันเสียหน่อย สำหรับเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ก็ได้รับการพัฒนา เพื่อลดอาการภาพแสดงผลไม่ต่อเนื่อง อย่างภาพขาด ภาพฉีก หรือเหลื่อมๆ ไม่ต่อเนื่อง โดยเทคโนโลยี G-Sync จะเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อมาจาก V-Sync ครับ ซึ่งถึงแม้ V-Sync จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดภาพ ขาดไม่ต่อเนื่องในการเล่นเกมได้ก็จริง แต่เทคโนโลยีนี้จะกินทรัพยากรของเครื่องมากขึ้นจึงมักจะทำให้เกิดอาการหน่วงขณะเล่น ทำให้บางครั้งจะเสียอรรถสอย่างมากขณะเล่นเกมจนเกมเมอร์หลายคนต้องปิด V-Sync กันเลยทีเดียว
NVIDIA จึงออกเทคโนโลยี G-Sync ออกมาแก้ซึ่งแก้ปัญหาที่ตรงจุด ก็คือแก้ที่หน้าจอแสดงผล (Hardware) เสียเลย โดยจับชิป G-Sync ติดตั้งไว้ในหน้าจอ ไว้ประมวลผลต่างหาก ทำให้เล่นเกมลื่นและไม่เกิดอาการหน่วง แถมภาพก็ต่อเนื่องไม่ขาดๆ หายๆ อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นหน้าจอมอนิเตอร์ของพีซีมีเทคโนโลยี G-Sync อยู่เท่านั้น จนล่าสุดเทคโนโลยีนี้ก็เข้ามาถึงหน้าจอของ Gaming Notebook กันแล้ว โดย Gaming Notebook ที่รองรับจะต้องเป็นรุ่นพิเศษที่ใส่ชิป G-Sync เอาไว้ที่จอแสดงผล ซึ่งข้อดีก็คือจะช่วยให้เพื่อนๆ เล่นเกมลื่นขึ้น (เพราะไม่จำเป็นต้องเปิด V-Sync) และภาพจะต่อเนื่องไม่ขาดๆ หายๆ ขณะเล่นเกม (ด้วยเทคโนโลยี G-Sync) นั่นเอง โดยปัจจุบัน Gaming Notebook ระดับสูงของ ASUS ได้เลือกใช้เทคโนโลยีนี้อยู่ อย่าง ASUS ROG G752VT เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่สุดยอดที่สุด เท่าที่ Gaming Notebook จะให้ได้
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG G752VT เครื่องนี้เป็นขนาด 6,000 mAh แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลและการ์ดจอที่แบบเน้นประสิทธิภาพจึงมีการใช้พลังงานที่ค่อนข้างมาก ซึ่งการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 2:30 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเงื่อนไขการทดสอบของทางทีมงานนั้นเป็นกรณีที่ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานที่สุดนั่นเอง เรียกได้ว่าถ้าหากเน้นใช้งานหลักๆ มีความเป็นไปได้ว่าแบตเตอรี่อาจจะอยู่ได้ประมาณชั่วโมงหนึ่งเท่านั้น แต่ก็เข้าใจว่าจากสเปกที่แรงขนาดนี้ รวมกับหน้าจอขนาดใหญ่ด้วย ซึ่งจะว่าไปก็เป็นปกติของ Gaming Notebook ลักษณะนี้อยู่แล้ว
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 54 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 91 องศาเซลเซียส และเสียงพัดลมก็ไม่ได้ดังรบกวนมากนัก แถมยังสามารถระบายความร้อนออกไปค่อนข้างรวดเร็วด้วย สมแล้วล่ะที่เป็น Gaming Notebook ที่ดีไซน์มาลักษณะนี้
Conclusion / Award
มั่นใจเลยว่าถ้าเพื่อนๆ ที่เป็นเกมเมอร์อยู่ในสายเลือดหรือชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว ได้ลองสัมผัสตัวจริงของกับ ASUS ROG G752VT จะต้องหลงรักมันเป็นแน่ (ถ้ารับกับขนาดและน้ำหนักของมันได้) ด้วยการออกแบบและดีไซน์ตามสไตล์เรียบแต่หรูจาก ASUS รวมไปถึงฟีเจอร์ที่จัดมาให้อย่างครบครันและเทียบเท่า Gaming Notebook ระดับ Hi-End จากแบรนด์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ NVIDIA G-Sync ที่ให้การ์ดจอคุยกับหน้าจอรู้เรื่อง เพื่อภาพลื่นไหล, ความละเอียด Full HD คุณภาพสูงให้มุมมองกว้าง สีสันสมจริง, ระบบเสียง Sonic Studio & Sonic Radar ที่ให้เสียงสุดพลังสมจริงแบบแยกชิ้น และคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเหล่าเกมเมอร์ต้องถูกอกถูกใจอย่างแน่นอน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 57,990 บาท จนไปถึง 63,990 บาท
