หากทุกท่านได้ทำการติดตามข่าวคราวเกี่ยวกับ iPad Pro มาอย่างต่อเนื่องตามที่ทาง NBS ได้เสนออยู่ตลอดนั้นจะเห็นได้ครับว่าในผลการทดสอบความแรง(Benchmark) ของ iPad Pro ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ทตัวแรงอย่าง Apple A9X นั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากชิปเซ็ทรุ่นก่อนหน้าที่ใช้บน iPhone 6s / 6s Plus อย่าง Apple A9 เป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะในส่วนของการประมวลผลของ CPU เท่านั้นแต่การประมวลผลทางด้านกราฟิกที่ต้องอาศัยความแรง GPU ที่อยู่บนตัวชิปก็แรงด้วยเช่นกัน วันนี้เรามีแผนภาพภายในของชิป Apple A9X ที่ถ่ายโดย Chipworks มาเผยให้ทุกท่านได้ดูกันครับ
Apple A9X Diagram
จากการวิเคราะห์ของ Chipworks นั้นพบว่าชิปเซ็ท A9X นั้นน่าจะผลิตโดย TSMC ด้วยกระบวนการผลิตที่ระดับ 16 nm ครับ โดยตัวชิป A9X นั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 147 mm2 ซึ่งใหญ่กว่าชิปรุ่นเก่าของ Apple อย่าง A9 จะมีขนาดอยู่ที่ 104.5 mm2(เฉพาะชิปที่ผลิตโดย TSMC) และ A8 จะมีขนาดอยู่ที่ 128 mm2 โดยในส่วนของ CPU นั้นยังคงมาในรูปแบบของ Dual-Core อยู่เช่นเดิม
สิ่งหนึ่งที่หายไปบนชิปเซ็ท A9X นั้นก็คือ L3 cache ครับ(A9 และ A8 มี) ตรงส่วนนี้นั้นน่าจะมาจากการที่ทาง Apple ได้เพิ่ม L2 cache ให้กับชิป A9X มากขึ้นกว่าเดิมและหน่วยความจำ(RAM) ก็ได้เปลี่ยนมาใช้แบบ LPDDR4 ที่มีความเร็วมากกว่าและขนาดความกว้างของแบนด์วิดธ์สูงถึง 128-bit ที่ขนาด 4 GB ที่มากกว่าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ผ่านมาทั้งหมดครับ โดย AnandTech ได้บอกเอาไว้ว่าที่ Apple ตัด L3 cache ออกไปนั้นก็น่าจะเป็นเพราะคิดว่า L2 cache และการใช้ LPDDR4 ขนาดใหญ่ขึ้นน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
The Series 7XT lineup ภาพจาก Imagination Technologies
เปลี่ยนไปมองในส่วนของ GPU ภายในชิปที่ Apple ยังคงเลือกใช้ PowerVR เช่นเดมแต่เป็นซีรีส์ 7XT โดยจากแผนภาพของชิป A9X นั้นจะเห็นได้ว่า มี GPU อยู่ทั้งหมด 12 Core ด้วยกันครับ(บนชิป A9 ที่ใช้งานใน iPhone 6s / 6s Plus นั้นใช้ชิป GPU ซีรีส์เดียวกันแต่มีจำนวนทั้งหมดอยู่ที่ 6 core) จากแผนภาพของ Imagination Technologies ทางด้านบนนี้จะเห็นได้ครับว่าความแรงของชิป GPU ทั้งหมดบน A9X นั้นจะอยู่ที่ระหว่า 8 -16 clusters ซึ่งทาง Imagination Technologies บอกเอาไว้ว่ามันจะแรงพอๆ กับ GeForce GT 730M เลยทีเดียว
ทั้งหมดนั้นก็เรียกได้ว่าการออกแบบชิปเซ็ทของทาง Apple นั้นถือว่ามีความใส่ใจในด้านต่างๆ มากจริงๆ ด้วยผลการทดสอบที่เคยมีออกมาก่อนหน้านี้นั้นก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า iPad Pro นั้นแรงกว่า MacBook Pro บางรุ่นซะอีก ไม่แน่ว่าในอนาคต Apple อาจจะใช้ชิปเซ็ทซีรีส์ A ของตัวเองบน MacBook แทนชิปเซ็ทจากทาง Intel ก็เป็นได้ครับ(แต่ก็ต้องดูกันอีกทีครับว่าชิปเซ็ทซีรีส์ A ของ Apple นั้นหากต้องไปรันระบบปฎิบัติการ OS X จริงๆ จะเอาอยู่หรือไม่)
ที่มา : notebookcheck, arstechnica