ถูกจับแกะไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับกับ iPad Pro ที่เพิ่งวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ไม่นานเท่าไรนัก ซึ่งผู้ที่ทำการจับแกะก็หนีไม่พ้นสื่อชื่อดังอย่าง iFixit ที่เน้นการแกะเพื่อให้คะแนนในการซ่อมตัวเครื่องที่ถูกนำมาทำการจับแกะนั้นๆ เป็นหลัก โดยผลคะแนนที่ทาง iFixit ให้กับ iPad Pro ของ Apple นั้นอยู่ที่ 3 เต็ม 10 ที่โดยรวมแล้วก็ถือว่าแกะค่อนข้างที่จะยากพอสมควรครับ ทาง iFixit ได้บอกเอาไว้ว่าส่วนที่ง่ายและถือว่าเป็นข้อดีที่สุดของการแกะ iPad Pro ก็คือแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างจะแกะออกและเปลี่ยนได้ง่าย แต่สำหรับองค์ประกอบอื่นแล้วยากหมดครับ
ในการแกะของ iFixit นั้นได้มีการเผยข้อมูลทางด้านฮาร์ดแวร์หลายๆ อย่างของ iPad Pro ที่น่าสนใจ(และเป็นข้อมูลที่ทาง Apple ไม่ได้ทำการเปิดเผยอย่างเป็นทางการออกมา) โดยทาง iFixit ได้บอกเอาไว้ว่าเมื่อเปรียบเทียบการวางตัวของอังค์ประกอบภายในของ iPad Pro แล้วนั้นค่อนข้างที่จะต่างกับ iPad Air 2 ที่ทาง iFixit เคยแกะไปแล้วพอสมควร อย่างหนึ่งที่เห็นว่ามีความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยก็คือการวางตัวของลำโพงทั้ง 4 ตัวบน iPad Pro ครับ
ลำโพงที่อยู่บน iPad Pro : ภาพโดย iFixit
แต่ละมุมของ iPad Pro นั้นจะมีลำโพงอยู่ครับ โดยลำโพงแต่ละตัวนั้นจะมีดีไซน์ที่เหมือนกัน ลักษณะการจัดวางนั้นได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการย้ายตำแหน่งของมุมลำโพงได้สะดวกตามฟีเจอร์ของ iPad Pro ที่ทาง Apple ระบุไว้ว่าสามารถจะขยับการให้ตำแหน่งเสียงตามรูปแบบการวางตัวของ iPad Pro ได้ อย่างไรก็ตามแต่ลำโพงทั้ง 4 ตัวนั้นก็มีข้อแตกต่างกันอยู่ โดยลำโพง 2 ตัวบนจะเป็นลำโพงที่เอาไว้ใช้สำหรับให้เสียงที่ความถี่สูง ส่วนลำโพง 2 ตัวล่างจะเอาไว้ใช้สำหรับให้เสียงที่ความถี่ต่ำครับ
แบตเตอรี่ที่อยู่บน iPad Pro : ภาพโดย iFixit
นอกจากนี้แล้วทาง iFixit ยังได้พบอีกว่าแบตเตอรี่บน iPad Pro นั้นมีขนาดความจุเพิ่มมากขึ้นกว่า iPad Air 2 ถึง 40% คือมีขนาดความจุอยู่ที่ 10,307 mAh และขนาดของหน่วยความจำ(RAM) iPad Pro นั้นก็เท่ากับข่าวลือที่มีออกมาก่อนหน้านี้คือมีขนาดอยู่ที่ 4 GB ครับ
ฮาร์ดแวร์อีกส่วนที่น่าสนใจที่ iFixit แกะเข้าไปแล้วพบเจอก็คือ DP695 Timing Controller ซึ่งเป็นคอนโทรลเลอร์สำหรับควบคุม Timing สำหรับการจัดการ refresh rate ที่พบบน 5K Retina iMac ครับ ทาง iFixit บอกเอาไว้ว่าคอนโทรลเลอร์ตัวนี้นั้นจะทำหน้าที่ในการปรับ refresh rate ของหน้าจอขณะที่ไม่ได้มีการใช้งานแต่มีการเปิดหน้าจอไว้ที่ 30 Hz เพื่อที่จะทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ แต่เมื่อผู้ใช้มีการใช้งานตัวเครื่องคอนโทรลเลอร์ตัวนี้ก็จะปรับ refresh rate ของหน้าจอให้มากขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 60 Hz ครับ
จุดเสียอีกอย่างหนึ่งในการแกะ iPad Pro ที่น่าจะเป็นจุดสำคัญก็คือการเคลื่อนย้าย Smart Connector port ซึ่งเป็นอุปกรณ์สุดท้ายในการแกะ iPad Pro ที่ไม่มีสกรูใดๆ ยึดเอาไว้ จะมีก็เพียงแต่การวางตัวของสายแพเชื่อมต่อกับตัวช่อง Smart Connector ที่ยึดเอาไว้เท่านั้นซึ่งตรงนี้น่ากลัวเหมือนกันครับว่าหากใช้ iPad Pro ไปนานๆ แล้วเจ้า Smart Connector port นี้จะเขยื้อนออกมาเองรึเปล่า อย่างไรก็ตามแต่ด้วยราคาของ iPad Pro ที่ไม่ใช่ถูกๆ แล้วกับคะแนนการแกะในระดับนี้ หากเครื่องมีปัญหาก็ควรจะทำการส่งศูนย์โดยตรงจะเป็นการดีที่สุดครับ