ที่สำคัญยังมาพร้อมสเปคที่จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook ไม่ว่าจะเป็น Intel Core i7-6700HQ และการ์ดจอตัวเทพอย่าง NVIDIA GeForce GTX 970M ซึ่งแม้จะเป็นตัวรองท็อปของตระกูล GTX แต่ก็สามารถตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างน่าประทับใจ ที่สำคัญยังมาพร้อมการระบายความร้อนที่ดี จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่มีความร้อนและเสียงรบกวนที่ค่อนข้างต่ำทีเดียว รวมถึงมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ พอร์ตการเชื่อมต่อสุดล้ำ USB 3.1 Type-C รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งานที่ต้องบอกว่าหาได้ยากในโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป
สำหรับเพื่อนๆ ท่านใดที่สนใจ ASUS ROG G752VT กับ Gaming Notebook หน้าจอ 17″ สายพันธุ์แท้ ก็สามารถที่จับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย เพราะว่าทาง ASUS พร้อมจำหน่ายผ่านทางร้านค้าห้างร้านไอทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอย่างที่บอกไปแล้วตรงส่วนสเปกว่า ASUS ROG G752VT มีอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน พร้อมด้วยของบันเดิลสุดพีเมียมอย่าง Gaming Mouse ROG Asus และ Handset Cerberus ROG รวมถึงกระเป๋า ROG ซึ่งยังไงแนะนำว่าเป็นไปได้ก็ซื้อตัวท็อปรุ่นราคา 63,990 บาทจะดีกว่า เรียกได้ว่าไปให้สุดไปเลย
จุดเด่น
- ตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม สมกับเป็น ASUS ROG
- ประสิทธิภาพสูงตามมาตรฐานของ Gaming Notebook
- ระบบระบายความร้อนจัดว่าน่าประทับใจ
- มีระบบไล่ฝุ่น ป้องกันความร้อนสะสมในอนาคต
- ระบบเสียงคุณภาพ ฟีเจอร์อัดแน่น
- พอร์ตเชื่อมต่อเยอะและครบครันสุดๆ
- จอความละเอียด Full HD สีสันสวยสมจริง
- อัพเกรดเพิ่มแรมและใส่ฮาร์ดดิสก์ได้ง่ายมากๆ
- พอร์ตการใช้งานครบครัน มี Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type-C)
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- ในชุดจัดจำหน่ายมี Gaming Mouse, Handset และกระเป๋า ROG มาให้
ข้อสังเกต
- การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX ตัวรองท็อป
- ตัวเครื่องใหญ่มากและน้ำหนักมากไม่เหมาะแก่การพกพา
- หน้าจอเป็นความละเอียด Full HD เท่านั้น
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้ว ซึ่ง ASUS ROG G752VT ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน ASUS ROG G752VT ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรู ประกอบการงานการประกอบระดับคุณภาพ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้วสำหรับซีรีส์ ROG ซึ่งมีความดุดันและเน้นประสิทธิภาพของตัวเครื่องก็ถือว่าทำได้ดีกว่า Gaming Notebook ทั้งหมดอีกด้วย
Best Performance
สเปคของระบบภายในตัวเครื่อง ASUS ROG G752VT ที่ครบครันทั้งชิปประมวลผล Intel Core i7-6700HQ และการ์ดจอ GeForece GTX 970M ที่เป็นการ์ดจอประสิทธิภาพสูง ถือว่าเป็นการจับคู่ที่ทรงประสิทธิภาพ รองรับการทำงานได้รอบด้าน ไม่ว่าจะใช้ทำงานกราฟิกหรือว่าจะเล่นเกมก็ตาม ฉะนั้นก็ไม่น่าพลาดกับรางวัล Best Performance อย่างแน่นอน
Best Technology
ASUS ROG G752VT นอกเหนือจากความแรงที่ครบครันจากสเปกภายในแล้ว ยังมีในส่วนของเทคโนโลยีที่น่าสนใจและใช้งานได้จริงอย่าง เทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ก็ได้รับการพัฒนา เพื่อลดอาการภาพแสดงผลไม่ต่อเนื่อง อย่างภาพขาด ภาพฉีก หรือเหลื่อมๆ ไม่ต่อเนื่อง โดยเทคโนโลยี G-Sync จะเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อมาจาก V-Sync ซึ่งถึงแม้ V-Sync จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดภาพ ขาดไม่ต่อเนื่องในการเล่นเกมได้ก็จริง แต่เทคโนโลยี NVIDIA G-Sync เพราะมีชิปเฉพาะ ไม่กินทรัพยากรเครื่อง
Best Multimedia
ลำโพงและซอฟแวร์เสียงจาก Sonic Studio & Sonic Radar ให้ประสบการณ์ด้านเสียงที่น่าประทับใจ ส่วนหน้าจอแสดงผล 17.3 นิ้ว Full HD ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเป็นเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็รองรับได้เป็นอย่างดีทำให้ ASUS ROG G752VT นี่ได้รับรางวัล Best Multimedia ไปเลย